หัวข้อ: O โคลงสี่สุภาพ O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 05 ตุลาคม 2018, 06:59:AM O เจ้าเอย .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1460442796.jpg) O เย็นเยียบงันเงียบล้วน - - - สูญสลาย เมื่อเริ่มแสงกำจาย - - - จับฟ้า ลบเลือนมืดหม่นกลาย - - - ย้อนกลับ ให้โลกรู้เจิดจ้า - - - จับจ้องรัศมี ฯ O มวลรสมาศไม้แห่ง - - - แดนวสันต์ เหมือนกรุ่นกลิ่นโลมขวัญ - - - ฝากรู้ ให้รื่นรสเขมะพรรณ- - - - ผ่านแนบ ทรวงเฮย ก่อนเนตรปลาบแววชู้ - - - วาบเร้ารุมถวิล ฯ O ค่อยค่อยเผยพักตร์พริ้ม - - - เพรา-พะนอ แข่งเรื่อราศีทอ - - - กระทบ-ไล้ รูป, จักขุ, พรรณลออ - - - ราวแอบ อกแม่ หอมจึ่งอุ่นอกไว้ - - - ระหว่างเช้าเชิญคะนึง ฯ O รูป, จักขุ, กระทบแล้ว - - - เลือนฤา ปรุงแต่งกระโหมฮือ - - - กระหึ่มเร้า รูปใดเล่าที่กระพือ - - - กระเพื่อมอยู่ เห็นแต่รูปนาม-เฝ้า - - - ใฝ่ละห้อยคอยเห็น ฯ O รูปนาม, นันทิ, ตั้ง - - - ต่อผสาน บทเนอ แรกจักขุวิญญาณ - - - ผัสสะ, รู้ เนตรเหลือบสบ, สังขาร - - - ปรุงแต่ง ลอบ, หลบ, สบ, ตอบชู้ - - - ชื่นล้ำคำเฉลย ฯ O ลอบ, เหลือบ, หลบ, สบต้อง - - - แววตา โลมลูบใจ, บัญชา - - - เร่งเชื้อ เร้นเลศเมื่อชม้อยหา - - - เพรียกห่วง ใยแม่ จักขุ, รูปนิ่มเนื้อ - - - นิ่งเชื้อเชิญประชัน ฯ O ลมคงร่ำผ่านคล้าย - - - เสียงครวญ เมื่ออีกใจเฝ้าหวน - - - ห่วงละห้อย สรรพเสียงสุโนกจวน - - - จบโสต เมื่อรูปเนื้ออ่อนน้อย - - - แนบไว้-นิวรณ์, หวัง ฯ O กำแพงใดก่อขึ้น - - - ขัดขวาง จักล่มลับอับปาง - - - ปลาตสิ้น เยื่อใยเหนี่ยวรั้ง, กาง - - - กั้นอยู่ ขวากแค่เพียงกระผีกริ้น - - - อาจรู้กั้นหรือ ฯ O คอยเถิดความห่วง, พ้น - - - พรรณนา จักเร่งโหมฤทธา - - - โอบล้อม เช้าจดค่ำจวบวา- - - - ระนิท ราแล รสรื่นกุสุมาลย์, พร้อม - - - แวดล้อมอาลัย ฯ O แต่นี้-หวง, ห่วงละห้อย - - - จักเห็น เช้าจดสายบ่ายเย็น - - - ยั่ว-ย้ำ ค่ำคืนครุ่นคิดเอ็น- - - - ดูแม่ แลแม่ คอย-รูปพักตร์ล่วงล้ำ - - - อย่ารู้เลือนสลาย ฯ O ย่อมมาดหมายร่นฟ้า - - - มาจบ รั้งเหนี่ยว-วัน, พระลบ - - - ผุดล้อม แผ่นดินแผ่นน้ำตลบ - - - ตะล่อมกัก กุมเนอ สังคีตครวญแผ่วพร้อม - - - ผูกให้-ห่วง, ถวิล ฯ O ถึงแม้นอยู่ต่างฟ้า - - - ต่างฝัน โลกกลับหมุนพลิกผัน - - - ผูกไว้ เยื่อใยทอดรัดพัน - - - ผูกเงื่อน นั้นนา เกินอาจแกะแก้ได้ - - - นับด้วยนิรันดร ฯ O จันทร์เพ็ญลอยเด่นฟ้า - - - ฝ่ายาม เมื่อรูปเนตรน้ำวาม - - - วับเต้น โอภาสแห่งจันทร์งาม- - - - งดอยู่ ด้วยเลศในเนตร-เว้น - - - วาบนั้น, ทำไฉน ฯ O ชื่นเอยแต่เมื่อต้อง - - - แววตา เผยเลศชู้ขจ่างมา - - - มอบไว้ ลอบ, หลบ, สบ, ตอบ, ครา - - - ครั้งหนึ่ง นะแม่ ถ้วนนรกหกฟ้าไซร้ - - - ดั่งสิ้นดับสูญ ฯ O เจ้าเอย, จนดับ, ทิ้ง - - - ทรมาน หรือตราบรอบสังขาร - - - หยุดสร้าง เอกภพจักรพาฬ - - - พาล่ม ลาญแล ไฟนอกโลกแล่นล้าง - - - อาจล้างอาลัย ฯ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=05-2015&date=05&group=5&gblog=53 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=05-2015&date=05&group=5&gblog=53) หัวข้อ: Re: O โคลงสี่สุภาพ O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 05 ตุลาคม 2018, 06:37:PM O ที่ปลายปีกนก .