หัวข้อ: O ฉันทะดำเนิน .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 26 กันยายน 2018, 06:59:PM O .. คืนแห่งจันทร์ .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1374333488.jpg) บุรุษที่หนึ่งริมน้ำ ณ โคนพฤกษ์ อีทิสังฉันท์ ๒๐ O ย้อนอดีตะกาละผ่านผจญ- ผจัญกะเยาวะเขลานุสน- ธิ-เมามาย O จินตนาภวังคะยังสยาย ประนังประเล่หะเพทุบาย จะกลายกล O แผ่วพระพายพะพลิ้วระริ้วสุคน- ธะกลิ่นพะยอมก็ล้อมก็ลน กระวนมา O เงียบสงบสงัดพนัส, สภา- วะธรรมะย่อมประนอมสถา- ปนานัย O หนึ่งดนูสมาธิพาฤทัย กระวนพิจารณาพิจัย พิสัยนั้น O งามสงบสง่าสภาวะบรร- ลุฌานประภาพ ณ คาบผจัญ ผจญมาร บุรุษที่สอง ริมใจ ณ ในกาย สัทธราฉันท์ ๒๑ O หนึ่งตั้งหยั่งลง ณ สงสาร อุบัติพิริยะญาณ เพลินเจริญนาน ตระการกล O แตกดอกออกช่อพะนอผล สมรรถะภวะกมล มุ่งจะปรุงปรน สกลกาย O แผ่หวานผ่านชื่นระรื่นปลาย ศักยะพละสยาย งามละลามสาย ขจายตอน O ดำรงคงอยู่บ่รู้มรณ์ สถิตะรตินิวรณ์ เมาหะเว้าวอน บ่ผ่อนผลาญ O จำรัสจำเริญเผชิญกาล รัถยะมละตระการ นำชอ่ำมาร ผสานมนต์ O แล่นเลื่อนเคลื่อนชาติพิฆาตชนม์ สถิตะทุระทุรน รัดกระหวัดลน กมลหมอง อาคันตุกะราตรี สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙ O ใครหนอนั่น-บ-ริ-บทเพราะยศ-ด-ละ-ผยอง ตัวตนสิหล่นนอง - - - ไฉน O คอนฐานัน-ด-ระ-ศักดิหนัก-ระ-ดะ-ไผท คล้อยเคลื่อนจะเลื่อนไหล - - - ทะลาย O หยัดตนเยี่ยง-ท-ระ-นงจะคง-ภ-วะ-บ่-กลาย ภพชาติคาดหมาย - - - บ มรณ์ O ภาคหนึ่งนั่น-คุ-รุ-ศัพทะจับ-บ-ละ-บ-ถอน ภาษสรรพกระชับคอน - - - สิขรม O เสียงยอศี-ละ-ประ-นังสิดัง-ก-ละ-ระดม- เรี่ยวแรงจะแข่งพรหม - - - ะดาล O ใครหนอนั่น-นิ-ระ-หวั่นผจัญ-กะ-วิ-ญ-ญาณ เย้ยหยันจะบั่นมาร - - - เผชิญ โฉมสะคราญสุดแดนดิน วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ O กลางน้ำทิฆัมพระสะท้อน- ศศิธร-ก็พิศเพลิน พร้อมลมระห่ม, นัยน์สะเทิ้น- ฤ จะเขินเพราะแววตา ? O จันทร์ภาสพิลาส ณ คคนานต์ สิริปานจะปันปรา- กฎมอบ ณ ขอบทิพะปุรา กระจะฟ้าขจ่างฝัน O ลมล้อชลาลัยะกระเพื่อม บทะเหลื่อมรุจีจันทร์ พลัน..!.โฉมประโลมอุระถวัล- ยะประชันจะรอชม O ล้ำสรรพะอัปสระสวรรค์ จิตะนั้นก็จ่อมจม ด้วยลักษณ์ฉลักรติภิรม- ยะ ฤ ข่ม ฤ ขับหาย O โดยเลศและเนตระสมร ดุจะอ้อนจะเอียงอาย ช้อยร่างระหว่างนัยนะชาย ดุจะฉายประทับโฉม O แนบอยู่ก็ภูษิตะพะพลิ้ว ระดะริ้วพระพายโลม ยิ้มเยื้อนและเคลื่อนรมยะโหม- ภวะโสมนัสสนอง O เนตรฉายสยายรหัสะเลศ ประจุเจตะจับจอง แผ่อิทธิฤทธิ์รชะตระกอง ตละจ้องก็จับใจ เงาดำจากบาดาล อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ O ครืนครั่นสนั่นสรวง ชุติช่วงก็ชอนไช ส่ายเส้นและเต้นไหว กละใกล้จะถึงกาล- O เปลวไฟประลัยล้อม ชิวะหลอมปลาตลาญ โศกศัลยะบรรสาร- ทรมานและมืดมน O เงาภาพะรูปพิมพ์ แสยะยิ้มก็เมื่อยล แววเนตรและเลศฉล ดละกลประกอบการณ์ O ราวเรื่อง ณ เบื้องหลัง ตละครั้งก็คืบคลาน- สร้างภาพะโวหาร พิสดาระลวกลน O ยึดโลกะรายรอบ ดละกรอบประกันตน ถ้วนพิศะติดกล อัตะดละเหนี่ยวดึง O เมาโมหะโลภหลง กุธะองคะอื้ออึง น้อมนำ ณ คำนึง เฉพาะซึ่งมโนสรรค์ O ครบถ้วนกระบวนถ้อย ก็ประดอยประดิษฐ์พัน- ผูกล้อมและย้อมขวัญ ระบุชั้นกะเชื้อชน ดับกล .. อนธการ ภุชงค์ปยาตฉันท์ ๑๒ O ประหนึ่งหมอกระลอกมัว จะล้าตัวละลายตน เพราะเรื้องแสงและแรงสน- ธิอำพนกมลพร้อม O ระบิลบทะงดงาม พยายามและยินยอม- พิจัยเรื่องและหล่อหลอม- กมลน้อมประนังนัย O นิวรณ์ล้อมตะล่อมร่าง ก็รู้วางและรู้ไว สะคราญรูปะวูบไหว ก็รู้ใจ บ รู้จน O อุฬารอัตตะขัดออก จะหลุดลอก บ ลวกลน อหังการะแกร่งกล ขจัดผละเผาผลาญ O ประคองธรรมะนำทิศ กระบวนพิศะพ้องพาน, กระบวนทัศน์ปทัสถาน เหมาะควรการณ์และควรกรรม O พิจัยความ บ ฟุ้งเฟื่อง และรูปเรื่องก็ควรนำ- ประกอบถ้อยและคอยทำ- นุ หนุนค้ำและย้ำคิด O ประดาสรรพะจับจ้อง จะครอบครองและปองสิทธิ์ เพราะไตร่ตรองและมองพิศ ก็แจ้งจิตเพราะปัญญา สยบนงคราญ วสันตวงศ์ฉันท์ ๑๕ O บัดดลพิมลศศินะแสง กระจะแจ้งประโลมนภา บัดนั้นก็พลันวุฒิสถา- ปนะภาวะโลมฤทัย O เผยงาม ณ ยามระยะเหยาะย่าง สรพางคะงามประไพ วงพักตร์ประจักษ์เฉพาะจะไหว- หฤทัยถวิละหวัง O งามพิศก็จิตพิริยะพร้อม- จะถนอมประนอมประนัง ช้อยรูปะลูบบทะภวัง- คะประดัง ณ ห้วงฤดี O โหยหาเพราะอาลัยะกระหวัด ปฏิพัทธะพร้อมจะพลี- ชาติภพะจบสุภะสรี- ระสตรีทุรนทุราย O ใคร่ครวญะล้วนสมระรูป จิตะวูบ บ เว้น บ วาย วรรณาเพราะกาละจะสลาย สิริกลายสภาพะการณ์ O ร่วงโรยจะโบยสรรพะสรีร์ นิระที่จะทนจะทาน เหี่ยวย่นจะวนสมะสมาน- วรรณะคราญระคนระคาย O วันชื่น ฤ ฝืนยุคะสมัย ก็เพราะขัยจะกร่อนจะกลาย น้ำนวลจะหวนบทะ ฤ หมาย ? พิศะชายจะเฉื่อยจะช้า เอกะยุทธกระบวน สัททุลวิกกีฬิตฉันท์ ๑๙ O โอ้..