หัวข้อ: ว่าด้วย กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 22 ธันวาคม 2007, 12:12:PM พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.๒๕๒๕ ให้ความหมายของคำว่า "กลบท" ไว้ดังนี้
กลบท (กน-ละ-บด) น.คำประพันธ์ที่บัญญัติให้ใช้คำหรือสัมผัสเป็นชั้นเชิงยิ่งกว่าธรรมดา เช่น อมรแมนแม่นแม้นเจ้างามโฉม(กลบทตรีประดับ) ในคำประพันธ์ร้อยกรองแต่โบราณของไทยเรานั้น เรามีกลบททั้งที่เป็น กลอนกล ร่ายกล โคลงกล กาพย์กล และฉันท์กล แต่ในที่นี้จะกล่าวถึงเฉพาะกลอนกล เท่านั้น กลอนกล ก็คือกลอนสุภาพนั่นเอง แต่มีการแต่งเพิ่มลักษณะบังคับให้วิจิตรพิสดารมากยิ่งขึ้น เช่นบังคับให้มีสัมผัสสระ สัมผัสอักษร คำเป็น คำตาย คำซ้ำ และรูปวรรณยุกต์ เป็นต้น ว่าจะต้องมีอยู่ในตำแหน่งคำใดของกลอน แล้วตั้งชื่อเรียกการกำหนดข้อบังคับนั้นว่าเป็นกลบทชื่ออะไรต่างๆออกไป โดยมากกลอนกลมักจะแต่งเป็นกลอนเก้า เพราะบรรจุคำได้มากกว่า ทั้งจังหวะการอ่านก็เป็น จังหวะละสามพยางค์ การกำหนดข้อบังคับพิเศษขึ้นมาจึงมีจังหวะเสียงที่ลงตัวได้ดีกว่า กลอนกลบทมีมากมายหลายชนิด แต่ในที่นี้จะยกตัวอย่างมาให้เห็นบางชนิด ที่เห็นว่าเป็นศิลปะในการเขียนกลอนชนิดหนึ่ง ที่เราอาจจะนำมาใช้ได้บ้างในบางครั้งหากเห็นว่าจะช่วยทำให้กลอนที่แต่งมีเสียงและจังหวะที่อ่านหรือฟังแล้วไพเราะ กลอนกลบทที่มีมาแต่โบราณนั้น มีอยู่หลายชนิดชื่อต่าง ๆ กันไป ได้แก่กลบทในชื่อต่อไปนี้ - กลอนกลบทสะบัดสะบิ้ง - กลอนกลบทตรีประดับ(ตรีเพชร) - กลอนกลบทธงนำริ้ว - กลอนกลบทอักษรสังวาส - กลอนกลบทกินนรเก็บบัว - กลอนกลบทพยัคฆ์ข้ามห้วย - กลอนกลบทรักร้อย - กลอนกลบทจักรวาล(ครอบจักรวาล) - กลอนกลบทยัติภังค์ - กลอนกลบทอักษรกลอนตาย - กลอนกลบทกวางเดินดง.... เป็นต้น ที่มา http://www.st.ac.th/thaidepart/kolbot.php (http://www.st.ac.th/thaidepart/kolbot.php) หัวข้อ: Re: กลบท เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 22 ธันวาคม 2007, 12:14:PM กลบทกบเต้นต่อยหอย
คิดถึงน้อง ข้องถึงนวล ควรหรือหนอ เคยสราญ ค้านสลัด เพราะขัดคอ โอ้ใจเจ้า เอาใจจ่อ ต่อเพื่อนชาย เร่งเตือนเจ้า เร้าเตือนจิต คิดรักหนัก กลับโกรธเลี้ยว เกรี้ยวโกรธรัก รานสลาย ซนแต่งอน ซ่อนแต่เงื่อน แชเชือนกลาย ลืมเพื่อนชู้ หลู่เพื่อนชาย หาใหม่ชม จะเห็นว่า ลักษณะพิเศษของกลบทกบเต้นต่อยหอยก็คือ คำที่ ๑,๒,๓ กับ ๔,๕,๖ในแต่ละวรรคจะสัมผัสอักษรกัน โดย คำที่ ๑ จะสัมผัสอักษรกับคำที่ ๔ คำที่ ๒ จะสัมผัสอักษรกับคำที่ ๕ คำที่ ๓ จะสัมผัสอักษรกับคำที่ ๖ ทั้งนี้แต่ละวรรคจะสัมผัสอักษรตัวใดก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นอักษรเดียวกันในทุกวรรค ดังตัวอย่างวรรคที่ 6 สัมผัสอักษรดังนี้ ซ ต ง - ซ ต ง (ซนแต่งอน ซ่อนแต่เงื่อน) วรรคสุดท้ายสัมผัสอักษร ล พ ช - ล พ ช (ลืมเพื่อนชู้ หลู่เพื่อนชาย) เป็นต้น เราสามารถนำกลเม็ดแบบนี้มาใช้กับกลอนที่เราแต่งได้ในบางวรรคที่เราต้องการ ช่วยให้กลอนของเราในวรรคนั้นดูมีศิลปะขึ้นมาทันที ที่สำคัญอีกจุดหนึ่งก็คือ คำที่ ๓ จะสัมผัสสระกับคำที่ ๔ ในทุกวรรค หัวข้อ: Re: กลบท เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 22 ธันวาคม 2007, 12:17:PM กลบทพยัคฆ์ข้ามห้วย
เสียแรงหวัง ใจมุ่ง ผดุงหวัง ไม่ควรชัง ฤามาราน พาลชิงชัง เออเป็นใจ ใครมั่ง ไม่น้อยใจ สู้ถนอม แนบเนื้อ นี้เหลือถนอม ก็เหตุไฉน ยังไม่ออม เสน่ห์ไฉน เมื่ออาลัย ยังไม่ลืม ปลื้มอาลัย ช่างเด็ดรอน รักได้ ไปรอนรอน ในกลบทพยัคฆ์ข้ามห้วยนี้ ข้อบังคับอยู่ที่กำหนดให้ คำที่ ๓ ในแต่ละวรรคเป็นคำเดียวกันกับคำสุดท้ายในแต่ละวรรคนั้นๆ หัวข้อ: Re: กลบท เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 22 ธันวาคม 2007, 12:19:PM กลบทละลอกแก้วกระทบฝั่ง
