หัวข้อ: กินรีครวญ เริ่มหัวข้อโดย: เพลงผ้า ที่ 01 กรกฎาคม 2008, 01:03:AM ต่างโผผิน บินลง อโนดาษ
ประทุมมาศ เบ่งบาน ประสานสี แล้วถอดปีก ถอดหาง กินรี วางไว้ที่ บัวบาน คือพานรอง เจ็ดพี่น้อง ดื่มดํ่า ชําระกาย จิตมุ่งหมาย ขัดสี ฉวีผ่อง เจ้าช่างงาม เสียจริง นะนวลน้อง กายดั่งทอง เนื้อแท้ นพคุณ ในบัดดล ทันใด ใจแทบสิ้น สุดแรงดิ้น พ้นบ่วง ของพรานบุณ สองมือไหว้ ได้โปรด จงเกื้อหนุน เพียงคํ้าจุน ถอนห่วง บ่วงนาคา หัวข้อ: Re: กินรีครวญ เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 01 กรกฎาคม 2008, 01:38:PM พิศแต่หัว จรดเท้า กินรี
นางผู้นี้ งามเด่น ใดในหล้า ถามได้ความ นามนั้น มโนราห์ จึงคิดพา ถวาย พระสุธน เพียงแรกพบ เพ่งพักตร์ รักหมดจิต ไม่เคยคิด นางใด ที่ใจสน ตรัสประทาน ทรัพย์สิน ส่วนของตน เพื่อรับนาง มายล จากพรานบุณ ******************************* มาแต่งต่อให้จ้า^^ อาจจะมั่วๆไปบ้าง ไม่เคยแต่งแนวนี้อ่ะ ** พรานบุณ ใช้ ณ นะจ๊ะ เพราะมาจาก พรานบุณฑริก หัวข้อ: Re: กินรีครวญ เริ่มหัวข้อโดย: เพลงผ้า ที่ 01 กรกฎาคม 2008, 05:53:PM พิศแต่หัว จรดเท้า กินรี นางผู้นี้ งามเด่น ใดในหล้า ถามได้ความ นามนั้น มโนราห์ จึงคิดพา ถวาย พระสุธน เพียงแรกพบ เพ่งพักตร์ รักหมดจิต ไม่เคยคิด นางใด ที่ใจสน ตรัสประทาน ทรัพย์สิน ส่วนของตน เพื่อรับนาง มายล จากพรานบุณ ******************************* มาแต่งต่อให้จ้า^^ อาจจะมั่วๆไปบ้าง ไม่เคยแต่งแนวนี้อ่ะ ** พรานบุณ ใช้ ณ นะจ๊ะ เพราะมาจาก พรานบุณฑริก นางสะอื้น ฝืนชํ้า ระกําจิต ด้วยจะคิด บินหนี นั้นไม่พ้น อันปีกหาง ห่างหาย จากกายตน พระสุธน ทรงเฝ้า ปลอบประโลม อย่ากังวล อันใด ในเวียงวัง จะไม่ขัง ข่มขู่ เจ้าเชิดโฉม ทั้งแตร์สังข์ เร่งเร้า เป่าประโคม ระนาดโหม ต้อนรับ คู่ชีวา แม้จะผ่าน กาลเคลื่อน เป็นเดือนปี เฝ้าคิดหนี จรจาก ภัสดา เที่ยวเมียงมอง ปีกหาง อยู่ไหนหนา หวังสักครา เหิรลับ กลับถิ่นนาง ขอบคุณ คุณอัณณ์ริน ค่ะ หัวข้อ: Re: กินรีครวญ เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 01 กรกฎาคม 2008, 06:09:PM มาวันหนึ่ง ซึ่งทัพ เข้าประชิด
ปัจจามิตร หมายมุ่ง ให้หมองหมาง พระสุธน ต่อต้าน ไม่เว้นวาง จึงจำใจ จากนาง เพื่อต่อตี ปุโรหิต ครุ่นคิด ริษยา จะกำจัด ชายา อย่างไรนี่ จึงกล่าวหา ว่านาง กาลกิณี ขอให้นำ กินรี ไปเผาไฟ ***************************** หัวข้อ: Re: กินรีครวญ เริ่มหัวข้อโดย: เพลงผ้า ที่ 01 กรกฎาคม 2008, 06:49:PM นั่นจึงเป็น ที่มา บูชายันต์
