หัวข้อ: O โคลงฉันท์กาพย์กลอน .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 21 ตุลาคม 2018, 06:32:PM ๑. ภาพของพ่อ .. (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1499778046.jpg) O พระพายรื่นพลิ้วผ่าน - - - ผันขบวน ปรนกรุ่นหอมลำดวน - - - ดอกแก้ว พิณพาทย์แผ่วคร่ำครวญ - - - คลอโสต เสียงขับเอื้อนฤๅแคล้ว - - - คลาดได้ฉันใด ๚ะ๛ O เรือน้อยผ่านคล้อยเคลื่อน - - - กลางชล แสงแรกเอี่ยมอำพน - - - พาดฟ้า สองมือวาดพายระคน - - - คัดแต่ง ทิศแล เช้าชื่น, กาลเฉื่อยช้า - - - อยู่เชื้อเชิญประชัน ๚ะ๛ O วาดพาย, ตาเพ่งน้ำ - - - คัด, คะนึง โศภิตแห่งภาพรึง - - - รัดไว้ แววตาวับ, เรือถึง - - - ท่าจอด สายหยุดต้องลมไล้ - - - ผ่านล้อมประนอมถวิล ๚ะ๛ O มือกำดาบ, สืบก้าว - - - ขึ้นเรือน นาเนกสุโนกเตือน - - - ตอบเช้า นามรูป, เนตรเหลือบเบือน - - - บอกเลศ นัยแม่ แดดเรื่อ, ความรุมเร้า - - - ส่องหล้า, ปรารมภ์ ๚ะ๛ O ห้องบนเรือน-เงียบ, ไร้ - - - สรรพเสียง เผยภาพผู้นอนเรียง - - - เลือดเยิ้ม พ่อ, แม่, พี่, น้องเคียง - - - ร่างครบ ครันนา ตาสบ, อกสั่นเทิ้ม - - - แทบม้วยมรณัง ๚ะ๛ O หยาดเลือดที่หยดย้อย - - - ปลายดาบ หยดทับจนบุญบาป - - - บิดเบี้ยว ชั่วอุทัยะขจ่างทาบ - - - ทอดบท ถ้วนโลกทุกส่วนเสี้ยว - - - สืบสร้าง, สว่าง-สลัว ๚ะ๛ O หยาดเลือดที่หยดย้อย - - - หยุดลง ปลายดาบปักพื้นปลง - - - ปล่อยเศร้า ย่อมเพียงชั่วเหลื่อมวง - - - น้ำกระเพื่อม กระพือแล อีกโลกกลับคลุกเคล้า - - - คลั่งแค้นอดสู ๚ะ๛ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . O ภาพนั้น-ชายหนุ่มผู้ - - - ลอยลำ เรือเนอ เหยียดย่างก้าว, มือกำ - - - ดาบพร้อม นุ่งห่มเยี่ยงแกล้ว, สำ - - - คัญยศ ศักดิ์แล ครุ่นคิด, สีหน้า-น้อม - - - นึกหน้าคะนึงหลัง ๚ะ๛ O ภาพนั้น-เรือนยกพื้น - - - ภูมิฐาน สุคนธรสบริบาล - - - กลิ่นใกล้ น้ำล้อมเยี่ยงปราการ - - - บอกขอบ เขตแล แปรงปาดสีเปลี่ยนให้ - - - ภาพนั้นเลือนสูญ ๚ะ๛ . . . หัวข้อ: Re: O โคลงฉันท์กาพย์กลอน .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 22 ตุลาคม 2018, 07:37:PM ๒. โลกอีกใบ .. (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1499932592.jpg) O โกสุมหอม, กับ, ข้าว - - - ถือรอ เอื้อมใส่บาตรผู้ขอ - - - อ่อนน้อม สำรวมจิตโน้มคอ - - - ค้อมต่ำ รูปหนึ่ง, โสตหนึ่งพร้อม - - - กล่าวถ้อย, สดับธรรม ๚ะ๛ O เสร็จสิ้นโปรดสัตว์ผู้ - - - ยังเพลิน โลกแน สาธุการจำเริญ - - - ร่ำอ้าง ทางพระ, พระดำเนิน - - - ตรงแน่ว ทางโลก, โลกจักล้าง - - - ทุกข์ร้อนฤาสลาย ๚ะ๛ O จีวรปลิวปัดล้อ - - - แรงลม พร้อมปัดปลิวเส้นผม - - - หนึ่งผู้ ขันข้าวและเนตรคม - - - คอยอยู่ คอยพระ, คอยตารู้ - - - รูปเนื้อรอยนวล ๚ะ๛ O ของถวายจีบจับเอื้อม - - - เอาวาง นาสิกเสี้ยวนวลปราง - - - โผล่เร้น พระจำพรากสู่ทาง - - - ควรที่ พระนา ตาหนึ่งจักพรากเว้น - - - ว่างพ้นรูปไฉน ๚ะ๛ O งามภาคงามพักตร์พ้น - - - พรรณนา งามท่วงทีกิริยา - - - อ่อนช้อย รูปเอยแทรกลงตา - - - สุดต่อ ต้านเนอ สุดต่อต้านกับชม้อย - - - เนตรชม้ายเมียงเมิน ๚ะ๛ O รอคอยวันพระหน้า - - - คงนาน คิดมาดหมายร่นกาล - - - กุดสั้น ให้ธรรมวกล่มลาญ - - - ร้อนรุ่ม อกเนอ ที่เนตรคมคู่นั้น - - - วาบน้ำผกายหนุน ๚ะ๛ O อกเอยอุโฆษครื้น - - - เกินควร เหมือนรื่นรมย์เริงขบวน - - - บุกเร้า ที่ถูกย่อมต้องทวน - - - ธรรมบท ให้ผ่านรูปยั่วเย้า - - - ห่วงละห้อยคอยเห็น ๚ะ๛ O แรมหนึ่งรูปหนึ่งโน้ม - - - จินตนา ดังโลกเหนี่ยวจันทรา - - - เคลื่อนห้อม จันทร์ฤๅผลักวงพา - - - ผ่านหลุด พ้นเนอ ใจจักหลุดวงล้อม - - - รูปนั้นทำไฉน ๚ะ๛ O ข้าว, ใจ, ช่อดอกไม้ - - - ล้วนหอม รอบาตร, รอใครยอม - - - เยี่ยมหน้า ข้าว, มาลย์มอบผู้ออม - - - อัตภาพ มอบอีกใจวุ่นว้า - - - หว่างเงื้อมมือสมร ๚ะ๛ O คำข้าวเจ้าคดน้อม - - - นำวาง ทำอกใจริมทาง - - - ทุกข์ร้อน เกรงบุญช่วยบังพราง - - - ผูกจิต ใครนา หวั่นเนตรปลาบไม่ช้อน - - - ฉ่ำซึ้งขึ้นผสาน ๚ะ๛ O จีวรพระพลิกพลิ้ว - - - พะนอลม เมื่ออกหนึ่งพะนอคม - - - เนตรอ้อน ธรรมสัจจ์และรูปสม - - - รอสืบ เสาะนา สืบบท, เสาะหวานย้อน - - - อยู่เลี้ยงอาลัย ๚ะ๛ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . O ภาพนั้น-ชายหนุ่มผู้ - - - ลอบชม- นามรูปนัยน์ตาคม - - - เหลือบค้อน ยอรูปยกกรประนม - - - น้อมต่อ สงฆ์แล แต้มแต่งแสงเหลื่อมย้อน - - - ฉาบย้อมนวลผิว ๚ะ๛ O ในภาพ-แววเนตรนั้น - - - น้อมนำ- จิตสู่ยุคยุติธรรม - - - เทียบหล้า กฎหมายทุกกฎบำ - - - รุงสุข ชนแล จารีตครึ .. เลื่อนล้า - - - หลุดพ้นยุคสมัย ๚ะ๛ . . . หัวข้อ: Re: O โคลงฉันท์กาพย์กลอน .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 23 ตุลาคม 2018, 06:55:AM ๓. ตัวอย่างที่ข้างบ้าน .. (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1499932263.jpg) ๑๔ O ขัดแย้ง ณ แหล่งธรรมะพระพุทธ ก็ประดุจะตามเตือน รอว่าจลาจละสะเทื้อน จะเขยื้อนขยับตอน O เมื่อสงฆะปลงจิตะประนัง ชิวะทัง ฤ อาทร มือเปล่าจะเข้ารณะสมร ผิวะมรณะยังหมาย O ร่วมจิตเพราะสิทธิอธิปัตย์ ปฏิบัติรำบาย- ขุ่นข้องกะผองกฏะ ก็ หมาย- จะสลาย .. จะรั้งลง O เลือดชุ่ม ณ ลุ่มอิรวดี กรณียะจำนง แม้นชนมะป่น .. บ่ ละประสง- คะจะคงจะขัดขืน O ภาพฉาย .. ละม้ายอยุธยา รณะฆ่า ณ ค่ำคืน คล้ายเห็นจะเป็นอัคนิครื้น