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1488717009.jpg) O ปักษีเสาวเลขล้วน - - - เริงลม เมื่อสุดสิ้นรอบผทม - - - ทั่วหล้า ปลายปีกคลี่เสพสม - - - สางรุ่ง แสงแรก, ผู้ครองฟ้า - - - ส่อง, ร้องระงมเสียง ฯ O หลัง-ปอยผมหล่นล้อม - - - รูปพักตร์ หน้าผากจดนิ้ว, มรรค - - - มุ่งรู้ ธรรมพุทธะจำหลัก - - - ลงจิต โลกบัดนั้น, เหลือผู้ - - - เพ่งรู้, พิมพ์รอย ฯ O รื่นรมย์ด้วยเลศเฝ้า - - - แฝงรอย เหลือบ, หลบ, เนตรปริบปรอย - - - ปลาบ, สะท้อน เผย-รูป, พฤติ- ตาม, ทยอย - - - ยั่วหยอก สุมอกให้รุมร้อน - - - ระหว่างห้วงละห้อยเห็น ฯ O สายลมแผ่วจบริ้ว - - - เรียวขน นกแล เมื่อรูป, พฤติ-อลวน - - - แวดล้อม ปลายปีกนก, ใจคน - - - ไหว, หวั่น- หวั่นว่า-รูป, พฤติ-พร้อม - - - เพรียกให้คอยคะนึง ฯ O ปีกนกโบกเบียดฟ้า - - - ลอยฝูง เมื่อรูปนาม-จับจูง - - - จิตไว้ เนตรลอบเหลือบ, ฟ้าสูง - - - ใสสว่าง ตาสบ, หลบ-สะเทิ้นไซร้ - - - สร่างสิ้นฤาเขษม ฯ O ลำลมโลมลูบริ้ว - - - เรียวขน นกเนอ เมื่อคลี่ปีกบินบน - - - เบียดฟ้า คำนึงนึก, ใจคน - - - ครวญอยู่ ครวญครุ่นคิดแต่หน้า - - - หนึ่งหน้านวลเดียว ฯ O ตาสบ, ตาสื่อให้ - - - หวนคะนึง แก้มอิ่มดั่งคอยรึง - - - รัดไว้ เนตรวามวับทอดถึง - - - ประเทียบบท เรียวปากราวแย้มให้ - - - ห่วงละห้อยพลอยกระเหิม ฯ O ถ้วนสิ้นความผ่องแผ้ว - - - เมื่อเผย หอมกว่าช่อมาลย์เคย - - - ชิดใกล้ ต้องลมร่ำ, รำเพย - - - รส, กลิ่น งามรูป, หอมรส-ให้ - - - ห่วงน้อยหวานหอม ฯ O ปลายปีกบางคว้างลิ่ว - - - ลอยลม เมื่อสบเนตรปลาบคม - - - เหลือบค้อน ปีกนกโบก, อภิรมย์ - - - รออยู่ รอ-ว่าแววเหลือบ-อ้อน - - - ออดให้พะน้าพะนอ ฯ O ชั่วแววตาหลบ, สะเทิ้น, - - - ทรมาน- ย่อมจากเหตุสังขาร - - - บีบเค้น เมื่อ-ตา, รูป, วิญญาณ - - - สัมผัส สบรูป, รูปลอบเร้น - - - แต่งแต้มแววตา ฯ O เมื่อวางชาติภพล้อม, - - - อาลัย- ย่อมเอ่ออาบดวงฤทัย - - - ท่วมท้น ถ้อยคำ, ทุกความนัย - - - คะนึงอยู่ ค่อยเอ่อขึ้นตราบล้น - - - แหล่งห้วงเสน่หา ฯ O ปลายปีกยังโบกโล้ - - - ลมบน เมื่อเนตรวามว่าย-วน - - - ไป่เว้น เนตรเหลือบ, เนตรสบ-สน - - - ธิรูป นามเฮย ก่อรูปนามบีบเค้น - - - บีบคั้น-ครวญคะนึง ฯ O ลมร่ำอยู่ค่ำเช้า, - - - ฉันทา- ก็ก่อแรงปรารถนา - - - เหนี่ยวรั้ง สางรุ่งตราบถึงรา- - - - ตรีมืด ค่ำแม่ ปีกนกโบกทุกครั้ง - - - เปรียบคล้ายแรงถวิล ฯ O จากเหลือบ, หลบ, สบ, ต้อง - - - แววตา จนรับรู้ปรารถนา - - - อ่อนน้อย บัดนี้ท่วมทรมา- - - - ถวิลแม่ แลแม่ ทุกช่วงยามผ่านคล้อย - - - ข่มละห้อยฤาหาย ฯ O ลบเลือนช่วงหม่นไข้ - - - ลำเค็ญ ด้วยรูปลำเพาเพ็ญ - - - เพิก, ล้าง ฟ้าสูง, ปีกนก, เอ็น - - - ดูร่วม ยามเฮย ลายเมฆ, ปีกร่อนคว้าง, - - - นึกหน้า-รอถนอม ฯ O หยัดยืนใต้ขอบฟ้า - - - สีคราม คำกลั่นกรองเป็นความ - - - ฝากไว้ ตราบวันส่องแสงงาม - - - งดอยู่ จักจืดจางร้างได้ - - - แต่ด้วยชีพสูญ ฯ O เหลือบ, หลบ, สบเนตรซึ้ง - - - สื่อนำ เคลื่อนรูป, เคลื่อนนาม, สัม - - - ผัส-รู้ สายใยถักทอ, กำ - - - หนดจิต แลแม่ เกินเคลื่อนคลายสวาดิชู้ - - - แต่รู้-เกินสลาย ฯ O คำ, ความ, กรองกอปรให้ - - - หวาน, หอม เช่นช่อเกสรพะยอม - - - ยั่ว-เย้า คันธารส, ฤาออม - - - อดอยู่ นะแม่ เห็นแต่โรยกลิ่นเร้า - - - รื่น-ล้อมถนอมขวัญ ฯ O กรองคำเอากอปรร้อย - - - รวมพจี ยกภาษ, บวงวาที - - - ทิพไท้ สบ-ถ้อยสื่อ, ไมตรี - - - ตรึงอก แม่เนอ เกินเคลื่อนคลายออกได้ - - - นับด้วยนิรันดร ฯ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=05-2015&date=15&group=5&gblog=55 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=05-2015&date=15&group=5&gblog=55) หัวข้อ: Re: O โคลงสี่สุภาพ O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 14 ตุลาคม 2018, 01:53:PM O กลางสายลมร่ำ .