ราตรีขณะจันทร์ถวัลยะนภา งันเงียบยะเยียบพา - - - สะพรึง O โอ้..ราตรีสรรพะสิ่งนะนิ่งกละจะพึง- คอยผัสสะรัดรึง - - - ระรัว O รูปพักตร์งามก็สะอาง ณ กลางนิละสลัว แนบขวัญและพันพัว - - - ฤทัย O เนตรต่อเนตรขณะสบก็ครบทิฐิวิสัย แจ้งเภทและเลศนัย - - - ะนั้น O ริมฝั่งชลทุขะปวงละช่วงนิระประจัน- จิตผู้เสาะรู้, บรร - - - ลุนัย O แขเพ็ญดวงขณะชาติพินาศ, ภพะประลัย ยึดมั่นก็สั่นไหว - - - บ เวียน O น้ำค้างหยาดตั-ณ-หาละลาหทัยะเธียร เวทน์ผัสสะตัดเตียน - - - เพราะตรอง O กลางเงียบงันเฉพาะภาวะอายตนะผอง หยุดเป็นและเว้นปอง - - - บ ปรน O ปลิดปลงรูปะและนาม ณ ยามทิฐิพิมล ห้าวหาญะลาญกล - - - ณ กาล O ท่ามกลางจันทระภาสพิลาสะวิ-ญ-ญาณ- หยุดยั้ง-เพราะสังขาร - - - ละคลาย O จันทร์จางรูปและอวิชชะฤทธิก็สลาย ตัวตนก็ป่นวาย - - - บ วน O จบสิ้นอาสวะเหตุและเภททุระผจญ หักสิ้นก็สิ้นมน - - - ตระมาร จอมคนบนปฐพี วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ O จันทร์พร่างระหว่างภพะประลัย นิระใดจะบันดาล- ปรุงแต่ง-เพราะแรงทิฐิพิชาน อุปการะบทกรรม O แจ้งการณ์เพราะลาญมุหะ ณ ใน- หฤทัยะด้วยธรรม ดับฤทธิ์อวิชช์บทะกลัม- พ-ระตำหนิในตน O แจ้งใดจะดั่งอริยะญาณ ประจุมาน-ละมืดมน แจ้งนั้นเพราะสัทะและกมล อนุสนธิกลางศศิน https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2013&date=20&group=2&gblog=77 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2013&date=20&group=2&gblog=77) หัวข้อ: Re: O ฉันทะดำเนิน .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 28 กันยายน 2018, 06:38:AM O รัตนโกสินทร์ .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1521032086.jpg) 00110 - - - 110102 00112 - - - 110103 1 .. ลหุ นอกนั้น ครุ เลขเดียวกัน .. สัมผัสสระ (ตัวสุดท้ายวรรคแรก "ไม่จำเป็น"ต้องสัมผัสสระกับตัวที่ 3 วรรค 2 ในทุกฉันท์) อุปัฏฐิตาฉันท์ ๑๑ O องค์มณฑิระเล่า - - - ฉลุเหลาฉลักลาย เครือวัลยะสาย - - - ก็ละม้ายจะแมกโฉม O ช่อฟ้าดุจะเฟื้อย - - - ศิระเลื้อยกระหวัดโลม เช่นอัคนิโหม - - - จะตระโบมโพยมบน O บราลีก็จรูญ - - - นภศูละดำกล เชิงปัทมะยล - - - อนุสนธิเสกสรรค์ O บัญชระเขบ็จ - - - มุขเด็จระเบียงบรรพ์ เพดานเฉพาะสรร- - - - คะสวรรคะจำลอง O ดาษดารกะหมู่ - - - รุจิรู้จะเรืองรอง พิศเพียงนภะผอง - - - ทิพะล่องระเริงไฟ O สิงหาสนะที่ - - - ถิระวีระกรรมไพ- บูลย์แสนยะสมัย - - - รณะภัยะเบียดเบียน O ค้ำคูณจตุมุข - - - หัตะทุกขะกร่อนเกรียน แผ่นภาพะระเมียร - - - ดุจะเขียนเพราะรำบาย- O สรรค์ศิลปะฝัง - - - กะผนังระเรียงราย พิศภาพะระบาย - - - ก็ละม้ายพิมานแมน https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=03-2018&date=14&group=2&gblog=108 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=03-2018&date=14&group=2&gblog=108) หัวข้อ: Re: O ฉันทะดำเนิน .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 29 กันยายน 2018, 09:19:AM (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1495878422.jpg) วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ O ปีกบางระหว่างกุสุมะมาลย์ ดุจะผ่านเพราะลมพา อวลกลิ่นประทิ่นมธุระผา- นิตะดาละด่ำดอม O ลมโชยก็โรยรสะกระทบ อพยพ ฤ ยินยอม เพรียกหวานเสาะหวานดุจะประนอม อุระน้อมถนอมนวล O ปีกลู่เสาะสู่ภวะระรึง รสะตรึงประหนึ่งตรวน ตฤปหวานเพราะหวานกระอุกระอวล ผัสะจวนก็จู่โจม O แทรกร่างระหว่างรสะประทิ่น ภุมรินะลอบโลม ดอกช่อ ฤ พอภวะกระโหม- ก็เพราะโฉมนะบัญชา (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1497830213.jpg) O คือใจเพราะวัยยุวะกระหนาบ กระแหนะภาพกระหนาบพา หอมหวานเพราะหวานภวะสถา- ปนะภาวะอาลัย O รูปนามเหมาะงามประพฤติกรรม เฉพาะคำก็ควรใคร- ชื่นชมเหมาะสมอุปนิสัย- อุปไมย ฤ เปรียบเหมือน หัวข้อ: Re: O ฉันทะดำเนิน .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 30 กันยายน 2018, 02:51:PM O เพ็ญเดือน ๖ .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1369359859.jpg) ชมพูทวีป พศ.