หัวข้อ: O เสน่หา .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 03 กันยายน 2018, 07:27:PM (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1467470630.jpg) O แม้น .. ภพชาติช่วงต่างมาขวางคั่น ใช่อาจกั้นกีดเล่ห์สิเนหา จน .. วงรอบการอุบัติแห่งอัตตา- ยังยากฝ่าหวานล้ำ .. ในคำนึง O จากเมฆหม่นฝนโปรย .. ลมโรยอยู่ พาพบเจอ .. รับรู้ .. ย่อมรู้ถึง- แววอ่อนหวานในตาที่ตราตรึง และหวานซึ้งในอกที่ยกตัว O แต่บัดนั้นหวานละมุนก็หนุนเนื่อง พร้อม-รูปเรื่อง, แววตา, พืดฟ้าหลัว ระลอกลม, คลื่นฝนแสนหม่นมัว ตา, อีกหัวใจหนึ่ง .. สบ, ตรึงไว้ O อบอุ่นกลางเหน็บหนาวที่พราวหยาด เมื่อรูปชาติเผยโฉมเข้าโหมใส่ ถ้วนคันธารสประทิ่น ณ ถิ่นใด หวานหอมได้เยี่ยงนี้ .. จะมีฤา ? O ปากคล้ายยิ้ม, เนียนแก้ม .. คล้ายแย้มสู่- ถามแววตารับรู้ .. ว่ารู้หรือ- ความอ่อนโยนโผนผกในอกคือ- ผลจากสื่อสบต้อง .. ตาของใคร ? O ปากคล้ายยิ้ม, เนียนแก้ม .. ยังแย้มอยู่ คอยสื่อสู่เพรียกถวิล อย่าสิ้นได้ เบื้องนอกฝนโปรยปราย .. หากภายใน- ความอ่อนโยนอ่อนไหว .. เริ่มไกวตัว O ก็แค่แววตาพบ .. แล้วสบนิ่ง สบแล้วยิ่งคล้ายแก้มนั้นแย้มยั่ว ภาพแวดล้อมในตาจึงพร่ามัว กับเพียงชั่วปากแก้มนั้นแจ่มชัด O แต่แววตาผ่านสู่ .. ก็รู้ถึง- ความหวานซึ้งผ่านต้อง .. สุดป้องปัด แล้วอาวรณ์พิสวาดิก็สาดซัด เมื่อท่วงทีความอุทธัจ .. สุดตัดตอน O จะฝืนฝ่าอาลัยอย่างไรรอด ยามแววตาพร่ำพลอดความออดอ้อน ยามกำลังเสน่หา, แรงอาวรณ์ นั้นสุดถอนถอดบทให้หมดรอย O ฝนหยุดสาย, พร้อมลมที่พรมอยู่ แววแฝงเร้นสื่อสู่ไม่รู้ถอย เหมือนจะสั่งชี้อยู่ให้รู้คอย เต็มละห้อยห่วงเห็นอย่าเว้นวาง O แต่บัดนั้นจนบัดนี้เท่าเห็น ล้วนอาวรณ์เพียบเพ็ญไม่เว้นว่าง จนแววตา, ฝนปรอย .. พ้นรอยทาง ถ้วนความอ้างว้างเทียบ .. ก็เพียบพร้อม . . O ลมยามเช้าห้อมเห่ช่อเกสรา เพรียกคันธารสสุมาลย์อันหวานหอม- อวลกลิ่นรุมภุมรินให้บินดอม เพื่อจมจ่อมหวานรสเป็นบทเดียว O แต่แววตาสบรูป-ที่วูบหล่น- คือ ..ใจ-อลเวง, ตา-ละล้าเหลียว สายใยอย่างแฝงเร้น .. ฟั่นเป็นเกลียว- ล้อมรัดใจทุกเสี้ยว .. แล้ว-เหนี่ยวดึง ! O รูปนามที่คุกคามทั้งสามโลก หรือ-เพื่อโยกคลอนจิต .. เฝ้าคิดถึง แล้วจรด .. รูปจริต .. ให้ติดตรึง- แววตาซึ่ง .. ถวิลเห็น .. ไม่เว้นวาง ? O จริตรูป .. ละม่อมลักษณ์จำหลักแล้ว งาม, ผ่องแผ้ว-รูปพักตร์ .. รอดักขวาง เพรียกอาลัยอาวรณ์ ให้ย้อนทาง- ร่วมสืบสร้างงามล้ำ .. ให้ดำรง O รูปจริตอ่อนน้อย .. เหมือนคอยชี้- บอกท่วงทีแห่งยูงอันสูงส่ง ว่า-กรรมบทสืบสานจากว่านวงศ์ เพรียก-จำนง .. เสน่หาผู้อาลัย O แผ่วแผ่ว .. สายวาโย .. เมื่อโผผ่าน ช่อสุมาลย์ต้องริ้ว .. ย่อมพลิ้วไหว เช่นสบแววตาวาม .. รูปนามใคร แรงอาวรณ์พิสมัย .. ย่อมไหวรับ ! O แต่ละภาพผ่านเคลื่อน .. ก็-เหมือนว่า ยกคุณค่า .. ควรถนอมขึ้นพร้อมสรรพ หน้าผากเนียน, แก้มอิ่ม, เนตรพริ้มพรับ- ก็จู่รูปโจมจับ .. ใจ-รับรู้ O แต่ละภาพผ่านเคลื่อน .. เริ่ม-เหมือนว่า เสน่หาหอมหวาน .. ใครผ่านสู่- เพื่อหัวใจอบร่ำความดำรู- นั้น-จักอยู่ทอดทับ .. ใจ-นับนาน O แต่ละภาพผ่านเคลื่อน .. จึง-เหมือนว่า ถ้วนคุณค่าอาวรณ์แสนอ่อนหวาน- จากรูปนามพริ้มเพรา .. รูปเยาวพาล- เจ้าส่งผ่านมอบสู่ .. ให้ผู้เดียว O หลับตาลงปล่อยใจพาไหลล่อง ท่วงทำนองตื่นตอบ .. คอยลอบเหลียว ฝนหยุดเม็ด, ลมพลิ้ว, เมื่อนิ้วเรียว- เหมือนลอบเหนี่ยวลอบล้ำ .. ล่วงคำนึง O คล้ายอาวรณ์ซ่อนเร้นที่เป็นอยู่ ได้เผยความผ่านสู่ .. ให้รู้ถึง- อีกใจที่เสน่หา .. ได้ตราตรึง- ร่วมหวานซึ้งหอมรส .. เป็นบทเดียว ! https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2016&date=02&group=11&gblog=663 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2016&date=02&group=11&gblog=663) หัวข้อ: Re: O เสน่หา .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 15 กันยายน 2018, 06:34:AM O ใต้ปีกนกฟ้า .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1466914872.jpg) O โอ ยอดรัก .. ที่จำหลักลงทรวงคือห่วงหา เสียงกระซิบ, สั่นไหวแห่งนัยน์ตา เผยความว้าวุ่นอยู่ไม่รู้คลาย O ปรารถนาย่อมช่วงโชน แววอ่อนโยน แหนหวงย่อมช่วงฉาย หวงความคำแผ่วกระซิบ แววปริบปราย ที่ค่อยถ่ายทอดสู่ให้รู้กัน O อาวรณ์ ทั้งอาลัย ย่อมเผยให้แวดล้อมเข้ากล่อมขวัญ เยี่ยงสายใยม้วนตามคอยล่ามพัน เกินตัดบั่นลับลาจากอารมณ์ O โอ ยอดรัก ดุจศรปักเสียบอยู่สุดรู้ข่ม กระซิบแผ่ว ปรารถนา แววตาคม- นั้นทับถมเพรียกคะนึงทุกกึ่งยาม O ระริก .. ความออดอ้อน แผ่ว, เว้าวอนโดยประภาพอันวาบหวาม เสน่หาอาลัยย่อมไหลลาม- ม้วนปลายเลื้อยรัดล่ามอย่างย่ามใจ O คันธาแห่งมาลี .. ค่อยค่อยคลี่รสหอมแวดล้อมให้- ฆานรูป, เนื้อละมุนและอุ่นไอ กอปรภาวะอ่อนไหว .. วูบ-ไหวตัว O ความอ่อนโยน .. ค่อยถ่ายโอนคำบอกเข้าหยอกยั่ว เพรียกแววตาวาบนั้น ให้สั่นรัว แลเพรียกงามสั่นทั่วทั้งหัวใจ O แผ่วกระซิบกระซาบสู่ .. คือรับรู้อภินันท์ .. ว่า-สั่นไหว เขมภาคคืนสรวง .. เพรียกดวงไฟ- ครอบทั้งไตรโลกลิบชั่วพริบตา ! O ดวงใจพี่ .. ทั้งอุมาลักษมีหรือมีท่า ยามเมื่อสรวงทั้งหกเวียนวกมา ชะลอเทียบตรงหน้าต่อตานั้น O ขวัญพี่เอย .. ความเอื้อนเอ่ยสุ้มเสียงกระซิบสั่น พลิกหกสรวงลงคว่ำในรำพัน ปีกนกฟ้าโอบจันทร์ .. บัดนั้นเอง ! https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=08-2015&date=27&group=11&gblog=637 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=08-2015&date=27&group=11&gblog=637) หัวข้อ: Re: O เสน่หา .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 01 มีนาคม 2019, 06:47:PM O อาวรณ์ .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1550887644.jpg) O เยี่ยงไรหนอคิดย้อน .. แล้วร้อนรุ่ม- กับเพลิงขุมอาวรณ์ .. เกินผ่อนหาย หน้าผากเนียนแก้มหน้า .. นัยน์ตาชาย- สบ-แพ้พ่าย .. ละห้อยเห็น .. อยู่เช่นนั้น O อาจรู้ฤๅ .. คะนึงหาบรรดามี- จากวาดวีห้วงใจ .. ค่อยไหวสั่น- จนคล้อยเคลื่อนความสู่ .. ให้รู้กัน ด้วยสุดกั้นกีดงามที่ลามทรวง O หวังถึงเนตรอ่อนโยน .. แววโชนฉาย จักวาบคล้ายโลดแล่น-ด้วยแหนหวง เพื่อว่ารอบบุญบาป .. จักทาบทวง ผูกเป็นบ่วงรัดขวัญ .. ล้อม-พันธนา O ลับรูป .. หากคะนึงยังตรึงอยู่ จากรับรู้ .. เฝ้าคอย .. ละห้อยหา อบอุ่นด้วยอ่อนหวานวาบผ่านตา ที่เหมือนว่าสื่อสู่ .. จนรู้ทัน O ลบเลือนฤๅ .. เพียงพรับคล้ายกับว่า เรียวรูปหน้าผุดขวางขึ้นกลางฝัน จะฝ่าพ้นอาลัย .. เยี่ยงไรกัน เมื่อกางกั้นทิศทาง .. ทุกย่างเดิน O พร้อมกับที่-หมดสิ้นแรงดิ้นรน- คือตาคนสัมผัส .. แววขัดเขิน พ่ายแพ้ แรงอุ่นล้ำ .. ที่ก้ำเกิน ก่อนลุกลามจำเริญ .. อยู่เนิ่นนาน O โหดร้ายกันจริงหนอ .. ลออลักษณ์ เผยรูปพักตร์เนียนละม่อม .. เพรียกหอมหวาน- ให้อบอวลอารมณ์จนซมซาน จนสุดต้านทานอยู่ .. แม้น-ครู่เดียว O สุดป้องแล้วนฤมิต .. จริต-โฉม ดลรอบโสมนัสเคลือบ .. ทุกเหลือบเหลียว เร้าอาวรณ์เลื่อนแล่น .. ดั่งแขนเรียว- โอบ - รั้งเหนี่ยวคลอเคล้า .. ให้เฝ้ารอ O ผ่านมาให้อบอุ่นและคุณค่า เร่งฤทธาลามช่วง .. เป็นบ่วงช่อ- สายเยื่อใยสวาดิเยาว์-พะเน้าพะนอ ก่อนทอดทอแรงรักจำหลักลง