หัวข้อ: O วสันตลีลา .. O เริ่มหัวข้อโดย: aasdang ที่ 24 มิถุนายน 2014, 06:04:AM (http://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1400892643.jpg)
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ 00101110 - - - 110102 00101112 - - - 110103 1=ลหุ นอกนั้นครุ เลขเดียวกัน = สัมผัสสระ O กำลูนผอูนกมละมาตุ ระบุภาษะรำพัน กล่อมเยาวะเร้าสุขะถวัล- ยะประจัน ณ ห้วงใจ O เนื่องหนุนกะสุนทริยะคัม- ภิระคำก็เพื่อใคร- เสพรสสุพจนะประไพ เฉพาะให้ถวิลถึง O เมื่อฝนละหล่นนภะสวรรค์ ขณะนั้นก็คำนึง ฤๅงามจะลามบทะจะพึง- สุขะซึ้งเขษมศานติ์ O พร่างพินธุรินระดะ ณ คาบ ดละภาพะพิมพ์พาล- งามเพ็ญ ฤ เป็นปทัสถาน บริบาละเบิกบุญ O ลมโรยประโปรยชละละออง ผัสะต้องก็เตรียบคุณ- เต็มตวงกะปวงวตะละมุน และพิรุณละหลั่งสาย O หยาดหล่นสุชลผัสะกระทบ ตฤณะภพก็พร่างพราย ขอบเขตและเจตนะก็ผาย- พฤติบ่ายพโยมบน O บวงไท้ ณ ในทิวะสวรรค์ ตละชั้นและต่างชนม์ โปรดช่วยอำนวยทิฐิพิมล อนุสนธิด้วยศรี O สัมมาประการะปฏิบัติ เหมาะสมรรถภาพมี มิจฉาประดาฉละกลี นิระที่จะเอื้อมถึง O โดยธรรมะนำนยะพระพุทธ จิตะนุชะคำนึง โดยชาติปราศจิตะจะพึง- ทะนุซึ่งบ่ควรสรร O เพียบพูนประยูระบริรัก- ษะประจักษะผ่านจรร- ยาเยาว์เฉลาวัตระกระนั้น ดละฉันทะเฉิดฉาย O งามวัยพิไลพฤติวิวรณ์ ก็ขจระกำจาย งามคำเพราะคัมภิระสยาย ก็ระบายระบือเสียง O เจ้าเอยเพราะเผยวุฒิวิภาษ- ะพิลาสพิไลเพียง- พอกานท์จะผ่านนยะเผดียง พิเราะเสียงจะบรรสาร O กำลูนผอูนกมละมาตุ ดละภาษะเพื่อพาล ชื่นชีวะปรีดิพิสดาร อุปการะนานเทอญ แปล .. O เจ้าเอยแต่เผยความก็งามนัก ทุกถ้อยวรรคอักษร .. ออดอ้อนเหลือ จึงเตรียบภาษอบอุ่นเข้าจุนเจือ- มอบความสุขโอบเอื้อ .. สู่เนื้อใจ O เพียงจะผ่านกานท์กรองทำนองเสนาะ หลั่งรินเซาะโสตสดับความขับไข สุนทรีคมคำรสอำไพ พร้อมความนัย .. เพรียกถวิลในจินตนา O พร้อมฟายฝนหล่นหลั่ง .. อยู่ยังพื้น ภาพยิ้มรื่นก็รายล้อมอยู่พร้อมหน้า ปานฉะนี้อยู่ไหน .. ผู้ไกลตา ละห้อยหาถึงใคร .. หนอใจนั้น ? O หยาดน้ำฟ้าร่วงหล่น .. อยู่บนยาม หรือ-แววตาวับวาม .. ถึงยามสั่น ? จากฟากฟ้าฝุ่นฝน .. คล้ายหม่นควัน แววตานั้น .. ยามเต้น .. หรือ-เช่นเดียว ? O ลมร่ำ, น้ำหล่นสาย กำจายหยาด เมื่องามภาษงามภาคเริ่มกรากเชี่ยว- เข้าลูบโลมอกอุ่นให้หมุนเกลียว- คำนึง-ทุกส่วนเสี้ยว .. ในเปลี่ยวยาม O หล่นลิ่วหยดหยาดแล้ว .. ไม่แล้วล่วง ราวเทียบทวงบทโศลก .. สู่โลกสาม ขณะบางบริบทอันงดงาม ราวข่มข้ามเจตนา .. แนบปรารมภ์ O เทพเอย .. ทิพแถนถ้วนแดนฟ้า โปรดอวยค่าเจตนัง .. ลูกสั่งสม สอดเสริมเจตพิสุทธา .. คลื่นคารม เข้าเกลียวกลมด้วยคะนึง .. ใครหนึ่งมี O สัมมาการณ์ผ่านประพฤติให้ยึดถือ เป็น-อยู่-คือ .. อัตตลักษณ์และศักดิ์ศรี กำลังแห่งมิจฉาการณ์ราคี จงปลีกลี้เลือนพรากไปจากใจ O องค์ธรรมแสนบริสุทธิ์ .. นัยพุทธา แนบจิตาตั้งมั่น .. อย่าหวั่นไหว โดยชาติพิลาศเพ็ญว่าเป็นไทย และโดยนัยเนื่องระบอบอันชอบธรรม