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1457837072.jpg) O กรองคำนำกอปรร้อย - - - รวมพจี ยกภาษ, บวงวาที - - - ทิพไท้ สบ-ถ้อยสื่อ, ไมตรี - - - ตรึงอก แม่เนอ เกินเคลื่อนคลายออกได้ - - - นับด้วยนิรันดร ฯ O เมื่อเห็น, เมื่ออ่านแล้ว - - - ยากเลือน ทุกนึกคิดคอยเตือน - - - ตอบถ้อย ยามห่างยิ่งห่วงเสมือน - - - มนต์เพรียก หาแม่ ถวิลแต่เนื้อความร้อย - - - สื่อรู้อารมณ์ ฯ O สารสยามพากยะพร้อง - - - รำพัน นี้ฤา หมายเพรียกเบญญาสวรรค์ - - - แวดล้อม รูปนาม-นฤมิตบรร - - - เจิดสู่ เพื่อจิตวิญญาณน้อม - - - แนบห้วงเสน่หา ฯ O ลมร่ำ, แดดแรกเช้า - - - เรื่อทอ เสียงนก, รูปนวลลออ - - - แว่ว, ชม้อย อกนี้, รูปนามพะนอ - - - แนบอยู่ จากรูป-จนห่วงละห้อย - - - ห่างด้วยถวิลถึง ฯ O สายลมพรมผ่านไล้ - - - โลมวรรณ นกแผ่วเสียง, กรุ่นคัน- - - - ธะรส-ล้อม คำนึง, รูปนวล, นัน- - - - ทิร่วม กาลนา โอบรูป, เหนี่ยวรูป-น้อม - - - แนบซึ้งตรึงทรวง ฯ O ลมเอยพรมผ่านไล้ - - - โลมองค์ โอบอกใจคอยพะวง - - - วุ่นว้า ทุกนิ่งนึก, จำนง - - - อกอุ่น โอบเนอ เกินหยุดแรงไขว่คว้า - - - อยู่เฝ้าถนอมขวัญ ฯ O ลมเอยพรมผ่านไล้ - - - โลมนวล โอบอกใจเฝ้าครวญ - - - คร่ำชู้ ยามห่าง-นึกแต่หวน - - - หารูป นั้นเนอ ให้นรกหกฟ้ารู้ - - - ห่วงละห้อยคอยเห็น ฯ O ชื่นกลิ่นคันธรสล้อม - - - โลมยาม แต่เมื่อเนตรแฝงความ - - - ฝากย้อน สบ-สื่อกอปรเลศวาม - - - วับอยู่ อกบัดนั้นจึงสะท้อน - - - สั่นด้วยแรงเขษม ฯ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=06-2015&date=19&group=5&gblog=56 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=06-2015&date=19&group=5&gblog=56) หัวข้อ: Re: O โคลงสี่สุภาพ O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 19 ตุลาคม 2018, 06:29:PM O หอมกลิ่นบุปผชาติ .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1421502311.jpg) O พากย์กรองหมายกล่อมให้ - - - ห่วง, ถวิล คอยรสความหลั่งริน - - - รัดล้อม เพื่อโลกแวดล้อมภิน - - - ทนาล่ม สิ้นเฮย เพียงพี่เหลืออยู่พร้อม - - - รักพ้นพรรณนา ฯ O เจ้าเอย-ความออดอ้อน - - - อวลนัย แต่เมื่อความอ่อนไหว - - - แว่ว-รู้ จนโลกแตกดับไป - - - เป็นอื่น หวัง-จิตวิญญาณชู้ - - - อย่ารู้เลือนสลาย ฯ O พิมพ์ดวงเจ้าอ่อนด้อย - - - เดียงสา ตื่น, รับรู้รมยา - - - ยั่วเย้า ทุกข์โลกถูกล่มคา - - - แขขับ แสงแล เสียงคีต, เสียงวอนเว้า - - - แว่ว-สะท้านสะท้อนเสียง ฯ O อาวรณ์ไหวหวั่นชู้ - - - เชยขวัญ เหยียบโลกยอสรวงสวรรค์ - - - หล่นล้อม คีตครวญแผ่ว, แว่วบรร- - - - ลุโสต ครวญแผ่วนั้น-แผ่วพร้อม - - - ผัสสะสร้อยเดียงสา ฯ O เสียงเอยเสียงโอดอื้น - - - เอาทาร เพรียกสิทธิ์รสกุสุมาลย์ - - - มอบให้- ทรงสิทธิ์ครอบวิญญาณ - - - ให้สยบ ยอมเฮย สืบโลกทุกโลกไว้ - - - ยากเว้นวางถวิล ฯ O รูปองค์, ความออดอ้อน - - - อวลสมัย แววตื่นตอบอ่อนไหว - - - วาบเต้น เกสรารูปแฝงใบ - - - หอมกรุ่น นั้นนา ผึ้งภู่อาจ-ละเว้น - - - ยากเว้น .. คือเรียม ฯ O เรณูหอมรื่นล้อ - - - ริ้วลม หอมกว่า, เมื่อปรารมภ์ - - - รูปเจ้า ภู่ผึ้งตฤปหวาน, จม - - - จ่อมอยู่ หวานกว่า, ความวอนเว้า - - - กระซิบไว้ประโลมหวัง ฯ O ลมโรยคันธะรสแต้ม - - - ติดทรวง แล้ว-ย่อมเพียงสุดาดวง - - - เด่นหน้า ตรึงรูปติดใจหวง - - - หาอยู่ ช่วย-ดับดาวทั่วฟ้า - - - ร่วมฟื้นแรงฝัน ฯ O ศัพท์เสียงกระซิบเนื้อ - - - นัยความ นั้น-เปิดโลกคุกคาม - - - บีบเค้น เหนี่ยวใจจดจ่องาม - - - เงียบอยู่ วามทั่วแววตอบเต้น - - - อาจเร้นซ่อนหรือ ฯ O อบอวลคำเอ่ยอ้อน - - - ออดแสดง แผ่วกระซิบความแฝง - - - ฝากชู้ เยี่ยงหวานสุมาลย์แจรง - - - จรดหยาด ผึ้ง, ภู่, คน แต่รู้ - - - หลั่งน้ำใจสนอง ฯ O ปีกบางหรุบปีกล้อม - - - ละอองหวาน ตฤปรสกลางช่อมาลย์ - - - แมกไม้ อกอุ่น-อุ่นเนื้อคราญ - - - ครวญ-กล่อม แตะรูปตฤปรสให้ - - - ห่วงละห้อยคอยหา ฯ O ผาณิตเพรียกภู่น้อม - - - แนบพะนอ เมื่ออีกงามประหนึ่งรอ - - - รับรู้ อุ่นเนื้ออุ่นนวลลออ - - - อิงแอบ เผยรูปร่ำรอชู้ - - - ชิดเนื้อนวล .. ถนอม ฯ O หอมกรุ่นกลีบดอกเชื้อ - - - เชิญภมร แต่เมื่อเสียงเว้าวอน - - - แผ่ว-กระชั้น แยกฤา-สุมาลย์, สมร - - - หอม-อุ่น เสียง, อุ่น, หอม-ยามนั้น - - - ประณีตล้ำคำแถลง ฯ O แล้วเล่าหลังตฤปรู้- - - รสสุคนธ์ เบิกบทความอลวน - - - ว่อนล้อม แล้วเล่าจากอนุสน- - - - ธิรูป เพรียกจิตวิญญาณพร้อม - - - ปลีกพ้นนิพพิทา ฯ O แผ่วพลิ้วลมผ่านไล้ - - - โลมผกา ระริกรูปปีกภุมรา - - - ร่อนล้อม แผ่วเสียงออด, เพรียกนา - - - สิกรับ รสแม่ รับรสแห่งรูป, น้อม - - - แนบไว้รองถวิล ฯ O ศัพท์เสียงกระซิบอ้อน - - - อบอวล เหนี่ยวจิตวิญญาณครวญ - - - คร่ำชู้ เกสรรูปหอม, หวน - - - หาภู่ นั้นเนอ ผาณิตมาลย์ย่อมรู้ - - - เหนี่ยวรั้งรอยภิรมย์ ฯ O คันธรูปแย้มกลีบเชื้อ - - - เชิญภมร ลมแผ่วลูบเกสร - - - สั่นพลิ้ว ฉันทารูปเตรียบกร - - - กอดเกี่ยว ซ่านแผ่วเป็นริ้วริ้ว - - - รูป, เนื้อ-รอถนอม ฯ O กลีบช่อคันธรสช้อย - - - รอเชย พลิ้วผ่านลมรำเพย - - - แผ่วฟุ้ง เรียวรูปอ่อนเนื้อ, เกย - - - ก่ายอยู่ รอเหยียดก้าวเหยียบรุ้ง - - - รอบคุ้งขอบขันธ์ ฯ O แอบ-อุ่นนวลอ่อนน้อย - - - นงพะงา พิมพ์รูปรสตฤษณา - - - เหนี่ยวรั้ง- ให้โลกล่มลับคา - - - เสียงคร่ำ ครวญเนอ อย่างแผ่วเบาซ้ำครั้ง - - - ข่มละห้อยฤๅหาย ฯ O หอมเอยกลางแห่งห้วง - - - เสน่หา กลบรูปรสกุสุมา - - - มอดเชื้อ อวลกลิ่นกล่อมถึงนา- - - - สิก-รูป ให้รับรอง, โอบเอื้อ - - - อุ่นเนื้อนวลนิรันดร์ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=01-2013&date=06&group=5&gblog=42 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=01-2013&date=06&group=5&gblog=42) หัวข้อ: Re: O โคลงสี่สุภาพ O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 17 พฤศจิกายน 2018, 07:30:PM O สังสาระกระแส .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1501589042.jpg) O เบญจางค์ประดิษฐ์น้อม - - - นอบกร นบดิลกชิเนนทร - - - อธิกไท้ คุณพระยิ่งอาภรณ์ - - - พาดห่ม- คลุมทั่วตรีภพไว้ - - - ระหว่างถ้อยธรรมกถา ๚ะ๛ O กอปรประนมนัขน้อม - - - บังคัล คุณพระไตรปิฎกธรร- - - - มุตม์แม้น- สายธารอมฤตบรร- - - - โลมอาบ- โซมซาบจิตทั่วแคว้น - - - ใฝ่เฝ้าเสาะแสวง ๚ะ๛ O นบบาทสาวกเชื้อ - - - ชินวงศ์ ถ้วนหมู่สมมุติสงฆ์ - - - สืบไว้- ซึ่งองค์มรรค, ธำรง - - - หลักสัจจ์ แท้นา เผยแผ่พุทธธรรมให้ - - - ถูกถ้วนกระบวนความ ๚ะ๛ O นบผู้กำเนิดเอื้อ - - - อาตมา คุณยิ่งคุณใดหา - - - เทียบได้ อาจารย์อุปัชฌาย์ - - - ถ้วนหมู่ คุณท่านก่อเค้าให้ - - - ห่วงรู้รอยธรรม ๚ะ๛ O เรืองเรืองไตรรัตน์พ้น - - - พันแสง ควรแต่พระธรรมแสดง - - - ค่ำเช้า กลับเป็นธูปเทียนแฝง - - - ฝากโลก- ให้จิตคอยใฝ่เฝ้า - - - เก็บสร้างสั่งสม ๚ะ๛ O โบสถ์ระเบียงมรฑปพื้น - - - ไพหาร งามวิจิตรพิสดาร - - - ยิ่งแล้ว ช่อฟ้ายอดเฟื้อยปาน - - - พุ่งฝ่า พรหมฤๅ ทองปิดองค์พระแผ้ว - - - ผ่องเนื้อธรรมไฉน ๚ะ๛ O กบสองมือก้มกราบ - - - องค์พระ จิตเพ่งตั้งฉันทะ - - - เอ่ยถ้อย ยศศักดิ์ทรัพย์ฐานะ - - - นึกอยู่ เอาต่อรองเชื่อมร้อย - - - ร่มเนื้อนาบุญ ๚ะ๛ O ทำบุญหวังสู่เบื้อง - - - บนสรวง ควันธูปเปลวเทียนบวง- - - - บอกฟ้า ปิดทองรูปพระทวง - - - บุญท่าน แล้วแฮ สุข-รื่นรมย์ทั้งหล้า - - - แวดล้อมเถิดหรือ ๚ะ๛ O ไหว้พระมือผ่านล้อม - - - ลูบผม ใจรื่นด้วยเรื่องสม- - - - มุติสร้าง มิจฉาฝ่าอารมณ์ - - - รุดเร่ง พาจิตลอยเคว้งคว้าง - - - ระหว่างถ้อยเดียรถีย์ ๚ะ๛ O ภาพการจำพรากพ้น - - - เวียงวัง ค่อยแจ่มชัดขึ้นประนัง - - - ชุลิตน้อม พรหมจรรย์ย่อมเพื่อฝัง - - - ฝ่ายโลก ล่วงแล โลกที่กายจิตพร้อม - - - ผ่านรู้, ปรารมภ์ ๚ะ๛ O รูปองค์ที่ใต้ร่ม - - - โพธิ์พฤกษ์ ในคาบยามค่ำดึก - - - สงัดล้อม ดวงจิตใคร่ครวญตรึก- - - - ตรองโลก ตราบจิตแจ้งถ้วน, พร้อม - - - วิโมกข์แย้มเยือนสมัย ๚ะ๛ O ที่โคนโพธิ์ร่มครึ้ม, - - - ครวญความ พร้อมรูปจันทร์เพ็ญวาม - - - วาบแจ้ง คือภาพพุทธะในยาม - - - สยบโลก อวิชชา, สังขาร, แล้ง - - - ลบสิ้นปลาตสูญ ๚ะ๛ O ดินฟ้าสาคเรศล้วน - - - บันลือ เมื่อพุทธธรรมกรรพือ - - - พากย์พร้อง ยื้อยุดฉุดยึดถือ - - - ทอนถ่าย ผ่านสัจจะโลมต้อง - - - แต่งแต้มบัวตม ๚ะ๛ O โลก, เหตุแห่งโลก, ทั้ง- - - - ความดับ โลกแล อีกเที่ยวทางสำหรับ - - - ดับนั้น คือแก่นหลักให้จับ - - - จูงผ่าน โลกแล โลกที่คอยบีบคั้น - - - จิตให้ - ละห้อยหา ๚ะ๛ O ยี่สิบห้าศตวรรษพ้น - - - ผ่านยุค แม้น-แว่วเสียงคอยปลุก - - - ปลอบไห้ หากเสียงโศกซมทุกข์- - - - ทนกลบ สิ้นฤๅ พร้อมจิตหลงกราบไหว้ - - - รูปปั้นดินเผา ๚ะ๛ O ยี่สิบห้าศตวรรษพ้น - - - ผ่านยาม เหลือมดเท็จให้ตาม - - - ตรึกรู้ พฤติมิจฉาลาม - - - ท่วมโลก แต่เมื่อบัวต่ำคู้ - - - ยอดโค้งเกลือกตม ๚ะ๛ O สอบด้วยไตรลักษณ์ให้ - - - เห็นแล อนิจจัง-คือโลกแปร - - - เปลี่ยนได้ ทุกขัง-วกเวียนกระแส - - - เกิดดับ อนัตตา-ย่อมว่าง, ไร้ - - - รูป-ทั้งนามธรรม ๚ะ๛ O ไตรภูมิ, ยกอรรถเลี้ยว - - - พาหลง สืบทอดหลักพราหมณ์ลง - - - ระหว่างถ้อย น้ำลึกยากหยั่งลง- - - - สุดลึก นั่นแล ตื้นกว่ามากกว่า, น้อย - - - กว่า-ร้อยรูเข็ม ๚ะ๛ O ดวงมาน, พวงมาศ, น้อม - - - นำคะนึง ธรรมพระเมื่อแจ้งถึง - - - แก่นถ้อย มรรคาฝ่านรก, จึง - - - แจ้งแก่ จิตแล ชาติภพหยุดเชื่อมร้อย - - - ดับเชื้ออวิชชา ๚ะ๛ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=08-2017&date=01&group=5&gblog=65 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=08-2017&date=01&group=5&gblog=65) หัวข้อ: Re: O โคลงสี่สุภาพ O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 25 พฤศจิกายน 2018, 07:12:PM O ลิลิต..ศรัทธาธรรม O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1497877072.jpg) ร่าย O ศรีสวัสดิเดชะ - - - ยอธรรมะบรรยาย ยกความหมายขึ้นตรอง - - - ในครรลองเหตุผล หวังทุพพลสบภาษ - - - พ้นจากทาสมิจฉา ดั่งชนกาลามะ - - - หมายสัททะเป็นฐาน สืบสันดานกล่าวอ้าง - - - เพื่อสืบสร้างทางชอบ พระจึงตอบจึงตั้ง - - - สิบทางรั้งลุ่มหลง เพื่อธำรงพรหมจรรย์ - - - กล่อมเกลาขวัญนับนาน ชั่วกัปกาลโลกนี้ - - - คอยช่วงชี้โลกหน้า ล่มบอดบ้าหลงผิด - - - เพื่อสอบจิตสอบใจ บ่งความนัยแห่งพุทธ - - - หวังฉวยฉุดงมงาย ทุบทำลายโฉดเชื้อ - - - ดลเนตรนั้นก่อเกื้อ ตรึกรู้แก่นธรรม - - - ท่านนา ๔ O ครวญคิดตอนก้มกราบ - - - องค์พระ เป็นห่วงธรรมสัจจะ - - - จักสิ้น จากนัยแห่งพุทธะ - - - ที่บิด เบือนนา สืบทอดมาแหว่งหวิ้น - - - ยากรู้แท้เทียม ฯ O บูชิตบูชนียะผู้ - - - พ้นผลาญ ยกอรรถบุพาจารย์ - - - จับปลิ้น ให้เห็นเลศแทรกลาญ - - - หลักพุทธ จนผิดความหมายสิ้น - - - สู่รู้รจนา ฯ O พระเปรียบธรรมดั่งไม้ - - - มวลพนา เพียงหยิบมือนำมา - - - มอบให้ แต่ส่วนโทษทุกขา - - - ควรกร่อน จำแนกเหตุผลไว้ - - - ครบถ้วนกระบวนความ ฯ O อรรถะสัททะทั้ง - - - ศรัทธา สิ้นเนอ แทรกส่วนของอัตตา - - - แต่งแต้ม ตามภูมิแห่งปัญญา - - - ตั้งอยู่ ถ้อยยกบรรยายแย้ม - - - จึ่งเพี้ยนแผกผัน ฯ O สืบเสียงพระพุทธผู้ - - - เหนือพรหม ช่วยปราชญ์รับปรารมภ์ - - - ร่วมชี้ ให้เห็นแง่เงื่อนปม - - - จุดเปลี่ยน แทรกอยู่ในธรรมนี้ - - - แน่นแฟ้นเหลือฝืน ฯ O ธรรมใดอุบัติตั้ง - - - แต่เหตุ พระตรัสธรรมแจงเลศ - - - เริ่มต้น ตรัสความดับฤทธิเดช - - - โดยขจ่าง ตรัสมรรคาฝ่าพ้น - - - พิษร้อนผ่อนสลาย ฯ O กรรมพราหมณ์บังพุทธแย้ม - - - บรรยาย วงวัฏฏ์มิอาจสลาย - - - สลัดพ้น