โอ้แสนรัก โอ้ศักดิ์เรา ไม่เท่าถึง แสวงมาด สวาทหมาย ไม่วายคะนึง ลงนอนอิง แล้วนิ่งอึ้ง รำพึงเพียร ข้างทุกข์พี่ ขาดที่ผู้ เป็นคู่คิด ก็เพราะมา กำพร้ามิตร คิดหันเหียน ดั่งตกชล ดูตนชาย เหมือนว่ายเวียน แสนทุพล สู้ทนเพียร เวียนตะกาย กลบทละลอกแก้วกระทบฝั่งนี้ มีลักษณะคล้ายๆกับคลื่นที่ทะยอยตามกันเข้ามากระทบฝั่ง นั่นคือคำที่ 1,2 และ 3 ในแต่ละวรรคนั้น จะเล่นสัมผัสอักษรเรียงทะยอยตามกันเข้ามา คือ คำที่ ๑ สัมผัสอักษรกับคำที่ ๔ คำที่ ๒ สัมผัสอักษรกับคำที่ ๕ คำที่ ๓ สัมผัสอักษรกับคำที่ ๖ ตัวอย่างเช่น ในวรรคแรก ใช้คำว่า โอ้แสนรัก โอ้ศักดิ์เรา คือเสียงพยัญชนะ ว่า ออ สอ รอ - ออ สอ รอ วรรคต่อมา แสวงมาด สวาทหมาย คือเสียงพยัญชนะ ว่า สอ วอ มอ - สอ วอ มอ เป็นต้น หัวข้อ: Re: กลบท เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 22 ธันวาคม 2007, 12:22:PM กลบทครอบจักรวาล
ขามจิตคิด ข้อหมาง ระคางขาม ความจริงใจ นี่ไฉน จึงแหนงความ ควรจะถาม ก็ไม่ถาม กันตามควร ที่นางแกล้ง แปลงเรื่อง ให้เคืองที่ สรวลซิกซี้ กันเสียได้ ไม่ไต่สวน จวนจะชื่น ช่างมาคืน ให้รัญจวน ออสำนวน พี่นาง อย่างนี้ออ กลบทครอบจักรวาลนี้ โบราณกำหนดให้คำแรกและคำสุดท้ายในแต่ละวรรค เป็นเสียงเดียวกัน(ซ้ำเสียงกัน) โดยแต่ละวรรคขึ้นต้นด้วยคำใด ก็ต้องลงท้ายด้วยคำที่มีเสียงซ้ำกัน(หรือคำเดียวกัน) เพิ่มเติมจาก http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html รู้สิ่งไร ร้ายแรงยาก อย่าอยากรู้ หวังแว่วหู ปากจะนิ่ง อย่ากริ่งหวัง ดังหนึ่งฆ้อง ก้องเสียง สำเนียงดัง ตีหยุดยั้ง ยังกังวาล นานกว่าตี ผิดคำกล่าว ราวกับพา ให้หาผิด ที่จะมิด อย่าพึงหมาย มิใช่ที่ ดีแลชั่ว ตัวของใคร นิ่งไว้ดี ควรต้องทำ จะต้องชี้ แต่ที่ควร ช้างตายเน่า เอาใบบัว ปิดตัวช้าง สงวนบ้าง มิใช่ข้อ อย่าพอสงวน ชวนเสียกิจ ผิดระบอบ อย่าชอบชวน เดาอย่าด่วน ใจหวัง ลำพังเดา หัวข้อ: Re: กลบท เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 22 ธันวาคม 2007, 12:27:PM กลบทมังกรคายแก้ว
สารสงวน ควรมิตร สงวนสาร นานคะนึง เสน่ห์น้อง คะนึงนาน ทวีทุกข์ เหลือที่ทาน ทนทุกข์ทวี โศกถวิล กินเทวษ ถวิลโศก พี่ห่างน้อง ต้องวิโยค ด้วยห่างพี่ ปีกว่าปาน ประมาณไว้ ได้กว่าปี แลสุดที่ จะพำนัก ที่สุดแล ลักษณะพิเศษของกลบทมังกรคายแก้วก็คือ จะเอาคำที่ ๑,๒ ในแต่ละวรรคมาใช้ย้อนถอยหลังในตำแหน่งที่ ๗,๘ คล้ายๆ มังกรที่กลืนแก้วเข้าไป(ในคำที่ ๑,๒) แล้วคายแก้วออกมา (โดยคำที่ ๒ ต้องออกมาก่อนคำที่ ๑) ดังนั้นตำแหน่งที่ ๗,๘ ก็คือคำที่ ๒ และ ๑ ในวรรคนั้นนั่นเอง เช่น สารสงวน จะมาใช้ในท้ายวรรคเป็น สงวนสาร นานคะนึง จะมาใช้ในท้ายวรรคเป็น คะนึงนาน ทวีทุกข์ จะมาใช้ในท้ายวรรคเป็น ทุกข์ทวี โศกถวิล จะมาใช้ในท้ายวรรคเป็น ถวิลโศก พี่ห่าง จะมาใช้ในท้ายวรรคเป็น ห่างพี่ ปีกว่า จะมาใช้ในท้ายวรรคเป็น กว่าปี เป็นต้น หัวข้อ: Re: กลบท เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 22 ธันวาคม 2007, 01:07:PM กลบทฉัตรสามชั้น