(-๔๕) O งดงาม ณ ยามธรรมะประนอม- สัตะหลอมประโลมลง- แนบดำริทำนุอุปสง- คะประจงขจิตใจ O แขเพ็ญ ฤ เร้น สิริพิลาส ขณะภาสะอำไพ ฟ้านิลและจินตนะไฉน- อุปไมยจะเปรียบเหมือน O บนฟ้า .. วลาหกะกระหยับ รวิดับ, และขับเดือน- ลอยดวง ณ สรวง, ภวะสะเทื้อน- ดุจะเคลื่อน ณ ใจคน O ลมเห่ และเจตนะขจ่าง- ปะทุกลางประเล่ห์กล เพิกเหตุและเภทะทุระพล ปะทะรณและทำลาย สุวรรณภูมิ พศ.๒๕๕๖ O ท่ามกลางพยางคะบริภาษ วิปลาสะกำจาย เลือนรางระหว่างรัถยะหมาย พิเคราะห์คล้าย บ่ ใกล้เคียง O เขาว่า .. เพราะว่า - ผิวะสดับ เสนาะศัพทะสำเนียง ปานว่าจะพาทิพยะเสียง ปะเหลาะเคียงประโลมขวัญ O ยินว่า .. เพราะว่า - คติวิจิตร ผิวะคิดก็คมครัน จึงว่า .. เพราะกว่าอรรถะสวรรค์ กละคันถะควรขวาย O ยากแต่จะแปรศิระชะเง้อ ผิวะเพ้อเพราะบรรยาย ยากเข็ญจะเร้นอัตะสยาย ธิระผ้ายและเพียรเผย O เกินกาลจะผ่านอริยะวาท อธิชาติชมเชย ล้ำบทและพจน์ชินะเฉลย สัจะเกยมโนกรรม O จึง-ภาษประหลาดระบุระบือ มุหะถือผิว์คือธรรม จึงพาละผ่านบทะกลัม- พระซ้ำกระหน่ำเสริม O อักโขมโนทัศนะอ้าง นยะต่าง มุ แต่งเติม ผ่านวาทะอาตมะเฉลิม จิตะเหิมบ่เคยหาย O ดั่งโลมและโหมวตะสะบัด ชะธวัชะปลิวปลาย อวดอยู่ก็ภูษิตะสยาย สิละม้ายจะง่ายเห็น O เฉดรงคะบ่งรัฐะประจักษ์ บริรักษะร่มเย็น บอกผู้ศัตรูสุขุมะเพ็ญ ผิวะเร้นจะรุกราน O ลมฤทธิ์อวิชช์ผิวะกระชั้น ฤจะทันจะทัดทาน เห็นแต่จะแปรมุหะผสาน อวตาระรูปหลง O มิจฉาประดาขณะกระหวัด ปริวัตระเวียนวง ฤๅรู้จะสู่มรรคะประสงค์ ชินะองคะสืบสอน O อวดอยู่ก็ภูษิตะประหลาด วิปลาสะอาภรณ์ แรงฤทธิ์อวิชช์ขณะสะท้อน ฤ จะผ่อนสะพัดผืน O หลงศรัทธ์ระบัดทิฐิพิลาป บุญะบาปะกลบกลืน เว้นผู้เพราะรู้ธรรมะจะขืน ประลุตื่น ณ ในตน O เศร้านั้นเพราะนันทิวิปลาส คติทาสะจำนน สิ้นหวัง ฤ ดั่งอุตริฉล ทุพพละปล้นธรรม O งดงามก็ยามทิฐิวิพุธ บริสุทธิเนื่องนำ นัยแท้จะแผ่ศักยะล้ำ สัทะค้ำบ่คลายคลอน O อัญชลิตพระพุทธน้อม - - - นำใจ ต่างประทีปชวาลไข - - - ขจ่างเรื้อง ปลิดป่นมืดหม่นใน - - - สำนึก สิ้นนา ครวญใคร่หมายปลิดเปลื้อง - - - เท็จถ้อยเดียรถีย์ ฯ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=05-2013&date=24&group=2&gblog=76 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=05-2013&date=24&group=2&gblog=76) หัวข้อ: Re: O ฉันทะดำเนิน .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 07 ตุลาคม 2018, 04:04:PM O ยุวะไผท .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1501751013.jpg) เห็นสีที่แตกต่าง - - - เห็นบนล่างที่แตกตัว O ปัง ! -ค้อนขจร, รหัสะเลศ- ก็ลุ-เจตะแจ้งใจ โดยกฏและบท, ยุวะไผท- อุปไมยจะเปรียบเหมือน O กล่อมเห่และเล่หะก็สยาย เพาะอุบายะบิดเบือน พร้องคุณ-อดุลยะเสมือน- รวิเลื่อนประภาพล้อม O ไพศาลประการคุณะประดา บ ระอาจะอด-ออม เสียงแว่ว บ แล้วดุจะจะหลอม- คุณะย้อมกะวิญญาณ O เลอเลิศประเสริฐะบริบท ฤ ประพจน์จะเปรียบปาน ล้ำแถน ฤ แมน, สิริพิศาล- ก็ตระการะเกริกไกร O ปานเทพ, วิเลปนะประทิ่น รสะกลิ่นระโรยไกล พลิ้วผ่าน, สุมาลยะไฉน- มธุ-ใคร่จะเทียมเขา ? O โหมเห่ประเล่หะทิพะคีต- ะประณีตะกล่อมเกลา ภาพซึ่งคะนึงฉลุเฉลา ก็คละเคล้าประโลมขวัญ O ภาพซึ้งระรึงยุคะสมัย- ะประไพก็รำพัน พร้อมเสียงระเรียง, ภวะสวรรค์- ก็ถวัลยะวับวาม O เพ่งปากและพากยะประเมิน สรเสริญ สิ เกินงาม พลิกยุคะปลุกบุรพะยาม ฤ จะห้าม กะ ตามหา ? O โอ-โสตอุโฆษปะเหลาะเพราะคัม- ภิระคำ ผิ อ้อคา เอนลู่จะบูรณะสถา- นะสภาวะทาสตน O ฉาบฉวย .. เพราะด้วยตรรกะประมวล นยะจวนจะอับจน ภาพสร้าง .. ระหว่างพฤติวิกล ดุจะล้นเพราะแรงไหล O เอาทารประสาระมธุรส บริบทะเพี้ยงใบ- ไม้หล่นระคนคติพิสัย- ะจะไว้ประคองหวัง O เพียบแพงเพราะแปลงธิระจริต- ะกระบิดกระบวน, บัง- ร่มเยาวะเมาหะคละประดัง ฤดิคลั่ง ก็ ช่วยขาน O เสียงค้อนขย้อนขยะแขยง เพราะตะแบงนะเบ่งบาน เสียงคลั่งประนังนยะผสาน ก็สะท้านสะเทือนไท O พลุกพล่านบุราณคตินิยม- ะระดม, จะครื้นใด- เทียบเทียม-เพราะเปี่ยมมุหะ ณ นัย- ะนะใคร่จะอวดเขา O โยงยึดประพฤติปทัสถาน ก็ตระหง่าน สิ รูปเงา ล้อมวงประจงฉลุเฉลา คติเมาหะครอบเมือง O ใช่ผู้จะชูทิฐิวิภาษ บทะปราชญ์ นะ เปล่าเปลือง ใช่ผู้จะรู้นยะยะเยื้อง ฉละเปลื้อง มุ ปรักปรำ O โหมเห่ ก็ เล่หะทุพพล อนุสนธิด้วยธรรม ปรุงบทเหมาะรส .. เฉพาะจะสัม- ผัสะค้ำ กะ เคลือบแคลง O ขรมโข สิ โมฆะกรรมะบท อติพจนะเพียบแพง พร้อมเพ็ญก็เป็นยุวะแขนง- เหมาะตะแบง – จะแทงใบ O ตั้งกองสนองคุรุมุหัน- ตะผจัญก็ปวดใจ หมอบคู้ บ รู้ฤตุ, อุทัย ชละไหล ฤ หม่นหลัว O โอ-เยาวะเคล้าพิษะขนบ ดุจะกบ นะ หมอบกลัว พู้นฟ้าวลาหกะ ฤ ถัว- นิละทั่วกะลาตน ? O เสียงค้อนสะท้อนพฤติวิกฤต ตรรกะ, คิด, วิถีคน ตอกย้ำกลัมพ-ระและฉล- ะกระวน นะ ไป่เว้น O เพียงค้อนขจรกฏะประหลาด บริภาษ ก็ เพียบเพ็ญ ฝุ่นฝนละหล่นนภะกระเซ็น รณะเข่น จะ เร้นคอย ! https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=08-2017&date=03&group=2&gblog=103 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=08-2017&date=03&group=2&gblog=103) หัวข้อ: Re: O ฉันทะดำเนิน .