|
หัวข้อ: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 22 พฤษภาคม 2019, 06:40:PM เมื่อก่อนเราไม่ขาดทุน เราได้มาฟรี ไทยหักล้างถางไร่ได้มาเปล่า ลงแรงเอาแปลงนาได้มาเฉย ยืมควายต่อพ่อตาได้มาเลย พันธ์ุกล้าเอ่ยขอป้าได้มาเอา ทั้งลุงน้าอาด้วยช่วยลงแขก แต่เริ่มแรกสืบส่อต่อแต่เก่า ทั้งข้าวปลาอาหารเต็มลานเล้า หนุ่มสาวเจ้ารัองรำระบำฟ้อน ลำประโดงโค้งฝั่งคุ้งวังน้ำ วัฒนธรรมบรรเจิดเกิดกลุ่มก้อน ครอบครัวใหญ่ใจเฟื้อเอื้ออาทร จะเกิดก่อนเกิดหลังเชื่อฟังความ อารยะประเพณีมีรากเหง้า กายใจเราสร้างมาอย่าได้หยาม รากยึดเกี่ยวเหนี่ยวชักรักเขตคาม มีคำถามรุ่นใหม่หวังใดปอง ทิ้งเรือนชานบ้านเกิดเตลิดเมือง เอ่ยอ้างเรื่องร่ำรวยด้วยผยอง เงินเดือนงามตามนั้นฝันได้ทอง ตกงานต้องเปฺ็นทหารผ่านไปรบ สิ้นไร่นา ปศุสัตว์ เข้าเมืองหวังรวยตามเขาบอก ขาดรากเหง้าเหมือนขาดที่พึ่ง เดี๋ยวนี้ิออกไปพักค้างแค่1คืนบรรยากาศทุ่งนา ซึ่งเคยเปํนของฟรี อาจต้องจ่ายเท่ากับเงินเดือนทั้งเดือน ิสุดท้ายเพื่อเงินเพื่ออนาคตใหม่เพื่อประชาธิปไตย อาชีพฮิต คือเป็นทหาร ไปฆ่ากัน 3RzMOxx2h1o หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 23 พฤษภาคม 2019, 12:03:PM 5mRs-uYL6rI เพลงบทเศร้าเหล่าทหารผู้ผ่านศีก ใครจะนึกวันกลับจะนับศพ ครอบครัวขาดญาติไร้อยู่ไม่ครบ เรื่องไม่จบจดจำเป็นตำนาน ฟ้าขาดฝนคนเล่าเขาจรจาก ขาดรกรากพึ่งพิงทิ้งถิ่นฐาน ลืมเรื่องเก่าเล่ากันเมื่อวันวาน ฝันพอผ่านใหม่จ๋าประชาธิปไตย หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 25 พฤษภาคม 2019, 07:30:PM https://youtu.be/Hof_5EmyqyI ปากพอเพียงเอียงใจให้ฝรั่ง พูดไม่ฟังอ้างทุนหนุนแก้ไข โอ้เทคโนโลยี่ต้องมีไว้ นาร้อยไร่น้อยหนอไม่พอรวย นาผืนน้อยพลอยจนทนแทบบ้า ทั้งพันธ์ุกล้าปุ๋ยแพงจ้างแรงช่วย ขาดทุนสู้กู้หนี้ถึงทีซวย หันซื้อหวยจ่ายเงินเกินใบแดง รอทุนหมดจะอดตายขายนาเสีย ให้อาเฮียทุ่มซื้อถึงยื้อแย่ง นาเราขายจ่ายเป๊ะเอ๊ะไม่แพง ไปขายแรงเงินได้ไหงถูกจัง จากเจ้าของท้องนามารับจ้าง เงินมีบ้างหมดไปไงโธ่ถัง สุขทุกข์หรือคือทุนวุ่นหาตังค์ ดูฝรั่งรุ่นใหม่ใจขาดทุน ยุคสมัยที่ขาดเงินทุน ขาดความสุขทางใจ https://youtu.be/YzkiJUBrCi8 /color] หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 05 มิถุนายน 2019, 04:11:PM https://youtu.be/UUSjoplSFVk (https://youtu.be/UUSjoplSFVk)
youtu.be/UUSjoplSFVk เทศกาลงานปีมีสืบสาน ทั้งวัดบ้านโยงเยื่อต่างเกื้อหนุน ไทยส่งเสริมเติมต่อก่อผลบุญ ถือเป็นคุณความนี้ดีแน่นอน คนรุ่นไหนไม่รู้ดูโง่เขลา บอกไม่เอาไทยเดิมเริ่มหลอกหลอน มายุแหย่แถถลอกมันยอกย้อน ดูไว้ก่อนเขาเลิกหมดเดี๋ยวอดนะ https://youtu.be/UUSjoplSFVk [url]https://youtu.be/UUSjoplSFVk/url] หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 08 มิถุนายน 2019, 09:52:AM O_Krz1KoY80
ปากเป็นเอกเลขโทโบราณบอก เข้าตามตรอกมาไหว้ไม่กักขฬะ พูดคำเพราะเหมาะดีมีจ๋าจ๊ะ พูดเกะกะขอทีเอ้ามีมวย พลั้งคำพล่อยบ่อยหนคนสุ่มสาว ขุดเรื่องฉาวคุ้ยครบจบไม่สวย เอ๋ยพูดมากปากเสียแต่เตี่ยรวย เถอะทีม้วยอย่าวายตายแดนไกล จารีตเก่าเล่านานพาขานขับ ต้นตำรับปู่ย่าพาขานไข โบราณสู้กู้ฟื้นผืนดินไทย แปลงนาไร่สร้างถิ่นแผ่นดินทอง บูชาพุทธพิสุทธิ์ล้ำนำเฉลิม สมโภชเสริมฟ้อนรำนำฉลอง ศาสน์นำศิลป์ยินร่ำเป็นทำนอง ตามครรลองจดจำเป็นธรรมเนียม อาจเอื้อมชาติศาสน์กษัตริย์ซัดมาแซะ เด็กเลี้ยงแกะช่างถนัดซัดมาเสี้ยม พูดไม่เนียนเลียนย้ำแต่คำเตี๊ยม พูดไม่เหนียม' พอเพียง 'เยี่ยง' วาทกรรม " gn5J_kcYW6s หัวข้อ: Re: ไม่ได เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 12 มิถุนายน 2019, 11:39:AM [ ขบวนการเป็นไปเอง t9S5tsgzw7Y ] คนอันไรไม่ดูรู้ระเบียบ เห็นทำเงียบด้านดืัอหรือขื่นขำ แรกขอทีมีช่อขออืกซ้ำ ดูขาวดำไม่ออกบอกสีเทา รุ่นไหนสอนก่อนตายไม่อายขื่น แซงคิวยืนหน้าตายไม่อายเขา หน้าระรื่นขื่นขำตัวทำเอา ทีงานเข้าช่อช้ำตัว ทำเอง ลิงล้อเจ้าเขาว่ามาร้องหยอก ไม่มีคอกพุงป่องมาร้องเหยง ถูกสืบสาวคราวนี้ถึงทีเจ๊ง ลูกนักเลงแหยะยี้ถึง ทีจำ /color] หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 17 มิถุนายน 2019, 09:16:AM GzB91cISvl8
6-dLT9Km0hU ไถสนุกสุขบายควายไม่ต้อง ขับในห้องติดแอร์แหมเย็นฉ่ำ เกลียดความจนคนชังทั้งหน้าดำ เชื่อผู้นำรุ่นใหม่เผื่อใครรวย จนไม่เครียด เฉียดบ้าว่าสดใส อนาคตใหม่แหกกฎว่าสดสวย คราวมีตังค์พังผืดยืดไม่ย้วย ไม่ขื่นขวยพูดไปยืดไม่ยั้ง ไฮเทคนี้ที่เห็นเป็นความวาด ใครก็คาดตื่นตามเป็นความหวัง เชื่อทุกคราวราวเรื่องเนื่องอยากฟัง เชื่อทุกครั้งหากใคร่ใจอยากมี เกษตรกรย้อนเวลารอฟ้าฝน เกษตรกลต่อต่างไม่ห่างหนี เราสร้างเงินเพลินสนุกไปทุกที ไทยมั่งมีชื่นสุขไปทุกทาง โลกก้าวเกินเจริญผลบนเงื่อนไข โลกก้าวไกลหลุดพ้นคนขัดขวาง ใครก็ชอบตอบกลับรับแนวทาง ใครก็ช่างเก่งแท้แหมขอบคุณ เคียวเกี่ยวฟ้าว่าเดือนเตือนวารผ่าน น้ำไหลร่านหลากล้นฝนฟ้าหนุน เคียวเกี่ยวเสาเก่านักหลักค้ำจุน น้ำไหลขุ่นตะกอนเก่าเขาไม่จำ หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 25 มิถุนายน 2019, 03:58:PM 0bihDaW7iEM
PzGNULl4GsA/youtube มั่นคงคือ อารยธรรม ตะวันรุ่งพุ่งแสงแรงเติมเต็ม ดอกเอื้องเข็มชอบแสงสีแดงก่ำ ตะวันแลงแสงเลือนเหมือนใจช้ำ ดอกเอื้องคำสร้อยศอพะนอนาง รักผืนนาหากินถิ่นป่าเขา เดินสายเก่าบวชเรียนเพียรกระจ่าง รักผีนน้ำลำแควโค้งประโดงราง เดินสายกลางกรรมแก่นแผ่แพนพงศ์ ทรัพย์ในดินถิ่นสอาดธรรมชาติสวย ชายหญิงรวยรื่นสมัครรักประสงค์ ทรัพย์ในแดนแน่นอนันต์สินมั่นคง ชายหญิงหลงเริงใจใฝ่รักแท้ จารีตเก่าเราดีมีคำสอน บวชเรียนก่อนแต่งทีหลังฟังคำแม่ จารีตก่อนย้อนเกี่ยวให้เหลียวแล บวชเรียนแก้บาปภัยพึ่งตรัยรัตน์ พอเพียงใช่ใดหนึ่งพึงโดดเด่น พอเพียงเช่นศีลธรรมกรรมปฏิบัติ พอเพียงชี้มีธรรมชาติเป็นมาตรวัด พอเพียงชัดอารยธรรมนั่นนำพา หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 01 กรกฎาคม 2019, 06:08:PM MfaMJC4gkrs หมอบคลาน มงคลประเพฌีเราหมอบอกราน ฝนฟ้าชุ่มอุ้มสรรพ์พรรณชาติ นบไหว้ศาสน์นำบวชสวดคาถา ฝนฟ้าฉ่ำพรำหล่อช่อผกา นบไหว้สาคุ้มเกล้าเราหมอบกราน บูชาพระเก็ตถะหวาค่าพิสุทธ์ บูชาพุทธสะบันงามาผสาน บูชาเพียงเคียงเครื่อง เอื้องผึ้งมาลย์ บูชาพานยอนบครบสาม มาลี อารยชาติศาสน์สร้างทำผู้นำถิ่น นาฏสร้างศิลป์เริงใจใคร่วิถี อารยชนก่นสร้างทางความดี นาฏสร้างศรีอวดเด่นเช่นนี้ไทย กุศลส่งมงคลเกิดเทิดเกษา จะร้างราละหรือคือ ไฉน กุศลเสริมเติมสง่าค่าเวไนย์ จะร้างไร้ค่า มนุษย์ควรหยุดคิด หมอบกราบเท้าเกล้า อุ่นคุณพ่อแม่ ผู้เที่ยงแท้กำเนิดเราเฝ้าถูกผิด หมอบกราบไท้ได้ทรงคงทศพิธ ผู้เที่ยงทิศธรรมราชศาสดา หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 07 กรกฎาคม 2019, 09:16:AM เพียงดอกไม้ไหว้ครูคือรู้คุณ 85dmtiiLm7c zGjR5Tb8qR4 ดูอ่อนไหว ไกวกร ช่างอ่อนหวาน ท่านที่เลื่อนผ่านเลยมาถึงตรงนี้อยากบอกว่าน่าเปิดคลืปชมครับ ชอบหรือไม่ชอบก็ชวนชมครับ ไม่รู้ว่าเมื่อไรคนรุ่นใหม่เค้าจะเลิกราไป หายไปเยอะแล้วด้วย พลาดชมถือว่าน่าผิด .......... มาลีพรรณสรรแปลงตกแต่งสวน คนรู้ควรคุณวุฒิรุดศึกษา มาลีพร้อมน้อมครูเพื่อบูชา คนรู้ค่ารู้บุญแทนคุณครู อ้างอวดรู้ตู่โต้โง่แต่เกิด ช่อดอกเชิดเชยสวยด้วยผึ้งภู่ อ้างอวดรวยด้วยเล่ห์เป๋ตามปู ช่อดอกชูเด่นสลอนภมรล้อม เป็นดอกไม้ไหว้ครูผู้เพาะบ่ม เชยดอกดมเสน่หาว่ากลิ่นหอม เป็นดอกมาลย์กรานหมอบด้วยนอบน้อม เชยดอกดอมจึงรู้ว่าคู่ควร