O อยู่ท่ามกลางเกื้อกูลประยูรญาติ ที่โดยชาติเชื้อเถารูปเยาว์สัม- ผัสต้องด้วยอบรม .. ผ่านคมคำ เพื่อร่วมทำนุใจ .. ด้วยใคร่ครวญ O โดยวัยงามทรามสวาดิพิลาสลักษณ์ เมื่อประจักษ์ก็แต่คอยละห้อยหวน กอปรความหมายแห่งคำ .. ร้อยสำนวน- นั้นเตรียบตรวนล่ามคา .. ผูกอาลัย O เพียงเผยภาษก็พอเพียงจะเรียงพจน์ เพื่อปรากฎพิเราะศัพท์ร่วมขับไข งามนั้นพอจะส่งรับลำดับนัย บรรโลมใจรื่นรมย์ด้วยคมคำ O เยาว์รูปเอย .. แต่เห็นก็เอ็นดู- ดวงใจผู้มาตุชาติ .. จึงภาษพร่ำ- พร้องปรารมภ์รำบายด้วยหมายทำ- นุ-ใจสัมผัสค่า .. วรรณาเทอญ หัวข้อ: Re: O วสันตลีลา .. O เริ่มหัวข้อโดย: aasdang ที่ 24 มิถุนายน 2014, 07:47:PM O แอบใจ .. O (http://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1352207372.jpg) วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ 00101110 - - - 110102 00101112 - - - 110103 1=ลหุ นอกนั้นครุ เลขเดียวกัน = สัมผัสสระ O แผ่นน้ำ ณ ยาม-ศ-ศิ-นะเพ็ญ ดุ-จะ-เต้นระลอกรอ ผืนกว้าง ณ กลาง-ว-ตะ-พะนอ ดุ-จะ-รอระริกผืน O ลมโรยประโปรย-ช-ละ-ระลอก ดุ-จะ-หยอกจะยั่วคืน แนวพฤกษ์ผนึก-นิ-ละ-ทะมื่น ระ-กะ-ตื่นระรื่นตาม O ดวงจันทร์ถวั-ล-ยะ-โพยม ด-ละ-โคมนะส่องคาม ดวงใจไฉนจะผละละหวาม ฤ-จะ-ห้ามละห้อยเห็น O ใจคนระคน-ทุ-ขะ-สภาพ ฤ-จะ-บาปะสาบเป็น- บ่วงล่าม ฤ ห้าม ฤ ละ ฤ เร้น ข-ณะ-เค้นก็สุดคลาย O ฝ่าขวัญประจัน-ฤ-ดิ-พิมล ปะ-ทุ-ผละพริ้งพราย แผ่วผ่านประสาร-ก-ม-ละหมาย สุ-ขะ-ผายก็พร่างพรม O โหยเห็นบ่เว้นระยะถวิล ข-ณะ-จินตะจ่อมจม ห่างเห็นก็เข็ญ-อุ-ระ-ระทม ฤ-จะ-ข่มฤดีคอย O หลับฝันก็มั่นจะเจอะจะเจอ ข-ณะ-เผลอก็เหม่อลอย ตื่นตาผวา-นั-ย-นะพลอย- จะ-ละห้อยระโหยเห็น O เต็มตรองคระลอง-ร-หั-สะนัย ก็-พิไลพิลาสเพ็ญ อกใจไฉน-ผิ-วะ-จะเร้น ก็-จะ-เค้นซะเค็มขม O อบอุ่นละมุน-ข-ณะ-คะนึง ระ-ยะ-หนึ่งก็นานนม รูปหนึ่งก็ถึง-บ-ทะ-ปฐม ระ-ดะ-ห่ม ณ ห้องใจ O เมื่อ .. งามละลาม-น-ยะ-ระบัด ป-ฏิ-พัทธะอำไพ ดวงมานสมาน-กะ-พิ-สมัย ระ-ยะ-ใจก็เชื่อมถึง O เที่ยวทางระหว่างระยะกมล ร-ติ .. ดละเหนี่ยวดึง อ่อนเอนกระเวน-บ-ทะ-คะนึง ด-ละ-ซึ้งผสานเสริม O ลมรื่นระผืน-ท-กะ-สะท้อน อุ-ระ-ตอนก็ตวงเติม หวานซึ้งก็ถึง-ภ-วะ-กระเหิม ร-ติ-เริ่ม .. ก็เพิ่มแรง O เหมือนหวานจะซ่าน-นิ-ระ-จะสุด จะ-ประทุษและเสียดแทง โอ้ใจ .. ไฉนจะผละจะแผลง ยุ-ติ-แว้งบ่วกเวียน O หอมกรุ่นกะสุน-ท-ริ-ยภาค จะ-ประจาคก็จวนเจียน- เกินหมายจะถ่าย-น-ยะ-เสถียร- ฤ-ดิ-เพียระผูกพัน O เกินการณ์จะผ่าน-น-ยะ-ประพจน์ ม-ธุ-รสะโรมรัน สุดที่จะลี้จะผละจะผัน ร-ติ-นั้นนิรันดร หัวข้อ: Re: O วสันตลีลา .. O เริ่มหัวข้อโดย: aasdang ที่ 27 มิถุนายน 2014, 08:33:PM .