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 13 ตุลาคม 2018, 09:29:AM O ภุมรินและพินทุรส .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1499223518.jpg) วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ O ลมรื่นแตะตื่นมธุระเก- สระเรณุกาไพร พาหอม ลุ ล้อม, ยุคะสมัย- ก็พิไลพิลาสรอ O งดงาม ณ ยามรุจะกระหนาบ- นภะภาพก็พร่างพอ- กำจายสยายบทะลออ กระแหนะช่อสุมาลย์สี O ฝั่งฟ้าประภา, และ ธรณิน ภุมรินะเริ่มลี- ลาศ-หาผการสะเพราะมี ดุษฎีกะหอมหวาน O โลกกว้างระหว่างวตะอรุณ ดุจะหมุนประกอบการณ์ โผนผกวิหค ณ คคนานต์ ก็ผสานผสมเสียง O เริ่มกาลประสารรหัสะเลศ ทุระเภทะพร้อมเพรียง- กล่อมเมาหะเขลา, มุสะประเดียง- ก็ระเรียงประโลมร้อย O เผยภาพละภาพ ณ บุพะภพ- ระบุครบ .. ระบัดคอย ราวเรื่องก็เปลื้องบทะทะยอย สุขะ-สร้อย .. ผสานเสริม O เยี่ยงหวานสุมาลยะประนัง รสะตั้งจะเตรียบเติม- คลื่นหอมตะล่อมบทะกระเหิม ระอุเพิ่ม .. ณ กลีบกรอง O ทิพเทพวิเลปนะกระวน สติคน ก็ ถูกครอง เพียงรสประพจนะสนอง ผัสะต้อง ก็ เจียนตาย O ผึ้งภู่เสาะสู่มธุระรส ระบุกฏ บ อาจกลาย แสงสูรยะพูนพละสยาย ก็จะผ้ายและแผดเผา O อำนาจและอาชญะประภาพ ขณะทาบ ฤ บรรเทา ถ้วนกฏและพจนะเฉลา ก็คละเคล้าระคนความ O หยาดพินทุรินมธุ-ละออง ผัสะต้องก็ตื่นตาม หยาดคำเพราะคัมภิระ-ละลาม อุระหวาม ฤ ข้ามไหว O ภาพพจน์จรดกะนัยนา คุณะค่า ฤ ควรใคร- เทียมทัศน์และวัตระอดิศัย- ะประไพประพิณพร้อม O เทียบ-ภาพก็ภาพมธุกุสุม กระแหนะนุ่มระรุมดอม เปรียบ-บทสุพจนะประนอม ก็ลุล้อมระรายเรียง O สามารถเพราะอาชญะผสาน- อุปการ .. ก็เกริกเกรียง แซ่ศัพทะรับดุจะจะเอียง- ธรณินะล่มสูญ O สามารถเหมาะอาชวะสมรรถ ก็ขจัด บ เพิ่มพูน พ้องความกะทราม, ก็บริบูรณ์- ภวะกูณฑะสุมเมือง O พร้อมพินทุสิ้นภวะจะหยด จิตะคดก็แค้นเคือง โดยพิษะริษยะเมลือง ทะนุเนื่องและน้อมนำ O ริ้ววาตะพารสะประทิ่น ภุมรินก็เริงรำ ปีกลู่เสาะสู่มธุระสัม- ผัสะย้ำกะหยาดหวาน O ริ้ววาทะพามุสะประนอม ผัสะย้อม กะ วิญญาณ เจตจินตะสิ้น, สติพิชาน- ดุจะลาญ บ เหลือรอย O หวาน, วาตะ, อาชญะประนัง ฤดิคลั่ง ก็ หมอบคอย เสพลิ้มกระหยิ่ม บ ละ บ ถอย สติด้อย สิ ดึงดัน O เลศวาทะ, อาชวะรหัส อวิภัชะรำพัน เกณฑ์กรอบระบอบมุหะมหัน- ตะกระนั้นก็เนื่องหนุน O สูงค่าสุภาษิตะประกอบ- คละระบอบ .. ระเบียบบุญ สูงส่งเพราะมงคละเหมาะสุน- ทริยะดุลยะภาพพร้อม O ภาพงามละลามยุคะสมัย มธุ-ไพรก็สุดออม- แอบกลิ่นประทิ่น, กฏะพะยอม- ก็ ลุ ล้อมประนอมกรรม O แฉกลิ้น มุ ภินทนะสมา- คมะชาติด้วยชำ- นาญ..บท .. และพจนะกลัม- พ-ระพร่ำ ก็ เป็นผล O สามารถเหมาะชาติจะอภิวัฒน์ ก็ขจัดซะอับจน จารีตและคีตะอนุสน- ธิ ก็ขนประโคมคอย O หอมหวานสุมาลยะก็ภิน- ทนะสิ้นและสุดรอย หยาดพินทุสิ้น, มธุระพลอย- รสะถ่อย .. ผิ เอาทาร ! ======================================== คำศัพท์บางคำ (ที่มา .. https://www.chatchawan.net/2014/05/vibhajyavada/ (https://www.chatchawan.net/2014/05/vibhajyavada/)) วิภัชชวาที .. แปลว่า การพูดแยกแยะ การพูดจำแนก หรือพูดแจกแจง หรือการพูดเชิงวิเคราะห์ ลักษณะสำคัญของการคิดและการพูดแบบนี้คือ การมองและแสดงความจริง โดยแยกแยะออกให้เห็นแต่ละแง่แต่ละด้าน แต่ละประเด็นครบทุกแง่ทุกด้าน ทุกประเด็น ไม่ใช่จับเอาประเด็นใดประเด็นหนึ่งมาคิดวิเคราะห์แล้วสรุปครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด วิภัชชวาท .. เป็นชื่อเรียกอย่างหนึ่งของพระพุทธศาสนา หรือเป็นคำหนึ่งที่แสดงระบบความคิดของพระพุทธศาสนา เพราะพระพุทธเจ้าทรงเรียกพระองค์เองว่าเป็น วิภัชชวาท หรือ วิภัชชวาที และคำว่า วิภัชชวาท หรือวิภัชชวาทีนั้น ก็ได้เป็นคำเรียกพระพุทธศาสนา หรือคำเรียกพระนามของพระพุทธเจ้าซึ่งได้ใช้อ้างกันมาในประวัติการณ์แห่งพระพุทธศาสนา เช่น ในคราวสังคายนาครั้งที่ 3 