หัวข้อ: O วรรษาสมัย .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 16 กรกฎาคม 2019, 07:32:AM (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1577978393.jpg) O เจ้าพระยา .. วันนี้ยังรี่ไหล เมื่อหัวใจบางดวง .. แสนห่วงหา เอ็นดูความอาวรณ์แฝงซ่อนมา- ร่ำรอการไขว่คว้า .. ด้วยอาลัย O คลื่นน้ำ .. เคลื่อนระลอก .. ยั่วหยอกฝั่ง เมื่อคล้ายดั่งอาวรณ์ .. เกินซ่อนไหว ค่อยเคลื่อนความละห้อยห่วง .. ทุกห้วงใจ ติดตรึงให้ปฎิพัทธ .. แนบทัดทรวง O ปาริชาติหอมรื่น .. ในคืนค่ำ คลายกลิ่นร่ำรมแถน .. ทั้งแดนสรวง โอนเถิดกลิ่นหอมล้ำ .. ขอ-บำบวง- ด้วยแหนหวง .. แนบไว้ข้างใจนั้น O อินทร์ .. พรหม .. ปวงทิพแถนถ้วนแดนฟ้า โปรดบัญชาชี้ให้ .. ความไหวหวั่น- ที่เบิกบทแสนประณีต .. เกินกีดกัน ช่วยแบ่งปันบริบท .. คืน-ทดแทน O ถ้วนทั้งสิ้นทั้งปวง .. ความห่วงหา ปรารถนา, ยินยอม .. และอ้อมแขน แรงอาวรณ์, รอบถวิล .. ทั้งดินแดน ฤๅ-อาจแม้นอาลัย .. หัวใจมี ? O สร้อยเกสรพวงบุหงา คันธารส ราวเริ่มบท .. แยกแย้มเติมแต้มสี ให้โลกผู้ห่วงละห้อย .. เฝ้าคอยที- คอยท่ารับใยดี .. แนบที่ใจ O คืนความหมายหวานหอม .. ให้พร้อมสรรพ ยามเนตรพรับพริ้มรอ .. พึงรอให้- จุมพิตจบอ้อยอิ่ง .. เหนือสิ่งใด แม้-นานสักปานไหน .. ยอมให้แล้ว O อ้อยอิ่งการพร่ำพลอด ..แสนออดอ้อน จนเว้าวอนด้วยเสียง .. แต่เพียงแผ่ว เนตรครั้นโรยเหลือบชม้าย .. ย่อมฉายแวว- ความผ่องแผ้วอาวรณ์ .. ทุกตอนตน O ใชไหม .. จากนี่ .. ถึงที่นั่น มีหัวใจจดกันนับพันหน เป็นเช่นนี้ .. ใช่ไหมหัวใจคน ที่จะขวนขวายไปตามไขว่คว้า O ใช่ไหม .. จากนี่ถึงที่นั่น เมื่อรับรู้ใจกัน .. ร่วมฟันฝ่า ร่วมจับจูงก้าวผ่าน .. บ่วงมารยา ด้วยทีท่าก้าวล่วง .. สู่บ่วงนั้น O ใช่ไหม .. แผ่นดิน, น้ำ, ถิ่นฟ้า ย่อมเกินกว่า .. เที่ยวทางจะขวางกั้น สองใจที่จดจ่อ .. เฝ้ารอกัน คือผูกพันถ้วนสิ้น .. จิตวิญญาณ O เจ้าพระยา .. วันนี้ยังรี่ไหล เมื่อหัวใจ .. อาวรณ์แสนอ่อนหวาน ที่-กรุ่นหอมพร้อมสรรพ อยู่นับนาน- จน-เกินต้านทานหอม .. คือ-ยอมแล้ว ! https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=10-2013&date=03&group=11&gblog=485 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=10-2013&date=03&group=11&gblog=485) หัวข้อ: Re: O วรรษาสมัย .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 25 กรกฎาคม 2019, 07:02:PM O เมื่อลมเช้าโชยแผ่ว .