หัวข้อ: ฉันคือสะพาน เริ่มหัวข้อโดย: lungtan ที่ 14 ธันวาคม 2008, 09:13:AM ฉันคงเป็น สะพาน ให้เขาข้าม ทุกโมงยาม เช้าค่ำ มิหวั่นไหว จากฝากหนึ่ง ถึงฝากหนึ่งร่ำไป จะมีใหม ที่ใคร ได้ขอบคุณ ฉันคงเป็น สะพาน ให้เขาข้าม สนองความ ต้องการ จนหัวหมุน มีใครบ้าง ที่มา คอยค้ำจุน จะรู้คุณ ต่อเมื่อ สะพานพัง หัวข้อ: Re:นี่แหละตัวฉัน เริ่มหัวข้อโดย: lungtan ที่ 14 ธันวาคม 2008, 09:31:AM ฉันเป็นเพียง สายเชือก ให้เพื่อนใช้ ผูกสิ่งของ โยงได้ ให้สมหวัง ต่อเมื่อสม ปรารถนา พาเมินชัง เชือกเส้นนั้น พลันหมด ปลดระวาง แต่คงไม่ เสียใจ ในหน้าที่ ที่เรานี้ อาสา ไม่หมองหมาง หมดหน้าที่ มีเรา ถูกปล่อยวาง เจ็บมีบ้าง ช่างเถอะ เชอะช่างมั หัวข้อ: Re: เพื่อนน้ำลาย เริ่มหัวข้อโดย: lungtan ที่ 14 ธันวาคม 2008, 09:34:AM ในอดีต มีเพื่อน มาเยือนทัก พวกเรามัก ทักทาย หมายสร้างสรรค์ มีอักษร อ้อนได้ ในทุกวัน ช่างสุขสันต์ จำนรรจ์ ฉันท์ร่วมกานต์ มีมากมาย หลายครั้ง ยังติดต่อ พูดหยอกล้อ ต่อสาย หมายผสาน นัดประชุม รวมกลุ่ม สุขสราญ เพียงไม่นาน ธาตุแท้ แลเห็นกัน กาลเวลา ผ่านผัน วันวานผ่าน จิตร้าวราน กาลบอก ต้องเจ็บสัน รู้ความจริง ยิ่งช้ำ แม้ผ่านวัน ที่จริงนั้น ฉันเอง เต็งผิดคน จึงเหลือเพียง เสี้ยวหนึ่ง ซึ่งเตือนจิต มองคนผิด จิตเรา เศร้าขื่นขม มองภายนอก ไม่บอก ค่าของคน แต่ต้องค้น ภายใน ให้รู้จริง หัวข้อ: Re: เช้าวันใหม่ เริ่มหัวข้อโดย: lungtan ที่ 14 ธันวาคม 2008, 09:39:AM รุ่งแจ้งแห่ง แสงอรูณ อุ่นอาทิตย์ ทุกขีวิต มาลิขิต ปลิกวันใหม่ ใครมีกรรม ทำตาม ลิขิตไป อนาคต สดใส ให้กับเรา สุริยา ยามเช้า ช่างอบอุ่น ใครว้าวุ่น ขุ่นใจ ให้โง่เขลา ธรรมชาติ คือตัว ตนของเรา ชีวิตเล่า เรานี้ ลิขิตเอง ราษีแห่ง แรกรับ กับอรุณ อย่าหมกมุ่น ล้างหน้า อย่าไขว้เขว ราษีแห่ง ใบหน้า มีเสน่ห์ จิตใจเท่ ร่าเริง สมกับวัย เป็นราษี แรกเริ่ม รับอรุณ ความหอมกรุ่น แห่งชีวิต จิตสดใส ทานอาหาร จานแรก เริ่มงานใหม่ จงตั้งใจ ในสติ มิผันแปร ออกจากบ้าน กราบกราน พระอรหันต์ ให้ชีวัน ทั้งสอง ต้องพ่แม่ คำอวยพร น้อยนิด ประเสริฐแท้ เมตตาแผ่ อำนวย พร้อมอวยชัย เป็นทิศแรก แห่งชีวิต คิดถ้วนถี่ ทำควาดี ที่ท่าน สอนสั่งไว้ อกุศล มิทำ เจริญชัย พ่อแม่ไซร้ ได้สุข ไม่ทุกข์ตรอม หัวข้อ: Re: คืนเดือนแรม เริ่มหัวข้อโดย: lungtan ที่ 14 ธันวาคม 2008, 06:50:PM คืนเดือนแรม แสนเหงา เศร้าดวงจิต มองสู่ทิศ จิตส่ง มุ่งตรงหา ถึงเพื่อนฉัน ที่เคย ให้สัญญา จะมองมา ที่ดารา ประจำเมือง เป็นที่หมาย ปลายทาง ที่กลางฟ้า ส่งใจมา หากัน ฉันเป็นเพื่อน แม้ยามใด ใจเศร้า หรือขุ่นเขื่อง ใจเราเชื่อม ตรงกัน ที่ดวงดาว หัวข้อ: Re: นั่งอยู่เพียงผู้เดียว เริ่มหัวข้อโดย: lungtan ที่ 15 ธันวาคม 2008, 09:26:AM ณ ยามนี้ ที่นี่ มีฉันอยู่ ไร้เพื่อนหมู่ มาสู่ รู้สึกเหงา มีอักษร กลอนกานต์ เป็นเพื่อนเรา แม้จะเศร้า เราไม่ท้อ คลอลำนำ ณ ยามนี้ มีเพียง เสียงเพลงปลอบ สายลมหอบ ขอบคุณ ให้ชื่นฉ่ำ เสียงวิหก นกร้อง คลอเคียงกัน ช่วยสร้างสรร วิญญา พาหายตรม ณ ยามนี้ มีแสง อาทิตย์อุ่น ช่วยจรุง จิตใจ หายขื่นขม ผีเสื้อน้อย บินว่อน เที่ยวดอมดม ต่างชื่นชม เกสร ดอกไม้งาม ณ ยามนี้ ที่เรา เฝ้ามองหา สกุณา สานเสียง สำเนียงหวาน มองดูเรา นั่งเรียง เขียนเนื้อความ ณ สถาน ร้างคู่ ดูเดียวดาย emo_30 emo_30 emo_30 emo_30 emo_30 หัวข้อ: Re: ระวัง เริ่มหัวข้อโดย: lungtan ที่ 15 ธันวาคม 2008, 09:44:AM ระวังใจอย่าให้เผลอ จงระลึก รู้สึกตัว แต่เดี๋ยวนี้ ไหวตรงนั้น ตึงตรงนี้ มีอยู่ทั่ว กระทบร้อน กระทบเย็น อยู่กับตัว เดี๋ยวปวดหัว เดี๋ยวปวดเข่า เดี๋ยวหาวนอน เดี๋ยวคิดดี เดี๋ยวคิดร้าย ไม่วายเว้น เดี๋ยวก็เห็น เดี๋ยวได้ยิน ดูยอกย้อน จงระลึก รู้สึกตัว ทุกขั้นตอน แล้วจะถอน ตัวตน พ้นบ่วงมาร หัวข้อ: Re:ระวัง เริ่มหัวข้อโดย: เพลงผ้า ที่ 15 ธันวาคม 2008, 11:47:AM อยากระวังทั้งหมดทุกบทบาท แต่ก็พลาดทุกครั้งเพราะพลั้งเผลอ ทุกเรื่องราวคราวพบประสบเจอ ข้อเสนอจูงใจจนไม่จํา ก็ยังเป็นมนุษย์ใช่หลุดพ้น จึงต้องทนปวดปร่าถ้าถลํา สุดแต่แรงแห่งบุญจักหนุนนํา การกระทํากําหนดปลดบ่วงมาร +1ให้คุณlungtan ค่ะ หัวข้อ: Re: และฉันก็คือถนน เริ่มหัวข้อโดย: lungtan ที่ 15 ธันวาคม 2008, 06:39:PM เปรียบอีกที ฉันนี้ คือถนน ที่ต้องทน แบกน้ำหนัก ขับสู้ ทั้งรถยนต์ และคน เข้าพันตู ถนนสู้ แดดฝน ทนกล้ำกลืน เปรียบอีกที ฉันนี้ คือถนน เป็นทางด้น ที่หมาย สุขสมชื่น มีกี่คน ใช้แล้ว ยังไม่ลืม ยังมาคืน ซ่อมสร้าง ทางให่ทน เปรียบอีกที ฉันนี้ คือถนน ต้องทั้งอด ทั้งทน ไม่เคยบ่น ยังเต็มใจ รับใช้ ในผู้คน ในเหตุผล เป็นถนน คนสัญจร เปรียบอีกที ฉันนี้ คือถนน