หัวข้อ: โมเซคำฉันท์ - อยกาจลาวจร
เริ่มหัวข้อโดย: อาทิทาส ที่ 01 พฤศจิกายน 2024, 06:49:PM
๏ปางนั้นโมเซดำเกอง สู่ไศลไฟเมลิง มมลังจำรัสอัจจี เมลิงมมลัง-มลังเมลือง เอือเป็นเออเช่น เงินเงือนในจารึกหลักที่๑ อัจจี-เปลวไฟ ๏ยุเดวทำทบบทำที่ นองอัคนีคี- ริบาทอันนิศกลง ทับ-เรือน,ที่อาศัย นิศกลง/นิศกลงก์-นิรมล ๏ส่ไนยไศลระหํง อยู่หว่างทางดง มรูษณเทศไพศาล มรูษณเทศ-มรุ(ทะเลทราย)+อุษณ(ร้อน)+เทศ(ที่) ว่า ที่ร้อนคือทะเลทราย ๏ยุเดวปฤกษาสรรพการย ท่าปู่ไปนาน แลกลัวสมเด็จโมเซ ๏เบือนบ่ายห่ายหายถ่ายเท พนิจรรรเร เหห่างไปทางหนใด ๏กินแหนงหนักจึงจงใจ เพื่อนกันคลาไคล ปฤกษาพระเชษฐภรรดร ๏สี่สิบทิพพากอรจร ขึ้นแล้วลงนร นุสุดจะเฝ้าอาไลย ๏ยุะเดวถับเทาเฝ้าไท วันทาอํงคไอ- ยะกาแล้วเกลี้ยกล่าวหวาน ๏ขรัวครูอันพฤฒาจารย์ บ่าระนี้นมนาน จำเนียรที่องคอนุชา บ่าระนี้-ป่านนี้ ๏ขึ้นเขารับเอาบัญชา นรนีดติสารา แต่เจ้าสวรรค์วังแวง แวง-ยาว วังแวงว่าวังยาว ๏พระองค์ธำรงศักดิแสง สุทธยิ่งพึงแสยง พรรฦๅพรรลายสายศรี ๏ราเห็นป่วยคอยกาลกี ฤๅปู่จักนี วัตนานิคมอาศรํม กี-几-several-หลาย มีในราชาพิลาปคำฉันท์ ๏ควรเรารังรูปควรคม สำรบบชูวชม คือเปนมงคลมูรรดี มูรรดี-มูรติ-รูปเคารพ ๏ดั่งได้สมเด็จกรุงศรี สรโลกยอนนนี- ฤมํลมาในภูมิดล ๏ควรเราเคารภยร่ำบน บำบวงสรสรณ จะได้สมสุขรมเยอ ๏ท่านอย่ากินแหนงแคลงเทวอ หากให้อวยเออ ก็ข้าท้งงปวงปองทำ ๏อาโรนผู้ภรรดานำ คำคิดแลทำ นุการโดยทำนูล ๏จึ่งไทให้เขามว่วมูล มวลผู้รู้ธูร แลมากระทำมูรรดี ๏เปนรูปร่างอย่างคาวี แลวรรควัฒกี ก็เยียบรรโดยฎีกา ๏จึ่งไทให้เขามว่วมา ซึ่งไรเรืองตา เป็นแก้วกรลับกุณฑล ๏รรรลายหลอมโล่หเปนจรณ หล่อลูกโคคณ คณานรามุงมอง รรรลาย-รันลาย-ละลาย-ว่าสร้างศัพท์แบบไทยอย่างหนึ่ง เหมือน แท่ง ระแท่ง อันแท่ง/อรรแถ้ง ลำดับ ระดับ สำคัญว่ารันก็ดุจกัน เหมือนคำว่า รันทำ ๏สรรพเสร็จสรรพสึกคึกคนอง คฤโฆษกรับกลอง ก็มี่ก็มีดนตรี ๏ปางนั้นสมเด็จธาษตรี ศูรทรงทฤษฎี ก็กร้ยวแลโกรธาธร ๏เราอยู่ฤๅเราเปนสรณ มาเยียทุรกรณ อนรรถอนาถนักหนา ๏สมเดจอันวาดวิศวา สรรค์สรรพ์ศิลปา- ลงกรณในธาษตรี ๏สมเด็จโกรธารมณี พระจักผลาญชี- พผู้มีใจจรรจล จรรจล-จัญจล(ข.)จิญฺจล(ส.) ว่าหวั่นไหว (อัพภาส จ+จล,จํ+จล?) ๏สมเด็จประกาศการยกล หฤทยนยรมล ณแก่พระปู่โมเซ ๏พระปู่สดับเสด็จอันมเห- ศวรศักดีเด- โชวาทประกาศเกรงกลัว ๏ท่าวทูลสรรเพชญพระตัว ต่ำไดทูนหัว แลกล่าวสุนทรยาจณ ได-มือ, ยาจณ-การขอ ๏ข้าไหว้สมเด็จนฤมล สรรเพชญาจล ข้าไหว้จะขอการุณย ๏กิจอันประชาชนขุน เขลาเฃาดูดุล- ยบาปเปนคำนวร ๏แดดาลสังคีตไพดวร โดมดองดวงมวน ทรมวนทรม่วนรายรำ ๏รายร่ายมือตีนเต้นทำ รักษรูปยยยกรรม อันเลวแลหยาบยิ่งไกร ๏ข้าขอสมเดจหฤทัย สรสุทธาไภย อภิตจงธรงกรุณา ๏ผิเขายยยบาปสหสา เปรียบปานจันทรา พิมลอันใสแสนบาป ๏ย่ยงน้นนสมเดจธรงดาป ดระบะกำซราบ ซซึมทงงโลกโลกีย ๏เปรียบปานสุริยสุทธแสดงนี รัชชาตบรรที- ปทีปภาคสัปดา