หัวข้อ: น้ำประปา มะเร็ง และการแท้ง เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 16 ธันวาคม 2008, 06:42:PM เมื่อไม่นานมานี้ มีข่าวเกี่ยวกับงานวิจัยที่ว่า การดื่มน้ำประปาอาจทำให้เป็นมะเร็ง และสำหรับหญิงตั้งครรภ์ก็อาจแท้งได้
เป็นข่าวที่ออกมากระตุ้น ต่อมตระหนก ของคนไทยพอสมควร น้ำประปา เป็นน้ำที่ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อด้วยสารประกอบคลอรีน จึงเกิดเป็นข้อสงสัยว่า คลอรีนในน้ำประปา จะทำให้เกิดมะเร็งได้หรือไม่ มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ศึกษาเรื่องนี้ ดังเช่น งานวิจัยของนักวิจัยชาวฟินแลนด์ ได้ลองให้สาร 2-chloro-4(dichloromethyl)-5-hydroxy-2(5H)-furanone หรือ MX ซึ่งเป็นสารที่เกิดขึ้นในน้ำที่ฆ่าเชื้อด้วยคลอรีน แก่หนูทดลอง ผลก็คือ หนูเป็นมะเร็งหลายแบบ แต่ผลนั้นก็ใช่ว่า จะนำมาใช้กับคนได้โดยตรง ทั้งนี้เพราะ ในการทดลอง หนูจะได้รับน้ำดื่มที่มี MX เข้มข้นสูงมากๆ ปกติน้ำดื่ม มาตรฐานจะมี MX 10 นาโนกรัมต่อลิตร (1 นาโนกรัม เท่ากับ 1 ในพันล้านกรัม) แต่หนูทดลองดื่มน้ำที่มี MX สูงถึง 70 ไมโครกรัมต่อลิตร (1 ไมโครกรัม เท่ากับ 1 ในล้านกรัม) นั่นคือ หนูทดลองได้รับ MX มากกว่าที่มนุษย์ได้จากน้ำดื่มปกติ ในสัดส่วน 1 ล้านเท่า นอกจากนั้น หนูเหล่านี้ (โดยทั่วไป เป็นหนูที่เพาะขึ้นมาให้เป็นมะเร็งได้ง่าย) ได้รับสารอาหารสูตร 151 เป็นสารอาหารที่อุดมไปด้วย carcinogen maganese และสารตัวนี้ก็เป็นสารก่อมะเร็งด้วย ดังนั้น อาจเป็นไปได้ที่หนูเหล่านั้นเป็นมะเร็งจากแมงกานีส ไม่ใช่จากคลอรีน ลองหันมาดูข่าวที่ว่า สตรีตั้งครรภ์ในช่วง 3 เดือนแรก มีโอกาสแท้งได้มากขึ้น ถ้าดื่มน้ำประปามากกว่า 5 แก้วต่อวันขึ้นไป กันบ้าง งานวิจัยชิ้นนี้ มาจากการพบสารปนเปื้อนในน้ำดื่มที่มีชื่อว่า สาร trihalomethane (TTHM) เป็นสารที่เกิดขึ้นจากการทำปฏิกิริยา ระหว่างคลอรีนกับกรดจากพืช การทดลองกระทำโดยสำนักงานอนามัยของคาลิฟอร์เนีย ในการตรวจสอบหญิงตั้งครรภ์ 5,144 คน จากฟอนตานา ซานตาคลารา และวอลนัทครีก การศึกษาพบว่า หญิงตั้งครรภ์ที่ดื่มน้ำประปาที่มี TTHM 75 ไมโครกรัมต่อลิตร ตั้งแต่ 5 แก้วต่อวันขึ้นไป มีโอกาสเสี่ยงต่อการแท้งมากขึ้น คือมีโอกาสแท้ง 15.7 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับ TTHM น้อยกว่า 75 ไมโครกรัมต่อลิตร มีโอกาสเสี่ยงเพียง 9.5 เปอร์เซ็นต์ และน้ำดื่มที่หญิงมีครรภ์ทั้งหลายดื่มก็เป็นไปตามมาตรฐาน หน่วยงานป้องกันสิ่งแวดล้อมในอเมริกาเอง ยอมให้มี TTHM ได้ 100 ไมโครกรัมต่อลิตร และกำลังวางแผนลดให้เหลือ 80 ไมโครกรัมต่อลิตร นั่นแสดงถึงการดื่มน้ำประปา ก็เป็นการเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการแท้ง และก็ไม่มีใครรู้แน่ชัดด้วยว่า ระดับของ TTHM เท่าไรจึงจะปลอดภัย ผลจากงานวิจัยนี้ก็ยังครอบคลุมไม่พอที่จะให้คำตอบได้ ในขณะที่บางท้องที่ ปริมาณ TTHM ก็ต่ำกว่าตัวเลขในงานวิจัย บางท้องที่ปริมาณ TTHM ก็มีสูงกว่า จึงมีคำแนะนำให้หญิงมีครรภ์ปรึกษาแพทย์ หรือใช้การกรองน้ำด้วยผงถ่าน แล้วตั้งทิ้งไว้นาน ๆ หรือใช้การต้มน้ำก่อนนำมาดื่ม ซึ่งจะช่วยลดปัญหานี้ได้ ทางด้านการประปานครหลองของประเทศไทย ก็ได้มีการศึกษาสารเคมี ที่อาจเป็นอันตรายเหล่านี้ ก็พบเฉพาะ สารคลอโรฟอร์ม 30.82 ไมโครกรัมต่อลิตร ซึ่งต้องดื่มน้ำประปา (ไม่ระบุจำนวนแก้วต่อวัน) นาน 252 ปีจึงจะเป็นมะเร็ง ส่วนเรื่อง TTHM นั้น การประปาบอกเพียงว่า สารนี้ไม่เป็นอันตราย และตบท้ายว่า ไม่งั้นประเทศไทย คงไม่มีเด็กแรกเกิด หรือหญิงมีครรภ์หลงเหลืออยู่เลย ข้อมูลที่ลงนี้ เป็นเรื่องต่างฝ่ายต่างเสนอกัน ไม่อาจรับรองได้ทั้งหมด ขอให้ไตร่ตรองกันให้ดี ข้อมูลงานวิจัยทั้งสองชิ้น มาจาก JunkScience ในการดูแลของ TASCC ที่มา http://members.tripod.com/~inScience/tapwater.htm |