คุณครู"เพรา"เฝ้าคาดคั้นฉันทลักษณ์ ครูเชิญชัก"ระนาดเอก"เลขถึ่ถ้วน คุณครู"พี"นี่รักอักษราล้วน ครูเชิญชวน"เนินจำราย"หมายติดตาม รำลึกนอบมอบจิตด้วยคิดค้อม รำลึกน้อมเอ่ยอวยด้วยเกรงขาม รำลึกนบจบไหว้ได้ทุกยาม รำลึกนาม"สุนทรภู่"ครูกลอนไทย ...... ขออนุญาติเอ่ยนามครูที่เคยได้แนะนำผมฝึกฝนเขียนกลอนมาตั้งแต่ผมเริ่มเข้าบ้านนี้ครับ รวมถึงขอบคุณท่านอื่นๆในทื่นี้ผู้เป็นแบบอบ่างให้ผมได้ฝึกฝนจดจำตลอดมาครับ .......... หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 07 กรกฎาคม 2019, 04:21:PM ครู"พรายม่าน"ขานขับประดับร้อย เยิ้มหยดย้อยช่อกานท์เบ่งบานไสว รู้ดินฟ้าป่าดงพงทั่วไพร ศรีวิไลคุณค่าดุด่างาม ครู"เพรางาย"หมายพบประสบตา เงียบหายมาเนิ่นนาน"เนิน"พาลพล่าม "คู่รักกลอน"นอนไหนไปขอความ เชิญนงรามเชลงเจ็ดเถิดเผ็ดร้อน คุณพี่"พูน"ทูนหัวข้อยกลัวหลาย เสียเชิงชายมากหนทั้งล้น,กร่อน เขียนตะบันขยันผิดต้องลิดรอน บัวเป็นบอนลิงเป็นค่างบ่างเป็นชนี แค่กล่าวเกริ่นเผินผาศิลาล้วน มีมากมวลแม่นหลักสมศักดิ์ศรี ตัดโอ้เอ้เร่มาหาสักที เชิญน้อง,พี่ เพื่อน,พ้อง ขับร้องคลอ เนิน จำราย หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 13 กรกฎาคม 2019, 05:05:PM C4IXcHsiXlA ไทยพรรณไหน ดูไว้ นี่ไทยยิ้ม ………. ชุมชนหนึ่งพึงพอสิบริบูรณ์ เริ่มแรกศูนย์จากใจคำใดขอ* ชุมชนไหนได้ดีเพิ่มมีพอ เริ่มแรกส่อเป็นไปต้องได้ตาม ….. *ขออนุญาติ ครู "เนิน"ผ่อนผันให้ "ขอ"สัมผัสกับ"คลอ"ครับ หากว่าไม่ควร งั้นแก้ไขเป็น นั้นใดหนอ* ….. คำครูล้วนถ้วนทำสอนนำเสริม ร่ำเรียนเติมยามสยายยิ้มสยาม คำครูหลายถ่ายทอดคือยอดความ ร่ำเรียนตามวาดมโนว่ามนุษย์ รู้จำรายเราจำเริญขอเชิญขาน แพร่พิศาลภูมิพ่อบอกต่อบุตร รู้จำรูญร้อยจำเรียงพร้อมเพรียงพุทธ แพร่พิสุทธิ์สืบสรรเยี่ยงปัญญา อยู่อย่างไรไยยิ้มทื่จิ๋มถาม เย้ยเหยียดความข่มขู่หมูหรือหมา อยู่อย่างเราเท่าทันไก่พรรณกา เย้ยเหยียดค่าจึงจำคนรำคาญ นานาชาติคาดขานรักบ้านเรา ดินแดนเหย้ายิ้มย้อนว่าอ่อนหวาน นานาชนยลเยือนชมเรือนชาน ดินแดนย่านถิ่นไทยเต็มไมตรี หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 13 กรกฎาคม 2019, 10:08:PM ยิ้มสยามงามวิไลคือไทยแท้ ทั้งเฒ่าแก่หนุ่มสาวแวววาวสี คำพูดฟังดั่งเรียงเสียงดนตรี วาจามีพิกุลร่วงชื่นทรวงนัก กิริยามารยาทสะอาดแผ้ว สัมผัสแล้วรู้สึกรำลึกประจักษ์ ชนต่างชาติต่างแดนแสนหลงรัก เพราะจำหลักตีตราคุณค่าเรา เนิน จำราย หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 22 กรกฎาคม 2019, 07:04:PM G1-c5Kepbq4 UCS2dg-zqfM ไทยเดิม ยังไม่พอ ยังโบราณอีก หรือว่า อุ๊บ…… ผมนึ่เพิ่งพบว่า เวลา เขียน อ่านกลอน เปิดคลิป ชม ฟัง เพลงไทยไปพร้อมกันด้วยถึงจะได้อารมณ์สอดรับเหมาะสมกันดีจริงๆ …… สุริยันผันผ่านคือวารคล้อย วารีลอยไหลกรากจากภูเขา สุริยาลาค่ำย่ำเช้า*เนา…..ช้าว* วารีเล่าไหลลงไม่คงคืน เรื่องของคนล้นจริตมีผิดชอบ คนรู้ตอบเลือกคาดมิอาจฝืน เรื่องของควายหายคึกฝึกยอยืน คนรู้ตื่นคิดเป็นจึงเห็นมรรค ฝึกฝนจิตอุทิศตนจนสามารถ ผู้เลิศศาสตร์ศิลป์เด่นเช่นประจักษ์ ฝีกฝนใจใครเห็นเป็นที่รัก ผู้เลิศศักดิ์อัจฉริยะสละตน รู้ดีชั่วกลัวบั่นคืนวันคิด ใจหลงผิดลอยไหลไม่คืนหน รู้ดีชอบกรอบแก้ไขได้เป็นคน ใจหลงพ้นเกินไหลของไม่จริง ฝีกฝนดีมีตำแหน่งถึงแห่งชาติ อวดรู้จ๊าดบอกเก่าไปไม่สุงสิง ฝึกฝนเด่นเช่นนี้หรือคือจะทิ้ง อวดรู้จริงถามหนคนหรือควาย หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 31 กรกฎาคม 2019, 09:22:PM AG_Iw7JZNB8 นับวันนับยาก ดุมมากเม็ด ………. ดุมแกนั้นฉันบ้างต่างมีหนี่ง พูดท้าถึงใหม่เก่าเอาความหมาย ดุมแกเน่าเขาเบื่อเชื่องมงาย พูดท้าทายดุมใหม่ใช้เม็ดนำ เถียงกันไปไม่จบสบตาขวาง มีเม็ดกลางเสนอหน้ามาให้ขำ เถึยงกันเป็นเข็นครกยกมาย้ำ มีเม็ดก้ำกี่งเก่าเอาสองเม็ด เดี๋ยวมีเพิ่มเติมดุมคุมส่วนใหญ่ บอกว่าใส่สิทธิ์พูดสูตรสำเร็จ เดี๋ยวมีพามาพ่วงถ่วงแก้เคล็ด บอกว่าเสร็จมากน้อยค่อยประชัน ดุมทองหล่อช่อสวยมาช่วยกลัด มากเม็ดขัดแน่นบีบหนีบสวรรค์ ดุมทองรวยด้วยกลัดรัดชนชั้น มากเม็ดขั้นปริแยกถึงแตกเชียว กระดุมเด่นเช่นกลัดแต่งไม่แบ่งสี กระดุมดีกลัดก่อพอแน่นเหนียว กระดุมเด็ดเคล็ดสมว่ากลมเกลียว กระดุมเดียวเกี่ยวกุมดุมศูนย์รวม /color] หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 17 สิงหาคม 2019, 03:44:PM vOBydDJR8RQ
ภาษาสื่อถือรักชักชวนเชื่อ หมัดหุ้มเนื้อดุเดือดถึงเลือดท่วม ภาษาส่อต่อถามหัามกำกวม หมัดหุ้มนวมยึกยักหนักเบาครบ ต่างก่อต่อปากยากจบ เนิ่นนานขานศพ เฉไฉไร้อัตสัตยา คำพูดคือถือมั่นว่าสันติ หรือจะริอาเพศเหตุมุสา คำพูดคนดลจิตสุมิตรา หรือจะราล้างญาติขาดสัมพันธ์ จารีตขีดทางสร้างสรรค์ ประเทศเขตขัณฑ์ หากอบายสลายล่มจมเอง อารยชนก่นสร้างวางรากเหง้า ขาดคนเก่าสร้างสม เขาข่มเหง อารยชาติกาจศักดิ์ใจนักเลง ขาดคนเก่งไร้พรรคสามัคคี อวดคิดสิทธิวิถี อ้างรักศักดิ์ศรี เสกสรรครรลองของตน ข้าพูดส่งตรงเผงแกเองฟัง ทั่วทุกครั้งคือคงประสงค์ผล ข้าพูดสั่งตั้งใจใครขวางชน ทั่วทุกคนเชิญเชื่อเพื่อสบาย แตกสองช่องทางต่างหมาย สองเส้าเงาหาย ข้าแถแกเถือเหลือใด รุ่นใหม่เผยเย้ยหยันถึงวันแก้ ปลดผู้แย่เก่าชราหน้าไม่ใส รุ่นใหม่พูดสูตรช่วยรวยทันใจ ปลดผู้ใหญ่น่าเคืองว่าเชื่องช้า เชื้อชาติญาติมิตรจิตหา สนิทวงศ์พงศา ซอสีปี่ดังฟังนอ ฟังปี่วอนอ้อนอวยมวยถลึง ว่าเสียงซึง กล่อมใจให้จดจ่อ ฟังปี่หวานสานมิตรยังคิดทัอ ว่าเสียงซอกลับร้ายแค่ควายฟัง หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 28 สิงหาคม 2019, 03:43:PM 30j_PzdOP9Q สิ้น'หม่อมถนัดศรี'หลังเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย กระจายทั่วร่าง 27 สิงหาคม พ.ศ. 2562 ต่อมาเพจครอบจักรวาล โพสต์แจ้งว่า แจ้งให้ทุกท่านทราบ คุณพ่อ. ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ได้ ถึงแก่กรรมเมื่อเวลา 11 35วันนี้ที่โรงพยาบาลเปาโล ………. กาสรผิว์เสร็จนา บติว่าสิเนื้อหนัง เขาโง้งกระดูกยัง มรณาก็เป็นคุณ ขุนพลเก่งเคร่งกลมีคนกราบ ถือหมดบาปควรเอื้อจึงเกื้อหนุน ขุนพลเก่าเปล่าเลี้ยงเสี่ยงเปลืองทุน ถือหมดบุญใคร่แค่นเลี้ยงแทนควาย เหล่านาฎโสภา รุจิราชะเฉิดฉาย รำฟ้อนชะอ้อนอาย อรองค์ประโลมใจ อนงค์น้อยลอยสถานพิมานหรือ วอนว่าคือวาวแววเพชรแก้วใส อนงค์นางข้างกายเคียงชายใด วอนว่าใคร่เทพปองครองเทวี ปูนเสร็จบำเหน็จกิจ พลสิทธิ์ก็ถ้วนถี่ ทรัพย์สินสิมากมี ชำระกฎเสมอเทียม ความดีชอบตอบด้วยอวยกุศล รู้ต่างตนต่างจิตอย่าคิดเหนียม ความดีชั่วตัวตนคนรู้เจียม รู้ต่างเตรียมต่างถ้อ ยพลอยพอดี กราบนึกระลึกน้อม ศิรค้อม" ถนัดศรี " คุณชายสกุลดี นรชาติก็ติดตาม อาหารดีดนตรีเพราะเสาะประจักษ์ คุณชายนักร้องเพลงเชลงหวาม อาหารเด่นเล่นเพลงสุขทั่วทุกยาม คุณชายนาม "ถนัดศรี สวัสดิวัตน์" …….. ผมลองฉันทลักษณ์ให้เข้าบรรยากาศเพลงละคร เป็นเพราะไม่เก่งสำนวนความ แค่ฝึกฉันทลักษณ์เป็นขั้นต้น อาจจะเป็นที่รำคาญ ขออภัยว่าฝึกเขียนหนอครับ ………. /color] หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 22 กันยายน 2019, 04:53:PM คลิปที่วางนี้ ชอบเพลง ท่ารำ ของนันทวดี(อ.วันทนีย์ ม่วงบุญ) มังตรา(ดร.ศุภชัย จันทร์สุวรรณ์) ระดับปรมาจารย์ทังสองท่าน สุดยอดครับอาจารย์ เป็นสองท่านที่ผมชอบที่สุดยิ่งกว่านักแสดงอื่นทุกท่าน นันทวดีช่างเป็นได้ทุกสิ่งอย่างอันเลิศลักษณ์ทั้งสิ้น อ.