หัวข้อ: O ความเปลี่ยนแปลง .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 08 เมษายน 2019, 08:00:PM (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1342538038.jpg) -1- O ลับเลือนดวงศศิน .. นกบินว่อน ลมเหนื่อยอ่อนโรยตัวหยอกยั่วสมัย หมอกหม่นคลุมแผ่นน้ำ อยู่รำไร เมื่อแผ่นผืนกว้างไกล .. เริ่มไหวตัว O ลมแรกวันโชยเอื่อยอย่างเหนื่อยอ่อน พร้อมหมอกอ้อนออดบน .. ความหม่นหลัว แสงรุ่งสางทอดตน .. ลบหม่นมัว โลมแผ่นน้ำหยอกยั่วอยู่ในที O ย่อมเป็นริ้วลมรื่นฝ่าคืนค่ำ พาเย็นฉ่ำล้อมแหล่ง .. รับแสงสี ยอปีกนกเหยียดรับ .. กระหยับ-วี- วาดขึ้นฟ้าจรลี .. สืบชีวิน O แว่วเสียงให้รับรู้ .. เพียงครู่เดียว- เสียงกรูเกรียวถ้วนสรรพก็ลับสิ้น หมอกขาวขุ่นชื้นชุ่ม ที่คลุมดิน- ก็ล่มลาญจากถิ่นจนสิ้นรอย O เริ่มดอกมาลย์เชิดช่อ ร่ำรออ้อน- ให้ภู่ผึ้งแทรกซอน .. เกสร-สร้อย อบร่ำหอมเคล้าคลอเพื่อรอคอย- หวานจักย้อยกลิ่นรส .. ให้ทดลอง O พอแผ่นพื้นเรียบกว้างที่ข้างหน้า- ต้องลมถาโถมใส่จนไหลล่อง เลื่อนระลอกโลดเต้นจนเป็นฟอง แดดเรื่อส่องก็ปรากฎเมฆบดบัง ! -2- O จาก-แรกเช้า .. นกร้องฟ้าผ่องใส จน-เมฆไหลเกลื่อนกลุ้ม .. ลมคลุ้มคลั่ง เสียงอึงอื้อเกรียวกรู .. หวิว - วู่ .. ดัง- แข่งคลื่นน้ำฟาดฝั่ง อยู่โครมครืน O พอแรงลมโถมถาเข้ามาเพิ่ม แผ่นน้ำก็กระเหิมกระหึ่มคลื่น กระเพื่อมผิวม้วนตระหลบลงกลบกลืน- แตกฟองฟื้นตื่นฝนอยู่ .. อลเวง O ลมกวนคลื่นน้ำขุ่นเคล้าฝุ่นฝน เมื่อไฟบนฟ้าปลาบแสงวาบเปล่ง- ก่อนเฟื้อยเส้นฟาดพื้น อยู่ครื้นเครง แสงรุดเร่งแห่งวิชชุ .. ก็คุโชน O โลกทั้งโลกก็ตื่นรับคลื่นเสียง- ไม้ลู่เอียงด้วยลมก่อนล้ม .. โค่น สายน้ำเคยออดอ้อนอย่างอ่อนโยน- บัดนี้โตนตบฝั่ง .. เสียงดังนัก O ปลดปล่อยความเกรียมกร้าน .. ชะลานดิน อวลไอกลิ่นเถื่อนหอม .. เข้า-ล้อมกัก ลมคร่ำครวญตระหลบตอนไม่ผ่อนพัก เมื่อไร้รุ้งทอถักบนโค้งฟ้า O ร้อนแดดแม้นแผดผ่านมานานคาบ โลกที่ซาบซับร้อน .. กลับร้อนกว่า เฝ้ารอฝนโซมทรามให้งามตา จวบเบื้องหน้าเมฆฝน .. เห็น – หม่นครึ้ม O เมื่อสองเท้าเหยียบย่ำบนน้ำเจิ่ง ไฟโลดเหลิงก็เริ่มเริ่มกระเหิมหึ่ม เฟื้อยเส้นเข้าฟาดตีเมฆสีทึม ขับความอึมครึมปวงจนล่วงลับ O อีกไม่นาน .. คลื่นน้ำจะลามจบ ร่วมสายลมสมทบตระหลบกลับ เลื่อนเมฆหม่นบังแสง .. จวบแรงระยับ- ยอมล่มลาญดวงดับ .. ไม่กลับย้อน ! O จบสิ้นความเรื่อเรื้องที่เบื้องหน้า ที่แสงฟ้าแผดเผามาเก่าก่อน