. http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sdayoo&month=01-01-2014&group=164&gblog=43 (http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=sdayoo&month=01-01-2014&group=164&gblog=43) O เพลงซอ .. ที่รอสี .. O (http://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1403875737.jpg) วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ O ศัพท์แสงแสดง-ทิ-ฐิ-วิ-กฤต ระ-บุ-มิจฉะมากมาย ลูบคลำพระธรร-มะ-อ-ภิ-ปราย- ระ-บุ-คล้ายจะเคยเห็น O กาลามะสู-ต-ระ-ประ-การ พระ-ประ-ทานเสมอเป็น - หลัดยึดประพฤติ-ท-ศะ-ประ-เด็น ฤ-จะ-เร้นจะเลือนสูญ O "เขาว่า" .. เพาะสา-ว-กะ-ส-ภาพ ประ-ลุ-คาบทวีคูณ เหนี่ยวรั้งพลัง-ฐิ-ติ-วิ-ทูร ก-ละ-กูณฑะมอดเชื้อ O เกรงว่าจะหา-ย-นะ-พระ-ศาสน์ เพราะ-ประ-ภาษะคลุมเครือ ลุ่มหลงพะวง-ภ-พะ-อะ-เคื้อ อรร-ถะ-เพรื่อสิพร่ำเผย O ไพศาลประการ-อ-ริ-ยะ-วาท จะ-ป-ลาตะล่วงเลย เกรงเขลาคละเคล้า-บ-ทะ-เฉลย น-ยะ-เปรยจะปลอมปน O ยากเย็นประเด็น-อ-ริ-ยะ-สัจจ์ ภ-วะ-วัฏฏะเวียนวน เสกสรรคะคัน-ถะ-อ-นุ-สน- ธิ-วิ-กลวิการเขียน O กำจายสยายอุ-บั-ติ-จิต ระ-บุ-ทิศะดุจเธียร รอบกรรมะนำ-ภ-วะ-เสถียร นิ-ระ-เปลี่ยนกระทั่งปลาย O เห็นไกลกระไร-นั-ย-นะ-ทิพย์ กระ-แดะ-หยิบมุบรรยาย เกรงว่าจะพา-ข-ยะ-ข-จาย มรร-คะ-ปลายจะเปล่าเปลือง O เหตุต้น .. เพาะผล-กรร-มะ-กระ-ทบ ด-ละ-ภพะรองเรือง สัมผัสกระหวัด-ร-สะ-เมลือง ทะ-นุ-เนื่องเขษมสันต์ O การณ์เหตุและเจ-ต-นะ-ผ-จง อุ-ป-สงคะร่วมกัน ก่อกรรมะนำ-ทุ-ก-ระ-ทัณ- ฑะ-ผ-ชันเผชิญชนม์ O กรรมเหตุและเด-ชะ-จะ-ส-ลาย ก็-เพราะ-คลายระดับ .. "ตน" รู้วัตรขจัด-อ-ดุ-ระ-ผล ละ-ก-มละพ้นหมอง O เพียงคุมผชุม-จิ-ตะ-ส-มา- ธิ-ส-ภาวะตามตรอง ใคร่ครวญชนวน-มุ-หะ-ละ-ออง เฉพาะต้องจะตัดเตียน O ติดหล่มเพราะสม-มุ-ติ-พิ-การ วิ-ญ-ญาณะจำเนียร สิ้นร่าง บ่ ร้าง-ภ-วะ-เสถียร จะ-ผละ-เปลี่ยนและเวียนไป O ดวงเดียวจะเหนี่ยว-อ-ม-ระ-ภาค กระ-แหนะ-พากย์เพราะอำไพ ลอยลิบกระพริบ-บ-ทะ-ไสว ภ-พะ-ใหม่ตะบึงมอง O แห่ตามเพราะพราห-ม-ณะ-ประ-สิทธิ์ นิ-ร-มิตะรับรอง อวลอรรถเพาะปรั-ช-ญะ-ส-นอง ผิ-วะ-ต้องก็เป็นตาย O กาลล่วงก็ห่วง-ทิ-ฐิ-พิ-สุทธิ์ ธรร-มะ-พุทธจะเปล่าดาย แผกผันเพาะคัน-ถะ-อ-ภิ-ปราย อ-ธิ-บายะเบี่ยงเบน O หลงมุขะยุค-อุ-ป-นิ-ษัท พิ-เคราะห์-อรรถะโอนเอน หลงรสประพจน์-อุ-ต-ริ-เถร ด-ละ-เวระแฝงไว้ O แยบคายอุบาย-มุ-สะ-ประ-โยค ระ-บุ-โลกะครรไล พรางปมเพาะสม-มุ-ติ-พิ-สัย ระ-บุ-ให้พิกลเห็น O แปลกตอนสะท้อน-ร-หั-สะ-วา- ก-ยะ-พาหะแผกเพ็ญ ข้ามภพบ่จบ-ประ-ทุ-ษะ-เข็ญ ต-ละ-"เป็น"เพราะกรรมปรุง O เหตุนำเพราะคัม-ภิ-ระ-ก-ถา อรร-ถะ-ราชะอำรุง ภาษปวงพระร่วง-ลิ-ขิ-ตะ-ฟุ้ง ก-ละ-รุ้งจรัสเหลือ O ต้นเงื่อนเสมือน .. วิ-สุ-ทธิ์-มรรค เพราะ-ประ-จักษะจุนเจือ - คลี่คลายสยาย-ภ-พะ-อะ-เคื้อ ต-ละ-เหยื่อก็พร้อมยิน O เหตุร้อน ณ ก่อน-ม-ร-ณะ-กาล ฤ-จะ-ผ่านทลายภินท์ ย้อนสางมล้าง-ภ-วะ-อ-จิน- ต-ยะ-สิ้นจะได้หรือ ? O เมื่อเหตุเภท-ด-ละ-ประ-ภพ ฤ-จะ-กลบซะด้วยมือ ? รูปนาม ฤ ข้าม-ภ-พะ-กระ-พือ ประ-ลุ-รื้ออดีตกรรม O การณ์ใดกระไร-ด-ละ-เพราะเหตุ บ-ริ-เฉทะเนื่องนำ - ส่งผลทุรน-อ-ดุ-ระ-ล้ำ ฤ-จะ-ห้ำประหัตหาย O ความดับระงับ-ฤ-จะ-ประ-สบ ผิ-วะ-ภพะวอดวาย หนทางจะล้าง-ทุ-ระ-ส-ลาย ฤ-จะ-หมายจะมองไหน ? O เหตุ-ผล ณ บน-ระ-ยะ-ระ-หว่าง ภ-พะ-ต่างจะอย่างไร ? หรือเพียงจะเบี่ยง-ทิ-ฐิ-พิ-สัย ระ-บุ-ไว้เพราะสับสน O มืดมัวสลัว-รั-ฐะ-ไผท ม-ติ-ไหนก็จำนน แซ่ศัพท์สดับ-จิ-ตะ-ฉ-งน เสนาะพ้นวิหคไพร ! O แม้นห้วงอรรณพนั้น - - - ไพศาล ใช่กักทุกข์ทรมาน - - - หมดสิ้น แต่อบายจดพรหมสถาน - - - ถ้วนหมู่ นับเนื่องเพียงกระผีกริ้น - - - รอด, พร้อม-นฤพาน ! หัวข้อ: Re: O วสันตลีลา .. O เริ่มหัวข้อโดย: aasdang ที่ 29 มิถุนายน 2014, 03:59:PM http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=08-2010&date=07&group=41&gblog=10 (http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=08-2010&date=07&group=41&gblog=10) O ผู้หลงโลก..? O (http://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1404032066.jpg) วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ O รองเรืองเมลืองชุติพิจิตร ก-ละ-พิศพิมานบน โล่งลิบระยิบ, ทิพะสถล- ดุจะหล่น..ละลิ่วรอ O เจดีย์, พิถีวัตระประพฤติ จิตะยึดและยกยอ โมหันธ์ถวัลยะ ฤ พอ- คณะขอจะอาจขืน ? O บุญบาปและลาภขณะประนอม- บทะย้อม ฤ อาจยืน- หยัดจิตะคิดพิริยะฝืน- ระอุตื่น ณ ในตน O เห็นแต่จะแผ่วุฒิวิภาค อติพากยะเพียบพล กล่อมขวัญ, สวรรค์ก็อนุสน- ธิพิกลพิการสอน O บุญบาปกระหนาบพิษะกระหน่ำ ก็ระส่ำระสายตอน ชาติภพตระหลบอุระสะท้อน ฤ จะผ่อนพลังหลง O แว่วเสียงก็เพียงจะเยาะจะเย้ย- มรรคะเอย..ฤ แอบองค์ ไป่ทอดตลอดระยะ, บ สง- เคราะหะบงกะชาติบัว O พรรณนาเหมาะสาวกะจะรู้ ธรรมะตู่..ก็เป็นตัว โอภาสจะพาดภวะสลัว ฤ เยาะยั่วและพร้อมหยัน ? O ไตรรัตน์สมรรถพละ ฤ ฉุด นยะพุทธะรัดพัน- จิตสู่ประตูอริยะนั้น ทะนุนันทิรูปนาม O โดยภาษประกาศพระชินวร ระบุสอนระบิลความ ต้นกลางลุปลาย..วุฒิพิราม ยุติทราม บ สืบสาย O โอ หนอ ฤ พอจิตะขจัด กิจะวัตระวุ่นวาย ท่วงทีพจีนยะสยาย บุญะถ่ายสิทั่วถึง O กราบหมอบ ฤ ตอบมุหะจริต มุประดิษฐะเพื่อดึง- สายตาประดา..พิศะจะซึ้ง- บทะซึ่งจะคอยสรรค์ O แบบบุญจะหนุนภพะประสาร- วิญ(ะ)ญาณะค้ำยัน ศรัทธาสถาปนะสวรร- คะถวัลยะในทรวง O บิดเบือนเขยื้อนมุสะสยาย เกาะอุบายะบำบวง- ศักดิ์สิทธิ์และฤทธิ์อุตริปวง นิระห่วงจะเสียหาย O บัวต่ำเพราะสัมผัสะกะตม ฤ จะชม..ระลมชาย สบทราบประภาพสุริยะฉาย- รุจิบ่ายประโลมบัว ? O โดยตรรกและหลักอริยะวาท อธิชาติชมชัว เพื่อตัดขจัดมุหะระรัว- อัตะกลั้ว, ปลาตการณ์ O โดยตรรกและมรรคะปฏิบัติ เหมาะ, สมรรถะดวงมาน เงื่อนเหตุ..กิเลศ..สมะสมาน จะทะยาน - ก็อาจยั้ง O เดี๋ยวนี้..และที่ขณะระลึก สติตรึกและตรองฟัง โลกนี้..และที่ระยะจะหวัง ทิฐิตั้งประคองตน O เท่านี้..พิถีจิตะประพฤติ เหมาะจะยึดและตามยล เพียงใด..เพราะใจนะอนุสน- ธิกะลมระลอกสาย O เพียงนั้น..จะบันดละสมา- ธิสภาวะในกาย เงียบงาม ณ ยาม วตะระบาย สุขะศานติซ่านซ้อน O ปลงเปลื้องละเมืองก-บิ-ล-พัสดุ์ พระ-เลาะลัดพเนจร ป่นเหตุกิเลศ..