หวนสวาท โหยถวิล สวาทหวน ครวญคะนึง คะเนนึก คะนึงครวญ ใจเศร้าโศก แสนกำสรวล โศกเศร้าใจ เอ๋ยอกโอ้ หวังวิตก โอ้อกเอ๋ย ไฉนฤานี่ จึงเฉย นี่ฤาไฉน ไกลสถาน ที่สถิตย์ สถานไกล แค้นใจเจ็บ ด้วยอาลัย เจ็บใจแค้น กลบท "ฉัตรสามชั้น" มีลักษณะคล้ายกันกับมังกรคายแก้ว คือการนำคำในต้นวรรคมาสลับที่ในสุดวรรคของแต่ละวรรคนั้น ๆ แต่ต่างกันตรงที่ มังกรคายแก้วใช้เพียงสองคำ ส่วน "กลบทฉัตรสามชั้น" นั้น จะใช้คำสามคำของต้นวรรค มาสลับคำในท้ายวรรค เช่น หวนสวาท จะมาใช้ในท้ายวรรคเป็น สวาทหวน ครวญคะนึง จะมาใช้ในท้ายวรรคเป็น คะนึงครวญ ใจเศร้าโศก จะมาใช้ในท้ายวรรคเป็น โศกเศร้าใจ เอ๋ยอกโอ้ จะมาใช้ในท้ายวรรคเป็น โอ้อกเอ๋ย ไฉนฤานี่ จะมาใช้ในท้ายวรรคเป็น นี่ฤาไฉน ไกลสถาน จะมาใช้ในท้ายวรรคเป็น สถานไกล แค้นใจเจ็บ จะมาใช้ในท้ายวรรคเป็น เจ็บใจแค้น เป็นต้น หัวข้อ: Re: กลบท เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 22 ธันวาคม 2007, 01:12:PM กลบทเบญจวรรณห้าสี
แสนสุดโศก สั่งสาร เห็นนานหาย คนข้างเคียง เคยคอย พลอยกลับกลาย อกเอ๋ยโอ้ เอออาย เพราะหมายเกิน หลงละเลิง ลมลิ้น ไม่กินแหนง สายสนสื่อ เสกแสร้ง ช่วยเดินเหิน โน่นนี่นั่น แนะนำ แล้วทำเมิน ชักชวนเชิญ เชือนไช ไม่เหลียวแล กลบท " เบญจวรรณห้าสี" มีลักษณะสำคัญอยู่ที่ คำที่ ๑ ถึง ๕ ในแต่ละวรรคจะสัมผัสอักษรกันทุกวรรคไป แต่ละวรรคก็จะสัมผัสอักษรอย่างหนึ่งอย่างใด(คำว่าสัมผัสอักษร หมายถึงใช้เสียงพยัญชนะต้นเสียงเดียวกัน)เช่น แสนสุดโศกสั่งสาร.................สัมผัสอักษรเสียงพยัญชนะ สอ คนข้างเคียงเคยคอย................สัมผัสอักษรเสียงพยัญชนะ ขอ (ข ค ฆ.เป็นเสียงเดียวกัน) เป็นต้น เพิ่มเติมจาก http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html อย่าหยิ่งเย่อยกย่อง ลำพองพิษ อาจโอ้อิทธิ์อวดอ้าง อย่างข่มเหง ขอดข้อนแข้นขู่ข่ม ให้เขาเกรง โฉดโฉงเฉงเฉาฉ่า ชะล่าใจ ทำท่วงทีท่าทาง วางจังหวะ โกงเกะกะก้าวก่อ ข้อคำไข ล้วนเล่ห์ลิ้นลวงลอด สอดกลไก เหน็บแนมในนึกน่า ระอาคำ ถ้าถึงถ้อยถอยถด สลดหลบ จับจริงจบเจิ่นเจน ก็เอนถลำ เหมือนไม้เมามูลมอด ทอดทิ้งทำ กลับกลอกกล้ำเกลื่อนกลาย คลายกำลัง หัวข้อ: Re: กลบท เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 22 ธันวาคม 2007, 01:16:PM กลบทกบเต้นสามตอน
เจ็บคำ จำคิด จิตขวย หลงเชย เลยชม ลมชวย ดูรวย ด้วยรวน ด่วนร้าว กลบท "กบเต้นสามตอน" นี้ มีช่วงจังหวะเป็นกลอนหก แต่แพรวพราวในการเล่นเสียงพยัญชนะและสระ ถือว่า ใช้ศิลปะในการประพันธ์ชั้นสูงมาก จะเห็นว่าเป็นการเล่นเสียงพยัญชนะทั้งสามจังหวะ เช่น เจ็บคำ จำคิด จิตขวย .......เล่นเสียงพยัญชนะ จอ คอ จอ คอ จอ คอ ........คำ สัมผัสสระกับ จำ และคิด สัมผัสสระกับ จิต หัวข้อ: Re: กลบท เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 23 ธันวาคม 2007, 11:11:AM กลบทบัวบานกลีบขยาย
ที่มา จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี เจ้างามพักตร์ผ่องเพียงบุหลันฉาย เจ้างามเนตร์ประหนึ่งนัยนาทราย เจ้างามขนงก่งละม้ายคันศรทรง เจ้างามนาสายลดังกลขอ เจ้างามสอเหมือนคอสุวรรณหงส์ เจ้างามกรรณกลกลีบบุษบง เจ้างามวงวิลาสเรียบระเบียบไร เจ้างามปรางเปล่งปลั่งเปรมปราโมทย์ เจ้างามโอษฐแย้มยวนจิตร์น่าพิสมัย เจ้างามทนต์กลนิลช่างเจียรไน เจ้างามเกษดำประไพเพียงภุมริน เจ้างามปีกตัดทรงมงกุฎกระษัตริย์ เจ้างามทัดกรรณเจียกผมสมพักตร์สิ้น เจ้างามไรไม่แข็งคดหมดมลทิน เจ้างามประทิ่นกลิ่นเกศขจายจร เจ้างามเบื้องปฤษฎางค์พ่างพิศวง เจ้างามทรวงสมทรงอนงค์สมร เจ้างามถันเทียมเทพกินร เจ้างามกรอ่อนดังงวงเอราวัณ เจ้างามนิ้วนะขาน่ารักหนอ เจ้างามลออเอวบางเหมือนนางสวรรค์ เจ้างามเพลากลกัทลีพรรณ เจ้างามบาทจรจรัลจริตงาม เจ้างามละม่อมพร้อมพริ้งยิ่งนางมนุษย์ เจ้างามดุจลอยฟ้ามาสู่สนาม เจ้างามอุดมสมลักขณานาม เจ้างามยามประจงจัดกรัชกาย เจ้างามศักดิ์สมบูรณ์ประยูรยศ เจ้างามหมดประมวญสวาทพี่มาดหมาย เจ้างามจริงทุกสิ่งสรรพ์ดังบรรยาย