หัวข้อ: ~*~ เพรงกรรม ~*~ เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 27 พฤษภาคม 2019, 10:31:PM ๐ สายลมพัดพร่างพลิ้วหวีดหวิวแว่ว- คีตาแผ่วผ่านโสตคล้ายโอดเอื้อน สะอื้นอึงอลขวัญล่วงวันเดือน น้ำตาเปื้อนปวดปร่าโศกอาดูร ๐ รุ้งทอลำทาบสรวงเมื่อช่วงสาง แต่ในกลางทรวงอับราวดับสูร* มืดบอดบนทางกรรมสิ้นจำรูญ ทุกข์พอกพูนพลัดพรากบนซากกาล ๐ เพลงพาทย์โหยหวนแผ่วไม่แล้วล่วง ยังคลอห้วงทรวงเคล้าคอยเผาผลาญ ร้อนดั่งเพลิงโหมไหม้ประลัยลาญ ทรมานเจียนกายจักวายวาง ๐ กรรณิการ์เชิดช่อเพียงรอหล่น ยามผ่านพ้นสู่เช้าใดเล่าขวาง แม้เพียงลมพรมเคล้ากลีบเบาบาง ก็ร่อนร่วงหล่นคว้างระหว่างเช้า ๐ เช่นคำนึงรอยฝันที่ผันร้าง ทนอยู่อย่างโดดเดี่ยวและเปลี่ยวเหงา ในเศษซากเลือนรางอันบางเบา จึงทรวงเคล้าทุกข์เทวษท้นเจตจินต์ ๐ สูญสิ้นแล้วแคล้วคลาดวาสนา เกินด้นฝ่าคว้าหวังดั่งถวิล จบทางฝันผันลาน้ำตาริน ป่นลงสิ้นวิญญาณแม้ปราณยัง ๐ กรรณิการ์กลีบบางร่อนคว้างร่วง พรากช่อพวงซบดินหมดสิ้นหวัง คล้ายอกหนึ่งขื่นขมจมภวังค์ อันปรักพังย่อยยับมานับนาน ๐ ฤาบาปบรรพ์ตามติดลิขิตให้ สองดวงใจตรึงรั้งสบสังสาร ให้รู้รสรักแทรกด้วยแหลกลาญ เป็นซากหวานเจือขมทับถมทรวง ๐ ยอมชดใช้หนี้บาปที่สาปสั่ง บัดพลีทั้งปราณเช่นเครื่องเซ่นสรวง กี่รอบวัฏฏ์วงกรรมฝากคำบวง ขอรานบ่วงโซ่ร้อยให้คอยรอ ๐ สายลมพัดพร่างพรมผสมพาทย์ ราวจะบาดทรวงเทียว..เทียบเรียวขอ จิกกระชากอุรา..น้ำตาคลอ มิอาจพ้อเทพแถน ณ. แดนใด ๐ แสงรุ่งสางพร่างสีคลี่ม่านภพ ค่อยเลือนลบมืดหม่นพ้นฟ้าใส หยาดน้ำค้างเลือนหยดสิ้นหมดไป หยาดน้ำใจไหลริน..ก็สิ้นลง ๐ สืบชีพชนม์วนชาตินิราศลับ ตราบปราณดับยับยุ่ยเป็นผุยผง เป็นกงเกวียนกำเกวียนที่เวียนวง สั่งสาปส่งโทษทัณฑ์ผ่านวันคืน ๐ สบกันแล้วแคล้วคลาดสิ้นวาสน์คล้อง มิอาจครองเคียงขวัญจนผันอื่น รอนสิ้นแล้วหวานล้ำ..ให้กล้ำกลืน แต่ขมขื่นล่ามคารอยอาลัย ๐ พลิ้วพลิ้วแผ่วแว่วเพลงบรรเลงบท ย้อนกำสรดคลอครวญแต่หวนไห้ วิปโยคโศกย้ำหนอกรรมใด ผูกพันใจ พบพาน แล้วรานทรวง วลีลักษณา สูร* แปลว่า ดวงอาทิตย์ แต่ในกลางทรวงอับราวดับสูร แปลว่า ใจมืดเหมือนท้องฟ้าที่ไม่มีดวงอาทิตย์ ที่มา https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=waleelaksana&month=03-2011&date=27&group=26&gblog=129 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=waleelaksana&month=03-2011&date=27&group=26&gblog=129) หัวข้อ: Re: ~*~ เพรงกรรม ~*~ เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 28 พฤษภาคม 2019, 08:27:PM กรรมมุนา วัตตะตี โลโก "ย้อน" กรรมเก่าก่อนซ้ำรอยฤๅปล่อยบ่วง ปลงเสียเถิดเกิดดับรับทั้งปวง ปล่อยจิตล่วงโลกธรรมองค์สัมมาฯ ตัดเสียสิ้นกลิ่นรสยอมอดทน คลายกังวลป่ายปีนถึงศีลห้า นานอนาคตหมดห่วงห้วงกามา สมาธิพาจิตตั้งสมหวังคอย เนิน จำราย |