ปะทุกลืนกะเวียงวัง O ชีพวอดและทอดศพะอนาถ ขณะพาสนะภินท์พัง มอดไหม้ บ่ ให้หทัยะหวัง ระอุตั้งประคองตน O เพลิงพลุ่ง ณ รุ่งอรุณะแรก ขณะแปลก ก็ แทรกปน เพลิงลาม ก็ ทรามภวะพระมณ- ฑิระป่นทลายเป็น O ภาพตอน ก็ ย้อน ณ นัยนา ชิวะพร่า สิ เพียบเพ็ญ วายวอดและทอดศพะ ก็ เห็น- บทะเช่นอดีตฉาย O ชีพป่น ณ บนอุระประเทศ ดละเจตะกำจาย แหลกป่นพระมณฑิระทลาย ดุจะคล้ายจะคือกัน O แกล้ว, ปืน และคลื่นชนะกระบวน จิตะล้วนจะโรมรัน ก่อนหล่นระคนชิพิตะบรร- ลัยะนั้น .. อนาถหนอ O กี่ใจจะไร้บุญะและบาป คุณภาพะเพียงพอ หยัดเงาคละเคล้ารุจะพะนอ สัทะทอประเทียบถึง ? O แว่วโมหะโทสะคละระคน อนุสนธิคำนึง ภาพสร้าง, พยางค์เสนาะเพราะ .. พึง- ประลุซึ่งประโยชน์เพ็ญ O เปรี้ยง, หมุน-กระสุน .. กษณะนั้น- ทะลุขันธ์ ก็ ลำเค็ญ แดงโร่ สิ โลหิตะกระเซ็น ระกะเส้น บ เร้นสาย O ภาพแทรก ณ แยก ปุระอมร ดัสกระเผยกาย- พร้อมบทและพจนะสยาย- มุสะผ้ายเพราะหวังผล O พร้อมสื่อกระพือมุสะประกอบ มุ พินอบพิเทาคน เชื่อเชื่อง ก็ เปลื้องพิสัยะปน- กรรมะฉละชวนเชิญ O ชาติพันธุอันสัจะละลาญ อปการะก้ำเกิน ชอบชัง ละครั้ง พิเคราะห์ประเมิน- สรเสริญ ก็ เลือกสรรค์ O เมื่อทรามละลามระยะประเทศ ทุระเภทะสัมพันธ์ จึง-ถ้อยเพราะถ่อยภพะถวัล- ยะ ฤ บั่นนะบิดเบือน O เสียงสู่ก็รู้มุสะประโยค ระบุโลกะรางเลือน เบ็ดขว้าง ณ กลางชละเขยื้อน- ก็เสมือนจะเกี่ยวปลา O แฉกลิ้น บ สิ้นนยะอสัตย์ ปฏิบัติบูชา พ้องชาติและวาสนะสถา- ปนะการณะกลับกลาย O บิดเบือนเขยื้อนกรรมะขยับ มุสะศัพทะบรรยาย เรื่องแต่งยุแยงแสยะสยาย อธิบายะเบี่ยงเบน . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . O ภาพแจ้งแสดงกุธะจริต เพาะวิกฤตกะกฎเกณฑ์- พ้องเลศกะเภทอุตริ-เถร ดละเวระอวดไว้ O ชายชาติเหมาะอาชญะสมรรถ อัตคัต บ เห็นใคร หรือจิตเหมาะคิด, สติพิสัย- เหมาะเจาะไซร้จะเลือนสูญ ? . . . หัวข้อ: Re: O โคลงฉันท์กาพย์กลอน .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 24 ตุลาคม 2018, 07:04:AM ๔. โลกจริงแต่ปางบรรพ์ .. (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1500036541.jpg) O ฟ้าศรีเสาวภาคย์ขึ้น - - - ครองเมือง ด้อยสมรรถภาพเปลือง - - - เปล่าแท้ ขุนนางอำมาตย์เคือง - - - ขุ่นอยู่ ทั่วเนอ เกรงเสื่อมเกียรติเกินแก้ - - - จึ่งล้างชีวาตม์สูญ ๚ะ๛ O เชิญพระอินทราชขึ้น - - - บัลลังก์ สามัคคีชอบ, ชัง - - - เหล่าเชื้อ ร่วมท่านรับฝากฝัง - - - ร่มฉัตร อำมาตย์ขุนนางเอื้อ - - - อกน้อมใจประนัง ๚ะ๛ O จมื่นศรีผู้ชิดไท้ - - - พระทรง ธรรมนา เป็นพระยาศรีวรวงศ์ - - - ว่านเชื้อ ช่วยเหลือราชกิจบง- - - - การเหล่า พวกเนอ เกียรติยศเติบใหญ่เอื้อ - - - เอ่ยอ้างบารมี ๚ะ๛ O แคล่วคล่องภารกิจย้ำ - - - เมื่อยิน ควรคู่ต่อองค์นรินทร์ - - - เรียกใช้ กฎเกณฑ์ระเบียบระบิล - - - ระบบเชี่ยว ชาญเนอ คอยปรึกษาชิดใกล้ - - - รับใช้พระบัญชา ๚ะ๛ O ฝากฝังโอรสไว้ - - - ในมือ ท่านนา ทรงมาดมั่นเชื่อถือ - - - พวกพ้อง ราชองค์ต่อไปคือ - - - พระเชษ ฐาแฮ จึงจัดการให้ต้อง - - - ตรัสใช้-บัญชา ๚ะ๛ O เดือนอ้ายแรมเจ็ดคล้อย - - - ค่ำยาม พระสู่สวรรคตตาม - - - เหตุต้อง รุ่งเช้าท่านแจ้งความ - - - ตามรับ สั่งเนอ เชิญพระเชษฐ์แซ่ซ้อง - - - สู่เบื้องบัลลังก์ ๚ะ๛ O ครั้งนั้นท่านสั่งให้ - - - จับกุม ผู้คัดค้าน, ก่อทุม- - - - ะนัสไท้ พระยาศรีสั่งให้คุม - - - ไปประหัต สิ้นนา ริบทรัพย์สมบัติไว้ - - - แจกผู้ร่วมการณ์ ๚ะ๛ O เกริกก้องเกียรติยศคล้าย - - - กลองประโคม สมุหพระกลาโหม - - - อาชญ์ล้ำ ดั่งระลอกคลื่นโถม - - - ทักฝั่ง ดินอ่อนริมฝั่งน้ำ - - - จักต้านทานไฉน ๚ะ๛ O ครั้นราชผ่านภพได้ - - - ปีเศษ หลงบทบาทเป็นเหตุ - - - ล่มล้าง ราชันย์สำแดงเดช - - - โดยไม่ ตระหนักเนอ ว่าร่มฉัตรนั้นสร้าง - - - เสกด้วยผู้ใด ๚ะ๛ O ถึงกาลมรณะม้วย - - - มารดา งานศพเจ้าพระยา - - - จัดให้ ขุนนางอำมาตย์ดา- - - - หน้าร่วม งานเนอ งดกิจเข้าเฝ้าไท้ - - - ธิราชกริ้วหนักหนา ๚ะ๛ O เจ้าพระยาขบถแล้ว - - - หรือไร จึงเพิกเฉยเรื่องใน - - - ฝ่ายนี้ ส่งแกล้วสั่งความไป - - - บอกพระ ประสงค์นา รับสั่งให้มาชี้ - - - กล่าวแก้ข้อหา ๚ะ๛ O ทอดตัวเข้ารับใช้ - - - ราชันย์ กลับเคลือบแคลงต่อกัน - - - เช่นนี้ จำกูจักขบถพลัน - - - ตามพระ ประสงค์เวย ลืมเถิดเรื่องก่อนกี้ - - - แต่นี้คอยดู ๚ะ๛ O คุมพลยกพวกล้อม - - - เวียงวัง บุกยึดราชบัลลังก์ - - - ล่มล้าง ชีพพระเชษฐ์เด็ดฝัง - - - ฝากปัถ วีนา ยกอนุชาธิราชอ้าง - - - ออกขึ้นนั่งเมือง ๚ะ๛ O ชีพเอยเคยปกป้อง - - - มาเปลือง สำเหนียกฤๅนองเนือง - - - เลือดเนื้อ มาหวาดระแวงเคือง - - - ใจขุ่น จำจักป่นชีพเชื้อ - - - ชดใช้โอหัง ๚ะ๛ O ชำนะ-อำนาจน้อม - - - นำวาง พันหมื่นแสนยอพยางค์ - - - ยกซ้อง ใครเล่าจักคอยขวาง - - - ฝากคิด เห็นแต่รู้ร่ำร้อง - - - ร่วมสร้างสรเสริญ ๚ะ๛ O อาทิตย์วงศ์หน่อเชื้อ - - - ราเชนทร์ สิบขวบปีคอยกระเวน - - - เล่น-ร้อง พี่เลี้ยงช่วยกันเกณฑ์ - - - เข้ากล่อม เสวยนอ จนทุกเสียงร่วมพ้อง - - - ฉุดพ้นบัลลังก์ ๚ะ๛ O ขุนนางอำมาตย์น้อม - - - ใจประนัง เชิญท่านรับฝากฝัง - - - แว่นแคว้น ยกขึ้นสู่บัลลังก์ - - - ร่มฉัตร ร่วมจิตใจแน่นแฟ้น - - - ฝ่ายไท้ทังสถาน ๚ะ๛ . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . O ภาพนั้นคือ .. ภาพผู้ - - - นำฝูง อำนาจอาชญะภาพจูง - - - จับให้- สู่บทบาทเยี่ยงยูง - - - สูงศักดิ์ จิตเด็ดขาด, พร้อมใช้ - - - เล่ห์ชั้นเชิงเสมอ ๚ะ๛ O ในภาพ-แววเนตรนั้น - - - โน้มนำ- จิตอ่อนแอเพื่อทำ - - - นุ-ใช้ กฎหมายทุกกฎบำ - - - รุงสุข พวกแล ขีดกรอบจารีตให้ - - - ช่วยค้ำอาชญา ๚ะ๛ . . . หัวข้อ: Re: O โคลงฉันท์กาพย์กลอน .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 25 ตุลาคม 2018, 06:25:PM ๕. สมมุติที่อันตรธาน .. (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1500115864.jpg) O แล้ว .. เรื่องในโลกใหม่ก็ไหววาบ ผุดเผยภาพต่อเนื่องอยู่เบื้องหน้า เมื่อรัสเซียเปลี่ยนผ่าน .. ครั้งนานมา มี-เข่นฆ่าล่มล้าง .. ชีพวางวาย O ในเรื่องราวบันทึกเมื่อนึกย้อน คือช่วงตอน .. สังคมเก่า-ล่มสลาย ศักดินาถอดทิ้ง .. ชีพหญิงชาย- ถูกเข่นฆ่าล้มตาย ที่ปลายวัน O ครั้งเป็นหน่อราชนั้น .. เคยผ่านข้าม- มาเยี่ยมเยือนเมืองสยาม, ในยามนั่น- ไทย-รัสเซียก้าวล้ำ .. ผูกสัมพันธ์ ผ่านสององค์ราชันย์ .. แต่นั้นมา O ด้วยไม่อาจปรับตนให้พ้นผ่าน เมื่อช่วงกาล .. สืบเนื่องไปเบื้องหน้า กรอบความคิดยุดยื้อ .. เยี่ยงขื่อคา กระชากขา .. ครอบคิดให้ติดกรง O ความเสื่อมแห่งอำนาจจึงพาดผ่าน เมื่อสังขารในจิตแผ่พิษสง มองว่าตนเยี่ยงหลักที่จักคง- อยู่ดำรงคู่โลกยากโยกคลอน O ไม่รับรู้รับฟังใครทั้งสิ้น ว่าแผ่นดินทุกข์เข็ญเกินเร้นซ่อน ผู้ลำบากตรากตรำ .. เคยพร่ำวอน- บัดนี้ – ค้อน, เคียว พร้อม – มาล้อมวัง ! O ที่สุด .. ความขื่นขมระงมศัพท์ ก็โหมแรงลงทับเพื่อดับหวัง ที่สุดแห่งอารมณ์ระทม .. ดัง ใดเล่าอาจหยุดยั้ง .. การพังทลาย ! O แล้วอารมณ์แรงโกรธก็โลดเหลิง- เป็นเปลวเพลิงลามล่วงขึ้นช่วงฉาย แผดเผา .. พฤติ, วาทกรรมแห่งน้ำลาย, ความบิดเบือนทั้งหลาย .. ที่ปลายวัน O พ่อแม่ลูก .. วงศ์กษัตริย์ .. เพียงหยัดร่าง เสียงปืนกลางห้องสลัว .. ก็รัวลั่น พร้อมเลือดสาด .. ร่างทรุด .. ลมหยุด .. พลัน- ที่ศักดินา .. ชนชั้น .. ล่ม – อันตรธาน ! O แล้ว .. สุดท้ายศักดิ์ศรีแห่งชีวิต- ก็ถูกปลิดร่วงลงสู่สงสาร อาจเหลือเพียง .. ความ, คำ .. เป็นตำนาน ให้กล่าวขานถึงบ้างในบางครั้ง O หากยอมรับปรับปรุง .. ก่อนยุ่งเหยิง คาวเลือดเจิ่งเนืองนอง .. ฤๅต้องหลั่ง ? เมื่ออัตตาปรุงตอบ .. ความชอบชัง- จึงย่อมฝังลงจิต .. จนติดตาย O ด้วยอำนาจจากไหน .. จึงได้สิทธิ์- ให้ชีวิตอื่นพยุง .. ความมุ่งหมาย ? กระนั้นสิทธิ์เดียวกันในบั้นปลาย- ไย .. ถูกเหนี่ยวทำลายจนวายวาง ? O ครั้งนั้นรูปโสภิตเจ้าคิดนึก ว่า-ตื้นลึกเรื่องราวที่กล่าวอ้าง มักเผยความจริงแท้ลงแผ่กาง เมื่ออำนาจขัดขวาง .. ถูกล้าง .. ลบ O เมื่ออำนาจคลุมแดน .. อย่างแน่นหนา แรงศรัทธาเชิดชู .. สุดรู้กลบ เสียงยกยอชื่นชมคอยสมทบ ย่อมตระหลบล้อมถิ่นทั้งดินแดน O กระทั่งเสียงทุกข์ทนของคนยาก เริ่มผ่านปากเงียบเฉย .. ที่เงยแหงน- ร่วมกับปวงภพชาติผู้ขาดแคลน- จากหมื่นแสนเป็นล้าน .. เหยียบผ่านเมือง O เสียงไพเราะดึงดีด .. สังคีตขับ ก็ล่มลับบริบท .. ถูกปลดเปลื้อง- ด้วยเสียงปืนแผดหนุน .. ความขุ่นเคือง- ของเชื่อเชื่อง .. ทั้งปวงกลางช่วงยาม O ทั้งน้ำตา .. หยาดเลือด .. ยากเหือดสาย เมื่อความตายเร่งรุด .. เกินหยุด-ห้าม กายยากแค้น, จิตทุกข์ .. ย่อมลุกลาม- เป็นไฟความโกรธแค้น .. ลวก - แผ่นดิน ! O เสียงไพเราะดึงดีด .. สังคีตกล่อม- ก็ล่มพร้อมทุรยศจนหมดสิ้น ลับล่มถ้วนราศี .. แห่งชีวิน- ด้วยเลือดรินหลั่งหยด .. จน – หมดตัว ! . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . O ภาพนั้น – พ่อแม่ลูกที่ถูกคุม แววประหวั่นกลัดกลุ้ม .. เร้ารุมทั่ว ราศีสรวงร่วงหล่น, ความหม่นมัว- ก็เกลือกกลั้วหัวใจและนัยน์ตา O ภาพปืน-ในมือแกล้วเข้าแถวยิง กระสุนวิ่งวาบเป็น-การเข่นฆ่า ร่างทรุด, เลือดวงศ์ราช-ก็สาดทา- ทั้งพื้น, ฝา, ฝ้าผนัง .. แต่ครั้งนั้น ! . . . หัวข้อ: Re: O โคลงฉันท์กาพย์กลอน .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 27 ตุลาคม 2018, 06:46:PM ๖. โลกที่ถูกฆาตกรควบคุม .. (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1500175771.jpg) O บ้านเมืองในเบื้องหน้า .. เผย - ปรากฏ พร้อม -โวหารภาพพจน์ .. เผยบทให้- สบ .. รับรู้ .. รับทราบ .. พร้อมคราบไคล- ของเลศนัยเสแสร้ง .. สำแดง-ปน O ภาพผู้คนเรือนแสน .. เนืองแน่น .. พร้อม- ชุดเขียว, ปืนตั้งป้อม .. รายล้อมถนน ตรงยกพื้นเวที .. ย่อมมีคน- พูดแจกแจงเหตุผลให้คนฟัง O พอภาพเปลวไฟแปลบ .. นั้นแลบรัว, ควันขุ่นมัวล้อมถิ่น .. ก็สิ้นหวัง สองข้างที่ริมถนน .. ชีพป่นพัง พร้อมแววตาชิงชัง ก็ปลั่งเรือง O คำบรรยายเรื่องราว .. ข้อข่าวแจง- ว่า-อำนาจแอบแฝงปั้นแต่งเรื่อง วาทกรรมกล่อมเขลา .. ฤๅ-เปล่าเปลือง หากต่อเนื่องกล่อมมัน .. ทุกวันไป O คำบรรยายพร้อมภาพ .. ทุกภาพนั้น เพรียกสำนึกพร้อมกัน .. ร่วมฝันใฝ่ กับแนวทางเหตุผล, เพื่อคนไทย- จักเป็นใหญ่ในถิ่นแผ่นดินตน O การชุมนุมเยี่ยงไร .. จึงใหญ่ยิ่ง พาชายหญิงรวมตัวอยู่ทั่วถนน ความตื่นตาตื่นใจก็ไหววน- ทั้งสับสนอลเวง .. ยามเพ่งพิศ O ภาพชายร่างผอมเกร็ง-เสียงเปล่งร้อง สองมือกำไม้พลอง .. ยก-ป้องสิทธิ์ รอฟาดสู้ดินปืน .. ขัดขืนฤทธิ์- ด้วยหัวจิตหัวใจ ที่ไม่กลัว ! O เมื่อร่ำเรียน .. รับรู้ .. ย่อมรู้ว่า เดช, ศักดาเคยข่มให้ก้มหัว ต้องแรงมือโยกสั่น .. ย่อมสั่นรัว เสพรับการเย้ยยั่ว .. ในชั่วยาม ! O เมื่อใคร่ครวญ .. ไตร่ตรอง .. ย่อมมองเห็น