O จึง-ทุกห้วงคำนึง .. แม้นกึ่งคาบ ราวเพรงสาปเคยสุม .. พาลุ่มหลง- ตามช่วงลมหายใจ .. สั่นไหว-บง- การ-เรื้องแรงจำนง .. ข้ามวงวัฏฏ์ O แหนหวงการพร่ำพลอด .. ความออดอ้อน- แผ่ว-เว้าวอนเพราะพร้อง .. เกินป้อง-ปัด กุมอารมณ์แนบน้อม .. ละม่อมลักษณ์ ผู้จำหลักแรงถวิล .. ลงจินตนา O เอ็นดู-ความอาวรณ์แสนอ่อนไหว- อันแฝงนัยบ่งชี้ .. ในทีท่า แหนหวงความหอมหวานแห่งมารยา เจ้าเอยรู้ไหมว่า .. ใคร-อาวรณ์ ? https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=02-2015&date=18&group=11&gblog=615 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=02-2015&date=18&group=11&gblog=615) หัวข้อ: Re: O เสน่หา .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 03 พฤษภาคม 2019, 02:53:PM O ฉันทาสมัย .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1468458846.jpg) O ดูเถิด .. หมอก, น้ำค้าง .. ตอนสางตรู่ แดดทอดสู่โลมต้อง .. ก็มองเห็น- หยดหยาดเพชรเรียงระเบียบ .. กลางเยียบเย็น ย่อมจักเร้นเลือนสลาย .. กับสายลม O เยี่ยงแววตาเขินอายชม้ายสบ ยอชาติภพตอบตื่น .. ทิ้ง-ขื่นขม รูปวัยเยาว์, ชม้อยหา, แววตาคม- จึงผูกปมซ่อนเงื่อนเกินเคลื่อนคลาย O ภาพ-บนฟ้าปีกนกเริ่มโบกบิน แวดล้อมถิ่นโลกต่ำ .. ลมร่ำสาย หยาดน้ำค้างระยับตอบอยู่รอบราย อีกแววขัดเขินอาย .. ชม้ายคอย O ดูเถิด .. แวววับวามเมื่อยามสาง เหมือนน้ำค้างพรมโลก-ลบโศกสร้อย พาหวานหอมเยือน-อกจนยกลอย รอบละห้อยถวิลเห็น ฤา-เว้นวาง ? O รูปธรรมวัยเยาว์แห่งเช้านี้- จึงช่วงชี้บีบเค้นไม่เว้นว่าง หยัดรูปนามโลมรุกไปทุกทาง โถมทับความอ้างว้างจนร้างเลือน O ชั่วตรู่สางล่มลับ, ระยับแดด- ก็ค่อยแวดล้อมรับ เข้าขับเคลื่อน หมุนโลกหมุนรูปนามคอยตามเตือน ทุกเขยื้อนทุกขยับ – เฝ้าจับจอง O สิ้นสาง .. เข้าสายแดดสายสว่าง แววขนางในขนบยังสบต้อง รูปธรรมอุ้มขวัญสู่ครรลอง- แรงหมายปองกระอุฤทธิ์ในจิตคน O และชั่วเพียงพยับแดดเริ่มแผดเผา ความรุมเร้าก็เติบเต็มอย่างเข้มข้น จวบหอมหวานเบิกบทปรากฎตน จึงหวานล้นทั่วแล้วทั้งแววตา O สวยปีกผีเสื้อบินในถิ่นที่ ลวดลายคลี่โบกลอย, ละห้อยหา- ก็ส่งผ่านห้อมเห่กาลเวลา เมื่อแสงฟ้าเคยระยับ .. คล้ายลับเลือน O ด้วยแววตาแฝงเร้น .. สุดเร้นซ่อน แววออดอ้อนรอคอย .. ก็คล้อยเคลื่อน- ขึ้นแขวนรูปขวางรอย เพื่อคอยเตือน- แรงสะเทื้อนระทึกทรวงในช่วงวัน