ชื่อบัวบานกลีบขยายหมายนามเอยฯ เป็นกลอนแปด ใส่กลบท โดยการซ้ำ ๒ คำที่ต้นวรรคทุกวรรค และใช้กระทู้เดียวตลอดจนจบความ มีลักษณะเช่นเดียวกับ กลบทบัวบานกลีบ ในหนังสือกลบทศิริวิบุลกิตติ จึงเป็นที่น่าสังเกตว่า "ชื่อบัวบานกลีบขยายหมายนามเอยฯ" ในคำกลอนนั้น ต้องการระบุชื่อกลบทว่า กลบทบัวบานกลีบขยาย หรือเป็น กลบทบัวบานกลีบ ที่ทรงแต่งขยายเพิ่มเติมมาให้ศึกษาในชั้นหลัง เพิ่มเติมจาก http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html ไม่ควรคิด ก็อย่าคิด เข้าต่อล้อ ไม่ควรข้อ ขอดเขา ด้วยโวหาร ไม่ควรเป็น ก็อย่าเป็น เหมือนเช่นพาล ไม่ควรสมาน อย่าสมัคร สมาคม ไม่ควรรอ ก็อย่าต่อ เข้าต้านตัด ไม่ควรทัด ทานถ้อย อย่าทับถม ไม่ควรชิด อย่าสนิท สนมชม ไม่ควรข่ม ก็อย่าข้อน ให้เคืองคำ ไม่ควรหาญ อย่าราน ให้ร้อนร้าว ไม่ควรกล่าว พึงระวัง อย่างพลั้งถลำ ไม่ควรเปิด ก็อย่าเชิด ชูเงื่อนงำ ไม่ควรทำ ตรองท่า พยุงจูง หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 23 ธันวาคม 2007, 11:19:AM กลบทนาคเคี่ยวกระหวัด
ที่มา http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html ผู้ใหญ่สอน ผ่อนตาม ให้งามเงื่อน เงื่อนงาม ความท่านเตือน เหมือนมุ่งหมาย หมายมุ่ง ตรอง มองให้เห็น อย่าเว้นวาย วายเว้น เช่น เชิงหมาย ให้ควรการ การควร อย่าเพ่อหวน โกรธตอบต่อ ต่อตอบ เห็น ชอบข้อ จึงไขขาน ขานไข คำ ถามทัด ให้ชัดชาญ ชาญชัด จัดวิจารณ์ ให้แจ้งใจ ใจแจ้ง อย่าระแวง แคลงคิดผิด ผิดคิด คัด ดัดจริต อย่าหลงไหล ไหลหลง ตาม ความเชือน กลับเกลื่อนไกล ไกลเกลื่อน กลับ นับให้ ใจดาลดวง หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 23 ธันวาคม 2007, 11:24:AM กลบทนาคราชแผลงฤทธิ์
ที่มา http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html คำคารม ลมลิ้นเล่ห์ อุบายบอก ออกบทเบื้อง เยื้องยอก ใจห่วงหวง จ้วงเหตุหา ท่าช่องชี้ นี่ไยยวง หน่วงยุดอย่าง ต่างดวง เมตตาใจ ไม่ต่างจิต คิดว่าจริง ทุกสิ่งล้วน ถ้วนแสนหลาก ยากประมวล หมดสงสัย ไม่สอดส่อง ดูให้ต้อง ตามเลศนัย ไต่เล่ห์นึก ตรึกไตร ดูท่วงที ดีทุกท่า ทางมายา มีหลายหลาก มากเหลือล้ำ ตามยาก แต้มสอดสี ตีส่วนสอง ให้เห็นช่อง ชอบเชิงที ชี้ชวนทาง อย่างแต่มี ล้วนอาการ กลบทนี้ใช้พยัญชนะต้นของสามคำสุดท้ายของวรรคก่อนหน้า มาเป็นพยัญชนะต้นของสามคำแรกในวรรคต่อมา หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 23 ธันวาคม 2007, 11:26:AM กลบทอักษรสลับล้วน
ที่มา http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html การก่อนกอบ ชอบช่องเช่น เห็นเหินห่าง จำจากจาง หมางเมินม่าย ฝ่ายฝ่าฝูง ยลเยี่ยงอย่าง พ่างพื้นเพื่อ เจือจานจูง สิ่งส่วนสูง มุ่งเมียงมาด คาดเคียงควร เอื้อนออกอ้าง อย่างยิ่งยาก บากเบือนเบี่ยง พูดพอเพียง เอียงอ่อนโอษฐ์ โหดหวงหวน เพราะพริ้งพร้อม กล่อมกล่าวกลืน ชื่นชอบชวน โลมเล่ห์ล้วน ยวนแย้มยั่ว ทั่วถ้วนทาง แถวถิ่นเถิน เนินน่านน้ำ ข้ามเขตโขด ห้วงหาดโหด โฉดเชื้อชัก ขวักไขว่ขวาง แม้ไม่มี ที่ทัดทัน กั้นกีดกาง แบ่งเบาบ้าง ข้างข้อคำ ร่ำรีรอ หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 26 ธันวาคม 2007, 11:17:AM กลบทมยุราฟ้อนหาง
ที่มา http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html ดูดูท่า อย่าเลินเล่อ เผลอบ่อยบ่อย คุมคุมใจ ไว้อย่าปล่อย ไปปร๋อปร๋อ เหมือนเหมือนอย่าง ทางที่เป็น เช่นพอพอ ตรองตรองใจ ที่ในข้อ ให้ควรควร เปรียบเปรียบว่า บุตรภรรยา คนใช้ใช้ ปล่อยปล่อยปละ ละให้ ฮึกหวนหวน เฉยเฉยเสีย ไม่สั่งสอน ข้อนชวนชวน กล้ากล้านัก มักก่อกวน จะแรงแรง มีมีแต่ ต่างจะดื้อ ถือปึ่งปึ่ง ข้อนข้อนข้าง วางข้อขึง ขึ้นแข็งแข็ง คล้ายคล้ายช้าง ห่างขอ มักแคลงแคลง ชวนชวนชัก มักระแวง จงจำจำ หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 26 ธันวาคม 2007, 11:19:AM กลบทยัติภังค์