วนรอบเกิดแก่ตาย - - - ว่าหนึ่ง เดียวเวย ชีพหยุดวิญญาณด้น - - - แหวกฟ้าหาภูมิ ฯ O กรรมเก่าคงยากย้อน - - - ยล-ยิน พ่อเอย ยากผ่านสภาพอจิน- - - - ตยะได้ เชื่อหรือภาษวศิน - - - อวดวิเศษ ล้วนมิจฉาแทรกไว้ - - - หว่างถ้อยเดียรถีย์ ฯ O หมกมุ่นสิ่งยากรู้ - - - รุงรัง ใจเอย แปรเปลี่ยนเป็นอนิจจัง - - - บอกแจ้ง เกิดโตแก่ตายฝัง - - - ร่างฝาก ดินนา รูปดับจิตเลือนแล้ง - - - ละร้างสัญญาสลาย ฯ O เสียงเพรียกเสียงพร่ำพร้อง - - - พะนอบุญ เสียงย่อมอ่อนหวานละมุน - - - ละเมียดแจ้ว เหนี่ยวสรวงแนบพิรุณ - - - ร่วมหยาด ทิพกระพริบพร่างแพร้ว - - - ผ่านให้ใจเห็น ฯ O ตู้บุญตู้บาปตั้ง - - - ตำตา รอหมู่ผู้ละลา - - - กิเลศใช้ หลุมขวากหล่มศรัทธา - - - ทวยเหล่า สร้างวัตถุขวางไว้ - - - หว่างถ้อยรอยธรรม ฯ O อิ่มอกใจคลับคล้าย - - - ลอยโพยม บาปล่มบุญหล่อโสม- - - - ะนัสแผ้ว หวังตัดอัตตาโซรม - - - ลดเสพ ตรองเนอ หรือมุ่งภพพร่างแพร้ว - - - ภาคหน้าดังไฉน ฯ O เมื่อเอาอนัตตลักษณ์ตั้ง - - - เทียบตน แต่เกิดวิวัฒน์วน - - - ว่าง-สร้าง รูปจิตเปลี่ยนแปรจน - - - ผิดแผก ใครเล่าอาจเอ่ยอ้าง - - - ชีพนั้นนิรันดร์สมัย ฯ O อารามอร่ามเรื้อง - - - องค์พระ กรรมพิธีวาทะ - - - ท่วมท้น สนทนาวิสาสะ - - - เสนาะอยู่ พ่อเอย ตาบอดคลำช้างด้น - - - ดุ่มหน้าสาธยาย ฯ O สมณะศักดิ์เสนาะล้ำ - - - เลิศนาม ท่านเอย สมเด็จพรหมเทพตาม - - - แต่ตั้ง เหนี่ยวโลกกอดแน่นหวาม - - - หวิวอก ใครเล่าอาจหยุดยั้ง - - - ศักดิ์ย้อมพรหมจรรย์ ฯ O พระจอมคนละแล้ว - - - บัลลังก์ เกียรติศักดิ์พระฝากฝัง - - - สู่พื้น ก่อนจำพรากจากวัง - - - วงศ์ราช เพียงจะพลิกหทัยฟื้น - - - ฝ่าห้วงสงสาร ฯ O ลูกชาวบ้านยากแค้น - - - ขัดสน บวชพระปฏิบัติตน - - - ต่อ-สร้าง อามิสอาบห้วงกมล - - - กระมิด- กระเมี้ยนเนอ เรือนอยู่ไม่ว่างร้าง - - - วิจิตรล้ำปรนเปรอ ฯ O น้อมมโนมนัสผู้ - - - จอมภพ ภาษพระผ่านมารสบ - - - สยบสิ้น ต้นกลางจวบปลายครบ - - - ความบอก หลั่งล่มใจเดือดดิ้น - - - กร่อนร้อนทารุณ ฯ ๒ O สืบสัจจ์หนุนโลกนี้ - - - สาปส่งมดเท็จชี้ ก่อนกี้สำแดง O วิชชาแหว่งสิ้นแล้ว - - - แต่มิจฉาเจื้อยแจ้ว เผือดแผ้วทางเพียร O มรรคาเธียรมุ่งพ้น - - - ตาบอดคลำช้างด้น ท่วมท้นศรัทธา O บ่งโลกหน้าโลกนู้น - - - ไกลห่างด้านก่อนพู้น ผ่องหน้าสาธยาย ๓ O โลกในกายวกเวียน - - - แลพากเพียรบีบคั้น จักกร่อนเกรียนกีดกั้น - - - หั่นห้ำฤๅหาย O เสพรูปหมายงดงาม - - - ด้วยตาตามจับจ้อง เสพส่ำเสียงโสตพ้อง - - - เพราะพร้องฤๅเลือน O หอมเอยเตือนนาสิก - - - ฤๅจักพลิกหักห้อม สัมผัสนุ่มเนื้อพร้อม - - - อุ่นอ้อมอกเอย O หวานชิดเชยสุขสม - - - ทุกปรารมภ์ไขว่คว้า หมายเสพใจห่อนล้า - - - วุ่นว้าวนเวียน O เรื่องราวเพียรคิดย้อน - - - รำลึกตอนโกรธยิ้ม ใจตื่นตาหลับพริ้ม - - - เสพลิ้มอาการ ๔ O เพียงเพื่อตัดทุกข์สิ้น - - - สูญสลาย ใช่เพื่ออัตตาขยาย - - - ขยับตั้ง ศักดิ์สิทธิ์ที่มากมาย - - - มอมโลก ล่อหลอกเขลาเหนี่ยวรั้ง - - - จิตให้หฤหรรษ์ ฯ O บัวบานดอกล่อล้อ - - - ภุมริน หอมอบหวานเวียนถวิล - - - ว่อนล้อม ใจเอยแต่เมื่อจิน- - - - ตนาส่าย ซัดเนอ ฤๅต่างภู่ผึ้งน้อม - - - นอบสร้อยเกสรา ฯ O โอ - ภาพโอภาสพ้น - - - พันแสง พจน์พร่ำพระธรรมแสดง - - - รอบรู้ ลิ่มลมระดมแถลง - - - ไหลหลั่ง ผุดพลุ่งเข้ากอบกู้ - - - เหล่าผู้กิเลศเผา ฯ O สอนสั่ง..ให้มอดม้วย - - - อาตมา มุ่งบั่นวิจิกิจฉา - - - อื่นผู้ ดำรงมั่นคงสภา- - - - วะปราชญ์ ทุกคำตอบรอบรู้ - - - เร่าร้อนสื่อสาร ฯ O ไวพจน์ธรรมท่วมทั้ง - - - ธานี ยึดจับพุทธวิถี - - - ท่องก้อง สอดแทรกพระบาลี - - - ประโลมอก โอ..เผ่านกผกร้อง - - - แซ่ซ้องยุคสมัย ฯ O ธรรมภาษล้วนเพริดแพร้ว - - - พิสดาร ถ้อยถกก็โอฬาร - - - ลึกล้ำ ปุชฉาวิสัชนาการ - - - ซึ้งกล่าว โอ้..