เสมือนตะวันอันบริสุทธิ์แสดง(รังสี)ซึ่งไร้กำเนิดยังความสว่างแก่เกาะทั้งเจ็ด ๏ลบรังษีรบาปนิศา- กรเดือนดูพา ฟฟ่นนพพร่นนปั่นี ปั่นี-ปั่นนี-ปั่นหนี อักขรวิธีอย่างนี้มีในหนังสือเก่าบางเล่ม เช่น เมตตา เขียนเมตา ๏สรรเพชญพระพระมี การุณยรักษชี- พนรชาติชาวชน ๏มาแต่ปางป่นนทงงบน ล่างฤ้ๅเปนปน ปปนปป่นนทงงปวง ๏ข้าไหว้สมเดจเขียนคลวง สองส่วนสัดดวง และรงงทงงแดดเดือนดาว ดวง-แก้ว ที่นี้ใช้ในความว่าที่รักที่ดีที่งาม ๏ข้าขอสมเดจยุษยาว ยืนมล้างบาปชาว ชนานิกรเห่บราย เห่บราย-ฮีบรู ๏ข้าขอสมเดจโดมดาย ดยวมล้างอนนอาย อไภยอภิตกัษมา ๏สมเด็จอันมานสุนทรา ทรีหฤทยรา พระจีตร่โกรธาธร สุนทร+อาทร+อิณฺ ๏สมเด็จอันเบญาธรกร มล้างเฟยดไฟฟอน แลมีพระจีตรจาคี ๏สมเดจอนสรศักดี พระฤๅผลาญชี- พผู้มีใจกลับกลม ๚ กลม ความว่าเกลี้ยงว่ากลมกล่อมคือไม่หยาบไม่เลวไม่กระด้างกระเดื่อง
๏ปางนั้นพระปู่ภรร- ดรนุชคัลคม สมเดจอันนสูกษม- ณภวินอนินทรีย ๏ปู่แบกศิลาธาร ธำรงอักษรานี ดิศอันธเรษตรี- ศวรเลขเลขาณ ๚
๏ปู่ลงลุเบื้องบาทบาร- พตแลสามาน- ยกิจวิบัติอัตรา ๏ปู่เกรี้ยวกระโกนลงมา แต่เทินประกา- ศสาสนโดยโกรธกี ๏อ้าเองมาถือคาวี- รูปเปนบดี- สุโรอันมีมหาทัย ๏โคปราบอายคุบฤๅไฉน ไฉนรักษรูปไว สมเดจธารทานโภชนา ไว-เหมือน จากบาลีว่า วิ มีในกำสรวลสมุทรว่า เจ้าหน้าแว่นไวจันทร ๏โภชนังอันเปนไรหวา ท่านเรียกมานา ตกมาแต่ขอบโขเขยว มานา-ชื่อของอย่างหนึ่งพระเจ้าเมตตาให้ตกจากฟ้ามาเลี้ยงชาวอิสราเอล ๏ขุนเขานี้เพรงกฤๅนกรยว แกรกำธรทยว ฆนาธวัชราศี เกรียว-กราวเกรียว กฤานคือครืนครื้น ค เป็น ก ได้เหมือนสาส์นสมเด็จเรื่องวินิจฉัยศัพท์ สังกะวาด ๏รอบเศขรินนีมี ไฟฟุนเผาจี- รกาลแลเองทุกตน ๏ท่าวตววยำแยงกาหล ศัพท์สนั่นจัญจล ดาลจีตรรัญจวนหวาดไหว ๏หวั่นวงกตแก้วเหมือนไม- ทนีพกไป แลมาแลดูพรรฦก ๏ปางนี้ฤๅเองอรรนึก คุณพระลืมสึก สหัสคุณควรแขยง สึก-รู้-realise ๏ลืมวันขุนเขาครแลง ครโลงใสแสง สุสุทธภาพึงภิต ๏กันดาลโจมโดมนันนิศ- กฤดรูปประดิษ- ฐมูรดิแมนเทพา กลางยอดสูงนั้นไม่มีรูปอันทำแล้วตั้งไว้(เป็น/คือ/ต่าง/ตาง/แทน/เหมือน)พระเจ้า ๏ยศใดเองเอาโลหา หลอมหล่อพิมพา ประดิษฐประดับลงกรณ์ ยศใด-อย่างไร ๏ลงกตกับสรรพาภรณ์ หยาบยิ่งโดยบร- พิธีจริตจัญไร ๏ปู่กริ้วแลปู่ปา นิติจารกาไป เอาทัณฑบรรลัย ประดิมาพินาศนอน ๏เอาฆ้อนประหารหัก ประดิมาก็ท่าวทอน ปู่สงงนิกรนร คณภักดิโดยจง ๏ชาวชนอันเชื่อฟงง อยกาก็อัดองค์ แหลกเปนธุลีลง บ่มิคงพฤษภพิมพ ๏เจือทึกบังสมเสร็จ ก็บังคับประชาชิม กลืนผงก็กรมกริม แลลอายลอับศรี โสดแล ๚ ละอายละอับ-อายอับ
๖๖ บท ๚ะ
หัวข้อ: Re: โมเซคำฉันท์ - อยกาจลาวจร
เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 06 พฤศจิกายน 2024, 03:47:PM
ขอผัง ฉันทลักษณ์ ครับ
หัวข้อ: Re: โมเซคำฉันท์ - อยกาจลาวจร
เริ่มหัวข้อโดย: อาทิทาส ที่ 06 พฤศจิกายน 2024, 08:02:PM
คือฉบัง ๑๖ กับ อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ ปกติเลยครับท่าน
|