ประทุษะถอน- ทุขะรอนปลาตร้าง O กิ่งโพธิ์เพราะโผ..วตะระลอก- ระดะหยอก-ก็ไกว..กาง ไหวสั่นกระนั้น..เฉพาะจะขวาง- และมล้างพลังลม O คือใจพิจัยธรรมะสภาพ ระบุทราบกะอารมณ์ รู้ครวญชนวนทุขะระทม พิษะถมกระทบถึง O ที่ไหน..ไสวเพราะพลุลุแล่น- รุจิแสนยะตราตรึง ที่นั้น..จะฝันสุญะระรึง ขณะหนึ่ง บ พึงหมาย O ที่ไหน..พิสัยชนะสมา- คมะวาระวุ่นวาย ที่สุด..วิมุติภวะจะหมาย- เฉพาะขายกะหมู่เขลา ! O แว่วดัง..ก็สังคิตะประดิษฐ์ นิรมิตะมอมเมา- จิตหลง..มุสงเคราะหะและเร้า- สติเฝ้าประโลมฝัน O เสียงซอ..ฤ พอจะเสาะจะสี พิเราะคีตะล้อมพัน- ต้นธาตุ..พระชาติพระอรหันต์ ละสวรรคะรับเสียง ! O เสียงซอ..ฤ พอจะเสาะจะสี เสนาะคีตะคล้อยเคียง- ต้นธรรม..เหมาะสัมผัสะเจรียง- พฤติเบี่ยงประโคมบุญ ! O ซอสี..ก็สีปะเหลาะประโลม ทะนุโสมนัส, จุน- เจือวัตรวิบัติกระแดะและหนุน- ธนะ-ทุน..นะคือ..ธรรม ! หัวข้อ: Re: O วสันตลีลา .. O เริ่มหัวข้อโดย: aasdang ที่ 30 มิถุนายน 2014, 08:30:PM http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=02-2010&date=01&group=41&gblog=1 (http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=02-2010&date=01&group=41&gblog=1) O โวหารภาพพจน์ .. O วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ O ความ-คำเพราะคัมภิระประพจน์ ระบุบทะบาทมี เหมือนคอยจะปล่อยทิฐิวิถี บทะธีระหนักหนา O ยั่วแย้งแสดงวุฒิวิภาษ ผิวะปราศก็แต่ปรา- รมภ์ตนจะป่นอัตะสถา- นะสภาวะรูปรอย O จึงคำเพราะคำระบุระบือ ก็กระพือซะเลิศลอย เชื่องเชื่อก็เหลือจะผละจะถอย จิตะคล้อยบ่อาจขืน O พากย์ชี้วิถีวัตระประพฤติ อัตะยึดก็หยัดยืน นำทางระหว่างนิละทะมื่น จะลุตื่น ณ ในตน ? O แว่วเสียงก็เพียง..อุระระรัว นิระกลัวจะหลงกล แห่ห้อมตะล่อมสัทะระคน นยะล้นพิมลหลาย O สรรสรรพะศัพท์ธิระประดิษฐ์ ตละคิดก็คมคาย ว่อนวางพยางคะอภิปราย จิตะคล้ายจะเคลิ้มฝัน O หวั่นไหวกระไร..สุภะประพจน์ มธุรสะโรมรัน หลักการก็ควานและเสาะกระสัน อภินันทนาไทย O การเมือง ณ เบื้องปุระสยาม ขณะทรามละลามนัย เสียงสู่ก็รู้มุสะสมัย สุตะใด-ประดาเดียว O เมื่อทราม..ละลามระยะประเทศ นยะเลศะกรูเกรียว คมคำกระหน่ำ..ฤจะเฉลียว ผิวะเขี้ยวจะขบลง O พรรณนาประดานยะประดุจ- บริสุทธิแผ่วง ไหนเลยจะเคยจะพิสวง- อุปสงคะดั้งเดิม อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑ O ลมตื่นระผืนน้ำ - - - ภพะต่ำก็ตวงเติม- คำหวานประสารเสริม - - - ฤดิเริ่มก็ปรารมภ์ O โกสุมปทุมา - - - ดละภาวะหอมพรม ผึ้งภู่ ฤ รู้สม- - - - มุติห่มจะร้างหาย O ดอกขาวอะคร้าวรูป - - - วตะลูบก็รำบาย- หอมฟุ้งจรุงหมาย - - - ผิวะตายจะยอมตน O อำนาจและอาชญา - - - เสาะสภาวะเพื่อพล- อวยเดชวิเศษผล - - - จะผละพ้น ฤ แผดเผา ? O เนานันทะสรรเสริญ - - - ขณะเพลิน ฤ ผ่อนเพลา ยศศักดิ์ฉลักเขลา - - - ก็ระเร้าฤดีรมย์ O ขัดแย้งเพราะแย่งยำ- - - - สัทะธรรมะติดตม เคลิ้มขำกะคำคม - - - ขณะถ่มเลอะดินแดน O แบ่งข้างระหว่างข้า - - - คุณะค่าก็คลอนแคลน จึงอานุภาพแสน- - - - ยะจะแม้นจะมอดลง O อำนาจและอาชญา - - - ดละทาสะรูปทรง การเลศะเจตมง- - - - คละคงจะมีหรือ O ร่มบุญ..