เยือกเย็นเปรียบน้ำ - - - ย่อมน้ำลายสนอง ฯ O ว่า..กาลามสูตรตั้ง - - - เป็นทิศ ไย..บุพกรรมนิรมิต - - - หมดสิ้น เห็น..บุญบาปวิปริต - - - รับส่ง ได้ฤๅ ตาทิพย์หรือปากปลิ้น - - - เป่าฟุ้งจรุงขวัญ ฯ O ธรรม..เกิดแต่เหตุต้น - - - ควรตรอง เหตุส่งผลรับสนอง - - - แน่แท้ ความดับเหตุควรปอง - - - ปรับเปลี่ยน ทางแห่งความดับแล้ - - - ผ่านแล้วทุกข์สลาย ฯ O เขาว่า..ย่อมว่าได้ - - - ดังคิด ยินสื่อสำรวมจิต - - - จากถ้อย เหตุ/ผลสอบเบือนบิด - - - บอกเลศ นัยเฮย รั้งเหนี่ยวใจสักน้อย - - - นั่นแล้พุทธวิถี ฯ O ไกลพู้นแต่ก่อนสร้าง - - - สังขาร ใครเล่ามีจักขุทวาร - - - วกย้อน อภิญญาหกบรรสาร - - - เสียง-ภาพ หรือไร ฤๅวิชช์สามเหลื่อมซ้อน - - - ภพพู้นจึงเผย ฯ O พระผู้มีพระภาคเจ้า - - - จอมคน พระสั่งสอนทุพพล - - - หยุดสร้าง เหตุแห่งอัตตาตน - - - ตามตัด กรรทบผลป่นมล้าง - - - ลบสิ้นเลือนสูญ ฯ O สับสนจากสู่รู้ - - - รจนา ไตรเพทพราหมณ์นำมา - - - แทรกซ้อน ไม่แยกแยะศึกษา - - - ตรองอรรถ เฝ้าท่องถกยกย้อน - - - เยี่ยงนั้นมันหลง ฯ O สองกึ่งสหัสวรรษพ้น - - - พุทธกาล แทรกส่วนอรรถาจารย์ - - - จาบจ้วง ตู่ด้วยพละการณ์ - - - เองกล่าว เมื่อขาดการทักท้วง - - - เท่าแย้มมิจฉาสมัย ฯ O หากกรรมเก่าก่อเกื้อ - - - บงการ เหตุอยู่ภพก่อนวาร - - - วิ่งแก้ สู่เหตุล่วงภพ-อฐาน - - - จักเกิด ได้นา ฤๅชาติภพที่แท้ - - - แค่ห้วงอึดใจ ฯ O ไม่มีตาทิพย์ให้ - - - เห็นกาล ก่อนเวย ฟัง-อ่านคำจดจาร - - - จับอ้าง กาลามสูตรหรือลาญ - - - เลือนลับ แล้วพ่อ จึงเชื่อไม่คัดง้าง - - - แง่เนื้อความหมาย ฯ O ต้นทุนอริยะคล้าย - - - คมคิด ครวญใคร่"ความ"ตามติด - - - เหตุตั้ง มองผลลัพท์เป็นทิศ - - - ตรวจสอบ สุข-ทุกข์ทุกคราวครั้ง - - - หยุดได้ฉันใด ฯ O ไกลห่างด้านก่อนพู้น - - - ฤๅพาน ไกลห่างด้านหน้า-อฐาน - - - จักรู้ มีแต่ปัจจุบันทวาร - - - เวียนเสพ กามแฮ กับหนึ่งวิญญาณผู้ - - - พ่าย-พ้นโลกวิสัย ฯ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=09-2006&date=15&group=5&gblog=21 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=09-2006&date=15&group=5&gblog=21) หัวข้อ: Re: O โคลงสี่สุภาพ O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 06 มกราคม 2019, 08:32:AM O ถ้อยคำ..ที่ลำปางหลวง...O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1313297200.jpg) O แรกเช้ามาลย์ช้อยกลีบ - - - ก้านรอ- รับแดดอ่อนทอดทอ - - - กระทบไล้ เมื่อลมรื่นแอบออ- - - - โอบผ่าน งามย่อมงามอยู่ได้ - - - แต่ด้วยใจเกษม ฯ O มาลีอวลกลิ่นเชื้อ- - - - เชิญภมร จนกระพือปีกสลอน - - - สลับสล้าง หมายเสพรสเกสร - - - หวานสุด เกินจะร่ำลาร้าง - - - รสน้ำหอม-หวาน ฯ O อำไพโอภาสเรื้อง - - - รอยสูรย์ ยอโลกรับจำรูญ - - - แรกเช้า ข่มหมองหม่นอาดูร - - - ดับมอด เชื้อแฮ เหลือรื่นรมย์รุมเร้า - - - ร่วมคล้อยเคลื่อนสมัย ฯ O ยามสายสุริยะแปล้ - - - ปลาบสรวง พระธาตุลำปางหลวง - - - เหลื่อมสะท้อน ถ้อยคำเทียบความบวง- - - - บอกทิพ เทพนา ขอทุกคำ-ความย้อน - - - แทรกย้อมใจขวัญ ฯ O กบมือกุมมาศน้อม - - - วันทนา นิ่งนึกขอเมตตา - - - ช่วยแต้ม- แต่งรสเล่ห์เสน่หา - - - ละห้อยห่วง ให้ทุกคำคอยแย้ม - - - จิตย้อมแรงถวิล ฯ ร่าย O ศรีศรีไพจิตรลักษณ์ - - - รำไพพักตร์สืบขวัญ จรรโลงฝันในอก - - - จนสุดยกสุดย้าย แลสุดท้ายสุดถอน - - - ในทุกตอนสู่ตา ล้ำบรรดาเคยเนา - - - จักพริ้มเพราเฉกเจ้า รูปใฝ่เฝ้าคอยเห็น - - - อันเปรียบเป็นความหวัง ต่อกำลังปรารถนา - - - เฝ้าโหยหาอกระรัว จนหวาดกลัวรูปหาย - - - ตราบแม่ปรายเนตรสบ บันดาลภพขึ้นตั้ง - - - สุดเหนี่ยวรั้งบีบเค้น