ทั้งรถยนต์ ผู้คน ใด้ใช้สอย เหนือจรดใต้ ออกตก ทนหน่อย สิ่งที่คอย คนใช้ ได้รู้คุณ emo_10 emo_40 emo_06 emo_30 emo_33 หัวข้อ: Re: วัฒนธรรมไทย เริ่มหัวข้อโดย: lungtan ที่ 15 ธันวาคม 2008, 06:57:PM ในโลกนี้มีอะไรเป็นไทยแท้ ของไทยแน่นั้นหรือคือภาษา ซึ่งผลิดอกออกผลแต่ต้นมา รวมเรียกว่าวรรณคดีไทย อนึ่งศิลป์งามเด่นเป็นของชาติ เช่นปราสาทปรางค์ทองอันผ่องใส อีกดนตรีรำร่ายลวดลายไทย อวดโลกได้ไทยแท้อย่างแน่นอน และอย่าลืมจิตใจอย่างไทยแท้ เชื่อพ่อแม่ฟังธรรมคำสั่งสอน กำเนิดธรรมจริยาเป็นอาภรณ์ ประชากรโลกเห็นเราเป็นไทย แล้วยังมีประเพณีมีระเบียบ ซึ่งไม่มีที่เปรียบในชาติไหน เป็นของร่วมรวมไทยให้คงไทย นี่แหละคือประโยชน์ในประเพณี ได้รู้เช่นเห็นชัดสมบัติชาติ เหลือประหลาดล้วนเห็นเป็นศักดิ์ศรี ล้วนไทยแท้ไทยแน่ไทยเรามี สิ่งเหล่านี้คือวัฒนธรรม emo_25 emo_25 emo_25 emo_25 emo_25 หัวข้อ: Re:เหมันต์ วันอดีต เริ่มหัวข้อโดย: lungtan ที่ 15 ธันวาคม 2008, 07:09:PM .... สายลมเหนือ เตือนใจ ให้คิดถึง
วันที่ซึ้ง ตรึงตรา คราหน้าหนาว รับสายลม ห่มร่าง กายสะท้าน ใบไม้กราว ซ่านเหมันต์ ฉันคนึง .....วันที่ฉัน กับเธอ เจอครั้งแรก ใจเสี้ยวแปลบ แรกพบ ซบตาซึ้ง เสื้อสีเหลือง เรืองรอง ผิวตองตรึง จิตคนึง บริสุทธิ์ สุดงามตา .....ผมสลวย สวยสม คมนวลพักตร์ สองนัยตา ดำขวับ รับคิ้วสาว คิ้วดันศร งอนรับ ช่างงดงาม ดุจดั่งนางอัปสร ต้องเดินดิน .....ฉันตลึ่ง ถึงช้างเผือก เลือกเกิดป่า วาสนา นำพา มาเยือนถิ่น สายลมหนาว พราวพริ้ว ชื่นชีวิน เหมันต์สิ้น ยังหนาว สาวงามตา emo_55 emo_55 emo_55 emo_55 emo_55 emo_46 emo_107 หัวข้อ: Re:ดึกแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: lungtan ที่ 15 ธันวาคม 2008, 10:41:PM เพ็ญเดือนแรม แสนเศร้า เหงาดวงจิต
มองรอบทิศ วิญญา พาขื่นขม หนาวสะท้าน พระพาย แรงสุดทน คว้าผ้าห่ม คลุ่มร่าง พอซ่างเซา ดึกแล้วหนอ มองฟ้า ราตรีนี้ นภามี ดาวเกลื่อน เหมือนคอยเขา มองรอบกาย ใจหาย มีเพียงเรา เสียงนกเค้า ร้องผ่าน ซ่านฤดี แว่วเสียงหริ่ง เรไร ในไพรสนธ์ เสียงระงม ดั่งมนต์ ดนดีดสี ช่างเสนาะ ธรรมชาติ ต่างดนตรี ณ ยามนี้ มีเรา เพียงลำพัง เสียงใบไม้ ไหวโบก ลมโชยอ่อน เสียงสะท้อน ของใจ เต้นกระสั่น มองฟ้าสวย รวยดารา สวยดีจัง ฉันรำพัน ก่อนลา คราดึกแล้ว |