สกุลคน - - - ธนะพละร่วมมือ เล่ห์ฉันทะบันลือ- - - - ก็กระพือกระเพื่อมหาง O เก่งกาจกระไรคน - - - คติวนและว่อนวาง เชื่องเชื่อ .. ก็เหลือง้าง- - - - จะเสาะอ้างกะเหตุผล วิชชุมมาลาฉันท์ ๘ O อึ้มแอ้มออกเสียง - - - นั้นเพียงเพื่อชน เหลียวมองจ้องตน - - - คำรนโวหาร O ฟังเถิดฟังคำ - - - ลึกล้ำหลักการ อักโขโอฬาร - - - เพื่อบ้านเพื่อเมือง O รับใช้อำนวย - - - ย่อมด้วยศรัทธา หลงรักนักหนา - - - บอดบ้าเปล่าเปลือง O ตอกลิ่มทิ่มแทง - - - พวกแดงพวกเหลือง อกกรุ่นขุ่นเคือง - - - เชื่อเชื่องพอกัน O เป็นไทด้วยชาติ - - - เป็นทาสด้วยใจ ตื้นเขินเกินไหว- - - - ทันไขรำพัน O เรื่องนึกตรึกตรอง - - - บกพร่องเกินฝัน แว่วโจษโทษทัณฑ์ - - - หูหันรอเสียง O ปรุงแต่งภาพพจน์ - - - งามรสวาที ออกสื่อช่วยชี้ - - - วาดวีสำเนียง O นั้นถูกนี้ผิด - - - รอพิศรอเพียง- ความถ้อยร้อยเรียง - - - อยู่เคียงหน้าตน O จับโยงเรื่องราว - - - รู้กล่าวรู้คาด เพื่อชนทั้งชาติ - - - รู้ภาษรู้พล O ตราบน้อมใจนับ - - - ตอบรับลุกลน กี่ครั้งกี่หน - - - ทุกหนทุกครั้ง O คือปราชญ์คอยปราม - - - ป้องทรามเข้าแทรก จำนรรจ์จำแนก - - - ความแจกให้ฟัง O จงร่ำจงเรียน - - - ถ้อยเธียรเพียรฝัง อย่าหยุดอย่ายั้ง - - - ตอบตั้งศรัทธา O เยี่ยงนี้คือชน - - - พล่ามบ่นรักชาติ เยี่ยงนั้นคือทาส - - - ปลอดปราศอัตตา O เยี่ยงนี้คือไท - - - ผู้ไร้บัญชา- จัดตั้งสั่งหา - - - ด้วยค่าของเงิน O ภาพนั้นดูดี - - - แต้มสีแต่งตัว จากเท้าจดหัว - - - ถ้วนทั่วมองเพลิน O ภาพงามเร้ารุม - - - ให้อุ้มหยอกเอิน อิ่มร่ำจำเริญ - - - ปานเหินเวหา O ผ่านหัวผ่านหู - - - รับรู้รับฟัง ลึกล้ำกำลัง - - - ฝากฝังปัญญา O ผ่านหูผ่านหัว - - - เร้ารัวศรัทธา อาทรอ่อนล้า - - - ให้บ้าเข้าเบียน O ความคำทำว่า - - - คิดข้าควรการ สามารถสามานย์ - - - ควรอ่านข้าเขียน O ความจูงฝูงชน - - - หวังผลต้องเพียร ทอทาบภาพเธียร - - - วกเวียนตราบวาย หัวข้อ: Re: O วสันตลีลา .. O เริ่มหัวข้อโดย: aasdang ที่ 01 กรกฎาคม 2014, 08:07:PM http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=06-2012&date=24&group=168&gblog=2 (http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=06-2012&date=24&group=168&gblog=2)
O ชละริ้วจรัสรอง .. O (http://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1404218831.jpg) วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ O ริ้วพรายผกายสุริยะงาม ขณะยามนะค่ำเย็น ยินร้องคะนองวิหคะเห็น จะละเล่นระเริงลม O ร่ำร่ำ..ตะวันจะละจะลา ประลุภาวะจ่อมจม เห็นเห็น..