O หมอก .. น้ำค้างทุกหยาดบำราศแล้ว เหลือเพียงแววตาคอยร่วมร้อยฝัน นามธรรม, รูปภพ .. ก็ครบครัน- ความผูกพันละห้อยห่วงฝ่าช่วงยาม O ปีกนกคลี่ร่อนคว้างที่กลางหาว เมื่อวับวาวแววตาเกินฝ่าข้าม ความอ่อนโยนอ่อนไหวเริ่มไหลลาม เข้าแวดล้อมรูปนามที่งามพร้อม O ปรารมภ์ว่า .. แววระยับยามพรับพริ้ม จักซ่อนยิ้มตอบรับการขับกล่อม หรือยังคงสืบบทการอดออม- งำหวานหอม .. เผยสู่ให้รู้ชัด ? O ปรารมภ์ว่า .. ยามชม้อยชม้ายสบ การเสหลบ ควรพ้องหรือต้อง-ตัด ? กับแววตาวับวามที่ล่ามรัด การกำจัดให้สิ้น .. เกินยินยอม ! O สร้อยเกสรพวงบุหงา คันธามาศ เริ่มบทบาทรวยรินด้วยกลิ่นหอม ให้โลกผู้ห่วงรส .. สุดอดออม- หวานแวดล้อมที่ประดังใจทั้งดวง O ปาริชาติหอมรื่น .. ในคืนค่ำ คลายกลิ่นร่ำรมแถน .. ทั้งแดนสรวง โอนเถิดกลิ่นหอมล้ำ .. ขอ-บำบวง- แนบทับทรวงข้างใจของใครนั้น O อินทร์ .. พรหม .. ปวงทิพแถนถ้วนแดนฟ้า โปรดบัญชาชี้ให้ .. ความไหวหวั่น- ที่เบิกบทแสนประณีต .. เกินกีดกัน ช่วยแบ่งปันบริบท .. คืน-ทดแทน O ถ้วนทั้งสิ้นทั้งปวง .. ความห่วงหา ปรารถนา, ยินยอม .. และอ้อมแขน แรงอาวรณ์, รอบถวิล .. ทั้งดินแดน ฤๅ-อาจแม้นอาลัย .. หัวใจมี ? O ภาพ-ข่มยิ้มขัดเขิน .. ทำเมินหน้า ก็-แทรกฝ่าแก้มเนื้อ .. เนียน .. เรื่อสี คล้ายเผลอเผยเลศชู้ .. ให้รู้ที- รู้ท่า-ความใยดี .. ว่า-มีใจ O จากนั้น .. ลมแห่งโลกจึงโบกบ่าย โรยร่ำสายล้อมรับ .. การหลับใหล จังหวะเต้นทุกช่วง จากทรวงใคร- ควรสั่นไหวรอถนอม .. อย่างยอมตน O รู้ใช่ไหม .. ความกระซิบจากลิบโพ้น- แสนอ่อนโยนคอยประนัง .. เพื่อหวังผล- ให้อาวรณ์อาลัย .. ค่อยไหววน- พาใจหล่นลิ่วพัน .. บ่วงฉันทา ! O รู้บ้างไหม .. ความคำที่พร่ำสู่- เพื่อ-รับรู้ .. เฝ้าคอยละห้อยหา เพื่อ-อ่อนไหว .. ทรมานด้วยมารยา และเพื่อว่า .. ถวิลอยู่ ไม่รู้วัน ! O จงรู้เถิด .. กระซิบคำในค่ำดึก เพื่อ-ส่วนลึกห้วงใจ .. เมื่อ-ไหวสั่น จักทอดวางรูปเงา .. เยี่ยงเถาวัลย์- กอดกระหวัดรัดมั่น .. จวบวันตาย ! https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2016&date=14&group=11&gblog=665&fbclid=IwAR2mP2GUNW-CnNlhh3Lt7U_PnXnYH2m_RRtJaUNyKP6pkhu7jrEkeV32_I4 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2016&date=14&group=11&gblog=665&fbclid=IwAR2mP2GUNW-CnNlhh3Lt7U_PnXnYH2m_RRtJaUNyKP6pkhu7jrEkeV32_I4) |