ที่มา http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html ครูสอน สอนก็ได้ แต่ใจภัก ภักดีต่อ ต่อที่รัก ทุกคำสำ สำเหนียกกล่าว กล่าวคิด พินิจดำ ดำริห์ชอบรู้ รู้จำ สุนทรภา ภาษิตเปรียบ เปรียบแม้น เหมือนหนึ่งสัง สังคีตดัด ดัดประดัง ทุกสิ่งสา สามารถพร้อม พร้อมเพราะ เสนาะอา อาลัยชวน ชวนกระบือร่า ให้ฟังบรร บรรเลงขับ ขับก็ป่วย เวลาปรา ปรารภเรื่อง เรื่องจะหา หรือรู้ฉัน ฉันใดเพราะ เพราะจะเพียร ก็ยากพรร พรรณาสอน สอนพาลนั้น ย่อมยากแสดง กลอนกลบทยัติภังค์เหมือนกลบทอื่น ๆ แต่ต้องให้คำที่สุดท้ายของวรรคเป็นคำที่ใช้ยัติภังค์เชื่อมไปยังวรรคต่อไปเสมอ นอกนั้นเหมือนทั่วไป ไม่น่าน่าจะประคองสนองมิตร- ภาพคิดคิดถึงความหลังครั้งเคยสรวล- เสเฮฮาแย้มแฉล้มอวล- อบกลิ่นชวนชวนชื่นระรื่นจิน- ตนานึกนึกในมโนพิศ- วงอย่างยิ่งยิ่งพินิจจิตเจ้าหิน- ชาติทำกรรมกรรมก่อให้เกิดภิน- ทนาการลาญสิ้นสิ้นสุดนึก ที่มา http://www.geocities.com/annenena/index4.htm หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 26 ธันวาคม 2007, 11:23:AM กลบทละเวงวางกรวด
ที่มา http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html ผู้พ่ายแพ้ ผ่อนหลบ หลีกลับเลี่ยง พึงพอเพียง อย่าควร ข่มขัดแข็ง จวบเจียนจวน จนท่า รุกเร้าแรง พล้ำพลาดแพลง พลั้งตน จักจนใจ เหี้ยมฮึกเหิม หาญนัก มักมึนม่อย น้ำหนองน้อย แหนงเพลิง สิ้นสงสัย หมิ่นเมินมาก หากกลับ กลัวเกลื่อนไกล เห็นเหตุให้ หวนแปร แท้ทางที ดูใดโดย ให้ต้อง ชันเชิงชอบ รู้เรื่องรอบ อย่าระแวง หน่ายแหนงหนี พึงเพ่งพิศ คิดหา ท่าท่วงที โอบอ่อนเอื้อ อารี การเกื้อกูล หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 26 ธันวาคม 2007, 11:25:AM กลบทกินนรรำ
ที่มา http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html ขจัดจิต ชนิดหน่าย ระคายข้อง ระเบียบเบื้อง ตระเตื้องต้อง สนองหนุน คดีดู จะชูช่อง ประคองคุณ จะลึกลับ จะพับพูน ประมูลมี คะนึงนึก ตริตรึกตรอง ละบองแบ่ง ระบิลเบื้อง ยุเยื้องแย้ง แขนงหนี คะเนนับ สดับดู กระทู้ที จะต้านต่อ หรือรอรี คดีดู พินิจแหนง ระแวงวน ฉงนเงื่อง จะค้านคัด ประหยัดเยื้อง ณเรื่องรู้ จะหมองหมาง ระคางคิด จะชิดชู กระแสศัพท์ สดับดู จะรู้รา หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 26 ธันวาคม 2007, 11:28:AM กลบทเจ้าเซ็นเต้นต้ำบุด
ที่มา http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html สุดจะค้น สนข้อ ส่อคำสอน เห็นข้อน ห่อนควร หวนคิดหา เรื่องต้อง ร้องต่าง ร้างตำรา ยิ่งท่า ยากทาง อย่างที่ยล สอนพาล สารเพียง เสียงภาษิต สนคิด สุดแค้น แสนขัดสน ยากพ้อ ยอพา อย่าพึ่งยล เกียจปน กลปอง กองป่วยการ แก้วเพชร เก็จผ่อง ก่องผิวก่ำ หากล้ำ ให้เหล่า แห่งลิงหาญ นึกไว้ ในว่า น่าหวังนาน แรงค้าน รานคำ ร่ำคนเรา หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 26 ธันวาคม 2007, 11:30:AM กลบทนารายณ์ประลองศิลป
ที่มา http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html สำเนาเขา สำนวนควร สำเหนียกคิด ประกิตชิด ประกอบชอบ ประกันเฉา คนึงดึง ขนัดดัด คะเนเดา มิเศร้าเหงา มิส้อนงอน มิสิ้นงาม ระบิลสิ้น ระบายสาย ระเบียบเลศ นิเทศเหตุ นิทัศน์หัด นิทานห้าม ประจบนบ ประจักษ์นัก ประจงนาม จะซามตาม จะเสริมเติม จะเสื่อมตน ฉลาดปราชญ์ เฉลียวเปรียว เฉลยเปรียบ ประเทียบเพียบ ประทับพับ ประเทืองผล ขนานการ ขนอบกอบ ขนบกล จะยลบน จะเยื้องเบื้อง จะยากบัง หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 26 ธันวาคม 2007, 11:43:AM กลบทพระจันทร์ทรงกรด
