หัวข้อ: O เสน่หา .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 26 มีนาคม 2020, 10:06:PM (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1585234488.jpg) O นั่น .. นกฟ้าบินคว้างร่อนกลางหาว เมื่อเดือนดาวลอยดวงขึ้นช่วงฉาย พร่ำพร้องเสียง .. เล่นแสง .. ไม่แฝงกาย ร่อนโล้สายลมร่ำ .. ให้นำทาง O อาจรู้ฤๅ .. ที่มาแหล่งอาศัย ทั้งรูปไพจิตรล้นแห่งขนหาง หวัง .. สักวันปลายปีกเมื่อฉีกกาง- อาจลิ่วคว้างคว้างร่อน .. เกลือกขอนดิน O แหละเมื่อนั้น .. รมยาแห่งหล้าต่ำ- จักร่วมพร่ำพร้องช่วง .. แสงดวงศศิน- ให้ทอทาบเงาวิหค .. ยามผกบิน เพรียกปีติธรณิน ตราบ .. สิ้นวัน O แต่เริ่มเดือนลอยดวงบนสรวงสูง ก็เพรียกฝูงโบกบิน .. ผ่านถิ่นฝัน อย่างแช่มช้าปีกโฉบ .. เข้าโอบจันทร์ พร้อมโอบขวัญอ่อนละมุน .. ให้อุ่นพร้อม ! O เพื่อ-ตฤปรสน้ำค้าง .. กินต่างข้าว ทั้งเหนี่ยวน้าวกลีบมาลย์ .. รสหวานหอม กอปรรูปรอยงามล้ำให้ด่ำดอม เอาห่มห้อมโอบเอื้อเป็นเนื้อเดียว O จากที่ยืนอยู่นี่ .. ถึงที่นั่น ห่างไกลกันเกินกว่าสายตาเหลียว กลับเหมือนได้เกี่ยวร้อยด้วยก้อยเรียว- พาโน้มเหนี่ยวหวานหอมที่ล้อมลน O ขณะคิด .. ถวิลถึงเพียงหนึ่งช่วง จิตก็ห่วงถึงกันนับพันหน ขณะชั่วลมไหว .. หัวใจคน- ก็ดิ้นรนถวิลเห็นไม่เว้นวาย O ภาพแฝงในน้ำค้าง .. เหมือนร่างเงา- อันรุมเร้าใจอยู่ไม่รู้หาย ละม่อมพักตร์เปล่งปลั่ง .. กระทั่งกาย- ราวจะพลอยรำร่ายกลางสายตา O จากที่เฝ้าคิดถึง .. ใครหนึ่งนั้น- โกสุมพรรณโรยหอมเข้าล้อมหา ปีกนกฟ้าโบกไหวอยู่ไปมา แต่เหมือนว่าใจคนยังวนวก O ริ้วลมร่ำโลมลูบ .. จบจูบมาลย์ ฤๅเท่าความหอมหวาน .. ซึ้ง .. ซ่านอก ความออดอ้อนถ้อยกระซิบก็หยิบยก- เอาล้อมปกป้องเหงา .. อีกเพลาแล้ว O ปีกนกกลางลมเอื่อย .. ที่เฉื่อยโชย ก็พลิ้วรูปโบกโบยอย่างโผยแผ่ว นึก-เนตรคมปลั่งปลาบ .. ไหววาบแวว สบ-ย่อมแผ้วผ่องล่วงทั้งดวงมน O ปีกนกล้อลมร่ำ, ถ้อยรำพัน- ก็ล้อฝันปรารถนาอีกคราหน ปีกเบาบางล่องฝ่า .. ฟากฟ้าบน เมื่อใจหนึ่งดิ้นรนอยู่บนยาม O ปีกบางร่อนเรื่อยไปที่ในฟ้า เมื่อแววตาสื่อทราบ .. รอยวาบหวาม คำนึงผู้อ่อนไหว .. ก็ไหลลาม ล่วงเขตดาววับวาม .. อย่างย่ามใจ O ปีกเบาบางกางโบก .. เย้ยโลกต่ำ เมื่อความคร่ำครวญตอนที่อ่อนไหว- เริ่มเย้ยยั่วโลกธรรม .. อยู่ร่ำไป อย่างร่ำไร .. ออดอ้อนเกินผ่อนลง O มีขอบคุ้งโค้งฟ้า .. ค้ำคาขวาง เป็นอยู่พร้อมช่วงห่างด้วยร่างหงส์ ทั้งห้วงเหวลึกล้ำแห่งจำนง เป็นเขตคงคาอยู่ให้รู้ควร O ปีกบางยังโบกบ่ม .. ยั่วลม-ยอ เมื่ออาวรณ์ยั่วล้อ .. ร่ำรอหวน ปีกนกโบก .. โลกภพก็อบอวล ร่วมคร่ำครวญ .. วาระ .. จังหวะเดียว O ปีกเบาบางกางโบก .. ลับโลกแล้ว เมื่อขลุ่ยแว่วทำนองให้มองเหลียว หมายว่ารูปงามแสน .. ทอดแขนเรียว- ร่วมก้อยเกี่ยวร่วมย่าง .. เส้นทางจร O ขณะคิดถวิลเห็นอยู่เช่นนั้น ก็ผูกพันแน่นอยู่ .. เกินรู้ถอน ขณะลมเฉื่อยโชย .. ขลุ่ยโหย .. วอน รอบอาวรณ์ก็เห่โหมอยู่โครมครืน O ขณะคิด .. ถวิลอยู่, ความรู้สึก- จำหลักลึกเกินกว่าจะกล้าฝืน ขณะนั้นคำอ้อนราวย้อนกลืน- กลบทุกแรงขัดขืน .. ใต้ผืนทรวง O สัมผัสความรื่นรมย์แห่งลมร่าย เมื่อจันทร์ฉายรอบพิมล .. จากบนสรวง หมาย-ใครอ่านถ้อยคำ .. พี่บำบวง- แล้วสุดหน่วงเหนี่ยวใจ .. อาลัยรัก ! https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=12-2012&date=21&group=11&gblog=430 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=12-2012&date=21&group=11&gblog=430) |