บัดนี้เมฆทึมทาเหมือนอาทร- บัง-แผดร้อนเผาผลาญ .. ที่ลานดิน O คลื่นน้ำก็ล้อมเทเข้าเห่กล่อม ทุกย่านหย่อมเรียวหญ้าทั่วหน้า - สิ้น ฝุ่นฝนก็ปร่าโปรย .. ลมโรยริน ชุ่มโลกกรรโชกถิ่นให้ยินดี O ร้อนแดดนั้นเผาผลาญมานานนัก ทั้งล้อมกักเร้ารุกไปทุกที่ ตราบลม, น้ำ - เลื่อนลำเข้าย่ำยี แผ่นดินที่แผดร้อนก็ผ่อนแรง O แทน-ร้อนรุ่มเผาผลาญมานานวัน ด้วยครืนครั่นเลื้อยเต้นของเส้นแสง วาบ-วกฉวัดเฉวียน เพื่อเปลี่ยนแปลง- ร้อนที่แฝงฝากดินให้สิ้นรอย ! -3- O เริ่มคาบยาม-รำร่ายของสายน้ำ ที่จะพลิกพื้นคว่ำความต่ำต้อย ผิวจะโตนตอบลมที่พรมคอย เป็นฝุ่นฝอยลอยคว้างอยู่กลางลม O รอ-ลมลูบโลมชะ .. จังหวะคลื่น- เพื่อโตนตื่น-ขึ้นตะล่อมเข้าล้อมห่ม- ทั้งพรรณหญ้าพื้นถิ่น ทั้งดินตม รอ-คลื่นถมแรงโถมเข้าโซมร้อน O บทเพลงปะเลงร่ำผ่านค่ำคืน- ย่อมไร้เสียงโอดอื้นเช่นคืนก่อน แฝงสายลมเย็นฉ่ำ-จากอัมพร- ว่าช่วงตอนร้อนร้ายเริ่มคลายตัว O ชุ่มดินด้วยชื่นฉ่ำแห่งน้ำหลาก- จวบสองฟากฝั่งน้ำ รื่นล้ำทั่ว ทุกอณูฉ่ำเย็น .. นั้น-เต้นรัว รอเกลือกกลั้วโซมสิ้นจิตวิญญาณ O โลกจะพลิกฟื้นด้านสู่ด้านใหม่ ที่ดวงไฟดวงเก่าหยุดเผาผลาญ ลมจะร่ำโรยระลอกโลมดอกมาลย์ ผึ้งภู่จะเบิกบานกับหวานรส O ยอดหญ้าจะริกระรี้อ้อน- ให้ลมซอนแทรกเรียวอันเขียวสด ทั้งรูปก้านกิ่งกระโดงจะโค้งคด- ด้วยคลื่นลดเลี้ยวแล่นบนแผ่นน้ำ O หงิกงอเลื่อนลามไปตามคลื่น ด้วยสุดขืนขัดลมที่พรมต่ำ ริ้วคลื่นและริ้วลมแห่งคมคำ- ล้วนต่างร่ำร้องรับสภาพการณ์ ! -4- O มองเห็นไหม – หมอกควันแห่งวันเก่า ที่แสบร้อนรุมเร้าคอยเผาผลาญ อวลกลิ่นให้เสพรับอยู่นับนาน กดวิญญาณยินยอมให้จ่อมจม O ตราบ-เมฆครึ้มทึมทาที่ฟ้าบน พร้อมไฟวนวาบรับร่วมขับข่ม ลมตระหลบสรรพโลก .. ผู้โศกซม และน้ำถมโถมล้อมมาพร้อมกัน O ร้อนก็ย่อมลาญแรงจากแหล่งโลก เปลี่ยนสร้อยโศกเข็ญขุกเป็นสุขสันต์ จน-เมฆหม่นแผ่ช่วงบังดวงวัน ก็เมื่อนั้นโลกต่ำ..ล้วนฉ่ำเย็น O เมื่อปีกนกว่อนฟ้าเพ-ลาค่ำ สุขจะคร่ำครวญสู่ให้รู้เห็น แผ่นผืนอุทกธารจะซ่านกระเซ็น ร่ำ-ลาความลำเค็ญ .. ที่เร้นรอย ! -5- O เห็นปีกนกคล่ำคลา เพ-ลาค่ำ พร้อมลมร่ำสายโบกลบโศกสร้อย ในแววตาพราวกระพริบ .. ก็ปริบปรอย- คล้ายเฝ้าคอยสางรุ่ง .. ของพรุ่งนี้ ! https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2012&date=17&group=41&gblog=39 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2012&date=17&group=41&gblog=39) |