ที่มา http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html ลำบากก่อน ก่อนทำ เห็นลำบาก หวนเหียนคิด คิดหาก จักหวนเหียน ผ่อนเพียรทำ ทำไปก่อน ค่อยผ่อนเพียร ปลงใจนึก นึกอย่าเวียน เปลี่ยนปลงใจ ประกอบการ การอย่าละ ที่ประกอบ นิสัยผล ผลก็ตอบ ตามนิสัย เป็นไปตาม ตามเช่น ที่เป็นไป สำเนากล่าว กล่าวไว้ ฟังสำเนา จักกลิ้งครก ครกหนัก หากจักกลิ้ง ภูเขาสูง สูงก็จริง แต่ภูเขา ใจเราเพียร เพียรให้เข้า แน่ใจเรา ตรึกตรองใจ อย่าใจเบา พึงตรึกตรอง หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 26 ธันวาคม 2007, 11:45:AM กลบทอักษรสังวาส
ที่มา http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html อย่าฝ่าฝ่าย หมายเกิน กำเริบเอิบ อ้างข้างเติบ มิได้ตรึก ตริสนอง เห็นเช่นได้ ใฝ่ด้วยข้าง ลำพองปอง ไม่ไตร่ตรอง ดูให้สิ้น นุสนธ์ยล จักหักโหม โจมเข้าจับ ด้ามพร้าง่า ตั้งจังก้า หักด้วยเข่า จงยลผล ควรครวญใคร่ อย่าให้ป่วย สกนธ์ตน ชอบสอบค้น เสียให้แจ้ง แห่งการงาน แม้แน่ใจ ใครฟัง พินิจกิจ ถ้าว่าผิด แล้วอย่าเพ่อ บรรหารขาน เหมือนเยื้อนแถม แย้มโทษ ประจานปาน จงปลงจิต คิดอย่าหาญ แต่เดียวเจียว หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 28 ธันวาคม 2007, 09:39:AM กลบทธงนำริ้ว
ที่มา http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html ช้าช้านึก ตรึกไตร่ตรอง ให้ต้องกิจ ค่อยค่อยคิด คาดควร คำนวณเฉลียว ดูดูก่อน ผ่อนให้สม ที่กลมเกลียว จริงจริงแท้ แน่เจียว อย่าวางใจ หมั่นหมั่นคิด ที่ในกิจ ประกอบก่อ ตรองตรองข้อ เสียให้ควร ที่ขานไข รอรอรั้ง สังเกตผล เลศกลใน อ่อนอ่อนไว้ ดีกว่ากล้า อย่าแรงรัน คล้ายคล้ายคำ ร่ำว่า เหมือนฆ่าช้าง แท้แท้ทาง หวังเอางา เท่านั้นนั่น เหมือนเหมือนกิจ น้อยจ่าย ใช้ทุนอัน มากมากครัน คิดไม่คุ้ม ที่ขาดไป กลอนกลบทธงนำริ้วเหมือนกับกลบทอื่นๆ เช่นเดียวกัน วรรคหนึ่งมี ๙ คำ ให้มีคำซ้ำคู่หน้า ๑ คู่ในแต่ละวรรคเสมอ นอกนั้นเหมือนกลอนทั่วไป เฝ้าเฝ้าลืมอารมณ์ข่มดวงจิต สุดสุดคิดระงับขึ้งเพราะหึงหวง เจ็บเจ็บจิตไม่คิดง้อคนล่อลวง ขืนขืนห่วงทุกข์ท้นกังวลใจ ง้อง้อกันพลันหยิ่งทิ้งจังหวะ ดูดูจะวางข้อง้อไฉน รู้รู้กันอยู่ดอกทั้งนอกใน นิ่งนิ่งไปก็จะแดงแจ้งออกมา ที่มา http://www.geocities.com/annenena/index4.htm หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 28 ธันวาคม 2007, 09:42:AM กลบทวิสูตรสองไข
ที่มา http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html ผเดิมผดุง มุ่งมาด ขนาดขนบ ให้แจ้งให้จบ ครบพิศ นิสิทธิ์นิสัย อย่าเพลิดอย่าเพลิน เมินพลั้ง ละลังละไล วิจารณ์วิจัย ในเหตุ สังเกตสังกา ระบิลระบอบ กอบการ สมานสมัคร ประจงประจักษ์ แจ้งที่ ประสีประสา ใช่กงใช่การ พานผิด ประดิษฐ์ประดา ใช่ทางใช่ท่า อย่ายล กระวนกระวาย ใช่เรื่องใช่ราว กล่าวโทษ ประโยชน์ประหยัด พิบากพิบัด ทัดทำ ระส่ำระสาย เสมอเสมือน เตือนตน ทุรนทุราย ระคนระคาย สิ่งซึ่ง ไม่พึงไม่พอ หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 28 ธันวาคม 2007, 09:49:AM กลบทเสือซ่อนเล็บ