วันทนีย์ท่านก็ช่างถ่ายทอดมาได้หมดสื้นทุกสิ่งทุกอย่างน่าประทับใจจริงเลย k_228e3VA7c บุคลิกและความสง่างามของนันทะวดี สะท้อนออกมาเป็นบทเพลงชื่อ"นันทาวดี" ซึ่งประพันธ์คำร้อง โดย ชาลี อินทรวิจิตร ทำนอง โดยสมาน กาญจนะผลิน นันทาวดี ยอดชีวา อ่อนช้อยแช่มช้า ด้วยอิริยาแห่งนางหงส์ เนตรชม้ายคล้ายศรอนงค์ ยั่วพี่รัก ยั่วพี่หลง หลงจนเหลือคณา น้ำใจเธองาม เย็นกว่าน้ำค้างพร่างพรม หอมทวนลมยิ่งเสียกว่าบุบผา เพราะทั้งสวย เพราะทั้งซื่อ เพราะทั้งซน ไร้กลมายา ก็ใครเล่าหนา ถ้าหากไม่ใช่..นันทาวดี ………. หญิงงามณ.ลุ่มอิรวดี ดรุณีพระมิ่งฉัตร มิ่งขวัญหทัยรุจิประภัสร์ วจะศาสตร์ถวายครบ หญิงงามหนี่งถึงขั้นหยาดสวรรค์ฟ้า งามสง่าชาติชายหมายประสบ หญิงงามนี่ที่ในฝันขวัญจอมภพ งามสงบเสงี่ยมเห็นก็เย็นทรวง ยิ่งลักษณ์พิลาส*ภววิสัย พระหทัยธ.แหนหวง พลาดรักจะเด็ดจะละจะล่วง อุระหลงพะวงชาย ไออุ่นอังดั่งไฟไล่เหน็บหนาว จะเด็ดชาวตองอูผู้นางหมาย ไออุ่นอ้าวผ่าวนักรักกลับร้าย จะเด็ดชายชักสื่อ ใคร่ให้มังตรา เมืองแปรนภานวนคร สิริอรเสน่หา โชอั้วสตรีอภิรดา ดำริหมายจะแทรกแซง สงสารนางร้างฝันนันทวดี ดังรวีแข่งจันทร์พลันยื้อแย่ง สงสารนวลหวนคิดในจิตแล้ง ดังระแวงโชอั้วชู้ยั่วยวน โชอั้วประกาศวจะจำนงค์ ลุประสงค์มิผันผวน ตำแหน่งสนมสิคะสิควร ระอุสองหทัยนาง จะเด็ดเองเร่งรัดจัดเรื่องราว เหตุให้สาวโชอั้วมั่วบาดหมาง จะเด็ดเอ่ยเผยเห็นเป็นคนกลาง เหตุให้สางศึกรบครบทั้งรัก ….. ([พิลาด] ก. กรีดกราย เยื้องกราย ฟ้อนรํา. ว. งามอย่างมีเสน่ห์ งามอย่างสดใส) ลองแต่งแล้ว พออ่าน โอ้...ได้แค่พอขำ โอย ...เรานี่อาจเอื้อมหนอ ขออภัยด้วยครับ วันนี้ไม่ดีเลย วันหน้าจะให้ดีกว่านี้ หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 24 กันยายน 2019, 07:12:PM ijwNeFDER98 24 กันยายน ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี ศิลปินแห่งชาติประจำปี พ.ศ. 2528 บุคคลดีเด่นของชาติ สาขาศิลปะ ด้านนาฏศิลป์ ประจำปี พ.ศ. 2529 วิกิพีเดีย เสียชีวิตเมื่อ: 24 กันยายน 2543, ………... ความรู้ทางนาฏศิลป์ ได้รับการฝึกหัดอบรมจากครูนาฏศิลป์ในราชสำนัก เช่น เจ้าจอมมารดาวาด (ท้าววรจันทร์) ในรัชกาลที่ 4 เจ้าจอมมารดาเขียน (ร.4) เจ้าจอมมารดาทับทิม (ร.5) หม่อมแย้ม (อิเหนา) ในสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริวงศ์ หม่อมอึ้ง ในสมเด็จพระบัณฑูรฯ จนมีความชำนาญและแสดงเป็นตัวเอกในการแสดงถวายทอดพระเนตรหน้าพระที่นั่งหลายเรื่อง เช่น เป็นตัวอิเหนา และนางดรสา ในเรื่องอิเหนา เป็นตัวทศกัณฐ์และพระพิราพในเรื่องรามเกียรติ์ เป็นตัวนางเมขลาฯลฯ การรับราชการ เข้ารับราชการเป็นลูกจ้างชั่วคราว ในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญนาฏศิลป์ไทย กองการสังคีต กรมศิลปากร กระทรวงศึกษาธิการ เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาฝ่ายวิชานาฏศิลป์ของสถาบันการศึกษา องค์การ และเอกชนอื่นๆ ผลงาน ผลงานเกี่ยวกับการแสดงศิลปะนาฏกรรม เช่น ท่ารำของตัวพระ นาง ยักษ์ ลิง และตัวประกอบ การแสดงโขน ละครชาตรี ละครนอก ละครใน ละครพันทาง และระบำฟ้อนต่างๆ เป็นผู้คัดเลือกการแสดง จัดทำบทและเป็นผู้ฝึกสอน ฝึกซ้อม อำนวยการแสดงถวายทอดพระเนตรหน้าพระที่นั่ง ในวโรกาสต้อนรับพระราชอาคันตุกะ อาคันตุกร และงานของรัฐบาล หน่วยงานองค์กรต่างๆ จัดต้อนรับเป็นเกียรติแก่แขกผู้มาเยือนประเทศไทย เป็นผู้คัดเลือกตัวละครให้เหมาะสมตามบทบาทในการแสดงต่างๆ เป็นผู้คัดเลือกการแสดงวางตัวศิลปินผู้แสดงต่างประเทศเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทยเป็นผู้ฝึกสอนและอำนวยการฝึกซ้อมในการแสดงโขน ละคร การละเล่นพื้นเมิง ระบำรำฟ้อนต่างๆ ที่กรมศิลปากรจัดแสดงแก่ประชาชน ณ โรงละครแห่งชาติ สังคีตศาลา ในต่างจังหวัดและทางสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ตลอดทั้งร่วมในงานของหน่วยราชการ องค์กร สถาบันการศึกษา และเอกชน เป็นวิทยากรบรรยายและตอบข้อซักถามในการอบรมวิชานาฏศิลป์และวรรณกรรม และเป็นที่ปรึกษาในการสร้างนาฏกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นด้วย ในด้านบทวรรณกรรมสำหรับใช้แสดง ได้ค้นคิดปรับปรุง เสริมแต่งให้เหมาะสมกับยุคสมัย ดำเนินไปโดยถูกต้องตามระเบียบแบบแผนอันมีมาแต่ดั้งเดิม เช่น บทละครเรื่องอิเหนา ตอนเข้าเฝ้าท้าวดาหา ตอนลมหอบ ตอนอุณากรรมชนไก่ ตอนบุษบาชมศาล ตอนศึกกระหมังกุหมิง ตอนประสันตาต่อนัก เรื่องสังข์ทอง ตอนเลียบเมือง ตอนเลือกคู่หาปลา ตอนตีคลี ตอนนางมณฑาลงกระท่อม เรื่องขุนช้างขุนแผน ตอนพลายเพชรพลายบัวออกศึก ตอนพระไวยแตกทัพ เรื่องไกรทอง ตอนที่ 1 ตะเภาแก้ว ตะเภาทอง และบริวารไปเล่นน้ำ ตอนที่ 2 ตามนางวิมาลากลับไปถ้ำ เรื่องพระอภัยมณี ตอนพบนางละเวง ตอนนางละเวงพบดินถนัน ตอนหนีนางผีเสื้อสมุทร เรื่องไชยเชษฐ์ ตอนนางสุวิญชาถูกขัน ตอนที่ 1 และตอนที่ 2 เรื่องมโนราห์ บางตอนเกี่ยวกับพรานบุญ เรื่องรถเสนบาง เรื่องแก้วหน้าม้า ตอนถวายลูก เรื่องสังข์ศิลป์ชัย ตอนท้าวเสนากุฏเข้าเมือง เรื่องเงาะป่า เรื่องคาวี ตอนได้นางใจกลองศึก เรื่องสุวรรณหงส์ ตอนเสี่ยงว่าว-ชมถ้ำ บทโขน ตอน ปราบกากนาสูร ตอนไมยราพสะกดทัพ ตอนศึกบรรลัยกัลป์ ตอนปล่อยม้าอุปการ นอกจากนี้ ยังได้คิดประดิษฐ์กระบวนท่ารำขึ้นใหม่ไว้อีกมาก เช่น กระบวนท่าร่ายรำในการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 1-2 กระบวนท่าร่ายรำในการแสดงนาฏกรรมของกรมศิลปากร และกระบวนท่าร่ายรำชุดต่าง ๆที่กรมศิลปากรจัดแสดง ได้รับพระราชทานเหรียญดุษฏีมาลา เข็มศิลปวิทยา เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2514 ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี ถึงแก่กรรมเมื่อ 24 กันยายน พ.ศ. 2543 อายุ 98 ปี ข้อมูลจากgoogle https://www.google.com/url?sa=t&source=web&rct=j&url=https://sites.google.com/site/ajanthus/thanphuhying-phaew-snith-wngs-seni&ved=2ahUKEwjG8IqgkunkAhWU8XMBHX44DBYQFjASegQIAxAB&sqi=2&usg=AOvVaw09EFvrjG2s3EKBIV8hrGgk (https://www.google.com/url?sa=t&source=web&rct=j&url=https://sites.google.com/site/ajanthus/thanphuhying-phaew-snith-wngs-seni&ved=2ahUKEwjG8IqgkunkAhWU8XMBHX44DBYQFjASegQIAxAB&sqi=2&usg=AOvVaw09EFvrjG2s3EKBIV8hrGgk) ………. การแสดงนาฏศิลป์ไทยในโอกาสรำลึก 109 ปีชาตกาล “ท่านผู้หญิงแผ้ว สนิทวงศ์เสนี” ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ไทย) คนแรกเจ้าของสมญานาม “นาฏยาจารย์ 5 แผ่นดินผู้สืบสร้างทางรำไทย” อันเป็นที่รู้จักอย่างดียิ่งของแฟนๆใจนาฏศิลป์ไทย ….. “109 ปีชาตกาล ท่านผู้หญิงแผ้วฯ” ซึ่งจะแสดง 2 รอบ (10.00 น. กับ 14.00 น.) วันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคมนี้ ณ โรงละครแห่งชาติ มีลูกศิษย์ลูกหาของท่านซึ่งก็เป็นมือระดับอาจารย์ในโอกาสต่อมาร่วมแสดงเพียบเลยครับ อาทิ อ.จตุพร รัตนวราหะ, อ.รัจนา พวงประยงค์, ดร.ศุภชัย จันทร์สุวรรณ์, อ.จันทนา ทรงศรี, อ.ปกรณ์ พรพิสุทธิ์, อ.วันทนีย์ ม่วงบุญ ฯลฯ 109 ปี ท่านผู้หญิงแผ้ว นาฏศิลปิน "5 แผ่นดิน" ซูม16 ธ.ค. 2555 05:01 แห่งไทยรัฐ ………. ขออนุญาตงดบทกลอน เนื่องจาก บุคคล เรื่องราว เหตุการณ์และผู้เกี่ยวขัองทุท่าาน ลัวนยิ่งใหญ่เกินความสามารถของข้าพเจ้าจะพรรณนาเป็นบทกลอนได้ เพียงบริสุทธิ์ใจ ต้องการกราบเคารพเชิดชูมาด้วยความชื่นชม L3cRjyp_Lhg hMsFGGRMMsc หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 01 ตุลาคม 2019, 07:10:PM มาดู ท่ารำของ อ.