ก็เพ็ญศศิวิกรม ชุติห่ม ณ ห้วงหาว O เหลือบแสงณแหล่งอุทกะผืน ระบุคืนจะยังยาว ริ้วลมระดมผิวะจะหนาว ก็เพราะร้าวอุรารอน O ครวญใคร่ไฉนอุระถวิล ระอุจินตะกำจร ครวญคร่ำระส่ำรตินิวรณ์ ฤจะถอนถวิลถึง O เยียบเย็นเพราะเย็นศศินะแสง รติแรงก็รัดรึง โยกคลอนบ่ผ่อนพิษะคะนึง ตละตรึงน่ะเต็มตรอง O ใจเห็นจะเช่นอุทกะผืน นิละขืนจะเข้าครอง รูปเห็นก็เช่นกรรมะสนอง พิศะต้องก็เจียนตาย.. O สืบสร้างระหว่างรหัสะเนตร ประลุเจตะกำจาย วาบอุ่นเพราะสุนทริยะสยาย นยะถ่ายสิทอดถึง O อาวรณ์สะท้อนประดุจะเถา- วัลย์เร้ากระหวัดรึง เช่นใจและใจขณะคะนึง ภวะซึ้งก็บรรสาร O ดุจปาริชาตินิรมิต เฉพาะพิศะพิมพ์พาล ดาลเดชวิเศษะพิสดาร ก็สมาน ณ แรกมอง O เพรงบุญจะหนุนรติพิจิตร สุจริตะรับรอง เพรงบาป ณ คาบบ่คละสนอง ฤดิสองก็บรรสาร O ร่วมบาตร ณ ชาติบุพะประภพ ดละภพะร่วมพาล แม่เอยเพราะเคยอธิษฐาน อุปการะร่วมกรรม O สองชาติสวาดิพิสมัย สมะนัยะน้อมนำ โอนใจและใจปณิธิสัม- ผัสะย้ำสมานใย O สืบจิตเพราะฤทธิ์อธิษฐาน บุพะกาละก่อนไกล เห็นพลันก็ปันรติพิสัย พิสมัย ณ แรกมอง O อาวรณ์สะท้อนประดุจะผิว- ชละริ้วจรัสรอง เนื้ออุ่นเพราะอุ่น ก-ระ .. ตระกอง กระแหนะต้องก็เจียนตาย ! หัวข้อ: Re: O วสันตลีลา .. O เริ่มหัวข้อโดย: aasdang ที่ 06 กรกฎาคม 2014, 10:24:AM O อุโฆษ..แห่งคำ O
เหมันตดิเรกฉันท์ ๑๕ O ความคำเพราะสัมผัสะจริต นฤมิตละมุนละไม รูปนาม และ งามพฤติพิสัย- ดุจะให้ถวิละถึง O เหมือนงามจะลามภวะภวัง- คะประนังประนอมคะนึง โดยเลศะเนตระระรึง- บทะซึ้งผสมผสาน O บทวรรคะอักษระประพนธ์ ประจุกลประกอบประการ เพรียกพันธะวันอธิษฐาน กระแหนะมานประมวลประเมิน O เสียงคีตประณีตจะเลาะประโลม ทะนุโฉมผชัญเผชิญ ใจเอย ฤ เคย จะเคอะจะเขิน และสะเทิ้นสะทกสะท้อน ? . . วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ O คิมหันตะบรรลุอุตุช่วง- ชละสรวงละหลั่งตอน ฟ้าปลาบประภาพประดุจะศร- ทิวะซ้อนผสานเสียง O พากย์กรองสนองรติวิกรม อภิรมยะร้อยเรียง ถ้วนตอนสะท้อนนยะจะเพียง ประลุเคียงกมลใคร O หวังวรรคและอักขระประพจน์ พิเราะรสและความนัย เพื่อคราญสมานรติพิสัย อุระไห้คระโหยหา O ความหวังจะสั่งกมละศรี เสนาะมีสนองมา มนต์ถ้อยจะปล่อยพละสถา- ปนะฝ่าประโลมฝัน O ร่ายมนตะดลฤทธิวิเศษ บริเฉทะร่วมกัน พลิ้วผ่านและดาลสมระขวัญ รติมั่น..กะพี่ชาย O มนต์นี้จะมีสมรรถะภาพ ผิวะทาบบ่อาจคลาย เหลือแต่จะแปรจิตะสยาย ตละฝ่ายจะรวมฝัน O คอยเจ้า .. ก็ราวจุละกระต่าย พิศะหมายพระเพ็ญจันทร์ คอยเยือนเสมือนวรรษะวสัน- ตะละหลั่นและหยาดลง O คอยนั้น .. นิรันดระจะหมาย นิระหน่ายกะจำนง คอยใจและใจสมะประสงค์ กะอนงคะนับนาน แปล..... O ด้วยถ้อยคำนำนัยแห่งใจเจ้า มารุมเร้าแนบชิด..ด้วยพิสมัย สุดที่จะแอบซ่อน..อาวรณ์ใคร จึงหวั่นไหวในอกสะทกสะท้อน O เจ้าเอยเมื่อ..เผยความก็งามนัก เข้ากุมกักใจอยู่ไม่รู้ผ่อน ให้เสพทราบเสน่หา..ให้อาวรณ์ ก็สุดทอนทัดทาน..หอมหวานนั้น O จำนรรจ์จากหัวใจของใครหนึ่ง บอกซาบซึ้งพิสมัย...บอกไหวหวั่น ส่งเว้าวอนผ่านย้ำถ้อยรำพัน ก็สุดกั้นกีดความ..ที่ลามทรวง O กำเริบความปรีดิ์เปรมด้วยเขมภาษ- อันพิลาสพิเราะแสน..