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1577978155.jpg) O ดูเถิด..รูปเรียวร่างคิ้วคางแก้ม- ซับเลือดแต้ม, เนตรชม้อยก็คอยเหลียว- เวียนสบเลศนัยชาย..ที่คลายเกลียว- เข้ารัดเหนี่ยวโอบขวัญ..ลอบพันธนา O ลมเช้าโชยแผ่วมา..ล้อมอารมณ์ เมื่อเนตรคมเหลือบชม้อย..เหมือนคอยท่า สบ..ขัดเขิน..ยิ่งแล้ว..ในแววตา รมยา..ก็วาบ-วกในอกชาย O นัยน์ตาซึ้งโศกหวาน..นั้นซ่านแวว- ความผ่องแผ้วอ่อนโยนออกโชนฉาย มีรูปคราญบริสุทธิ์เป็นจุดปลาย- การทอดสายตาล้อม..ไม่ยอมเบือน O เอนไหวเรียวกิ่งก้าน..ดอกมาลย์สี- ลมวาดวีโลมเลียบก็เปรียบเหมือน- เลศในแววตาวาม..นั้นตามเตือน- จนสุดเคลื่อนคล้อยผ่าน..หอมหวานนั้น O เมื่อมีรูป..มีใจ..หวั่นไหวรูป เช่นลมวูบวาบผ่าน..ช่อมาลย์..สั่น งามเจ้าเอยโลมไล้..ดั่งไฟควัน- แต่จะรุมล้อมขวัญ..ตราบวันวาย O งามปีกผีเสื้อบิน..กลางถิ่นทุ่ง ขณะรุ้งทินกรเริ่มชอนฉาย ลม-ร่ำกลิ่นหอมนักมาทักทาย ความเอียงอายก็อบร่ำในคำนึง O งามปีกผีเสื้อลายบินว่าย-วน เมื่อใจคนต้องพิษ..ความคิดถึง แววแห่งความวุ่นว้า..คล้ายตราตรึง- บนใจซึ้งทราบชู้..เช้าตรู่นั้น O โอภาสแดดอบอุ่น..ล้อมฝุ่นดิน ใจผู้ดิ้นรนอยู่..ฤๅ-รู้หวั่น- กับการไขว่คว้าครอง..ที่พ้องกัน- แต่เมื่อแววตานั้น..คล้าย..สั่นสะทก O งดงามความนัยชู้..ในตรู่สาง- ก็พรายพร่างโลมไล้อยู่ในอก หวานเอย..สุดขับข่ม..เมื่อลมวก- พาหวานปกคลุมครองทุกห้องใจ O ปีกผีเสื้อโบยบิน..ล้อมกลิ่นหวาน เมื่อแรกกาลเบิกบทความสดใส เรณูเสียดช่อช้อย, รูปรอยใคร- ก็เสียดรูปขับไข..ค้างนัยน์ตา O ลืมได้ฤๅ-แววชม้อยชม้ายสู่ แฝงเลศนัยซ่อนอยู่..ให้รู้ว่า- ความรู้สึกอ่อนหวาน..ส่งผ่านมา- ให้ตอบรับคุณค่า..และท่าที O คืนอบอุ่นอ่อนหวาน..ที่หวานกว่า- หวานถ้วนทั้งบรรดา..รูปราศี พร้องลำดับภพชาติ..ขึ้นวาดวี- เยื่อใยดีสั่นพลิ้ว..กลางริ้วลม O เหมือนรูปรอยคุณค่า..ค่อยตราตรึง- ความซาบซึ้งแรงชู้..ลงสู่สม พาอกใจละห้อยหาเฝ้าปรารมภ์- แววเนตรคมเหลือบชม้อย..เฝ้าคอยรอ O ริ้วลมร่ำโชยแล้วเพียงแผ่วค่อย เมื่อจริตอ่อนน้อยเหมือนคอยล่อ- ให้สายตาใฝ่เฝ้าพะเน้าพะนอ ยั่ว..หยอกล้อเสน่หา..แต่ครานั้น O พร้อม – แดดใส..ฟ้าคราม..แห่งยามสาย คือ – เอียงอาย..วุ่นว้า..แววตาหวั่น ชม้อยชม้ายเหลือบสบ..แล้วหลบพลัน- ก่อนทรวงนั่นสั่นสะท้อน..เกินผ่อนเพลา O พร้อม - แดดใสฟ้าครามแห่งยามสาย คือ – ความหมายทอดทับความอับเฉา รื่นเย็นสายลมลูบ..