ที่มา http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html รู้ว่ายาก หากเห็น เช่นว่าทุกข์ ทางนี้สุข ปลุกปลื้ม ลืมนี้หนอ รำพึงเพียร เวียนวน ทนพึงพอ เพียรวนล่อ ต่อตั้ง กังวลใจ ยลแต่อย่าง ต่างรู้ อยู่แต่ยาก เหลือนิหาก จากล้น พ้นนิสัย เหมือนขว้างงู ชูเชิด เปิดกว้างไป ก็กลับใกล้ ไคล้ยุค ฉุดกลับมา สิ่งที่เบื่อ เหลือเบือน เหมือนที่รัก ต่างร่ำผลัก มักเป็น เช่นร่ำว่า รำคาญไหน ใฝ่เฝ้า เข้าคานตา เช่นคอยท่า หาสุข ทุกข์คอยรึง หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 28 ธันวาคม 2007, 09:51:AM กลบทนาคบริพันธ์
ที่มา http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html กุมภาพาล ชาญชลา สาคเรศ สาครินทร์ ถิ่นประเทศ สำนึงถึง สำนักสู่ อยู่ประจำ อย่ารำพึง อย่ารำพรรณ อันซึ่ง จะวายชล จะวายชาญ หาญกล้า ดีกว่าสอน ดีกว่าสั่ง ฟังดูก่อน ใช่เหตุผล ใช่เหตุเผื่อ เจือจาน ป่วยการกล ป่วยประกอบ ชอบแต่ยล ดูท่าทาง ดูท่าที่ ที่จะสั่ง จะสอนศิษย์ จะสอนสู่ ดูชนิด อย่าอางขนาง อย่าอ้างขนาด คาดคะเน คะนึงพลาง คะนึงพลอย คล้อยเป็นกลาง อย่างเอียงเอง หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 28 ธันวาคม 2007, 10:08:AM กลบทหงส์คาบแก้ว
ที่มา http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html มีการทำ ทำไม่ถูก ถูกที่ผิด มีความคิด คิดไม่ต้อง ต้องโฉดเฉา จักโทษใคร ใครจะทำ ทำให้เรา นั่งนึกเศร้า เศร้าโศกซ้ำ ซ้ำจนใจ เหมือนตาบอด บอดแล้วมา มาได้แว่น ดูยากแสน แสนสุดสิ้น สิ้นนิสัย จับขึ้นลูบ ลูบคลำแล้ว แล้ววางไป ตั้งแต่ใคร่ ใคร่ครวญนึก นึกตื้นตัน จะตรึกตรอง ตรองให้รอบ รอบรู้กิจ กอบการผิด ผิดแล้วยาก ยากผ่อนผัน อย่าหุนหวน หวนใจดู ดูสำคัญ ให้เหมาะมั่น มั่นแม้นมุ่ง มุ่งระวัง หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 28 ธันวาคม 2007, 10:11:AM กลบทพักพันร้าน
ที่มา http://www.baanjomyut.com/library/thai_literature/kollabot/index.html จากเพียร เจียนเพื่อน เจื่อนพวกจาก ฝังให้ ใฝ่หาก ฝากห่วงฝัง บังกิจ บิดเกียด เบียดกลบัง ใยทน ยลทั้ง ยั้งทุกข์ใย ตรึกสม ตรมซร้อง ต้องสิ่งตรึก ไหนแล้ว แนวลึก นึกเล่ห์ไหน ใดชื่น ดื่นชวน ด่วนเช่นใด ยลขำ ย้ำไข ไย้ข่าวยล ผ่อนขัด ผัดขัน ผันข้อผ่อน หนไร ให้ร้อน ห่อนรู้หน จนค้าง จางคิด จิตค่อยจน กายหวัง กังวล กลว่างกาย หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 11 กันยายน 2008, 01:30:PM กลบทรักร้อย
ที่มา http://www.geocities.com/annenena/index4.htm กลอนกลบทรักร้อย วรรคหนึ่งจะมี ๙ คำ แต่จะมีลักษณะเฉพาะตัวคือ คำที่ซ้ำกันคู่หนึ่งนั้นจะไม่คำอื่นมาคั่น จะอยู่ตรงไหนก็ได้ในวรรค แต่ไม่ใช่คำแรกและคำสุดท้าย นึกว่าคน คนดี มีศีลสัตย์ ยึดคำมั่น มั่นมนัส มิเหลวไหล มิรู้ว่า ปรวนแปร แปรหลายใจ พึ่งเห็นเล่ห์ เสน่ห์ไว ไวในเชิง มารู้เช่น เช่นนี้ ก็ดีอยู่ หากไป่รู้ หลงลม ลมพาเหลิง คงจมดิ่ง ดิ่งด่ำ ถลำระเริง จนเปิดเปิง เปิงป่น กมลตรอม หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 11 กันยายน 2008, 01:33:PM กลบทกินนรเก็บบัว
ที่มา http://www.geocities.com/annenena/index4.htm กลอนกลบทกินนรเก็บบัว วรรคหนึ่งจะมี ๙ คำ แต่จะมีลักษณะเฉพาะคือ คำในวรรคหนึ่งนั้นต้องมีซ้ำกันอยู่คู่หนึ่ง อยู่กลางวรรคจะเป็นตรงไหนก็ได้ ยกเว้นคำแรกและคำท้าย พี่นั่งคิดนั่งขบทบทวนเหตุ เกิดอาเพศอาภัพจิตดังมีดเฉือน ก็เพราะใจปักใจไม่แชเชือน จะกลบเกลื่อนกลบร้ายก็สายเกิน จะคืนดีคืนเดิมดุจดังก่อน ก็สะท้อนสะเทือนใจให้ขวยเขิน จะล้างคาวล้างราคีที่หลงเพลิน ก็ทำท่าทำเมินเกินสมควร หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 11 กันยายน 2008, 01:41:PM กลบทตรีประดับ (กลบทประดับเพชร)