นางไม่หวั่น แน่แท้ แค่ลุยไฟ เพียงขอปีก คืนหาง นางประไร ยกมือไหว้ โอมอ่าน ผ่านมนต์ตรา คงถึงคราว สิ้นสุด บุญที่สร้าง อยู่ร่วมทาง เคียงคู่ ภัสดา จึงตั้งจิต คิดกล่าว เอาไว้ว่า หากชาติหน้า มีจริง ขออิงใจ ได้ครบเครื่อง ปีกหาง ศิราภรณ์ นางก็จร เหิรฟ้า นํ้าตาไหล โอ้..ว่าลา ลาแล้ว น้องลาไกล ขอกลับไป แดนดิน หิมพานต์ หัวข้อ: Re: กินรีครวญ เริ่มหัวข้อโดย: กวีพเนจร ที่ 07 ตุลาคม 2008, 09:14:PM กินรี ครวญคร่ำ เฝ้าเรียกหา
ภัสดา ไหนเลย มาใจร้าย คิดบูชา น้องนี้ ด้วยเผาไฟ หวังเพียงให้ เครื่องบูชา ด้วยอัคคี จะขอรำ ก่อนจะตาย ถวายไว้ ก่อนจากไป ไม่หวนกลับ ธานีนี้ ขอปีกหาง ของน้อง ที่เคยมี กินรี รำถวาย ภัสดา ท่วงท่านาง อ่อนช้อย อรชร โอ้บังอร เมียรัก แห่งใจข้า พระสุธน มิฝืนกลั้น หยดน้ำตา ก่อนจากลา เพียงเสี้ยว แห่งอัคคี กินรี ร่ายรำ ด้วยน้ำตา บังคมลา แทบบาท แล้วบินหนี หากชาติหน้า จะกลับมา หากยังมี เป็นเมียพี่ ทุกชาติ ทุกชาติไป [ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ] หัวข้อ: Re: กินรีครวญ เริ่มหัวข้อโดย: เพลงผ้า ที่ 10 ตุลาคม 2008, 07:52:AM จําใจจาก..พรากกัน..ก็วันนี้ กินรี..หมุนตัว..ทั่วทิศา นํ้าตาริน..ต้องบินจาก..ภัสดา ถึงเพลา..แยกทาง..อย่างถาวร ให้แปรปรวน..รวนเร..เซถลา มโนราห์..ฝืนใจ..ไม่คืนย้อน ครบถนิม..พิมพา..ศิราภรณ์ ว่าลาก่อน..เวียงวัง..เคยนั่งมา ครั้นบรรเลง..เพลงสบัด..ซัดชาตรี เปลวอัคคี..โพยพุ่ง..มุ่งเข้าหา จึ่งร่ายเวทย์..ปกป้อง..ท่องมนตรา พลันเหิรฟ้า..ไกลลับ ..กลับวิมาน (http://dl6.glitter-graphics.net/pub/731/731676o68y53p7aq.gif) (http://www.glitter-graphics.com) หัวข้อ: Re: กินรีครวญ เริ่มหัวข้อโดย: กวีพเนจร ที่ 13 ตุลาคม 2008, 12:57:AM พระสุธน ทนฝืน ยืนหน้าเศร้า
เขาจะเผา เมียรัก ปักใจข้า ครั้นจะช่วย กลัวโทษทัณฑ์ ของบิดา จำใจลา เมียรัก กินรี เห็นน้ำตา น้องนาง ไหลรินร่วง พี่ก็ห่วง น้องเจ้า อยู่ตรงนี้ อยากจะช่วย ให้เจ้า ได้บินหนี ติดที่พี่ มิอาจ จะเข้าไป พระสุธน เห็นเมียรัก รำถวาย เหมือนกับคล้าย จะเป็นการ ลาจากให้ เมื่อนางรำ ถวาย บินหายไป ทำหัวใจ พระสุธน สุดโศกา นางลาแล้ว กลับสู่ เขาไกรลาส นพมาศ บินว่อน ร่อนถลา เจ้าจากไป ทิ้งไว้ เพียงน้ำตา พี่จะหา เจ้าให้พบ เพื่อคู่เคียง [ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ] |