หัวข้อ: O แรกอรุโณทัย .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 30 สิงหาคม 2018, 06:38:PM (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1411898357.jpg) O เมื่อแสงเรื่อรองงามแห่งยามรุ่ง ค่อยค่อยฟุ้งฟายอณูเพรียกตรู่สาง คลี่ปลายปีกปักษินล้อมถิ่นทาง โลกเบื้องล่างก็ค่อยฟื้นขึ้นตื่นตัว O ดอกดวงมวลน้ำค้าง .. หยาดวางเม็ด ดั่งพลอยเพชร-พรึบบน .. ความหม่นหลัว ลมโรยริ้วเรียวใบ, ดอก-ไหวรัว รับรื่นเย็นเกลือกกลั้วอยู่ทั่วใบ O มัวหมอกค่อยค่อยจางลงกลางแดด ร่ำรอแวดล้อมรับ .. การขับไข- ของอำนาจพราวพริบจากลิบไกล แห่งยามอรุโณทัยสมัยนั้น O จึงเห็นปีกผีเสื้อบินเหนือพื้น คลี่ปีกขืนลมร่ำ .. เมื่อน้ำกลั่น- ค่อยหยาดรูปหล่นร่วง .. เมื่อดวงวัน- ลอยดวงขึ้นบังจันทร์ในชั้นฟ้า O พร้อมเหน็บหนาวอวลอณูล้อมตรู่สาง คือหมอกพรางแทรกตัวอยู่ทั่วป่า จนแสงแรกเบิกคาบลงทาบทา ก็รู้ว่า .. วันเคลื่อนสู่เดือนปี O หอมเมื่อดวงดอกไม้ .. แกว่งไกวช่อ- หวานย่อมรอจบจีบแทรกกลีบสี ปีก-ลายต้องลมโกรก .. ก็โบก .. วี กลางหอมที่ .. รายล้อมให้ยอมตัว O ตื่นหอม .. เข้าตฤปหวาน .. จนหวานหยด- กลั่นรูปอวลกลิ่นรสคอยหยดยั่ว โลกยามแรกเมื่อนั้นค่อยสั่นรัว- ไปกับการเกลือกกลั้วของตัวตน O ลมเหนื่อยอ่อนโรยตัวอยู่ทั่วแหล่ง พารื่นล้ำแทรกแฝงทุกแห่งหน พื้นหญ้าไหวเรียวลู่ .. ก็ลู่จน- น้ำค้างหล่นร่วงดินจนสิ้นรอย O ระบัดเรียวเขียวรอ .. แดดทอทาบ ลงลบภาพเย็นเยียบแสนเงียบหงอย เพื่อปลุกโลกให้ตื่นขึ้นยืนคอย- การปลดปล่อยรังสี .. ให้ปรีดา O แตะตื่นพื้นโลกเคยโชกชุ่ม ด้วยแดดรุมรอบล้อมอยู่พร้อมท่า จนสรรพเสียงรอบด้านแว่วผ่านมา ปรารถนาทั้งปวงก็ช่วงแรง O หมุนโลก - พลิกบท .. พางดงาม- ล้อม, คุกคามไม่เว้น .. ก่อนเร้นแฝง- เป็นรูปพักตร์งามล้ำคอยสำแดง- ล่มเงียบเหงาปรับแปลงให้แฝงรอย ! O จนเรียวหญ้าระบัดใบขึ้นไหวรับ- แสงระยับผ่องแผ้วอย่างแผ่วค่อย ปวงโลกอันแวดล้อม .. ก็พร้อมคอย- รับรู้แรงห่วงละห้อยทุกรอยใจ O ริ้วแห่งลมร่ำผ่านอยู่นานเนิ่น ยั่วหยอกเอินอาวรณ์ผู้อ่อนไหว ลมร่ำสายโอบเนื้อ .. สายเยื่อใย- เหมือนคลี่ผูกพันไว้ .. ทั้งใจนี้ ! O เบื้องบน .. ปีกนกคลี่โบกบิน เมื่อถวิลในคนเริ่มล้นปรี่ ผ่านรูปรอย, อิริยา ผ่านท่าที- เยี่ยงปีกนกเหยียดคลี่ .. วาดวีลม O โผผกวกร่าง .. อยู่กลางหาว ให้แดดวาววับพร้อม .. ลงล้อมห่ม เยี่ยงรูปรอยปรารถนา .. ล้อมอารมณ์- ค่อยค่อยถมลงทับ .. เกินยับยั้ง ! O ปีกผีเสื้อลวดลายยังบ่ายบิน- สืบเสาะกลิ่นมธุรสให้รด .. หลั่ง- หอมหวานอวลอบใต้ .. ร่มใบบัง- เพื่อแทรกหวานลงฝัง .. ลงฝากรส O หอมหวานอีกผู้ที่จู่โจม- ผ่านรูปโฉมเอี่ยมลออลงจ่อ .. จด เห็นปีกบางเกาะเกี่ยวคลานเลี้ยวลด เมื่องามชดช้อยร่างลงกลางคะนึง O รูปรสจากไหนเล่าจะเข้าขวาง- ปีกหรุบกลางเรณู ของภู่ผึ้ง ลมโรยริ้ว, ปฏิพัทธก็รัดรึง- รสหวานซึ้งลดาชาติ ฤๅอาจเทียม ? O เมื่อมีรูป .. มีใจ-หวั่นไหวรูป สบตาวูบแววคล้ายจะอายเหนียม อิริยารูปละม่อม .. ใช่-จ่อมเจียม หากเต็มเปี่ยมจริตนวลให้ชวนชม O จน-ท่ามกลางแสงช่วงแห่งดวงดาว ริ้วลมหนาวเหน็บพร้อมก็ล้อมห่ม ยิ้มรับท่าเอียงอาย, เมื่อสายลม- ล้ออารมณ์ชายชาญ .. ว่าหวานนัก ! O ไม่มีปีกผึ้งภู่ .. เรณูหอม เหลือเพียงรูปพักตร์ละม่อม .. เข้าล้อมกัก อีกแววตาเหลือบอ้อน .. ไม่ผ่อนพัก การณ์ก็ชักชวนงามเข้าล่ามตรึง O เมื่อมีรูป .. เผยรอยให้คอยหา ทั้งรูปหน้า, รูปจริต .. ให้คิดถึง กลางสายลมโลมพัด .. ที่รัดรึง- คือความซึ้งหวานซาบลงอาบทรวง ! O หมื่นแสนล้านดวงดาวย่อมพราวพร่าง ส่องโลกต่ำเบื้องล่าง .. จากกลางสรวง ที่เผยแววผุดผ่อง .. อีกสองดวง- คล้ายโชนแววจนช่วง .. กว่า-ดวงดาว ! O หัวใจผู้ .. เฝ้าคอยละห้อยเห็น จึงเหมือนเต้นแกว่งรับ .. เพื่อขับหนาว ทั้งรออุ่นโอบคืนให้ยืนยาว พร้อมรอก้าวย่างเดียว .. ก้อยเกี่ยว .. เดิน ! https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2012&date=28&group=11&gblog=401 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2012&date=28&group=11&gblog=401) หัวข้อ: Re: O แรกอรุโณทัย .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 10 ตุลาคม 2018, 07:19:PM O เพียงเจ้า .