ทุกคาบกาลไป่เว้น - - - ว่างละห้อยครวญคะนึง แม่นา (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1452169626.jpg) O หวังสามโลกรับรู้ - - - แรงถวิล แต่อ-บายจ-รดดิน - - - ตราบฟ้า แรงช่วงแห่งดวงทิน- - - - กรแผด เผาเฮย ฤๅเทียบแรงไขว่คว้า - - - ฝากถ้อยอธิษฐาน ฯ O กรประนมก้มกราบ - - - กอปรพร พระเอย หวังช่วยอำนวยกลอน - - - กล่าวให้- จับจิตจับใจอร - - - อวลแต่ ความนา คำทุกคำกล่าวไว้ - - - อย่ารู้เลือนสลาย ฯ O คงกรรมพาร่วมพ้อง - - - พบกัน จึงภาษกรองรำพัน - - - แผ่ล้อม ขวยเขินแต่โลมขวัญ - - - ฝากเลศ นัยแม่ ใจเมื่อหวามจึ่งน้อม - - - แนบเนื้อความเสนอ ฯ O จำรูญจำรัสเบื้อง - - - บูรพา เมื่อหัตถ์ทิพนำพา - - - พบพ้อง โอนฤทธิ์แห่งอิฏฐา - - - ทอดบท สัมผัสเนื้อความต้อง - - - แต่ละห้อยคอยเห็น ฯ O รอคอยแต่ภพเบื้อง - - - บุพกาล เริ่มเมื่อชีวาตม์ลาญ - - - ลับเจ้า จำพรากสู่ทรมาน - - - มืดหม่น ลอยช่วงวิญญาณเฝ้า - - - ฝ่าเวิ้งไฟสวรรค์ ฯ O รูปเอยหวังอาจเอื้อม - - - โดยใจ รอเถิดรอความใน- - - - อกฟ้อง ขวากหนามมรรคาใด - - - มุ่งฝ่า เช้าค่ำจักพร่ำพร้อง - - - ผ่านถ้อยถวิลถึง ฯ O ล่องลอยผ่านฟากฟ้า - - - สู่ขวัญ ผู้ผ่านรังสีพรรณ - - - พิลาสให้ คำนึงแต่วงจันทร์ - - - จางรูป โอนอบอุ่นแอบไว้ - - - หว่างห้วงคะนึงหา ฯ O สุดรอคอยค่อยแย้ม - - - เยือนตา งามรูปงามลักขณา - - - นุชเจ้า ลอยรูปทุกอัสสา- - - - สะช่วง แม่เอย จิตย่อมถูกรุมเร้า - - - สุดรู้ขัดขืน ฯ O ใจเอยต่อแต่นี้ - - - นับนาน พิมพ์หนึ่งจักเบ่งบาน - - - บีบเค้น ชะลอรูปลงผลาญ - - - เผาอก จนสุดทางลอบเร้น - - - ล่วงพ้นพิสมัย ฯ O ข้ามโค้งฟ้าฝากถ้อย - - - ถวิลถึง ผ่านรูปพยางค์รำพึง - - - พจน์ไว้ เนตรสบอักษรตรึง- - - - ความติด จิตนา หวานจักหวานมาให้ - - - ห่วงละห้อยคอยเห็น ฯ O จำหลักในจิตล้วน - - - อาวรณ์ จักเหนี่ยวดึงถอดถอน - - - ยากแท้ ดั่งนทีสิทันดร - - - ดึงร่าง ลอยล่วงห้วงวัฏฏ์แม้ - - - มอดม้วยยังหมาย ฯ O งามเอยงามพักตร์พริ้ง - - - พรายตา สบเนตร, เลศนัยพา - - - เพ่ง-รู้ เหลือบ-สบ, หลบ-เส-คา - - - รูปอยู่ อกหนึ่ง, อาวรณ์ชู้ - - - ตื่น-รู้อภิรมย์ ฯ O รื่นรมย์กำเริบคล้อย - - - รอยคำ แต่รสพจนารถสัม- - - - ผัสพร้อง ธีระอภิวากย์บำ- - - - รุงรูป รูปที่ใจร่ำร้อง - - - รบเร้ารอคอย ฯ O แม้นห่างอย่าห่วงน้อย - - - คำนึง เพียงรูปพอตอกตรึง - - - ติดย้ำ ผ่อนเพียงแผ่วรำพึง - - - พร่ำคู่ ใจเอย แผ่วพร่ำอยู่ซ้อนซ้ำ - - - ตรู่เช้าตราบคืน ฯ O โอนฤทธิ์ออรูปให้ - - - ถวิลเห็น อกดั่งหยาดฝนเย็น - - - หยดแต้ม แต่ภาคอำไพเพ็ญ - - - เผยออก ใจยิ่งมาลย์แยกแย้ม - - - กลีบแย้มรอฝน ฯ O ฤๅทิพหนุนส่งให้ - - - เห็นงาม ย่อมจักสมพยายาม - - - เยี่ยงนั้น ตรึงอกแต่สบทราม - - - สวาดิรูป แก้วเนอ จักหลบเลี่ยงดื้อรั้น - - - ดั่งไร้แรงขืน ฯ O รุมรุมห้วงอกล้วน - - - อาลัย แต่ลับภาคปราศัย - - - สืบถ้อย ลำดับที่ความนัย - - - เนาอยู่ เฉกลำดับความร้อย - - - รับรู้เถิดสมร ฯ O คงสุดทางซ่อนแล้ว - - - รอยใจ จักเก็บกดอย่างไร - - - ยากรั้ง แต่เนตรบ่งเยื่อใย - - - ระยับผ่าน ผ่าวผ่านกี่คราวครั้ง - - - ทุกครั้งย่อมเผย ฯ O แรงสุดดินสมุทรฟ้า - - - รวมกัน ยังมิอาจพรากขวัญ - - - จากแก้ว เมื่อใจหนึ่งผูกพัน - - - เพียงหนึ่ง อาจพรากให้คลาดแคล้ว - - - แต่ม้วยมรณัง https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=08-2011&date=14&group=5&gblog=58&fbclid=IwAR3Y4aDsZ6P30XYUaJYafh6qtyHx4F4GdViwZDBwa2H5KuA3sPCtgz2iHlk (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=08-2011&date=14&group=5&gblog=58&fbclid=IwAR3Y4aDsZ6P30XYUaJYafh6qtyHx4F4GdViwZDBwa2H5KuA3sPCtgz2iHlk) |