ที่มา http://www.geocities.com/annenena/index4.htm กลอนกลบทตรีประดับ ในวรรคหนึ่งต้องมีคำสัมผัสอักษรเรียงติดกันอยู่ ๓ ตัว ผันด้วยวรรณยุกต์ เอก โท เช่น แคนแค่นแค้น จะอยู่ตรงไหนในวรรคก็ได้ แต่ต้องมีสามคำเสมอ ในทุกวรรค สัมผัสเหมือนกลอนทั่วไป นึกถึงคำแคนแค่นแค้นให้แน่นจิต เจ้าหลั่งจริตลอล่อล้อให้เรียมหลง โอ้อกเราเร่าเร้าเฝ้าพะวง ทรวงพี่คงชำช่ำช้ำระกำตาย ปลูกต้นรักรานร่านร้านสะท้านราก กิ่งใบพรากลมล่มล้มลาญสลาย นับจะเซาเซ่าเซ้าเศร้ามิวาย สุดจะคลายขมข่มข้มระทมทรวง หัวข้อ: Re: กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: Alpha ที่ 15 ตุลาคม 2008, 12:29:PM กลบทพวงแก้วกุดั่น
" ก็เหมือนใครใคร " ไม่เป็นพิษเป็นภัยแก่ใครหมด สร้างกำสรดแก่ใครไม่เคยสร้าง เหมือนใครที่ที่ชีวิตถูกทิศทาง และอยู่อย่างใครใครที่มีเมตตา ความเป็นอยู่ทั่วทั่วไปเหมือนใครเขา มีหงอยเหงาเหมือนใครใครที่ในหล้า มากมีเพื่อนเหมือนเหมือนใครในโลกา มีขลาดกล้าเหมือนใครใครที่ไหนมี ฉันก็เป็นเช่นเช่นใครที่ในโลก มีสุขโศกเหมือนใครใครในทุกที่ ใครก็มีที่ที่ทำกรรมชั่วดี ทุกอย่างนี้เหมือนใครใครไม่ต่างกัน มีโกรธเกลียดอย่างใครใครเขาไม่ผิด มีความคิดเหมือนเหมือนใครไม่แผกผัน ใครฉลาดใครเขลารู้เท่าทัน ต่างเหมือนฉันเหมือนใครในแผ่นดิน เมื่อใครใครไม่แผกผิดคิดแตกต่าง แม้นมีบ้างใครใครเขาเฝ้าติฉิน อย่าเศร้าใจใครมาป้ายป้ายราคิน ให้ชาชินทุกทางอย่างใครใคร (กลบทพวงแก้วกุดั่น) บัญญัติให้เล่นคำซ้ำคำเดียวกันทุกวรรค โดยไม่กำหนดตำแหน่ง กลบทพวงแก้วกุดั่น นิยมเขียนกันมากในกลอนนิราศ กลบทนี้ มีเฉพาะในจารึกวัดพระเชตุพนฯ http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=6081.msg46423#msg46423 หัวข้อ: Re: ว่าด้วย กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: เขียนชีวิต ที่ 22 พฤษภาคม 2010, 02:07:PM ป๊าด กว่าจาฝึกได้ทุกอันคงเป็น 10 ปี emo_115 emo_115 emo_115 emo_115 หัวข้อ: Re: ว่าด้วย กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: ทอฝัน ที่ 22 พฤษภาคม 2010, 03:10:PM (http://www.klonthaiclub.com/pic/nature_031.jpg) ...หมั่นฝึกไป...ไม่กังวล...มัวหม่นจิต ล้วนมีถูก...มีผิด...คิดแล้วค้น คำของคน...คนของใคร...ใครคือคน ย่อมดั้นด้น...ดีได้...ด้วยดุ่มเดิน ......................................................... ...เรามีครู...ครูเรามี...ที่นี่แล้ว ล้วนหลากแนว...นำเนาว์...เราสรรเสริญ แค่ครูนำ...คำเรียง...เราเคียงเดิน ต่างดำเนิน...เนิ่นนาน...บนกานท์กลอน... ........................................//ทอฝัน หัวข้อ: Re: ว่าด้วย กลบท (สำหรับผู้ที่อยากหาลูกเล่นเพิ่มเติมในการแต่งกลอนนะคะ) เริ่มหัวข้อโดย: บัณฑิตเมืองสิงห์ ที่ 23 มีนาคม 2012, 05:37:AM ห้องกลบทเงียบเหงาเหลือเกิน
หรือมันมิเพลินกวีทั้งหลาย มาเถิดครับมาเถิดหญิงชาย เชิญมาร่ายอักษรจารึกจำ เอาล่ะวา . . . เข้าเรื่องเลยดีกว่า ดึกแล้วไม่มีอะไรทำครับ ผมก็เลยนั่งเปิดเว็บหาลูกเล่นการเขียนกลอนใหม่ๆ เอ้อเฮอ . . . เจอของดี!! ผมไปเจอเว็บไซต์หนึ่งเกี่ยวกับกลบทต่างๆมาครับ มีเป็นร้อยเลยครับ (จริงๆแค่หลายสิบ) กลบทแปลกๆก็มีเยอะ น่าสนุกนะ emo_12 เลยนำมาแบ่งปันให้สมาชิกบ้านกลอนไทยได้ศึกษากัน ตอนแรกนึกว่ากระทู้กลบทไม่มีซะแล้ว อยู่หน้าสุดท้ายเลย emo_31 ตามลิ้งค์นี้ไปสิอะพิโธ่ ตัวโตโตเต็มจอรออยู่หนา เชิญทุกท่านเข้าไปเรียนเพียรวิชา บัณฑิตฯหาเจอน่ะเลยแบ่งปัน emo_47 >>>Click ตรงนี้แรง ๆ เลยนะครับ<<< (http://learnkaweethai.blogspot.com/p/blog-page_23.html) |