พระเจ้าอโศกมหาราชตรัสถามพระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ ประธานสงฆ์ในการสังคายนาว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีวาทะอย่างไร พระเถระทูลตอบว่า “มหาบพิตร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นวิภัชชวาที” อ .. แปลว่า ไม่ อวิภัชชวาที .. จึงแปลตรงกันข้ามกับ .. วิภัชชวาที หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายก็หมายถึง การพูด (การกล่าวหา) แบบ "เหมารวม" ไม่จำแนกแยกแยะด้วยเหตุผล .. อันจะพบเห็นได้มากในทางการเมืองในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา ปกติเมื่อเป็นภาษาไทยจะลดรูป "ช" ออกตัวหนึ่ง ======================================== https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2017&date=03&group=2&gblog=101 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2017&date=03&group=2&gblog=101) หัวข้อ: Re: O ฉันทะดำเนิน .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 16 ตุลาคม 2018, 06:47:AM O มุสาสมัย .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1501329844.jpg) ๑๙ O เรื่อทองทาบ-ช-ละ-พร่างระหว่าง-ติ-ณะ-ล-ดา- วัลย์ - ย้ำจะอำลา - - - อรุณ O พ่างเก็จแก้ว-ประ-ประกายละม้าย-รั-ศ-มิ-กุณ- ฑล-พราววะวาวจุน - - - รุจี O ฟากฟ้านั่น-ท-วิ-ผวนกระบวน -จ-ร-จะลี- ลาศมุ่งอำรุงชี - - - วะชนม์ ๑๔ O แผ่วพลิ้วระริ้วกุสุมะชาติ ขณะวาตะผ่านวน พู้นภาสะอาทิตยะพล กระอุผละพร่างเพ็ญ O ลมร่ำพะสัมผัสะกะเถา- วัลย์เย้ากะรื่นเย็น ฉาบหล้า, ชลาลัยะ, ก็ เห็น- รุจะเต้นกระเพื่อมตาม O ศัพท์ส่ำ ก็ สัมผัสะกะโสต ะอุโฆษและคุกคาม ผล, เหตุ, เภท, นยะปณาม ระบุทราม – นะสร้างสม O ไป่รู้จะชูธรรมะ ฤ โทษ ก็ประโมทย์กะโสมม เพียงรู้จะสู่รติภิรมย์ อธิคม ก็ ขวนขวาย O ปีกกาง, ระหว่างรหัสะพจน์ พิเราะบทะรำบาย ฟ้าแผ้ว, และแววนัยนะผาย- นยะฉายะสั่งชี้ O ฝั่งฟ้า, วลาหกะเขยื้อน พฤติเถื่อน ก็ เหมือนธีร โวหาระปานประพิณะคี- ตะกวีประจงกรอง O ค้อนคำกระหน่ำสุภะประภาษ ทุรชาติช่ำชอง อำนาจและอาชญะผยอง พิเราะร้อง จะสิ้นหรือ ? O กี่ตรองจะมองกะเทาะกระทั้น- ตละขั้น ผิ นั่นคือ- คันธงนะบ่งระบุ, เถอะถือ- นยะสื่อเสมอสาส์น O เพ่งภาพ .. ก็ภาพศิระยะยอบ ระยะนอบ สิ นิ่งนาน เปือกบงกะปลงปทัสถาน อปการะกอปรกิน ! O ฟ้าสูง สิ ฝูงสกุณะร่อน วตะร้อนก็รวยริน โลกต่ำกลัมพ-ระประทิน- ก็ประพิณประไพพร้อม O ค้อนคำกระหน่ำพละกระทบ เถอะสยบ, เถอะพึงยอม เอียงเท, ประเล่หะจะประนอม- กฏะล้อม .. ขจัดเหลิง O ฤาวาระอาวุธะพลัง จะสะพรั่งประกายเพลิง ? ปลื้มเปรม, เขษม, สุขะระเริง- และประเทิง ฤ เทียบถึง O เร้ารุมผชุมอัคนิเชื้อ ฤ เพราะเพื่อจะพรั่นพรึง ? ฤาเมาหะเขลาพิเคราะหะ, พึง- กรรมะซึ้งจะตรึงสรวง ? O ลมร่ำ, เพราะคัมภิระประพจน์, ประจุบทะบำบวง คล้อยเคลื่อนจะเตือนสุริยะดวง เถอะนะล่วง .. เถอะรีบเลือน ! O ลมเห่ประเล่หะบริกรรม สัทะธรรมะย้ำเตือน กล่อมให้พิสัยทรรศนะเหมือน- จะเขยื้อนขยับตอน O เหลื่อมแสงเพราะแรงวตะกระหนาบ และประภาพะอัมพร ริ้วคลื่นและพื้นชละสะท้อน ตละตอน ก็ สู่ตา O เรื่องกล่าวจะป่าวและปริภาษ ทุรชาติและบัญชา เกลียวกลมผสม – ทะนุมุสา กระแหนะหน้า สิ นับนาน ! O ใช่ปราชญ์ ก็ ปราดกระแดะแนะนำ ปะเหลาะกรรม ก็ นำการณ์ ใช่เทียน ฤ เธียรวุฒิพิศาล ฤ ประมาณประเมินรู้ ? O ใช่ผู้จะสู่มติวิภาษ ตรรกะศาสตระเชิดชู รมย์เพียงเพราะเสียง .. ปะเหลาะเจาะหู- กระแดะอยู่ นะ เช้าเย็น ! https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2017&date=29&group=212&gblog=2 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2017&date=29&group=212&gblog=2) หัวข้อ: Re: O ฉันทะดำเนิน .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 07 พฤศจิกายน 2018, 04:18:PM O รำพันพิลาป .