วันทนีย์ ม่วงบุญ มาดูอาจารย์ร้องไห้ คนอ่ะไร ร้องไห้น่ารักจัง PTNLhAsAMmo h6VTVkn4yO8 พวกคุณก็เดินทางมาหาความหวังจากพวกเรา เยาวชน คุณกล้าดีอย่างไร คุณขโมยเอาความฝันและวัยเด็กของเราด้วยความพูดจอมปลอม นี่ฉันถือว่าเป็นกลุ่มคนที่โชคดีแล้วนะ ผู้คนอยู่อย่างทรมาน คนบาดเจ็บล้มตาย และระบบนิเวศทั้งหมดกำลังล้มลง เรากำลังจะสูญพันธุ์กันอยู่แล้ว แต่พวกคุณกลับพูดกันแต่เรื่องเงินๆ ทองๆ และผลการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ คุณกล้าดีอย่างไร (น้ำตาไหลตามด้วยเสียงปรบมือ) ………………….. สุนทรพจน์ของ เกรต้า ธันเบิร์ก ………. นันทวดีนี้มิสงบ แม้ยศะครบเลิศศิริศักด ิ์ พรรณกวะทองผ่องภวพักตร์ ทุกข์อุระหนักเคืองรติตน พิศหน้างามยามช้ำน้ำตานอง เบือนแก้มหมองหลบตาอายฟ้าฝน พิศหน้างอนค้อนคว่ำน้ำตาล้น เบือนแก้มมนก้มฝืนสะอื้นอาย แค้นอริรักชักมหภัย เภทหฤทัยอันจะมิหมาย สั่งวจะความห้ามจรกราย ป้องอริร้ายเขตพระพิมาน ประกาศห้ามปรามข่มสนมเจ้า มิให้เข้าเด็ดขาดราชสถาน ประกาศหวงทวงสิทธิ์อย่าคิดราน มิให้ขานคำน้อยอย่าสร้อยแซง สิทธิพินิจอิสระคง สิ่งจะประสงค์ศักดิ์วจะแจ้ง แม้สิระวังยังสิระแวง พ่ายรติแคลงคงบมิควร สิทธิ์แห่งเจ้าเข้าครองปองรักษา ถนอมหน้าคือศักดิ์หักกำสรวล สิทธิ์แห่งใจใครอย่ามาลามลวน ถนอมนวลคุณค่าพรหมจารี อ้างอภิสิทธิ์คิด อกุศล อวดพละตนเศรษฐิวิถี จงดำริชอบตอบดรุณี กล้าผิวะดีคนกวะควาย เด็กวันนี้มีหรือคือความฝัน อาจถึงวันน้ำเน่าเขาฝันสลาย เด็กวันหน้าอากาศพิษคิดอันตราย อาจถึงวายผู้ใหญ่หนอทรยศ หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 11 ตุลาคม 2019, 12:25:PM m6z13BFa1dc
น้ำตาเดือนตุลา ...... รำลึกธ.พ่อเจ้า ถวาย สักการ ใจมุ่งรองบาทหมาย มั่นล้น ทุกชาติว่ามลาย มิต่าง มิแปร ใจปริ่มปานเอิบท้น เอ่อน้ำตานอง ….. การใดมิควร ขอทรงพระกรุณา ข้าพระพุทธเจ้าผู้อ่อนด้อยคำกลอน ผิดพลาดขอท่านผู้รู้แนะนำ หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 19 ตุลาคม 2019, 07:26:PM อัตลักษณ์ไทย ไม่มีแล้วจริงหรือ วางคลิปมาให้ เผื่ออยากรักไทย เพียงนึ้ไม่ชอบ เห็นต่างตามใจ --ov09OeZw0 อาจถึงวายผู้ใหญ่หนอทรยศ ….. งามสะอางอย่างไทยฤๅไม่ชอบ อยู่ในกรอบนารีมีแบบบท งามสะอ้านหวานกริ่มยิ้มช้อยชด อยู่ในกฏประเพณีมีมานาน นวลนางในฝัน เชยชวนชมจันทร์ น้ำผึ้งน้ำหวาน แนบเนื้อนวลน้อง ตระกัดตระกอง โนมพรรณนงคราญ หอมชื่นหอมซ่าน เริงรัตติกาล สมรักสมปอง ฤๅอ้างศักดฺิ์ปักจิตสิทธิ์สากล คิดต่างตนย่างไรไม่ยิ้มย่อง ฤๅอ้างศรีมีพรรคหนักเงินทอง คิดต่างต้องเลิกเก่าเอาใหม่ แทน อัตลักษณ์คร่ำ เอกชนนำ หลากความตามแผน ความคิดมากหลาย เชื้อชาติมากมาย ร่วมครองดินแดน ใครผูกแน่นแฟ้น ใครเล่าหวงแหน ใครชื่นใครชัง …… ยังไม่คุ้นชิน เขียนมานิดหน่อยแค่ทดสอบ หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 20 ตุลาคม 2019, 12:06:PM ได้รับคำแนะนำ แก้ไขจากท่านสุวัฒน์(ขออนุญาตเผยนาม เผื่อเป็นประโยชน์ต่อท่านอื่น) น้ำตาเดือนตุลา ...... รำลึกธ.พ่อเจ้า ถวาย สัก(การ) ใจมุ่งรองบาทหมาย มั่นล้น ทุกชาติว่ามลาย มิต่าง มิ(แปร) ใจปริ่มปานเอิบท้น เอ่อน้ำตานอง - - - - - - - - - - - - - - เป็น "คำสร้อยเจตนัง" ทั้งสองบาท ซึ่งปรกติ คำสร้อยเจตนังนี้ จะใช้เมื่อจำเป็นจริงๆเท่านั้น อย่างบทนี้ บาทที่ ๑ ใช้คำสร้อยเจตนัง พอได้สมเหตุผล แต่บาทที่ ๓ เราสามารถใช้คำสร้อยทั่วๆไปได้ เช่น ทุกชาติว่ามลาย มิต่าง กันเนอ ขิม ครูชยุดี วสวานนท์ Yh_QvM-pPT4 หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 06 พฤศจิกายน 2019, 01:41:PM โอเค เคๆ เบญจกัลยาณีไม่มีแล้ว นางในวรรณคดีจะมีอยู่ไหม นี่สิใช่ ครูเจี๊ยบ ยมะคุปต์ (ข้าพเจ้าเข้าใจว่า อาจารย์อยากให้เรี ยกแบบนี้) แบบนี่เร้ยนางในวรรณคดี อายแท้ เอียงจริง อย่างหญิงไทย สมัยนี้เขาว่าไม่จำเป็นต้องอาย ….. Xg5TlPEWvag ใครผผูกแน่นแฟ้น ใครเล่าหวงแหน ใครชื่นใครชัง … ลำนำเรื่องเมืองสยามหญิงงามโฉม ฝั่งฟ้าโลมเสกดลดังมนต์ขลัง ลำนำร้อยคล้อยใคร่สุดใจยั้ง ฝั่งฟ้าหลั่งหยาดให้หวังใจคว้า ยอดหญิงเลอศักดิ์ นวลนางเลิศลัษณ์ ยอดขวัญแก้วตา ควรสมชมเชย เปรียบ"วิสาขา" เบญจกัลยา สวรรค์หยาดหรือไร ผมยาวคล้ายปลายงอนแหงนยูงแพนหาง รักษ์ท่าทางอ่อนหวานขานอ่อนไหว ผมยาวเคลียเรี่ยร่างช่างละไม รักษ์ท่าไทยเช่นนี้นะดีงาม เยี่ยงยูงอ้อนอ่อย ย่างเยื้องแช่มช้อย วิ่งว่องต้องปราม จารีตแบบแผน ใดเสริมใดห้าม เปรียบหญิงเมื่อยาม รักษ์ศรีรูปตน ธรรมชาติสร้างอย่างไรไม่แต้มแต่ง ปากนางแดงคล้ายฉ่ำตำลึงผล ธรรมชาติเสริมเติมเผื่อเมื่อได้ยล ปากนางดลชายหลงพะวงเพ้อ ปากแดงกระจับ คล้ายแย้มคล้ายขยับ เสมือนยิ้มเสมอ ริมฝีปากสนิท คล้ายหยาดเผยอ ชวนเคลิ้มละเมอ ขานคำน่าฟัง สุกใสแววแพรวพรายประกายปิ๊ง ยิ้มสวยจริงฟ้นขาวราวเปลือกสังข์ สุกใสวาวคราวเผยเอ่ยทุกครั้ง ยิ้มสวยจังฟันเรียบเปรียบกว่ามณี ฟันขาวใช่ขัด ธรรมชาติวิวัฒน์ สุขภาพต้องดี ใสกว่าไข่มุก คือสังข์ขัดสี เรียงชิดสนิทนี้ จักหายากแท้ เนียนละมุนสุนทรีฉวีวรณ เหมือนไหมภัณฑ์ละเมียดละเอียดแน่ เนียนละไมไร้เทียบมาเปรียบแปร เหมือนไหมแพรอุบลวรรณพรรณมาลา นุ่มนวลชวนต้อง นวลเนียนชวนมอง เปรียบเช่นบุปผา คล้ำว่าอุบล ขาวกรรณิการ์ ชุ่มชื่นวรรณา เปล่งปลั่งน้ำนวล งามเสมอเผลอปลี้มลืมพรรษา คือรู้ค่าสุขะพละถ้วน งามสมัยวัยชราท่าเย้ายวน คือรู้ควรคงค่อนอ่อนกว่าวัย เวลาอายุ พุ่งพล่านอย่างพลุ คงงามตามสมัย กระติ้งกระเตง รูปตามวิสัย ว่าอ้อนวอนนัย ก็อายจึงเอียง หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 25 พฤศจิกายน 2019, 03:10:PM *พระราชนิพนธ์มัทนะพาธา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า* กลายเถอะร่างสุมะทะนา…..ดุจะมาลี, เปนสุกุพชะกะฉนี้…..เถอะนิรันดร!’ Mm7ToClVik4 *มะเมี๊ยะ - จรัล มโนเพ็ชร* มะเมี๊ยะตรอมใจ๋ อาลัยขื่นขม ถวายบังคมทูลลา สยายผมลงเจ๊ดบาทบาทา ขอลาไปก่อนแล้วจ๊าดนี้ เจ้าชายก็ตรอมใจ๋ตาย มะเมี๊ยะเลยไปบวชชี ความฮักมั๊กเป๋นจะนี้แลเฮ้อ ……… ก็อายจึงเอียง ….. จึงกำเนิดจุติผกา...ก็กถาเพียง ฤทธิ์วิเศษพระสุรเสียง...ธ."สุเทษณ์"ดล "สุเทษณ์"องค์หลงปภัสร์"มัทนา" มิให้ช้าประมาทจะพลาดผล "สุเทษณ"อ้างนางหาใคร่ใช่ของตน มิให้ชนบุรุษไหนได้ครองนาง "มัททะนา"วะจะนะสาป...วะ"กุหลาบ"ร่าง สัญลักษณ์รติสิอ้าง...ก็นิรันดร์กาล สุวคันธ์อันย้อมใจหอมใดเทียบ กุหลาบเปรียบรักแน่แท้หอมหวาน สุวคนธ์ดลจิตชิดนงคราญ กุหลาบปานแก้มถนอมหอมยวนกาม ฤๅถนนทุรลำบาก...กวะขวากหนาม ฤๅวะกุพชะกะ*สิงาม...ผิวะท้าทาย ใคร่จะดอมหอมดอกหนามยอกแล้ว ว่าไม่แคล้วอกแตกแลกสิ่งหมาย ใคร่จะดมคมเสี้ยวเกี่ยวใจกาย ว่าไม่คลายใจก่อขอแลกใจ รักมิสมปิติประสงค์...ฤดิหลงใหล ทั่งมิเกรงกะภยะใด…ฤฉะนี้ควร ตกหลุมกามความรักมักห้าวเหิม นี่แหละเริ่มอาเพศเหตุผันผวน ตกหลุมกลคนหลอกหยอกยั่วยวน นี่แหละล้วนกลกามความรักนอ ………. *กุพชกะ (อ่านว่า กุบ-ชะ-กะ) ว่า กุพชกะ ในภาษาสันสกฤตมี ๒ ความหมาย คือ กุหลาบและคนค่อม หากยืดเสียงข้างท้ายเป็น กุพชกา (อ่านว่า กุบ-ชะ-กา) จะแปลว่า นางค่อม หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 12 ธันวาคม 2019, 10:14:PM ใครเล่า กล้า ทำลายความฝันของเด็ก ใครเล่า กล้า ทำลายความสุขสุดท้าย ของบั้นปลายวัยชรา ….. ชาติไทยพิเศษชื่อ มนะถือสิเป็นไทย ยึดเสริภาพไพ บุลมั่นณสันดาน ….. กรุงเทพ ฯ คำฉันท์ ประพันธ์โดย ขุนสุนทรภาษิต กับ นายชิต บุรทัต … น้อง น้ำเพชร AFl92pqZMFs รำไทยในภาพยนตร์สารคดีปีพ.ศ. ๒๔๘๐ ของสหรัฐอเมริกา เรื่อง "Serene Siam" ผู้แสดงบทนางเมขลาคือคุณครูส่องชาติ ชื่นศิริ ศิลปินแห่งชาติ (๕ ก.ค. ๒๔๖๑ - ๑๖ เม.