ความลำเค็ญ, ขื่นขม-สุดข่มข้าม จากศักดาฤทธิ์เดชครองเขตคาม ปวง-ชั่วร้ายเลวทราม .. ฤๅข้ามพ้น ? O คนถือหอกถือดาบเคยฉาบฉุด- เอาคมกุดชีพอรินทร์จนสิ้น .. ป่น มาบัดนี้ .. ปืนถือในมือพล- รอคำรนเสียงลั่น .. ฆ่ากันเอง ! O เป็นเพียงแกล้วเชี่ยวชาญในการฆ่า กลับถูกบ้าบอดงำ .. จนคร่ำเคร่ง- กับยศศักดิ์, อำนาจ ไม่หวาดเกรง- การพิศเพ่ง-จากชนชั้น .. ใช้ปัญญา O จมปลักกับนักรบ .. ที่ครบเครื่อง- การโกงกินทุกเรื่องที่เบื้องหน้า เพื่อสังคมผู้ดีได้ตีตรา- รสนิยมสูงค่า – เมียหาซื้อ ! O โอ .. วิญญาณนักรบบนภพพื้น โอบกอดปืน ให้เห็น - แล้วเซ็นชื่อ- อนุมัติโครงการ, เงินผ่านมือ- แย่ง, ยุดยื้อ, เม้ม, ครอง-เป็นของตน O สะสมเงินแฝงฝากจนมากยิ่ง กระทั่งหยิ่งจองหองทำพองขน ลืมกำพืดเงินเดือน – ว่าเปื้อนปน- กับเงินทองฉ้อฉล .. เงินคนไทย ! O บ้านเมืองในเบื้องหน้า .. ยัง - ปรากฏ ถ้อยคำมดเท็จแฝงเลศแต่งให้- ผู้ด้อยการขบคิด .. วางจิตใจ- ลงบนคำปราศรัย .. สาไถยนั้น . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . O จะขับไล่อวดโอ้อันโสมม ต้องเริ่มด้วยถุยถ่ม"คำคม"นั่น "สุภาษิต", "โวหาร" จากวานวัน แต่ล้วนกลั่นความศัพท์ขึ้นรับใช้- O ความเป็นเทพเป็นทิพ .. เพื่อหยิบยื่น- เอาความตื้นเขินกั้น ความฝันใฝ่ เอาความมดเท็จปั้นความจัญไร เหยียบยืนบนหัวใจ ผู้ใฝ่ยอม ! . . . หัวข้อ: Re: O โคลงฉันท์กาพย์กลอน .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 28 ตุลาคม 2018, 08:01:AM ๗. ม้าใช้ที่ตายก่อน .. (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1500178407.jpg) O แล้วเลือดที่เดือดชุ่ม เริ่มร้อนรุมดั่งสุมไฟ ดาบกำก้าวย่ำไป วาบคมใส่ร่างไพรินทร์ O คมแทรกชำแรกเนื้อ พร้อมเลือดเรื่อที่หลั่งริน ร่างซบลงกลบดิน และชีวินก็สิ้นลม O ย่ำเหยียบเข้าเปรียบมือ ดาบวาดหวือบันลือคม ชีพยับลงทับถม ให้รู้ขมให้รู้เค็ม O ว่ามือเมื่อถือดาบ เลือดจักซาบและอาบเต็ม- หน้าคนให้ทนเล็ม ว่าแดงเข้มนั้นเค็มขม O ย่ำเหยียบเข้าเหยียบชีพ ให้จมลีบใต้ดาบคม เหยียบหน้าให้สาสม กับขื่นขมอันยาวนาน O กู-มากับอารมณ์ หมายขับข่มเข้าล่มลาญ ใจคอเฝ้ารอผลาญ- มึง-พวกม่าน .. นับนานคอย O กู-มาพร้อมคมดาบ เพื่อกำราบให้สิ้นรอย ดาบเถือก็เพื่อสอย- ชีพลิ่วลอยลงกลบดิน O เลือดคาวมึงคาวเหลือ ดาบกูเถือก็หลั่งริน ร่วงรายดุจลายศิลป์ รับชีวินที่ร่วงตาม O อัดแน่นด้วยแค้นเคือง หวังรอเปลื้องรอปลิดทราม ให้ดาบที่วาบวาม ได้วาบข้ามเข้าบั่นคอ ! O ดาลเดือดเข้าเชือดเนื้อ เลือดแดงเรื่อก็หยาดรอ- ใจผู้ไม่รู้พอ ดาบบั่นคอไม่รอใคร O วันนี้เลือดผีนอง- เนือง .. ทั่วท้องแผ่นดินไทย ดาบวาดป้องชาติไว้ ด้วยหัวใจที่เจ็บจำ O แผ่นน้ำทั้งสามสาย ที่รอบรายจะร่ายรำ บวง-เทพให้เสพ, สัม- ผัส .. ชีพต่ำผู้วางตน O ผืนน้ำทั้งสามสาย จักรำบายความตายบน- ศักดิ์ศรีเสรีชน ให้งามล้นให้งามล้ำ O เจ็บจำเอาเป็นโจทก์ คืนทัณฑ์โทษที่เคยทำ ทุกบทเป็นกฎบำ- รุงชอกช้ำให้ยำเกรง . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . O สิ้นชาติก็ขาดชื่อ เสียงอึงอื้อต้องร้องเอง ภาพพจน์ทั้งบทเพลง มีไว้เปล่งให้นายกอง O ชีพลาญถูกกาลลบ งามครันครบก็ถูกครอง นอนเน่าทั้งเลือดหนอง ที่ปกป้อง .. ย่อมเปล่าเปลือง . . . หัวข้อ: Re: O โคลงฉันท์กาพย์กลอน .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 29 ตุลาคม 2018, 06:54:AM ๘. เสียงเร่งเร้าจาก'ปรมาตมัน' .. (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1500197050.jpg) O ชาติชายะคล้ายจิตะละมุน อรชุนะอาดูร เพ่งผาดก็ญาติกุละประยูร ทุขะพูนพลังเผา O นั่น- องคะภีษมะพระผู้- เฉพาะรู้กรุณเรา ครูโทรณา, สกุละเกา- รพะเหล่าก็ร่วมเชื้อ O หดหู่บ่รู้จะละจะล้าง ทิฐิขวางบ่จุนเจือ- จำนง, ประสงค์รณะจะเพื่อ- ปุระหัสดินทร O ช่วงชี้พิถีพิสัยะชน จะผจญกะม้วยมรณ์ ด้วยเดชะเจตนะสะท้อน อัตะซ้อนผสานเสริม O เพียงเพื่อจะเอื้อจิตะประนัง คุณะตั้งและต่อเติม คือ"ตน"กระวนจิตะกระเหิม ขณะเคลิ้มเพราะเต็มเขลา O มากล้นระคนชิพิตะเพียง นยะเรียงก็แต่"เรา" น้อยนิดจะพิศบทะเฉลา คุณะ"เขา"และช่วยขาน O เพ่งพิศพระกฤษณะก็ตรอง มิตระหมองคระลองมาน ด้วยญาติวงศะจะประหาร ชิวะลาญะแหลกลง O ดาลเหตุเทวษะอรชุน นิระหนุนกะจำนง จึงภาษประกาศสัทะประสง- คะณรงคะด้วยฉล- O -เพียงเพื่อจะเอื้อกะกิจะวัตร ทะนุรัฐะมณฑล หน้าที่พิถีรณะผจญ เฉพาะผละนำพา O จำเข่น บ่ เว้นสกุละวงศ์ เพราะประสงคะกิจจา บันดลพิมลจิตะประชา คุณะค่าจะควรขาน O สมศักดิอัครกษัต- ริยะรัฐจะรำบาญ- ศัตรูและรู้จะบริหาร บริการประชาชน O คือธรรมจะย่ำจะเยาะจะหยัน ทุรพันธุอับจน คือธรรมจะย่ำประทุษะฉล ทุพพละล้างผลาญ O สองทัพกระหยับอัศวะแกล้ว คชะแถวประจัญบาน สังข์กลองเกราะก้องเสนาะผสาน ก็สะท้านสะเทือนแดน . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . O แปรงปาดจะวาดชิพิตะบรร- ลัยะ-กัน บ เกรงแกลน ปากอิ่ม ก็ ยิ้ม, รหัสะแผน- หัตะแล่นระเริงรอ O ศพทับกะศัพท์, มธุระบท พิเราะพจน์ ฤ เพียงพอ- ชู-เชิด .. ประเสริฐคุณะ ณ ม- รณะหนอ จะมากไฉน ? O พร้อมคีตประณีตบทะผสาน อุปการะเกริกไกร แววยิ้มจะปริ่มนยะ ณ นัย- ะนะใคร สิ ใคร่ครวญ ! https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2017&date=11&group=212&gblog=1 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2017&date=11&group=212&gblog=1) |