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1469631600.jpg) O กลางสายลมโรยละลอก .. กลางหมอกเช้า เยียบเย็น-เหงา .. โลกสรรพ, รูปอัปสร- ค่อยเผยผ่านรุมเร้า .. คอยเว้าวอน ให้คำนึงช่วงตอน .. เจ้าย้อนคำ O พี่-เช่นยอดหญ้าพลิ้วกลางริ้วลม ที่ความชื่นฉ่ำ-ฉม .. คอยบ่มร่ำ มีความหมายสุมซ้อน .. ออดอ้อนนำ ผ่านให้สัมผัสทั่วทั้งหัวใจ O ลู่ระเนนเอนล้ม .. ล้อลมร่าย เรียวใบปลิวปัดป่าย .. ต้นส่ายไหว เช้าชื่นเมื่อพรมผ่านด้วยหวานใคร แม้น-เยียบเย็นเพียงไหน .. ก็ไม่รู้ O ด้วยอบอุ่นอ่อนหวาน .. ได้ผ่านล้อม- เพื่อใจน้อมนอบหวานใครผ่านสู่ น้ำใจเช่นสายน้ำ .. ถ้อยคำตรู- ย่อมดำรูรอยร่าง .. แนบกลางทรวง O คืนสายลมบ่มโบกจากโลกหนาว ผ่านฟากฟ้าเดือนดาว .. ส่งหนาวล่วง- สู่โลกร้อนหญ้าเขียว .. พลิ้วเรียวรวง- รับรู้ช่วงเหน็บหนาวอีกคราวครั้ง O เรียวยอดหญ้าอ่อนพลิ้วด้วยริ้วลม รอรับชื่นฉ่ำฉม .. สายลมหลั่ง พลิ้วยอดเอนไหวลู่ .. เหมือนรู้ฟัง- ความอ่อนหวานกระซิบสั่ง .. อีกครั้งครา O รับรู้ความรื่นรมย์แห่งลมร่ำ อ่อนละมุนหนุนนำ .. ราวย้ำว่า- รื่นที่หวนห้อมเห่ห้วงเวลา จนเฝ้าคอยไขว่คว้า-จากฟ้าไกล O ลมลูบเรียวซัดส่ายปัดป่ายยอด นัยพร่ำพลอดสื่อหมาย .. ก็ส่ายไหว- ย่อมด้วยโดยดุษฎี .. ก็ที่ใจ- จะล่องไหลระลอกหวังอีกครั้งคราว O ระยิบเอยเนตรคมกลางลมร่ำ ผ่องผกายร่ายรำในค่ำหนาว ดูเถิด .. แววปลดเปลื้องแฝงเรื่องราว- แทนคำกล่าวสั่นรัว .. จากหัวใจ O งามเอยแววเนตรวับให้นับเนื่อง รอปลงเปลื้องหวานซึ้งติดตรึงให้- รุมเร้าด้วยเสน่หาแรงอาลัย- เพรียกอ่อนไหวเหนี่ยวหน่วงเข้าพ่วงพัน O บ่ายโบกผ่านลมร่ำแห่งค่ำหนาว ฝ่าเดือนดาวโอบล้อมเข้ากล่อมขวัญ เพื่อโอนอุ่นแอบแฝงเข้าแบ่งปัน ให้เหน็บหนาวทั้งนั้น .. ต้องบั่นทอน O ผ่านมาเถิด .. เกรียวกรู .. ฤดูลม อุ่นจะห่มหนาวร้ายให้ถ่ายถอน ยอดหญ้าเรียว .. ลมร่ำ .. ถ้อยคำวอน- จะร่วมฟ้อนฝากช่วง .. บำบวงฟ้า ! O เพื่อหอมหวานต่างตอนจักย้อนสู่- ร่วมรับรู้ใฝ่ฝันร่วมฟันฝ่า- ฝาก-อบอุ่นอ่อนหวานพลิ้วผ่านมา แทนอ้อมแขนปรารถนา .. ผู้อาลัย O ชื่น .. สายลมบ่ายโบกจากโลกหนาว เมื่อสองดาวดวงนั้น .. คล้ายสั่นไหว- ตอบรับความหอมกรุ่น .. แห่งอุ่นไอ- ที่หลั่งไหลซ่านซึ้งเข้าตรึงตน O คล้าย-ความคิดถึงกันในวันนี้ นับครั้งที่ .. มีนั้น .. นับพันหน คล้าย-ความนัยอกชาย .. ที่ว่าย-วน ทุกครั้งวนถวิลอยู่ .. แต่ผู้เดียว O เมื่อ .. บทเพลงปฏิพัทธ์ระบัดบ่ม ย่อมปรารมภ์ .. เฝ้าแต่ชะแง้เหลียว เมื่อ .. อ่อนหวานรำร่าย-ที่คลายเกลียว- พันโน้มเหนี่ยวร่วมหมาย .. ย่อม-สายใย O เมื่อสายลมบ่ายโบกผ่านโลกหนาว คืนเรื่องราวตอกย้ำ .. ถ้อยคำไข ก็ด้วยความซาบซึ้งของหนึ่งใจ ที่อ่อนไหวรับรู้ .. ฤดูลม O เกสรมาลย์, ลมเรื่อยพัดเฉื่อยโชย หอมย่อมโปรยปรายสู่ให้รู้ฉม ต่างฤๅหอมเสน่หา .. ห้วงอารมณ์- ที่จ่อมจมหอมอยู่ .. ฤๅรู้พอ ? https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2016&date=27&group=11&gblog=669 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2016&date=27&group=11&gblog=669) หัวข้อ: Re: O แรกอรุโณทัย .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 20 ตุลาคม 2018, 07:48:PM O กลางฝุ่นฝน .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1540039541.jpg) -1- O คือ-ภาพความใฝ่ฝัน .. ของวันผ่าน ยังคงกล่อมวิญญาณให้หวานหอม คืออ่อนโยนล้อถวิลจนยินยอม- ร่วมหล่อหลอมคำนึง .. ติดตรึงใจ O คือ-ภาพแสนงดงามในความคิด เมื่อใกล้ชิดเมื่อนั้น-ความสั่นไหว- แห่งตัวตนอัตตาต้องลาไกล เหนี่ยวอาลัยเผยตอน .. กลับย้อนคืน O แต่ละครั้งแต่ละคราวยามหนาวสั่น ห้อมห่มขวัญดวงสุดาเข้าฝ่าฝืน อบอุ่นรอยสัมพันธ์ผ่านวันคืน เอาเข้าขืนขัดหนาวให้ร้าวรอน O นึก-ตักนิ่มเนื้ออุ่นให้หนุนอิง พาดตัวกลิ้งเกลือกแม้นว่า .. แทนหมอน แล้วสดับความกล่าวแผ่วเว้าวอน เพื่อ-สุมซ้อนเสน่หาสู่อารมณ์ O ว่า-ครั้งหนึ่งครั้งนั้นเมื่อขวัญเจ้า- เผยรูปเงาผ่านสู่ .. ให้รู้สม ครั้งแล้วและครั้งเล่ารอเฝ้าชม ย่อมปรารมภ์นัยถ้อยที่คอยรอ O วันแล้วและวันเล่าใฝ่เฝ้าอยู่ หวังนัยชู้แทรกทรวง .. เฝ้าบวงขอ เพื่อแววตายามชม้าย .. จักฉายทอ- เลศนัยล้อแรงถวิลให้ดิ้นรน O อาลัยด้วยรูปนาม .. แม้น-ยามหนึ่ง- คิดหน่วงรอบหวานซึ้งสักครึ่งหน ยังดูคล้ายยุ่งยากลำบากจน- ผ่านหลุดพ้นจำพราก .. แสนยากเย็น O ทุกช่วงสบแววตา, ที่บ่าเชี่ยว- คือ-อาวรณ์กราดเกรี้ยว .. โหมเคี่ยวเข็ญ ละห้อยหาถวิลชู้ .. ราวอยู่เป็น- ทัณฑ์บีบเค้นแฝงอยู่ให้รู้รส O รอเถิด .. รูปพิไล-รอไขว่คว้า เมื่อกุมกอปรคุณค่า .. เผย-ปรากฎ ยกความหวานหอมล้ำ .. เทียบคำพจน์ รอ จ-รด .. รูป, จริต-ให้ติดคา O รูปนามเอย .. อ่อนโยนเมื่อโผนผก วงแขน, อกอุ่นพร้อมจักน้อมหา เมื่อสนิทในฝันนะขวัญตา แรงฉันทาจักล้อมเข้ากล่อมใจ O รูปเอย .. รูปแถนถ้วนแดนฟ้า โปรดช่วยมารายล้อม .. เห่กล่อมให้- ผู้รื่นในนิทรา .. รับอาลัย- ตรึงฝันใฝ่แทรกทั่วทั้งตัวตน O คือภาพความใฝ่ฝัน .. ตราบวันนี้ แต่ละครั้งแต่ละที .. หรือกี่หน- จักยังเพรียกแรงถวิลให้ดิ้นรน พาใจคนละห้อยเห็น .. ไม่เว้นวาง ! -2- O เยี่ยงดาว .. แสงกระพริบอยู่ลิบพู้น เรื้องจำรูญรุมเร้าจนเข้าสาง เผยช่วงแสนงดงามในท่ามกลาง- เวิ้งฟ้ากว้างรองรับ .. ความวับวาว O รุ่งเรื้องเริงผกาย .. รำบายสู่ ให้โลกรู้รอบพิมลกลางหนหาว เช่นน้ำใจหนุนเนื่องต่อเรื่องราว ย่อมคู่ควรคำกล่าวทุกคราวไป O งามผกายดาวเรื่อ .. อยู่เหนือฟ้า ฤๅเท่างามเบื้องหน้า .. เมื่อปราศัย เพียงจะหลอมโลกต่ำด้วยน้ำใจ หนุนส่งให้คุณค่า .. แนบปรารมภ์ O ระยิบเอย .. แววตาใต้ฟ้าต่ำ คอยแต่น้ำใจหลั่ง .. เข้าสั่งสม เพื่อเสพแสงเรื้องสล้างที่พร่างพรม- ลงห้อมห่มจิตไว้ .. ด้วยไมตรี O ค่ำคืนฝันยาวนาน .. แห่งกาลก่อน เหมือนกลับย้อนแจ่มจ้า .. ด้วยราศี- รูปนามผู้-เร้าถวิลให้ยินดี- ต่อความ .. มี .. เป็น .. อยู่ .. อันคู่ควร O เปล่งผกาย .. สำหรับให้นับเนื่อง ก่อนรุ่งเรื้องดวงตะวันจะทันหวน แว่วคล้ายเสียงนกค่ำ .. นั้นคร่ำครวญ เมื่อคล้ายส่วนเสี้ยวใจ .. เริ่มไหวตัว O ในคาบยามรัตติภพ .. พระลบล้อม คล้ายเพียบพร้อมแสงระยับ .. พริ้มพรับ-ยั่ว เมื่องดงามปลาบปน .. ด้วยหม่นมัว งามถ้วนทั่ว .. ก็ผุดเผยให้เงยมอง O สู่คาบยามรัตติภพ .. คำรบนี้ เช่นลมวีวาดโบก .. โลมโลกผอง อำรุงรื่นรมย์สรรพ .. ให้จับจอง- ความผุดผ่องเบื้องหน้า .. ต่อตาชาย O จนดาว .. ลอยดวงในทรวงหนึ่ง เนตรหวานซึ้งวับวามด้วยความหมาย แผ่วผ่านด้วยศัพท์เสียงความเอียงอาย- ค่อย-รำบายให้สดับ .. รู้-รับรอง O ดูเถิด .. ดาวโรจน์เรื้อง ที่เบื้องหน้า- งาม, แจ่มจ้า .. สำทับให้จับจ้อง ชั่วพริ้มพรับรับตอบ .. ก็ครอบครอง- ใจทุกห้องให้สุดสิ้นการดิ้นรน ! https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2013&date=29&group=11&gblog=462 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2013&date=29&group=11&gblog=462) |