ย. ๒๕๖๑ อายุ๙๙ปี๙เดือน bQffpurVdds แต่ละท่าน 5- 6ปี ท่านก็รำไทย พอ 90กว่าปี ท่านก็หยุด น่าชม อัจฉริยะภาพ คุณครูส่องชาติ jWYhYLRo5w0 นี่แหละล้วนกลกามความรักนอ ….. แรกเยาวนงคราญ ปณิธานก็เกิดก่อ สืบไปมิทดท้อ พิรยอดตลอดวัย รักคือมั่นสัญญาว่าสืบชาติ แพรววิลาศน้ำดีที่วิสัย รักคือมอง"ส่องชาติ"ประกาศชัย แพรววิลัย"น้ำเพชร"เก็จเกี่ยวใจ ชีวิตและข้อวัตร ปฏิบัติประวัติใหม่ เสรีก็กว่าใคร สิฉะนี้ผิว์ใหม่จริง วัฒน์คือการสานใหม่ใช่เลิกล้ม ใดควรชมควรเชื่อเพื่อสุงสิง วัฒน์คือกิจคิดปรับไม่ขับทิ้ง ใดควรชิงควรฉุดปิยะบุตรคิด สองนางธิดานุช อภิบุตรสตรีสิทธิ์ ร่างกายและชีวิต สดุดีมิเพียงพอ หนึ่งคือกาจอาจกล้าอายุน้อย อนาคตคอยเพียงภายหลายพอศอ หนึ่งคือเก่งเปล่งถนัดอัจฉริย์พอ อนาคตขอศิษย์แท้แม่ส่องทาง หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 13 ธันวาคม 2019, 12:37:PM น้อมระลึก พระมหากรุณาธิคุณ บารมี บรมราชวงค์จักรี GhaZmGx0YTA เครดิต จากเว็บ https://phralan.in.th/coronation/finalceremonies.php งดกลอนครับ ด้วยข้าพเจ้าไร้ความสามารถ ….. กรุงเทพ ฯ คำฉันท์ ประพันธ์โดย ขุนสุนทรภาษิต กับ นายชิต บุรทัต ดำเนิรโดยนัยดำนาน ราชปวัตติการณ์ บรมกระษัตริย์ทรงศรี ๏ มไหศูริยศักดิจักรี ปฐมวงศ์องค์วี รขัตติยรัชย์เรืองนาม ๏ ครองรัตนโกสินทรสยาม กรุงสงบสบงาม ด้วยราชอำนาจนำเถลิง ๏ พระองค์ทรงเดชดำเกิง ก่นภัยเพียงเพลิง ผลาญลวกพลวกลามปรามศูนย์ ๏ มีอัตถประวัตน์เป็นมูล มานณตระกูล สูงศักดิ์พิสัยไพศาลย์ ๏ สืบยั้งตั้งมั่นมานาน นิวาสนฐาน ที่เหนือป้อมเพ็ชร์พระบุรี ๏ ในกรุงเทพทวาราวดี อยุธยาศรี พิสุทธสมภพสบสรรพ์ ………. e7CM-faoKSc หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 22 ธันวาคม 2019, 05:15:PM กำลังตื่นเต้นกัน จอห์น ฟรูชานเต้ กลับมาอึกครั้งกับ rhcp. C72zRTR1Ns4 ตั้งแต่ทำกระทู้นี้ สักพัก เพลงอะไรที่เคยชอบ ทุกประเภท ทุกแนว ทุกชาติภาษา เดี๋ยวนี้ เรอะ ฟังไม่ได้ ไม่ อยากฟัง หนังก็งั้นๆ เช่นกัน … หลากเหลือจะเชื่อจิตร์ ผิวะคิดประหวั่นพะวง เมตตาและเต็มปลง จิตระจักประคับประคอง ฯ หนักข้างระคางอยู่ บมิรู้จะรับปจะรอง ภายหลังก็ตั้งตรอง ตริฤเว้นระวังระแวง … สามัคคีเภทคำฉันท์ นายชิต บุรทัต ….. ต้องอย่างนี้ สิใช่ 8gTDF2zYc_A อนาคตขอศิษย์แท้แม่ส่องทาง ….. มอนทาน่า คิด ไอ้ตัวเหม็น https://youtu.be/8PdP_0ySD_4 คาวบอยตะวันตก สิระหกระเหินละห่าง ทิ้งมาตุภูมิร้าง ปศุสัตว์มิเหลือจะจำ ข้าวโพดและสาลี ปฐพีจะขี่นจะขำ จนตรอกผิว์ชอกช้ำ เถอะเดอะคิดสิท้าสิดวล หนุ่มสาวคาวบอยพลอยป่วน ไร่นาป่าล้วน สิ้นหนุนทุนเอาเข้าชุม สิ้นปืนฝืนใจให้กลุ้ม กฏหมายคล้ายคุ้ม สีสันคันทรี่หรี่รอง ขาดเพลงเก่าเม้าท์ออร์แกนไร้แบนโจ เหลือเพียงโชว์ขี่ม้าปากระป๋อง ขาดเพลงโก้โห่ละเล็นเป็นทำนอง เหลือเพียงช่องทีวีมีร็อคแบนด์ ปลูกข้าวโพดโอดสะอื้นเขาหมื่นไร่ สุุดท้ายไฟท์หมดเงินเกินหลายแสน ปลูกข้าวพันธ์ขั้นเท็คโนฯโง่เองแค้น สุดท้ายแฟนหนีรักหานักบอล แต่งจบไม่ตรวจทานให้ดีพอ แก้ไขใหม่ จึงขาดความขาดไพเราะ ขออภัย ต่อไปจะตรวจ ทานให้เรียบร้อยก่อนโพส หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 31 ธันวาคม 2019, 09:56:AM iP3_haKz0Ko ดิถีปีเก่าพ้น อีกสมัย บางสิ่งผิดโปรดอภัย เพื่อแก้ ยอมรับเยี่ยงวิสัย ดีชั่ว ตัวนอ ขอว่าอโหสิแม้ ล่วงแล้วกลับใจ ผู้ผ่านวัยผ่านชีวิตจิตทบทวน รู้สิ่งชวนสิ่งเชื่อเพื่อวันใหม่ ผู้ผ่านวันผ่านวารคิดการณ์ใด รู้สิ่งใช่สิ่งชอบตอบไมตรี aAnxl4kxVGY ดิถีศกใหม่แล้ว สุขสันต์ บุญแต่งกานท์กลอนฉันท์ ร่วมบ้าน กุศลส่งอวยฝัน ทุกท่าน สวัสดิ์เทอญ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้าน ช่วยป้องกันภัย สิ่งศักดิ์สิทธ์ฤทธิ์นำอำนวยพร ชุมบ้านกลอนถิ่นอารักษ์พักอาศัย กุศลบุญคุณรัตนตรัย อำนวยชัยสุขีทวีทอง ….. ข้าพเจ้าได้เป็นสมาชิก ณที่แห่งนึ้ หากนับเอาเฉพาะระยะเวลา พอพูดได้ว่านาน ทั้งที่ผลงานน้อย การนี้ ข้าพเจัาได้อาศัยเป็นสื่อแสดงความคิดส่วนตน ด้วยความเชื่อว่า ความเห็นแปลกกระทั่งว่าผิดแผก เป็นสิ่งยอมรับได้ด้วยเหตุแห่งการแสดงออกทางศิลป์(หมายถึงเจตน์ของคนไม่ใช่เจตน์แห่งศิลป์) ภายใต้การยอมรับของกฏหมาย ระเบียบ ประเพณี จารีต อย่างไรก็ดี(ไม่ดีอย่างไร) ความรู้สึกผิดในใจย่อมมี โดยเฉพะต่อชุมชน และบุคคลณ.ที่นี้ ข้าพเจ้า ขอโทษรับผิด หากไม่สุภาพ ล่วงเกิน ละเมิดด้วยการใดๆ และยอมรับการตักเตือน ในโอกาสเริ่มต้นปีใหม่ขออวยพรท่าน ครูกลอน ผู้บริหารบ้าน สมาชิก จงสุขสวัสดิ์ พบแต่สิ่งมงคล ที่สำคัญ จงพ้นภัยร้ายใดๆ ….. เมื่อยอมรับผิดแล้วข้าพเจ้ายินดีรับคำติเตือนใดๆแม้กระทั่งการเขียนกลอนหากท่านสมาชิกเห็นว่าต้องแก้ไข โดยติเตือนมาได้โดยตรงที่กระทู้นั้น ส่วนคำชม คำนิยมก็ไม่ค่อยจำเป็นก็ได้ครับ ตัวเองก็ไม่รูัสึกว่าตัวเองสมควร โดยเฉพาะคะแนนกลอน ระดับข้าพเจ้ายังไม่สามารถเห็นว่าใครให้คะแนนบ้าง(ยังถูกปิด) ไม่ได้ผิดหวังใดๆ แต่เกรงว่าไม่ได้ตอบรับ จะเป็นการเสียมารยาท หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 12 มกราคม 2020, 07:00:PM ใครดูกัปตันอเมริกา ฉันดูคาวี รำคาญสตีฟ โรเจอร์ ดีแต่เก่ง คาวีสิน่ารัก ไม่เชื่อก็ลองดู nUIl5JsXktc เมื่อนั้น พระเชษฐายิ้มแย้มแจ่มใส จึงว่าเจ้าพลั้งพลาดประมาทใจ พระฤๅษีสอนไว้ไม่ยั้งคิด อันเชื้อชาติช้างสารแลงูเห่า ใจข้าเก่าเมียรักอย่าวางจิตร ทั้งสี่อย่างมักล้างเอาชีวิตร เจ้าไม่จำทำผิดจึงบรรไลย ….. บทละครนอกเรื่องคาวีแต่งเป็น กลอน เป็นพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ….. พระเอยพระทรงชัย เคราะห์อะไรกระทำเข็ญ เข็ญใจก็ยังเย็น เพราะพระโปรดพระปราณี น้องเอยวิสัยสัตว์ อุปบัติในโลกีย์ สุขทุกข์ก็จำมี ตะละอย่างบ่วางวาย พระเอยพระตรัสต้อง ………. ตับคาวี พระนิพนธ์ใน สมเด็จฯ เจ้าฟ้า กรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ….. สุดท้ายแฟนหนีรักหานักบอล ….. ดีชั่วกระทำเอง บ่มิเกรงกะใครวอน พ่อแม่ก็พร่ำสอน บุรชนก็พร่ำเตือน คนดียั้งพลั้งผิดคิดแก้ไข คนชั่วไม่ฟังบทอ้างกฏเคลื่อน คนดียอมแก้ไขไม่บิดเบือน คนชั่วเหมือน ภัยเภทเหตุทลาย คิดสร้างอนาคต บริบทและกฏหมาย ช้างสารกะงูร้าย บริวารสิแปลกปน งูเห่าเหมือนเตือนว่าอย่าคิดคาด ทุรชาติทรยศหมดเหตุผล งูเห่าหมายร้ายชมัดขัดมติคน ทุรชนซื้อไม่ขายย้ายข้างฟรี ข้าเก่าและเมียรัก คณะพรรคผลิศักดิ์ศรึ เชื่อใจสมุนลี้ ภริยาอะต่างใจ ชนชั้นวิสัยนาย คติหมายอำนาจใหญ่ คนชิดสนิทใกล้ มิสหายก็เมียคด เพื่อนเอ๋ยวิสัยสัตว์ จะวิบัติอำนาจหมด ทุกฃ์ยากเพราะปากพจน์ ตะละคำกระทำตน หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 18 มกราคม 2020, 10:25:AM ตะละคำกระทำตน ….. หลังตรงสื่อถือไถไปทางตั้ง คลานคู้ดังคืบขวางตามทางหน หลังตรงศอคอหยักสักว่าคน คลานคู้ด้นดิรัจฉานการกริยา ว่าคือคนปิยบุตรพิสุทธิพจนา เหยียดตรงนะสองขา ขจร วาทะเด็ดเพ็ดผายอายฝร้่งหนา ลูกบิดาขื่นขำคาวชาวอักษร วาทะเดือดเชือดฉาดราชนิกร ลูกบิดรเกรี้ยวกราดชาติต่ำคลาน ชนช่อชั้นกณิการ์ประสามธุระหวาน คำดาดก็ผาดพาล พิกล ..... บางคำ บิดา-บิดร แปลว่า มารดา-มารดร กะแล่วแต๊ หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 20 มกราคม 2020, 11:42:AM กระนั้น ดิรัจฉาน อีกยาวนาน อมตะ YvSdqE7wDiY คำดาดก็ผาดพาล พิกล ….. พ่อแม่จ๋าอาจารย์เอย ลูกเล่าเคยเผยกุศล หมอบคลานกราบซาบกมล ไฉนผลตนดิรัจฉาน...ฉะนั้น แค่นขอโทษประโยชน์ไรเมื่อไม่ลืม ครั้งเคยปลื้มพจนาภาษาสาส์น ครั้นครา(เอิ่ม)..