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1442131168.jpg) วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ O แว่วเสียง ก็ เพียง-นิยมะศัพท์ เพราะ-สดับก็จับใจ เสพสมภิรมยะ, ไฉน- อุปไมยจะเปรียบเหมือน O ต้อง'ความ' ฤ ห้ามสุขะ ณ ใจ ขณะไหน บ อาจเลือน ต้อง'คำ'เพราะคัมภิระสะเทื้อน ฤ เขยื้อนขยับพ้น O โสตนั้นเพราะนันทะสดุดี ภวะปรีดิ์ก็ปรุงปรน สัมผัสกระหวัดนยะกระวน จิตะคน ฤ อาจขืน O ปวงผู้เหมาะชูวิสัยะทัศน์ ก็ขจัด บ อาจยืน- หยัดเงา-เพราะเงานิละทะมื่น- แสยะยืนและขืนไว้ O สามารถเหมาะชาติจะอภิวัฒน์ อัตคัด บ เห็นใคร เจตจินต์ถวิล-ก-ละจะไร้- บทะให้กระจ่างเห็น O สามารถเหมาะชาติจะวัฒนา พิศะหา ก็ ยากเย็น ปวงผู้เหมาะรู้ .. ประพิณะเพ็ญ ดุจะเร้นจะเลือนสูญ O ขลาดเขลาและเมาหะพฤติกรรม อุปถัมภะเพิ่มพูน ภาพสร้างและร่างทิฐิวิทูร- ก็พิบูลยะทั่วหน O พลุ่งฤทธิ์อวิชชะคุกระเหิม ทุขะเติมก็เตรียบตน โพลง-พิษะริษยะระคน จิตะฉล ก็ โฉ่ฉาว O ปมด้อยประดอยบทะกระหนาบ ทุระภาพก็พร่างพราว กรวดเกร็ด ฤ เพชระอะคร้าว รุจะวาว สิ วาดหวัง O เนื่องหนุนกะสุนทริยะภาพ บุญะบาปะบดบัง องค์รู้เหมาะผู้ธิระจะฟัง ดุจะตั้ง บ เป็นตัว O เบื้องบทสุพจนะประพิมพ์ สัตะปิ่มจะมืดมัว เสียงแจ้ว ฤ แล้ว ภวะสลัว- บทะกลั้วประกายแสง O แล้วเล่า ก็ เมาหะพฤติจิต วิปริตะรุนแรง อำนาจและอาชญะแสดง ก็แสลงสลอนตา O เบื้องบทสุพจนะประจัญ กระแหนะนันทิพรรณนา ภาพสร้างระหว่างนิยมะสา- ธกะฝ่าประโลมฝัน O ภาพผู้จะชูวิสัยะทัศน์ ปฏิบัติร่วมบัญ- ชาการประสารคุณะอนัน- ตะกระนั้น ฤ เคยเห็น ? O เรียวปากและพากยะกลัม- พ-ระพร่ำ ก็ เพียบเพ็ญ สอนสั่งประดังสุตะ บ เว้น สัทะเค้นประโลมคน O เรียวลิ้น บ สิ้นระยะตวัด ระบุอรรถะอึงอล ภาพพจน์และรสะอนุสน- ธิพิมละยากเหมือน O แซ่ศัพทะรับคุณะประโคม สุขะโลม บ อาจเลือน ใจ, ปาก .. และพากยะสะเทื้อน ก็เขยื้อนขยับรอ O แซ่ศัพทะขับประเหลาะประโลม ดุจะโคม นะ ทอดทอ- ครอบเมืองและเปลื้องรุจะลออ มุสะส่อ บ ขาดเสียง O ล้วนศัพทะขับคุณะประพนธ์ อนุสนธิสำเนียง ความ-คำเพราะคัมภิระเผดียง เฉพาะเพียงจะชูผล O สู่โสต, ประโมทยะระบัด พฤติ, วัตระหมุนวน อวลพิษะริษยะระคน จิตะฉลก็แผดเผา O ภาพผู้เพราะรู้สุขะและโศก อุปโลกนะแต่เยาว์ ไพศาลประการคุณะเฉลา นิระเนา .. บ แนบใจ O โลกหมุนก็หมุน .. มุสะมุสา กระจะตากระจ่างนัย ยากแค้น สิ แน่นระยะไผท ฤ ไฉน บ สร่างซา ? O สามารถเหมาะชาติจะอภิวัฒน์ อัตคัด สิ ต่อตา ถ้อยแถก็แผ่บทะสถา- ปนะภาวะดุจควัน- O ครอบเคลื่อนเสมือน-ทกะกระฉอก คละ-ระลอกประโลมกัน อำนาจและอาชญะถวัล- ยะตะบันกะบาปบุญ O โลกเคลื่อน .. จะเคลื่อนรุจะตะวัน ประลุพรรณะเจือจุน อำนาจและอาชวะจะหนุน- เหมาะกะดุลยะภาพแสดง O ปวงหมู่วิทูพิเคราะหะวา- ทะและจาคะจักแจง ขอบเขตและเจตนะ บ แฝง ประลุแจ้งกระจ่างตา O ศัพท์แสงแสดงนยะประจบ ก็จะลบและลับลา เยี่ยงพลบประจบบทะอุษา อุปมาจะเปรียบเหมือน ! https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=12-2015&date=24&group=2&gblog=85 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=12-2015&date=24&group=2&gblog=85) หัวข้อ: Re: O ฉันทะดำเนิน .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 11 พฤศจิกายน 2018, 08:34:AM O ลมรำเพย .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1495878422.jpg) วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ O แซ่ศัพทะรับคุณะประพจน์ ระบุบทะรำบาย เสียงรับก็รับเฉพาะจะหมาย- อธิบายกะหมู่เขลา O ทวยเทพ, วิเลปนะประนอม- จิตะน้อมและแนบเนา พร้อมสรรพะอัปสระเฉลา- ทะนุ-เฝ้าประคองฝัน ! O ปวงวรรคและอักษระประดิษฐ์ นฤมิตะเมามัน สรรค์ศัพทะรับมุหะมหัน- ตะกระนั้น สิ หนักหนา O คีตพร้องตระกองยุคะสมัย อุปไมยะไปมา ไท-ทาส ก็พาดบทะ, สถา- ปนะภาวะพร้อมเพ็ญ O โอ .. โสตอุโฆษสรรพะประภาษ ทะนุฆาตและลำเค็ญ ดี-ชั่ว, เหมาะ-มั่ว, พิศะก็เห็น- มุสะเต้นกระจ่างตา O โอ .. โสตอุโฆษบุญะและบาป สุรภาพะพึ่งพา เทียนธูป .. วะวูบ, สติวิสา- มัญะคว้า-ก็เพียงควัน O ปรารมภะสมมุติวิกฤติ กระอุอิทธิฤทธิ์ .. อัน- ยื้อยุดจะฉุด-ยุคะและผัน- บุพะบรรลุรำบาย O โวหาระผ่านคตินิมิต ตละคิด ก็ คมคาย เกลี่ยชั่วเกรอะกลั้ว-บุญะละม้าย- อธิบายะบิดเบือน O ไป่รู้จะชู-ธรรมะ ฤ โทษ พฤติโฉด-ก็แชเชือน เพียงรู้จะชู-ฉละและเหมือน- จะเลอะเลือนเพราะความหลง O สามัญะนันทิพิสมัย ระบุไว้กะว่านวงศ์ เว้นปากและพากยะประสง- คะผจงจะ-จับ"ใจ" ! O แววตาวิสามัญะประเล่- หะคะเนคะนึงนัย ปรุงแต่งแสดงคติพิสัย- ะประไพประพิณเหลือ O อวลอรรถและปรัชญะประดัง ตละครั้งก็คลุมเครือ เลือกจับและรับบทะอะเคื้อ อรรถะเพรื่อ สิ พร่ำเผย O ศรัทธาเกาะบารมินิมิต- กระอุพิษะรำเพย สื่อสู่ ก็รู้ บทะเฉลย ตละเปรย สิ ปลอมปน O โมหันตะบันดละสมา- คมะวาทะวกวน ปรุงศัพทะรับรหัสะฉล อนุสนธิสื่อสาร O พิมพ์พันธุอันมุสะมุสา กระแหนะหน้า สิ นับนาน เท็จแถก็แปรบทะผสาน อุปการะเกื้อกูล O ตามอง, สมองพิเคราะหะตาม- นยะพล่าม, ก็ไพบูลย์ จากชอบเพราะครอบคติวิทูร- อนุกูละนำการณ์ O เชื่องเชื่อ .. เพราะเชื้อบุรพะผู้- ศิระคู้และหมอบคลาน ปราศรู้ ก็ชู ปทัสถาน- อปการะกอปรกิน O ทั้งมวลและถ้วนมรรคะพระผู้- ประลุ-รู้, .. ก็พังภินท์ ผลเหตุเภท .. ระบุระบิล ดุจะสิ้นกะสงสาร O ใช่เพียง-เพราะเสียง, ตรรกะประกอบ- ศิระนอบก็ชำนาญ ทั้งฉวย-และช่วยมุสะประสาร พิเราะซ่านหทัยชน O โอวาทเพราะอาชวะประคอง ดุจะกลองกระหน่ำกล เคลือบทรามกะงามและอนุสน- ธิพิมลกะมัวหมอง ! O มืดมัวสลัวยุคะสมัย อุปไมยะเมื่อมอง แฉก-ลิ้น .. แดะดิ้น, มุสะสนอง สุตะพ้อง .. วิหคไพร ! https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=03-2017&date=28&group=2&gblog=97 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=03-2017&date=28&group=2&gblog=97) หัวข้อ: Re: O ฉันทะดำเนิน .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 20 พฤศจิกายน 2018, 07:16:PM O เพลงซอ ที่ รอสี...O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1530102805.jpg) วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ O ศัพท์แสงแสดง-ทิ-ฐิ-วิ-กฤต ระ-บุ-มิจฉะมากมาย ลูบคลำพระธรร-มะ-อ-ภิ-ปราย- ระ-บุ-คล้ายจะเคยเห็น O กาลามะสู-ต-ระ-ประ-การ พระ-ประ-ทานเสมอเป็น - หลัดยึดประพฤติ-ท-ศะ-ประ-เด็น ฤ-จะ-เร้นจะเลือนสูญ O "เขาว่า".. เพาะสา-ว-กะ-ส-ภาพ ประ-ลุ-คาบทวีคูณ เหนี่ยวรั้งพลัง-ฐิ-ติ-วิ-ทูร ก-ละ-กูณฑะมอดเชื้อ O เกรงว่าจะหา-ย-นะ-พระ-ศาสน์ เพราะ-ประ-ภาษะคลุมเครือ ลุ่มหลงพะวง-ภ-พะ-อะ-เคื้อ อรร-ถะ-เพรื่อสิพร่ำเผย O ไพศาลประการ-อ-ริ-ยะ-วาท จะ-ป-ลาตะล่วงเลย เกรงเขลาคละเคล้า-บ-ทะ-เฉลย น-ยะ-เปรยจะปลอมปน O ยากเย็นประเด็น-อ-ริ-ยะ-สัจจ์ ภ-วะ-วัฏฏะเวียนวน เสกสรรคะคัน-ถะ-อ-นุ-สน- ธิ-วิ-กลวิการเขียน O กำจายสยายอุ-บั-ติ-จิต ระ-บุ-ทิศะดุจเธียร รอบกรรมะนำ-ภ-วะ-เสถียร นิ-ระ-เปลี่ยนกระทั่งปลาย O เห็นไกลกระไร-นั-ย-นะ-ทิพย์ กระ-แดะ-หยิบมุบรรยาย เกรงว่าจะพา-ข-ยะ-ข-จาย มรร-คะ-ปลายจะเปล่าเปลือง O เหตุต้น .. เพาะผล-กรร-มะ-กระ-ทบ ด-ละ-ภพะรองเรือง สัมผัสกระหวัด-ร-สะ-เมลือง ทะ-นุ-เนื่องเขษมสันต์ O การณ์เหตุและเจ-ต-นะ-ผ-จง อุ-ป-สงคะร่วมกัน ก่อกรรมะนำ-ทุ-ก-ระ-ทัณ- ฑะ-ผ-ชันเผชิญชนม์ O กรรมเหตุและเด-ชะ-จะ-ส-ลาย ก็-เพราะ-คลายระดับ..ตน.. รู้วัตรขจัด-อ-ดุ-ระ-ผล ละ-ก-มละพ้นหมอง O เพียงคุมผชุม-จิ-ตะ-ส-มา- ธิ-ส-ภาวะตามตรอง ใคร่ครวญชนวน-มุ-หะ-ละ-ออง เฉพาะต้องจะตัดเตียน O ติดหล่มเพราะสม-มุ-ติ-พิ-การ วิ-ญ-ญาณะจำเนียร สิ้นร่าง บ่ ร้าง-ภ-วะ-เสถียร จะ-ผละ-เปลี่ยนและเวียนไป O ดวงเดียวจะเหนี่ยว-อ-ม-ระ-ภาค กระ-แหนะ-พากย์เพราะอำไพ ลอยลิบกระพริบ-บ-ทะ-ไสว ภ-พะ-ใหม่ตะบึงมอง O แห่ตามเพราะพราห-ม-ณะ-ประ-สิทธิ์ นิ-ร-มิตะรับรอง อวลอรรถเพาะปรั-ช-ญะ-ส-นอง ผิ-วะ-ต้องก็เป็นตาย O กาลล่วงก็ห่วง-ทิ-ฐิ-พิ-สุทธิ์ ธรร-มะ-พุทธจะเปล่าดาย แผกผันเพาะคัน-ถะ-อ-ภิ-ปราย อ-ธิ-บายะเบี่ยงเบน O หลงมุขะยุค-อุ-ป-นิ-ษัท พิ-เคราะห์-อรรถะโอนเอน หลงรสประพจน์-อุ-ต-ริ-เถร ด-ละ-เวระแฝงไว้ O แยบคายอุบาย-มุ-สะ-ประ-โยค ระ-บุ-โลกะครรไล พรางปมเพาะสม-มุ-ติ-พิ-สัย ระ-บุ-ให้พิกลเห็น O แปลกตอนสะท้อน-ร-หั-สะ-วา- ก-ยะ-พาหะแผกเพ็ญ ข้ามภพบ่จบ-ประ-ทุ-ษะ-เข็ญ ต-ละ-"เป็น"เพราะกรรมปรุง O เหตุนำเพราะคัม-ภิ-ระ-ก-ถา อรร-ถะ-ราชะอำรุง ภาษปวงพระร่วง-ลิ-ขิ-ตะ-ฟุ้ง ก-ละ-รุ้งจรัสเหลือ O ต้นเงื่อนเสมือน….วิ-สุ-ทธิ์-มรรค เพราะ-ประ-จักษะจุนเจือ - คลี่คลายสยาย-ภ-พะ-อะ-เคื้อ ต-ละ-เหยื่อก็พร้อมยิน O เหตุร้อน ณ ก่อน-ม-ร-ณะ-กาล ฤ-จะ-ผ่านทลายภินท์ ย้อนสางมล้าง-ภ-วะ-อ-จิน- ต-ยะ-สิ้นจะได้หรือ ? O เมื่อเหตุเภท-ด-ละ-ประ-ภพ ฤ-จะ-กลบซะด้วยมือ รูปนาม ฤ ข้าม-ภ-พะ-กระ-พือ ประ-ลุ-รื้ออดีตกรรม O การณ์ใดกระไร-ด-ละ-เพราะเหตุ บ-ริ-เฉทะเนื่องนำ - ส่งผลทุรน-อ-ดุ-ระ-ล้ำ ฤ-จะ-ห้ำประหัตหาย O ความดับระงับ-ฤ-จะ-ประ-สบ ผิ-วะ-ภพะวอดวาย หนทางจะล้าง-ทุ-ระ-ส-ลาย ฤ-จะ-หมายจะมองไหน ? O เหตุ-ผล ณ บน-ระ-ยะ-ระ-หว่าง ภ-พะ-ต่างจะอย่างไร ? หรือเพียงจะเบี่ยง-ทิ-ฐิ-พิ-สัย ระ-บุ-ไว้เพราะสับสน O มืดมัวสลัว-รั-ฐะ-ไผท ม-ติ-ไหนก็จำนน แซ่ศัพท์สดับ-จิ-ตะ-ฉ-งน เสนาะพ้นวิหคไพร ! O แม้นห้วงอรรณพนั้น - - - ไพศาล ใช่กักทุกข์ทรมาน - - - หมดสิ้น แต่อบายจดพรหมสถาน - - - ถ้วนหมู่ นับเนื่องเพียงกระผีกริ้น - - - รอด, พร้อม-นฤพาน ! https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=09-2005&date=23&group=10&gblog=9 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=09-2005&date=23&group=10&gblog=9) หัวข้อ: Re: O ฉันทะดำเนิน .