พิมพ์หน้านี้ - ~*~ รุ้ง ~*~

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนอกหัก => ข้อความที่เริ่มโดย: วลีลักษณา ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2020, 12:36:PM



หัวข้อ: ~*~ รุ้ง ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2020, 12:36:PM
(https://www.bloggang.com/data/w/waleelaksana/picture/1582263678.jpg)

๐ คงเป็นเพียงพรายรุ้งอันฟุ้งฟ่อง
จากละอองต้องแสงแล้วแต่งสี
งามย่อมเกิดเพียงครู่ต่างรู้ดี
ดุจไมตรีระหว่างเราที่เบาบาง

๐ หากแม้หมายยึดเอาเป็นเจ้าของ
ผูกใจจับรับรองประคองข้าง
มิช้านานผ่านคล้อยต้องปล่อยวาง
ทิ้งรอยร้างเลอะเลือนแปดเปื้อนทรวง

๐ ภาพเริ่มแรกแปลกใหม่สีใสสด
ย่อมเบิกบทงดงามอร่ามสรวง
แค่ประกายละอองฟุ้งของรุ้งลวง
หมายจะหวงหน่วงไว้คงไม่นาน

๐ แม้จะรู้แก่ใจว่าไม่เที่ยง
ยากจะเลี่ยงหลบห่างเส้นทางผ่าน
ดั่งสวรรค์ทอดลู่ปูสะพาน
พ้นช่วงกาล ก็กลายสลายลง

๐ เผลอยินดีปรีดานิจจาเอ๋ย
ไฉนเลยระบายสรวงให้ห่วงหลง
ยื่นสุขแรกแทรกพิษแทบปลิดปลง
แลยังคงโทษทัณฑ์แต่นั้นมา

๐ กอดเศษซากขาดวิ่นในจินตภาพ
เก็บซึมซาบซับทรวงอย่างห่วงหา
มิยินดีภาพอื่นดาษดื่นตา
คงแต่รุ้งร้างราเป็นอารมณ์

๐ เจ็บเยี่ยงไรกันหนอจะพอให้
อณูใจรู้ตื่นจากขื่นขม
ปวดเพียงไรกันหนอจะพอจม
รูปปรารมภ์ ล่มรานกลางธารกรรม

๐ จักผูกชาติพาดล่วงกี่ช่วงภพ
จึงจะลบรอยเงาที่เก่าคร่ำ
จึงจะสิ้นสุดลงความทรงจำ
ที่ยังคงตอกย้ำอยู่ร่ำไป

๐ สุขที่คล้ายละอองฟุ้งของรุ้งฝัน
สรวงสวรรค์ปั้นแต่งแล้วแบ่งให้
ก่อนหยิบคืน, ยื่นโศกวิโยคใจ
ยัดเยียดไว้ทดแทนนานแสนนาน

วลีลักษณา
๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓
ที่มา
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana&month=21-02-2020&group=26&gblog=165 (https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=waleelaksana&month=21-02-2020&group=26&gblog=165)


หัวข้อ: Re: ~*~ รุ้ง ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2020, 05:35:PM


ผินมองภาพรุ้งพราย ณ ปลายฝัน
ที่สวรรค์สรรค์สร้างและวางหว่าน
จับเทียบเคียงโป้ปดพจมาน
วาทตระการฟุ้งศิลป์จินต์รวนเร

เนื่องกำเนิดรุ้งพรายจากปลายแสง
จึงเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ยามหักเห
เปรียบอักษรพรูพรั่งประดังประเด
ต้องลมเพลมพัดกระจัดกระจาย

จะเรียกว่าโลมลวงทั้งปวงนี้
เพียงเพราะมีเกิดดับแลลับหาย
ตีความแคบบ่งชัดวิบัติวาย
ว่าทั้งหลายเสกแสร้งแฝงระบิล

พิศอักษรดูดีดีมีชีวิต
ยามผูกพ่วงดวงจิตนิจสิน
คราสดับแช่มช้อยคล้อยคำยิน
ก็เกิดจินตนาการผสานรวม

เมื่อแต่งถ้อยร้อยทอลออถัก
พึงใจวรรคประสงค์ผจงร่วม
อักขระกระชับใช้ไร้กำกวม
วิญญาณสวมบทบาททุกพาทพัน

ด้วยมิเจนจัดแจ้งสำแดงศัพท์
เกรงระยับวับวามก่อคร้ามครั่น
กลายหยดย้อยอ้อยตาลสะท้านทันต์
ที่ทิ้งกันเมื่อจางลิ้มสร่างรส

ทุกสัมผัสแท้จริงอิงรู้สึก
ฝากบันทึกเขียนไว้ให้ปรากฏ
ตราบทรงจำล้ำค่ามิราลด
ส่วนจะงดงาม เพียงไหนต่างใจมอง

...ขออนุญาตคุณวลีลักษณา
ฝึกต่อกลอนด้วยคนนะครับ...

Soul Searcher
Inspired to write 27/2/2020



หัวข้อ: สัลลาปังคพิสัย
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2020, 11:04:PM
สัลลาปังคพิสัย

สุข-ทุกข์ ย่อมเกิดดับสลับอยู่
สอนให้รู้ข้ามพ้นความหม่นหมอง
สรรพสิ่งแปรผันบนครรลอง
ให้ครอบครองชั่วครั้งไม่ยั่งยืน

ทุกอารมณ์หลากหลายดุจลายรุ้ง
ที่แต่งปรุงละอองฝันนับพันหมื่น
ซึ่งสุดท้ายถูกสรวงเก็บทวงคืน
มิอาจขืนครอบครองเป็นของตน

เฉกความรักต่างจิตก็คิดต่าง
ยากยกอ้างถูก- ผิด พินิจผล
บ้างดุจรุ้งเรืองรองผ่องอำพน
ตลอดชนม์มิเลือนแม้เคลื่อนวาร

แต่บางคนร้าวร้างบนทางรัก
ใจจวนเจียนป่นปรักสุดหักหาญ
ก็เปรียบรุ้งเลือนลงไม่คงนาน
ถูกเถือด้วยคมกาลนับล้านรอย

มิใช่ความคับแคบ แต่แยบคาย
บ่งความหมายทั้งหมดให้ปลดปล่อย
กฏไตรลักษณ์ จักรอนทอนทยอย
เข้าพรากคล้อยทุกสิ่งลงทิ้งดิน

มิได้เปรียบเทียบพจน์ว่าลดเลี้ยว
หรือปีนเกลียว, ตำหนิ หรือติฉิน
มิพาดพิงผู้ใดในระบิล
เป็นเพียงจินตนาการฝากลานกลอน

สัลลาปังคพิสัย แห่งนัย ~*~ รุ้ง ~*~
พาดผ่านทุ่งโศกโศลกของโลกหลอน
ตามสายกาลผันแปรไม่แน่นอน
พ้นช่วงตอนทั้งหมดก็ปลดวาง

หลากรส บทประพันธ์
วลีลักษณา
๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓

หากแปลความบทกลอนของคุณ  Soul
ผิดไปขออภัยด้วยนะคะ