ปูดครูดแคะก็แบะบาน วันหลุดวานคู่คี่ไม่มีคืน (บางคำ คูุคี่ แปลว่า คู่ขี้ กะแล่วแต๊) หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 24 มกราคม 2020, 03:11:PM ลาวแพนฟังมาหลายเวอร์ชัน หลายทาง คราวนี้ฟังทาง หวานๆ เดิมๆ โดย บรมครูจะเข้ ครูระตี วิเศษสุรการ บรมครูทางขับร้อง อ.เจริญใจ สุนทรวาทิน สุดยอดฝีมือสองท่านนี้ ร่วมอยู่ในเพลงเดียวกัน เห็นปุบตื่นเต้นปับ หาฟังจากที่บันทึกเก่ายังยาก ได้ฟังจะเรียกว่าบุญหูก็ว่าไป ใครจะว่าอะไร กะชาง mExl3j0flto 2H04x3r8P40 หวานเอิบซาบสู่ขั้ว หัวใจ ฝึกคร่ำสำนักใน ฝ่ายเจ้า สามัญเล่าหลงใหล สืบต่อ ศิลป์แล ครูท่านสานวางเค้า แต่งเต้าชวนตาม ….. ขออภัย วันนี้แต่งกลอนไม่ได้ มันแปร่งหนักหนาทีเดียว ขอผลัดไปวันหน้า ครานึง ขอเพิ่มเติมครับ เคยคิดว่าไม่มีใครขับร้องได้แบบอ.เจริญใจแน่ พอเห็นคลิปเพลงเดียวกัน นกขมิ้น ตื่นเต้นอีกแหละ รีบเอามาลงเปรียบเทียบกัน ครูเลื่อน สุนทรวาทิน พี่สาวอ.เจริญใจ นั่นเอง ท่านผู้นี้ แม้90กว่ายังไปสอนลูกศิษย์ทุกที่ ถีงขนาดต้องคืบคลานก็ยอม วันหลังจะลงคลิปให้ชม น่าเคารพท่านเป็นอย่างสูง หมอบกราบได้สนิทใจ WqbQlKs6D0c หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 29 มกราคม 2020, 03:53:PM คนหรือท่าน ดิรัจฉานหรือควาย HzTq6zXRHuI p64FFt-lbIQ ควายเอยเจ้าเขาจัดดิรัจฉาน สัตว์ขี้คร้านฝึกให้คู้ดูน่าหยาม ควายเอยจำคำสั่งยังทำตาม สัตว์ขี้คร้ามคนขี่ก็สีซอ คนไร้คิดจิตลึกฝึกไม่ไหว สุดแก้ไขต่ำตมจมก้นบ่อ คนไร้ค่ากว่าควายอายคนล้อ สุดแก้ขอยี่สิบล้านขายท่านควาย หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 30 มกราคม 2020, 07:38:PM ครูลมุล ยมะคุปต์ ผู้ประดิฐย์ ท่ารำแม่บทใหญ่ ผลงานครู มากมายจริงๆ แค่อ่านผมยังอ่านไม่จบ!&?*** ผมว่าท่านน่าได้เป็นนายกฯหญิงคนแรก กว่า คุณหญิง คุณยิ่ง ใดๆทั้งนั้นแระ [youtube=4 emo_8625,350]WGsTu_QS3og[/youtube] อ.เวนิกา บุนนาคก็ใช่ธรรมดา ซะ ที่ไหน GPBYsRp3A5I เมื่ออายุได้ ๕ ขวบ คุณครูได้เข้าศึกษาวิชาสามัญที่โรงเรียนสตรีวิทยาเป็นเวลา ๑ ปี จากนั้นบิดาได้พาคุณครูเข้าไปถวายตัวสนองพระเดชพระคุณเป็นละครในสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าอัษฎางค์เดชาวุธ กรมหลวงนครราชสีมา ณ วังสวนกุหลาบ โดยอยู่ในความปกครองของคุณท้าวนารีวรคณารักษ์ (แจ่ม ไกรฤกษ์) การฝึกหัดละครที่วังสวนกุหลาบนั้น มีการฝึกหัดกันอย่างเข้มงวดกวดขัน …... การเป็นละครในวังสวนกุหลาบนั้น จะต้องมีความอดทนและตั้งใจจริงอย่างยิ่ง จึงจะสามารถปฏิบัติออกมาได้ดี อีกทั้งต้องมีความสามารถพิเศษกอปรเข้าอีกด้วย คุณครูลมุลเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติดังกล่าวทุกประการ จึงได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวพระและแสดงในบทบาทตัวเอกแต่แรกเริ่ม คุณครูผู้ถ่ายทอดความรู้ด้านนาฏศิลป์ไทยแบบราชสำนักให้คุณครูลมุลมีดังนี้ หม่อมครูแย้ม หม่อมครูอึ่ง หม่อมครูนุ่ม คุณท้าววรจันทร์ (เจ้าจอมมารดาวาด ในรัชกาลที่ ๔ ) เจ้าจอมมารดาเขียน ในรัชกาลที่ ๔ เจ้าจอมมารดาทับทิม ในรัชกาลที่ ๕ เจ้าจอมมารดาสาย ในรัชกาลที่ ๕ เจ้าจอมละม้าย สุวรรณทัต ในรัชกาลที่ ๕ พระยานัฏกานุรักษ์ คุณหญิงนัฏกานุรักษ์ ท่านครูหงิม นอกจากจะได้รับการถ่ายทอดโดยตรงจากคุณครูที่กล่าวมาแล้ว คุณครูลมุลยังมีท่ารำอีกมากมายที่ได้รับมาจากการจดจำจากสิ่งที่เคยพบเคยเห็น หรือที่เรียกกันว่า “ครูพักลักจำ” เช่นกระบวนท่ารำของพม่า มอญ ฯลฯ เป็นต้น ชีวิตในวังสวนกุหลาบของคุณครูดำเนินไปได้ด้วยดี โดยคุณครูได้รับคัดเลือกให้เป็นตัวเอกตลอดมา จากนั้นคุณครูได้กราบบังคมทูลลาจากวังสวนกุหลาบ ไปถวายตัวสนองพระเดชพระคุณเป็นละครในสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย ณ วังเพชรบูรณ์………. ปีพุทธศักราช ๒๔๗๖ คุณครูกลับลงมาอยู่กรุงเทพตามเดิม และได้มาช่วยวางหลักสูตรเพื่อเปิดโรงเรียนนาฏดุริยางคศาสตร์ และเปิดทำการสอนเมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๗๗ คุณครูลมุลจึงได้บรรจุเป็นข้าราชครู ตำแหน่งครูวิสามัญ ขณะนั้นคุณครูอายุได้ ๒๙ ปี ๘ เดือน ๖ วัน ขณะที่ดำรงตำแหน่งครูจนกระทั้งดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญการสอนนาฏศิลป์นั้น คุณครูได้สร้างผลงานด้านนาฏศิลป์ร่วมกับคุณครูท่านอื่น ๆ ไว้อย่างมากมาย ยกตัวอย่างเช่น รำแม่บทใหญ่ รำซัดชาตรี รำวง รำวรเชษฐ์ ระบำเทพบันเทิง ระบำฉิ่ง ระบำพม่า - มอญ ระบำยกยูง ระบำกรับ ระบำสวัสดิรักษา ฟ้อนเล็บ ฟ้อนเทียน ฟ้อนแพน เซิ้งสราญ เซิ้งสัมพันธ์ ระบำชุมนุมเผ่าไทย ฯลฯ อีกมากมาย เครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงสุดที่คุณครูได้รับพระราชทานได้แก่ ตริตราภรณ์มงกุฎไทย โดยได้รับพระราชทานเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๒๐ บั้นปลายชีวิตคุณครูสุขภาพแข็งแรง และทำการสอนและฝึกซ้อมให้กับวิทยาลัยนาฏศิลปอย่างต่อเนื่อง ๓๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๒๖ คุณครูได้จากไปด้วยอาการสงบ สิริรวมอายุได้ ๗๗ ปี ๗ เดือน ๒๘ วัน ….. ธำมรงค์ บุญราช : #เรียบเรียงเนื่องในวันคล้ายวันเสียชีวิตคุณครูลมุล ยมะคุปต์ คุณครูผู้มีคุณูปการต่อวงการนาฏศิลป์ไทย ๓๐ มกราคม ๒๕๖๓ …… [/size] "ยมะคุปต์"คือชื่อเชื้อ สายสกุล นาม"แม่ครูลมุล" แห่งหล้า ศิลปินเด่นเพราะบุญ คุณแม่ ศิลป์แห่งชาติแถวหน้า เช่นผู้ครูศิลป์ หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2020, 07:28:PM คลิปวันไหวัครูที่เหล่าลูกศิษย์คลานเขัาหมอบกราบคณะครู เป็นภาพแสลงใจใครหลายคนไม่น้อย พูดได้ว่ามากจริง จนถึงกับ สร้างวาทะกรรมในทางหยามว่า คืบคลานเหมือน ดิรัจฉาน ได้สิ ุคนต่างกันคิดต่างกัน ฉะนี้แหละคน ..... ครูเลื่อน สุนทรวาทิน พี่สาวอ.เจริญใจ นั่นเอง ท่านผู้นี้ แม้90กว่ายังไปสอนลูกศิษย์ทุกที่ ขนาดถึงกับคืบคลานก็ยอม ครู ผู้ไม่ยอมให้ผิด ตราบชีวิตทุกชั่วจังหวะการเต้นของหัวใจ 8xOxDAhBgok nN18cpkBUo0 สัททุลลวิกกีฬิตฉันท์ มีความหมาย "เสือผยอง" ใช้แต่งบทไหว้ครู บทโกรธ และบทยอพระเกียรติ กราบไหว้คุณพระสุคตอนารณญาณ ยอดศาสดาจารย์ มุนี อีกคุณสุนทรธรรมะคัมภิรวิ พุทธ์พจน์ประชุมตรี ปิฎก ทั้งคุณสงฆะพิสุทธิศาสนะดิลก สัมพุทธสาวก นิกร สามัคคีเภทคำฉันท์”เป็นนิทานสุภาษิต ในมหาปรินิพพานสูตรและ อรรถกถาสุมังคลวิลาสนี ทีฆนิกาย มหาวรรค ที่เรียบเรียงเป็นภาษาบาลี นายชิต บุรทัตอาศัยเค้าคำแปล ของเรื่องสามัคคีเภทนี้มาแต่งเป็นคำฉัน ศิลป์แห่งชาติแถวหน้า เช่นผู้ครูศิลป์ .... มนุษย์หนึ่งพึงพร่ำคร่ำศึกษา บรรเจิดจ้าเผ่าพันธ์อย่าหยันหมิ่น มนุษย์นั้นคั้นคาดวาทเล่ห์ลิ้น บรรเจิดจินต์หยามหยาดชาตฉะนั้น มนุษย์ ไหนไพร่เผ่าคือเจ้าข้า วิวาทมากล้ำกลืนเกินขื่นขัน มนุษย์นี้ชี้เฉียบเหยีบแล้วยัน วิวาทมั่นครื้นเครงมิเกรงกู น้อมจิตกราบสดุดีกระนี้อริยะผู้ เทียบฐานะคือครู มนุษย์ ไม่แพ้ผิดมิระย่อมิท้อพิรประมุท แม้นแม่พิทักษ์บุตร ละมุน ครูเลื่อน สุนทร(ะ)วาทิน แผ่นดินจดจำ"แม่"นำหนุน เรียกแม่สนิทใจในพระคุณ อบอุ่นใจน้อมค้อมกราบกราน ชั่วชีวิตหนึ่ง ครั้งหนึ่งพึงได้หมอบคลานเพื่อหมอบกราบ ผู้หนึ่งนั้น กระนั้น .... ทุกวินาทีใช้ไปอย่างมีคุณค่าตลอด90กว่าปี ชีวืตครูยิ่งใหญ่เหลือเกิน เขียนกลอนไปแล้วรู้สีกว่าชีวิตครูยิ่งใหญ่เกินความวามสามารถของคนระดับผมจะหาคำมาบรรยายได้จะให้แต่งต่อไปคงทำได้แค่ว่าระบายวาทะต่างตอบโต้ล้วน ไม่ควร ปูชนียบุคคล เรามีต่างกัน เคารพต่างกัน เข้าใจ ขออนุญาต ว่าฝึกเขียนกลอนให้ถูกตัองตามฉันทลักษณ์ หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2020, 11:30:AM emo_82ส