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 22 พฤศจิกายน 2018, 05:51:PM O เชิญจันทร์ .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1354069348.jpg) วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ O พรึบพร่างระหว่างระยะชโล- ทระโชติเพรียกชม สรวมสิทธิ์นิมิตฤดิภิรม- ยะผสมกระแสสาย O บาปปวงละล่วงประทุษะชาติ และปลาตะทำลาย ยอบุญะหนุนบทะสยาย ทะนุกายและใจนี้ O เชิญจันทร์ถวัลยะ ณ สรวง รุจะช่วงประคอง ชี- วิต .. ครวญประมวลมิติพิถี เฉพาะที่ .. เหมาะ .. เที่ยงธรรม O จีบตองละล่องชละกระแส พิเคราะห์แก้มโนกรรม วิญญาณทะยานเฉพาะเพราะสัม- ผัสะค้ำ จะ คอยขืน O ไฟช่วง ฤ ดวงมนัสะโช- ติเพราะโมหะกลบกลืน ฤๅต่าง .. ระหว่างจิตะ, ทะมืน- นิละคืนนะครอบลง O เวิ้งกว้างระหว่างระยะชโล- ทระ - โมหะเมา .. มง- คล .. กรรมะทำนุอุปสงค์ ยุติสงเคราะห์เลือนสูญ ! O อัมพรโอภาสแจ้ง - - - จันทร์ฉาย ประทีปอธิษฐานราย - - - รอบน้ำ เพ่งไฟ, จิตรำบาย - - - ความบอก ยอสุข, ถ่วงโศก-ช้ำ - - - ชอก-สิ้นสูญสลาย https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=11-2012&date=28&group=2&gblog=75&fbclid=IwAR1kOQbN7L6VAQHfHmK6C0x5OSp4xXtr-iv7MPOQn_Yo4PbsxYecFsyCNiw (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=11-2012&date=28&group=2&gblog=75&fbclid=IwAR1kOQbN7L6VAQHfHmK6C0x5OSp4xXtr-iv7MPOQn_Yo4PbsxYecFsyCNiw) หัวข้อ: Re: O ฉันทะดำเนิน .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 03 เมษายน 2019, 06:11:PM O ทุรยุค .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1468240607.jpg) วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ O กลบโสตเพราะโฆษณะประดัง ตละครั้งก็คืบคลาน กล่อมหัวระรัวบทะผสาน ฤ จะต้านจะทานไหว O เปลื้องบทสุพจนะประพิมพ์ สัตะปริ่มจะปราชัย โดยเมาหะเขลาพฤติพิสัย ทะนุไว้ประโลมหวัง O เท็จแถ ก็ แผ่บทะประกอบ ระกะรอบ สิ รุงรัง แฉกลิ้น ฤ สิ้นมุสะพลัง ตละครั้ง บ ขัดเขิน O โอ .. โสตอุโฆษสรรพะประกาศ ทุรชาติชวนเชิญ เพรียกบทและพจนะประเมิน สรเสริญ จะ แซ่เสียง O จึง-เมืองกระเดื่องมุสะพจี ดุษณีกะสำเนียง โลกล่างระหว่างกรรมะประเดียง ดุจะเอียงจะโยกไหว O ใช่ปราชญ์ .. ก็ปราดระบุระบบ มุหะภพก็อำไพ ใช่เธียร .. ฤ เทียน, ยุคะสมัย- จะไสวสว่างฤา ? O สามารถเหมาะชาติจะอภิวัฒน์ เพราะสมรรถะด้วยมือ ใช่ปากและพากยะกระพือ บทะสื่อจะเสกสรรค์ O ผลลัพธะนับคุณะดนู สรรพะผู้จะรำพัน ปรารมภะชมสมรรถะบัน- ดละฉันทะในชน O งมโง่และโมหะวิปริต ปะทุฤทธิบันดล เปลื้องชาติและภาษะอนุสน- ธิวิกลวิการเผย O จาก-ฉละป่นอริยะชาติ พิเราะภาษะรำเพย จวบ-พิษะริษยะเฉลย บทะเคยก็เผยความ O หวังวาทะคารวะและชม ตฤณะตมจะเชื่อตาม วิญญูเพราะรู้ก็เยาะและหยาม นยะพล่ามก็ข้ามเสีย O สื่อสู่ก็รู้ประพฤติกรรม สุขะล้ำกะแลบเลีย ลิ้นแลบก็แลบ บ ผละ บ เพลีย บ ละเหี่ย, ก็เผยเห็น O สบโสตประโมทยะระบัด อวิภัชชะพร้อมเพ็ญ เพียบภาวะทารกะกระเซ็น ตรรกะเห็นจะเร้นสูญ O อำนาจและอาชญะเพาะเหตุ ทุระเภทะเพิ่มพูน หลักคิดประสิทธิ์คติวิทูร- บริบูรณ์ .. ก็ไม่เอา O ศัพท์เสียงเผดียงปะทะกะโสต กุธะโฉด สิ ใช่เบา เสียงส่ำเพราะสัมผัสะกะเขลา นยะเร้าก็ลวกลน O หาผู้เหมาะรู้จะอภิวัฒน์ ทะนุรัฐะมณฑล หาผู้เหมาะรู้จะอนุสนธิ์ คณะชนและเดชา O ใช่ผู้เพราะรู้จะรณรงค์ ระบุบ่ง ก็ ศอก-วา ไป่รู้จะชูสุขะสถา- ปนะภาวะสู่ชน O เสริมสร้างระหว่างยุคะสมัย เฉพาะนัยะจำนน เสกสร้างธุมางคะปฏิสน- ธิกะตนก็เป็นตัว O โลกทึ่งตะลึงวัตระไฉน- พิสมัยกะมืดมัว โลกเห็นก็เป็นตรรกะนะถัว- บทะทั่วมุสาทาง O นับช่วงทะลวงสุตะและโฆ- ษณะโว บ เว้นวาง ล้วนคำเพราะคัมภิระพยางค์ มุสะสร้างก็เป็นทรง O โอ้ – ลวงทะลวงนิกระโสต ขณะโกรธะหยั่งลง โอ้ .. กา ฤ ว่า .. ผิวะจะหงส์ ? พิศะรงคะย่อมรู้ ! . . กุธะ .. แผลงจาก โกรธะ มุหะ .. แผลงจาก โมหะ มุสะ .. แผลงจาก มุสา สุตะ .. แผลงจาก โสตะ . . https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2016&date=11&group=2&gblog=92&fbclid=IwAR1vRazHW_WJ-SLUnkikVwUc9KR7fNuJA3sWnzFVdKbpbRUM9_AvCpo8eR0 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2016&date=11&group=2&gblog=92&fbclid=IwAR1vRazHW_WJ-SLUnkikVwUc9KR7fNuJA3sWnzFVdKbpbRUM9_AvCpo8eR0) |