เมื่อรูปเงา- แห่งยามเช้าทอดร่างลงกลางทรวง O และแล้วก็มองเห็นความเป็นไป- ของอกที่โหยไห้..อาลัย-หวง แววอาวรณ์โลมไล้อยู่ในดวง- ตาที่ห่วงใยอยู่แต่ผู้เดียว O สายหยุดเจ้าหยุดกลิ่นแต่สิ้นสาย เมื่อตาชายคอยแต่ชะแง้ - เหลียว บนฟ้า..นกร่อนคว้าง.. เมื่อร่างเรียว- เจ้ากอดเกี่ยวสายตา..ล้ออารมณ์ O โบกบินปีกนกกางร่อนกลางหาว เมื่อเนตรวาววามชู้..เกินรู้ข่ม โลมลูบแดดอุ่นอาย..ด้วยสายลม กลิ่นชื่นฉมกุสุมาลย์..ก็หว่านล้อม O อบอุ่นแดดยามสายโชนฉายสู่ เมื่อลมชู้พลิ้วผ่านทุกย่านหย่อม โดยแววตาผ่านนัย..โดยใจยอม- ร่วมหล่อหลอมนัยชู้..ร่วมดูแล O ดูเถิด..รูปเรียวร่าง..คิ้วคาง..แกม- ริ้วเลือดแต้มสองปราง..ดุจร่างแห- เหวียงลงครอบคลุมใจ..เกินไหว-แปร- เปลี่ยน-แกะแก้, ผูกพันจนมั่นคง O ที่สถานศึกษา .. แววตาชาย- สบ-แพ้พ่าย, เร้ารุม .. ด้วยลุ่มหลง พร้อมกับความอ่อนหวาน .. แผ่ซ่านลง- ซาบทรวงให้จำนง .. รูปองค์นั้น O ราว-พิมพ์รูป .. พิมพ์ลักษณ์ .. พิมพ์พักตร์ผู้- รอรูปธรรมย่างสู่ .. เช้าตรู่นั่น อิริยา .. จับทำยิ่งสำคัญ- เยี่ยงรูปในเบื้องบรรพ์ .. ในสัญญา ! O ภาพ-แพรขาวบางนุ่ม .. ห่มคลุมไหล่ กลีบดอกไม้แซมผม .. งามสมหน้า กับ-เสื้อขาว .. กระโปรงดำ .. เห็นตำตา- ก็เหมือนว่า .. ทับทาบเป็นภาพเดียว ! https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=06-2017&date=04&group=11&gblog=679 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=06-2017&date=04&group=11&gblog=679) หัวข้อ: Re: O วรรษาสมัย .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 16 มกราคม 2020, 09:11:PM O ขวัญพี่ .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1577718314.jpg) https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=03-2014&date=19&group=11&gblog=525 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=03-2014&date=19&group=11&gblog=525) หัวข้อ: Re: O วรรษาสมัย .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 02 กุมภาพันธ์ 2020, 09:32:PM O ห้วงอาวรณ์ .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1578299308.jpg) https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=01-2013&date=10&group=11&gblog=438 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=01-2013&date=10&group=11&gblog=438) |