สลับเสนอ ครู"นพ"และอีกหลายท่าน บ้านกลอนไทยนี่เอง เก่งๆทั้งนั้นเลย ..... จุดสัมผัสบังคับรองรับอยู่ ดั่งที่ครูบ้านกลอนเคยสอนฉัน ตำแหน่งนั้นจำได้ให้คงมั่น ชิงสัมผัสคำนั้นก่อนมั่นไง สัมผัสซ้ำอีกบทมีจดอ่าน คอยตรวจทานเตือนจิตผิดตรงไหน ก่อนวางกลอนอ่านย้ำจำขึ้นใจ กลัวผิดไงจะซ้ำคำบทบน สัมผัสเลือนเลื่อนลากจากตำแหน่ง ครูเคยชี้แจงให้หมายฝึกฝน อยากเรียนรู้ให้หมดต้องอดทน เขียนทุกวันฉันชอบกลกลอนกานท์ ................ คลาดเคลื่อนหรือผิดผัง ขออภัยด้วย นพ 19 มิ.ย.55 http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=20761.0 (http://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=20761.0) อารีรัง คือ นิราศ kPtTi8ougPU อยากอ่านกลอนวอนหวานอาจารย์"นพ" จวบบรรจบวันวารนานไฉน คิดถึงคำพรำพรายจำรายไกล จำเรียงไหลร้องรำนำสำเนียง พ่อ"รพี"มีหมายเรียกรายงาน คอยฟังขานนวลนุ่มกรุ้มกริ่มเสียง หลายท่านเลยเชยชอบลอบลำเอียง พุทโธเพี้ยง"ครูนพ"หนอขอก่อนใคร หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 25 กุมภาพันธ์ 2020, 07:38:PM ครูส่องชาติ ชื่นศิริ หนึ่งเดียว ไม่มีใครเหมือน hakM6rRWd1I https://youtu.be/hakM6rRWd1I (https://youtu.be/hakM6rRWd1I) ท่ารำเดียวกันต่างกันเพียงองศา สง่างามกว่ากัน แม้ว่าสูงวัยเช่นนั้น ครูผู้ไม่ยอมผิดแม้เพียงองศา 8xmLUlKjhTw นี่ไง อดีตเก่าคือครูของอนาคตใหม่ ..... อบอุ่นใจน้อมค้อมกราบกราน ..... มนุษย์สร้างร่างใหม่ให้ชีวิต รือแผกผิดส่ำสัตว์ดิรัจฉาน มนุษย์สืบคืบก่อส่อสันดาน รือแผกพานชั่วชอบแค่หมอบคู้ ควรมนุษย์พุทธพรรณฉะนั้นไฉน ผองผู้ไร้ศีลประสาทประหลาดหมู่ ควรมนัสจรัสจิตคือศิษย์ครู ผองผู้รู้หมายมนาค่ามนุษย์ อดีตหรือคือค่าอนาคต ุยุบยกหมดหรือไรไยมิหยุด อดีตเราเหง้างามตามวัยวุฒิ ยุบยกหมุดแม้นหมายย้ายหลักรั้ว เก้าสิบสรรพนับปีไม่มีถอย คงความถ้อยเขตคือชอบหรือชั่ว เก้าสิบไซร้ไม่ท้อก็มิกลัว คงความบัวช่อชูท่านครูไทย ..... บัวช่อชู แปลว่า ช่อพ้นน้ำ ...ละกัน หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 14 มีนาคม 2020, 09:13:AM อ.เจริญใจ สุนทร(ะ)วาทิน ผู้ไม่ยอมผิด แม้เสี้ยววินาที หอมคือหอม เย็นคือเย็น ทฤษฎีเสียงร้องเพลง ที่ฝรั่งเอามาสอนกัน เรารู้ไ้ด้ยังไง ร่วมร้อยปีก่อน คลิปประวัติ การขับร้องของ"ครู"มีมาก ยาวมาก จึงคัดมา ที่ไม่ยาวนัก ถ้าจะฟังกันครบ คงใช้เวลามาก สรุปเพียงว่าไม่ว่าใครๆต่างยอมรับ ครูเป็นหนึ่งจริง หนึ่งเดียว mXElusj8EMg ZZ2GsJeTrBI เก้าสิบไซร้ไม่ท้อก็มิกลัว คงความบัวช่อชูท่านครูไทย ..... คุณครูขาชราแล้วจอดแจวก่อน กูเกิลสอนซึมทราบมิกราบไหว้ คุณครูครับนับเนื่องเรื่องกาลไกล กูเกิลไซร้เขาคาดอาจทดแทน ต่อแต่นั้นยันย้ำใครสำคัญ ไม่มีผันแผ่เผยก็เลยแก่น ต่อแต่นี้ทีท่าคล้ายว่าแคลน ไม่มีแผนเยื่อใยใต้บัวบัง ..... กลอนสองบทนี้มิได้หมายถึง อ.เจริญใจครับ ไม่กล้า ข้าฯพูดเสมอว่าสำหรับผู้มีเกียรติภูมิสูง ข้าฯไม่มีความสามารถจะแต่งกลอนถึงท่านได้ กลัวจะเป็นการก้าวล่วง และจะสลับแต่งกลอนเพื่อการบันเทิงสลับกันไปบ้าง ..... คลิปนี้ยาวมาก ไว้เป็นทางเลือกชมยามว่าง nzCLvYB0vlI หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 19 มีนาคม 2020, 06:27:PM LlhOVcrvv0E กลับมาเขียนกลอนได้และ ทีแรกนึกว่าจะไม่ไหว เนื่องด้วยโควิด ที่ไทยด่าไทยกันเอง เราสู้มาดี ฝรั่งยังชม แต่ที่น่ารังเกียจที่สุดคือด่าลามปามไปถึงบุคลากรหมอ สาธารณสุขและอาสาสมัคร เหมือนน้ำเน่าละลายลงน้ำดีชัดๆ เพราะรู้น้ำดี จึงเห็นน้ำเน่าฉะนั้น ไม่กลัวน้ำเน่า กลัวน้ำดีจะเสียกลายเป็นน้ำเน่า รู้ละ ไม่กลัวละ ไม่มีแผนเยื่อใยใต้บัวบัง ..... เราฤๅแพ้แย่โย้เหวยโคหวิด พลังผลิตเคี่ยวไขไม่หมดหวัง เราฤๅพ่ายหมายมั่นยันไม่ยั้ง ผลิตพลังแรงรุดหมายหยุดมัน ร่วมแรงใจสดุดีฉะนี้คุณะอนันต์ สองกลุ่มประชุมกัน ทวี นอบน้อมจิตสหจินต์และสิ้นทุรวจี ท้องฟ้าสลายสี อำไพ ทีมแพทย์อายุรเวชประเทศสิชนะชัย ้้เชื่อแพทย์และกฏอัย ยะการ ขอบคุณแพทย์สละตนผจญปะทะประหาร เชื้อร้ายมิให้พาน ประชา ้ิเอ่ยอ้างโทษโคตรขืนผู้อื่นผิด เสื่อมเสียมิตรขื่นขันเหตุปัญหา ้เอ่ยอ้างเท็จเข็ดคำล้นตำรา เสื่อมเสียหมาหมู่เมินเกินเภทภัย หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 26 มีนาคม 2020, 11:56:AM fqyBHjR19IY คารวะ คณะแพทย์ สาธารณสุข จิตอาสา ทุกท่าน ผู้เป็นนักรบแนวหน้าสู้ศึกพืชืตเชื้อโควิด ขอให้ทุกท่านประสบชัยชนะโดยสวัสดิภาพ ..... ปราโมทย์แสน องค์อัปสรอมรแมนแดนสวรรค์ ยินกฤดาภินิหารมหัศจรรย์ เกียรติไทยลั่นลือเลื่องเรืองรูจี ต่างเต็มตื้นชื่นชมโสมนัส โอษฐ์เอื้อนอรรถอวยพรสุนทรศรี แจ้วจำเรียงเสียงเพลงสดุดี ดนตรีรี่เรื่อยประโคมประโลมลาน แล้วลีลาศเริงรำระบำร่าย กรกรีดกรายโปรยมาลีสีประสาน พรมน้ำทิพย์ปรุงปนสุคนธาร จักรวาลฉ่ำชื่นรื่นรมย์ครัน (http://GNJXDQEkmkg) อุเบกขา หมายถึง ความวางเฉยแบบวางใจเป็นกลางๆ โดยไม่เอนเอียงเข้าข้างเพราะชอบ เพราะชัง เพราะหลงและเพราะกลัว เช่นไม่เสียใจเมื่อคนที่ตนรักถึงความวิบัติ หรือไม่ดีใจเมื่อศัตรูถึงความวิบัติ มิใช่วางเฉยแบบไม่แยแสหรือไม่รู้ไม่ชี้ ทั้งๆ ที่สามารถช่วยเหลือได้ เป็นส่วนประกอบเข้ากับ เมตตา กรุณา มุทิตา ..... เอ่ยอ้างเท็จเข็ดคำล้นตำรา เสื่อมเสียหมาหมู่เมินเกินเภทภัย ..... ชีวิตจริงยิ่งใหญ่ใจอุทิศ ต่างวิศิษฏ์สู้โรคาพร่าผลาญขัย ชืวิตจึงพึงพบประสบชัย ต่างวิสัยดิรัจฉานคลานขวางเมือง สตรีเก่งตะเบงมาน บุรุษหาญบุรีเรือง ประดาปราชญ์ฉลาดเปรื่อง ประชาชาญสราญรมย์ กฤดาขลังพลังขาน เชลงกานท์ประเลงขรม สกลชาติประกาศชม สหายด้วยก็อวยพร ฤดีตั้งระวังว่าง ระแวงห่างสโมสร สถานโอ่อโคจร อุเบกขาสิว่าควร พระคุณเหตุเพราะเมตตา พระเดชาเพราะเวชช่วย เถอะอุตส่าห์มิลาป่วย ฉะนี้หนอนะหมอไทย แนวรบศึกผนึกรู้สู้โคหวิด ควรหรือปิดเมืองสู้หมอรู้ได้ แนวรบเสริมเริ่มความตามหมอไว้ ควรหรือไปรารื้อมือไม่พาย หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 29 มีนาคม 2020, 08:34:AM zDOHIXiJILg ขอว่า หากไม่ เมตตา กรุณา มุทิตา จง อุเบกขา ได้ หรือ ไม่ แนวรบเสริมเริ่มความตามหมอไว้ ควรหรือไปรารื้อมือไม่พาย ..... คนละบาทขาดแบงค์ออกแรงให้ ขึ้นวรรคใหม่เราชั่งเขาทั้งหลาย คนละบทหมดท่อนตอนจบตาย ขึ้นวรรคหมายปลุกไทยบ้าไหมเรา ..... ไอ้แอ๊ดมันบอกผมไม่สบาย ให้ไปหาหมอ... หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 31 มีนาคม 2020, 07:30:AM จัดละคร กลอนสั้น วันหวัดระทม สังคมเครียด ZAHgHdgja-k คนละบทหมดท่อนตอนจบตาย ขึ้นวรรคหมายปลุกไทยบ้าไหมเรา ..... กลับมาเพียรเขียนกลอนดูฟ้อนศิลป์ กับเมียกินข้างต้นคนละเสา กลับมาผันห้นออกงดหยอกเย้า กับเมียเก่าปล่อยวางห่างสองเมตร หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: สุวัฒน์ ไวจรรยา ที่ 31 มีนาคม 2020, 08:19:AM มีวินัยเชื่อน้ำคำหมอแนะ ไม่เจ๊าะแจ๊ะจริงจังวันทั้งเจ็ด ไร้ไวรัสมิต้องร่ำน้ำตาเล็ด งดเบ็ดเสร็จรอสร่างภัยห่างทรวง ******* (https://i.ibb.co/3k6f7Rm/6.jpg) (https://imgbb.com/) - ขอบคุณเจ้าของภาพทรงคุณค่านะครับ - หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 31 มีนาคม 2020, 06:16:PM ภาษาอังกฤษ ถาม ถูกไหม เอรืก้า CfRfwS47GhE กับเมียเก่าปล่อยวางห่างสองเมตร ..... ด๊อนท์คัมแฮ๊งค์แบงค็อคอิทส์ล็อคทาย์ม "แอ๊ด"อะฟาร์มแจกกล้วยช่วยเกษตร แอพริลฟูลซูนลองโน๊สโพ๊สต์แอนด์เพร๊ส "แอ๊ด"อะเฟร้ด"ทอม"เฮย์สเตย์โฮม หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 31 มีนาคม 2020, 07:24:PM 17QYhTm9iqk งดเบ็ดเสร็จรอสร่างภัยห่างทรวง ******* ขอบคุณหมอขอเคารพปรบมือไหว้ รักทั่วไปพยาบาลงานลุล่วง ขอบคุณหมดงดดื้อคือไม่ประท้วง รักทั่วปวงประชาสามัคคี หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 03 เมษายน 2020, 06:51:PM qK5WYSUzZvQ น่าเคอร์ฟิว โซเชียล เฟสบุค จริ๊ง จนป่านนี้ยังโกรธกัน ด่ากัน สร้างเรื่องเท็จมาหาเรื่องเกลียดกัน จริ๊ง เนี่ย เพิ่งไปด่ากับมันมา ไวรัสทำคนตาย6% ที่ตายเยอะเพราะคนเกลียดกันไม่ช่วยกัน ไม่มีแล้วหรือคนไทยรักไทย ไม่มีแล้วหรือไทยเพื่อคนไทย ประชารัฐก็ไม่มีพลังแล้วหรือ เราจะก้าวไปถึงไกลมั้ย พี่แอ๊ดถึงว่า โหดร้ายเนาะกล้วยมั้ย อะแน้ฝาก...