หัวข้อ: O สิ้น..วาสนา .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 25 สิงหาคม 2018, 02:49:PM (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1307530242.jpg) O และแล้วก็มองเห็นความเป็นจริง ว่าทุกสิ่งทุกอย่าง..เพียงร่างฝัน ปรากฎขึ้นเป็นโจทก์..ชี้โทษทัณฑ์ เพื่อสุมใส่โศกศัลย์..เข้าพันธนา O ถวิลถึงก็วิตกสะทกสะท้อน ฑิฆัมพร..เฝ้าแต่เหลียวแลหา ลอยเด่นกลางสรวงนั่น..คือจันทรา จนเกินมือเอื้อมหา..เพื่อคว้าดึง ! O เคว้งคว้างอยู่กลางคลื่นที่ตื่น..คลั่ง คลื่นเทวษที่ลึกดั่ง..เกินหยั่งถึง รอวิญญาณไร้สิทธิ์..ลงติดตรึง- อยู่ก้นบึ้งโศกศัลย์..ในบั้นปลาย O อีกครั้ง..และอีกครา-ความอาวรณ์- ต้องขาดตอนขาดช่วงจนล่วงหาย อีกครั้งที่อาลัยจากใจชาย- ต้องวอดวายล่มคา .. รูปปรารมภ์ O อีกครั้งที่ใจชาย..จะคล้ายว่า- ต้องโทษทัณฑ์ทรมาจนสาสม เมื่องามหนึ่งรูปละม่อมเคยจ่อมจม ต้องมาล่มลับหายกับสายกาล O รูปเอยรูปงามเยาว์..ดั่งเงาล้อม จากเผยรูปเห่กล่อมด้วยหอมหวาน ดลจริตส่งรับอยู่นับนาน กลับต้องลาญลบสิ้น..จากถิ่นทรวง O เสียเจ้า-เยาวรูป..ราวสูบสั่ง- จากเทพทวงเปล่งปลั่ง-คืนฝั่งสรวง มอบเปล่าเปลี่ยวสุมสั่ง..ใจทั้งดวง เป็นภาพลวงรองรับ..การลับ..ลา O จะมีหรือกาลหวนให้จวน-จบ แต่นี้ตราบผืนภพ..ดินกลบหน้า คงรอคอยเงียบเหงาให้เข้ามา- ฉุดลากอาดูรถวิล..ให้สิ้นลง O นี่หรือ-ปวดร้าว, เจ็บ..อันเหน็บหนาว ในทุกก้าวย่างรุดเหมือนสุดบ่ง นี่หรือ..ความขมขื่นที่ยืนยง คล้ายสืบส่งสมสั่ง..จนคั่งคา O จะเจ็บจำฝังไว้..เพื่อได้เห็น- ใจที่เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า เพื่อปลดปล่อยโทษทัณฑ์ให้บรรดา- ชายอื่นรอเยี่ยมหน้าด้วยสาใจ O เทพผู้กอปรฤทธีทั้งสี่โลก พึงอวยโศกครอบอก-จนหมกไหม้ เอื้อดวงจิตหลอมเหลวด้วยเปลวไฟ เผาผลาญให้มอดสิ้นทั้งจินตนา O จะเกิดดับกี่วัฏฏะวงรอบ ขอนบนอบด้วยเล่ห์เสน่หา ยอมให้เหยียบย่ำเล่นเหมือนเป็นมา ในทุกกาละภพที่พบกัน O อย่าได้คลายอาวรณ์ที่เคยมี ในทุกที่ทางเที่ยวจะเหลียว-หัน จะรอคอยย่ำเหยียบ..อย่างเงียบงัน รอเท้าเรียวเจ้านั้น..เหยียบ-หยันเทอญ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=06-2011&date=08&group=11&gblog=318 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=06-2011&date=08&group=11&gblog=318) หัวข้อ: Re: O สิ้น..วาสนา .. O เริ่มหัวข้อโดย: สดายุ ที่ 17 กันยายน 2018, 06:44:AM O สิ้นสวาดิ .. O (https://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1529496318.jpg) O ให้เราสองขาดกันแต่วันนี้ อย่าได้มีหัวใจอาลัยหา ความรู้สึกอ่อนหวานมันด้านชา ปรารถนาคงเหลือ .. เพียงเพื่อลืม O อัสดงคต .. ดวงรพี .. คล้ายรีรอ จะทอดทอสุรภาพ .. ให้ปลาบปลื้ม ก่อนโอนแสงดาวกระพริบให้หยิบยืม ไว้ร่วมดื่มด่ำงาม .. ยิ่งงามนั้น O เงียบงันด้วยเยียบเย็น .. ใต้เพ็ญแข สุดตาแลเหลียวไป .. ภาพไหวสั่น คล้ายภาพพจน์อันตระการแห่งวานวัน ค่อยบิดเบี้ยวแปรผัน .. เกินกั้นไว้ O คลื่นแสงพาดราศี .. สู่ชีวิต โลมดวงจิตมุ่งมั่นกับฝันใฝ่ สุรภพอัมพร .. ผ่านตอนไป สุมฟอนไฟนิรมิตเป็นสิทธา O โลกราตรีรู้ผ่านแต่ด้านมืด ให้เย็นชืดแห่งวิกาลเผยผ่านหา โหมรอบหม่นหมองหมาง .. ให้ย่างมา คลุมครอบอารมณ์คน .. อยู่อลเวง O มีจันทร์แสงเรื่อรอง .. สู่คลองเนตร คลายแววเลศกราก-รุมเข้ากุมเหง ผ่านความหมายเร้ารัว .. บอกตัวเอง ให้รุดเร่งถือสิทธิ์ .. ในจิตตน O นิมิตใดกันเล่าที่เฝ้าหมาย เช่นวิชชุรำร่ายกลางสายฝน ฤๅผกายมณีน้ำ .. แสงอำพน จักปลาบปนผ่องผาย .. สบสายตา ? O งามเคยงาม .. ราววิชชุที่ลุแล่น เมื่อห้อมแหนภาคโพยม .. เข้าโถมถา แค่เพียงชั่วคาบยาม .. ก็ทรามทา- ทาบแผ่นฟ้ามืดคล้ำ .. ร่วมรำบาย O ใช่ผกายวิชชุ .. อันคุเพลิง ที่จะเริงโรจน์เต้น .. ฟาดเส้นสาย แต่เป็นมืดหม่นคล้ำ .. ค่อยกำจาย ย้อนความหมายถ่ายช่วง .. บ่งท่วงที O เฉกเช่นสายสาคร .. ไม่ย้อนกลับ ผ่านเลยแล้วผ่านลับไม่กลับที่ ขาดกันเถิด .. ชิดเชยที่เคยมี ตราบชั่วชีวาตม์จม .. ลงล่มลาญ ! https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=06-2018&date=20&group=11&gblog=694 (https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=06-2018&date=20&group=11&gblog=694) |