ใคร ควรหรือไปรารื้อมือไม่พาย ..... ว่าแต่เขาเราด้วยไม่ช่วยห้าม เราจะตามไยแย้งพวกแบ่งฝ่าย ว่าแต่ข้าฯด่าไฉนเจ้าไม่อาย ้้้เราจะตายกันหมดน้ำผึ้งหยดเดียว ผู้มีศาสตร์ปราชญ์เปรยจงเอ่ยคำ เพื่อยึดนำแบบอย่างต่างแลเหลียว ผู้มีศิลถิ่นธรรมกรรมนั่นเชียว เพื่อยึดเหนี่ยวรักใคร่ชูใจชน เลี่ยงพาลหลีกพ้น บุญส่งมงคล จำเริญ รู้ธรรมนำเผชิญ ควรขั้นสรรเสริญ บุคลา รักปวงประชา ปฏิรูปเคหา เรือนตน ไม่นานภัยพ้น สามเดือนขั้นต้น ประเมิน โรคร้ายเผชิญ ยึดธรรมดำเนิน ดลใจ กรรมร่วมมิตรคิดกุศลคนร่วมชาติ ไทยมิขลาดมิเขลาเรารุ่นใหม่ กรรมร่วมหมู่รู้เอื้อจิตเยื่อใย ไทยมิใคร่รักเหง้าใครเล่าคง หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 08 เมษายน 2020, 08:10:PM sSzsCE0VdFs ส่งใจ ให้คนไทยต่างแดน ปลอดภัยกลับบ้าน กลับมาบ้านนะคนไทย เมื่อโควิกระบาดที่จีน คิดถึงคนไทย ตกค้าง จีน เกาหลี อยากให้ รบ.รับตัวกลับบ้าน ไม่ได้ห่วงคนไทยที่ยุโรป อเมริกา ยังนึกว่าโชคดี อยู่ประเทศเจริญ ถึงวันนี้ ส่งพรพระรัตนตรัย ขอให้ได้กลับไทย ในจำนวนนั้น มีสองท่านที่คิดถึง อยากให้ปลอดภัย สองท่าน สมาชิก บ้านกลอนไทย เคยได้ต่อกลอนกันสุข สนุก ใครๆก็รัก คุณ แซม ประภาคาร คุณ รัตนาวดี นานแล้ว ไม่ทราบว่าสองท่าน โยกย้ายกลับบ้านมาก่อนหรือไม่ เพี้ยง พระคุ้มครองครับ สวดมนต์วอนพรพระรัตนะตรัย จงพ้นภัยกลับบ้านศานต์สุขี เยอรมันนั้นว่า"รัตนาวดี" อีกหนึ่งที่อเมริกา"ประภาคาร" ..... เขียนเป็นกลอนไม่ได้เลยคิดถึง ขอให้ได้กลับไทย หรือว่ากลับมาแล้ว อย่างนั้นก็ดีใจ หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 11 เมษายน 2020, 07:12:AM _Qlc-mttzlE rfD1FGsEWG0 เจ้ามาร ประนามข้าฯ ด่าข้าฯสิ ข้าฯไม่โกรธเจ้าด่า ข้าฯไม่กลัวเจ้าโกรธ ยิ่งกว่านั้น ข้าฯอนุญาต ยุหวัว ยั่วเย้า ให้เจ้าโกรธ ยิ่งเจ้าโกรธ เจ้าจะขาดสติ จากนั้น เจ้า หลงงมงาย บ้าคลั่ง และ โง่ เจ้าจะแพ้ เจ้าไม่ใช่มารอีกต่อไป เจ้าเชลย โจ๊ะ ทิงทิง โจ๊ะโจ๊ะ กรรมร่วมหมู่รู้เอื้อจิตเยื่อใย ไทยมิใคร่รักเหง้าใครเล่าคง ..... มนุษยชาติขลาดเวทเขลาเหตุผล มนุษยชนหวังพึ่งซึ่งประสงค์ วีรกรรมธรรมชนะแน่แก่พาลพงศ์ ไทยทะนงไม่แพ้แก่พาลภัย เมตาอาลัย โน้มนำวิสัย อารี ประชาชาติญาติเชื้อเมื่อปฏิสนธิ์ ประชาขนคือหมู่สู่วิถี เมตตานั้นอันจำกัดสัตว์ไม่มี เมตตานี้คนเห็นว่าเป็นคุณ ช่วยเหลือเกื้อหนุน ห่วงหาการุณย์ สงสาร วีรชาติผงาดแผลงแฝงกุศล วีรชนปลอมปนคนกล้าหาญ คนต่างสัตว์ชัดเหลือช่วยเจือจาน วีรชาญการุณย์ด้วยช่วยเจือใจ เห็นชอบตอบใคร ยิ้มย่องผ่องใส มุทิตา นรชาติฆาตดวงลับล่วงพ้น นรชนกำเนิดตามงามประสา เป็นอยู่คือถือดีบุญปรีดา มุทิตาใจหนุนบุญปรีดี คลองธรรมนำชี้ อุเบกขาหน้าที่ สายกลาง ชีวิตคงจงอยู่เป็นหมู่มวล คือไม่ควรเอกสิทธิ์คิดคำอ้าง ชีวิตคนตนส่วนน้อยจงปล่อยวาง คือไม่ขวางตัวบทกฏมวลชน ชีวิตหนึ่งจึงมีอีกชีวิต ก็ไม่ผิดเหตุกำเนิดจึงเกิดผล ชีวิตไหนได้คิดอิสระตน ก็ไม่พ้นหนี้กรรมธรรชาติทวง หัวข้อ: Re: ไม่ได้บอกว่าต้องจูงควายไปไถนา เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 19 เมษายน 2020, 12:14:AM rQOuxByR5VI แปลเพลง Both Sides Now – Judy Collins » แปลโดย : www.educatepark.com (http://www.educatepark.com) Rows and flows of angel hair And ice cream castles in the air And feathered canyons everywhere I’ve looked at clouds that way But now they only block the sun They rain and they snow on everyone So many things I would have done But clouds got in my way เส้นผมของนางฟ้า ที่เรียงกันเป็นทิวแถวและโบกสะบัด นั่นมัน ปราสาทไอศกรีม ที่ลอยอยู่ และภาพเขียนที่ลอยอยู่ในทุกแห่งหน ฉันนั้นเฝ้ามองเมฆบนนภาเป็นแบบนั้น และตอนนี้ เหล่าเมฆนั้นก็แค่บดบังดวงอาทิตย์ และก็ตกลงมาเป็นฝน เป็นหิมะ กระทบโดนผู้คน มีสิ่งมากมาย ที่ฉันน่าจะได้ทำ แต่ทว่าเมฆเล่านั้นก็เข้ามาบดบังเส้นทางของฉัน I’ve looked at clouds from both sides now From up and down and still somehow It’s cloud’s illusions I recall I really don’t know clouds at all ฉันเฝ้ามองเหล่าเมฆทั้งสองฟากฝั่งแล้วในตอนนี้ เฝ้ามองมันโดยรอบ และยังไม่รู้ว่าคืออะไร เป็นภาพสร้างขึ้นมา ที่ฉันนั้นนึกถึง แต่ฉันกลับไม่รู้จักเมฆเหล่านั้นเลย Moons and Junes and ferris wheels The dizzy dancing way you feel When every fairy tale comes real I’ve looked at love that way But now it’s just another show You leave ’em laughin when you go And if you care don’t let them know Don’t give yourself away เหล่าดวงจันทร์ เดือนมิถุนายนแห่งความสดใส และชิงช้าสวรรค์ ความสับสนปนเป จนแทบจะล้มลง นั่นคงเป็นสิ่งที่เธอนั้นรู้สึก เมื่อ ทุก ๆ เรื่องเล่าขาน นั้นได้กลายเป็นเรื่องจริง ฉันนั้นเฝ้ามองความรักในแบบนั้น แต่แล้วตอนนี้ เป็นเพียงแค่อีกเรื่องราวหนึ่ง เธอทิ้งให้พวกเขานั้นได้หัวเราะ เมื่อเธอไป และหากเธอนั้นใส่ใจ อย่าได้ปล่อยให้พวกเขานั้นได้รู้เลย อย่าได้เปิดเผยมันออกมาเลย I’ve looked at love from both sides now From win and lose and still somehow It’s love’s illusions I recall I really don’t know love at all ตอนนี้ ฉันก็เฝ้ามองความรักจากทั้งสองด้าน ทั้งจากด้านที่สุขสม และเส้นทางที่สูญเสีย แต่ก็ยังคงไม่รู้อยู่ดี คงเป็นแค่เพียงภาพสร้าง ที่ฉันนั้นระลึกถึง แต่ฉันก็ไม่รู้จักกับความรักอย่างแท้จริงเลย Tears and fears and feeling proud To say, “I love you” right out loud Dreams and schemes and circus crowds I’ve looked at life that way But now old friends are acting strange They shake their heads, they say I’ve changed Well something’s lost but something’s gained In living every day หยดน้ำตา ความกลัว และความรู้สึกภาคภูมิ ที่พูดว่า “ฉันนั้นรักคุณ” ออกมาได้ดัง ความฝัน แผนการ และการแสดง ฉันนั้นมองชีวิตเอาไว้เป็นแบบนั้น แต่ตอนนี้เพื่อนเก่า ๆ ต่างทำตัวแปลก ๆ ไป พวกเขาส่ายหัว และบอกว่าฉันนั้นเปลี่ยนไป บางสิ่งอาจจะเสียไป แต่ก็ได้รับในบางสิ่งกลับมา นี่ล่ะคือการใช้ชีวิตในทุก ๆ วัน I’ve looked at life from both sides now From Win and Lose and still somehow It’s life’s illusions I recall I really don’t know life at all ตอนนี้ ฉันเฝ้ามองชีวิตจากทั้งสองด้าน ทั้งจากด้านที่ได้รับมา และสูญเสียไป แต่ยังไม่รู้อยู่ดี เป็นเพียงภาพที่สร้างขึ้นมา ที่ฉันนั้นนึกถึง แล้วฉันนั้นก็ไม่รู้จักชีวิตโดยแท้จริง .......... เพราะข้าพเจ้า ไม่ได้รู้ ไม่ได้เข้าใจ อะไรจริงๆ ขอ ปิดกระทู้นี้ครับ ที่ผ่านมา มีสิ่งใดไม่เหมาะไม่ควร ขออภัยในความอ่อนหัด ไม่มีวุฒิภาวะ ด้วยครับ |