จนแหนหวง- นั้นท่วมทับโถมถั่ง..ใจทั้งดวง จนสุดล่วงพ้นผ่าน..หอมหวานนี้ O เสียงออดอ้อน..ซ้อนซ้ำถ้อยคำรัก ก็จำหลักลงทรวง..เช่นบ่วงที่- ผูกล่ามร้อยรัดรึง..คำนึง-มี ให้ยินดี..ห่วงเห็นไม่เว้นวาย O ลมอุสุมพ้นผ่าน..ไปนานเนิ่น ให้เพลิดเพลินบทนิยามแห่งความหมาย จนวสันต์หม่นคล้ำ..เข้ากล้ำกราย ฟ้าพร่างพรายระเริงเต้น..ด้วยเส้นไฟ O จึงร้อยเรียงคำพากย์..นี้ฝากสู่ เพื่อรับรู้..งามนั้นว่าสั่นไหว เช่นวิชชุประภาพแผ่..เห็นแต่ไกล คอยขับไขงามสรรพให้รับรู้ O ผ่านอักษรตอนคำมาย้ำจิต บำบวงฤทธิ์แห่งอิฏฐาให้มาสู่ ผ่านรสความ..รสคำ..ความดำรู- จะชื่นชูปฏิพัทธ์..รุมรัดใจ O หอมหวานในความหวังจะปลั่งปลาบ จะแทรกซาบซึ้งสู่ให้รู้ได้ มนต์แห่งชายจะเหนี่ยวหน่วง..ความห่วงใย จนวาบไหววนเวียน...สุดเปลี่ยนแปลง O โอมเทพ..พึงสดับถ้อยลูกร้อยร่ำ ช่วยเสกซ้ำรำบาย..ความหน่ายแหนง แทรกสุจริตคมคำลูกสำแดง เถิด..ถ้วนแหล่งฟากฟ้า..จงอย่าเมิน O สำทับให้อย่าสิ้น..ถวิลหา.. ร่วมพร่ำพร้องเจตนา...เถิด-อย่าเขิน ให้เสน่หาก่อระลอกเข้าหยอกเอิน ร่วมเพลิดเพลินอภิรมย์ที่สมยอม O คอยเจ้า..เช่นกระต่ายที่หมายจันทร์ เพียงจะปันแสงปลั่ง..ร่วมหลั่งหลอม เช่นหยาดฝนชื่นล้ำ..ได้ด่ำดอม หยาดลงล้อมอุระผืนให้ชื่นเย็น O จัก..รอคอยเช่นนั้นนิรันดร์อยู่ ด้วยหัวใจชื่นชู..ให้รู้เห็น มองเถิด..ให้ทั่วถ้วน..อย่างควรเป็น ใจจะเต้น..สั่นอยู่ ไม่รู้ยาม ! หัวข้อ: Re: O วสันตลีลา .. O เริ่มหัวข้อโดย: aasdang ที่ 12 กรกฎาคม 2014, 09:01:PM O คุรุชาติ O
(http://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1405173563.jpg) O อักษรสะท้อนรัถยะปราชญ์ คุรุชาติควรชม สูงค่าสุภาษิตะผสม อธิคมะควรหมาย O บาลีวิถีอนัญะมรรค บริรักษะบรรยาย ปลดเท็จเผด็จมุหะสลาย อภิปรายะเปรียบเปรย O ซับซ้อนบวรธรรมะประจักษ์ สัจะลักษณ์รำเพย ขับเขลาระเร้าอรรถะเฉลย นยะเผยบ่อำพราง O ปรารมภะข่มทิฐิวิบัติ ทุระวัตระตัดวาง ชูหลักมุนินทระถะถาง ระดะขวางและคอยไข O พ่างพูนจรูญสุริยะรัง- สิมะปลั่งประกายไกล โลมแถนและแดนทิพะไสว ฤ ไฉนบ่เห็นสรวง O อำพนพิมลรัศมิแข ฤ จะแผ่จะเผยดวง ยามวันถวัลยะยะยวง บ่มิล่วงมิเลือนสี O ร่วมปลงดรงคะพจนารถ วิปลาสะวาที ร่วมปรามเพราะทรามวุฒิวิถี ปรัศนีประโคมขรม O แด่...ผู้เพราะรู้อนัตต์ลักษณ์ พิเคราะห์หลักมุปรารมภ์ แด่...ผู้เพราะรู้ภิสะปฐม ศิระก้มประนมกร หัวข้อ: Re: O วสันตลีลา .. O เริ่มหัวข้อโดย: aasdang ที่ 16 กรกฎาคม 2014, 08:24:PM http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=03-2010&date=25&group=1&gblog=58 (http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=03-2010&date=25&group=1&gblog=58) โสมส่องแสง .. (http://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1352207278.jpg) วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ (คำที่มีสระอะทั้งหมดให้อ่านแบบมีเสียงสระด้วย) ๗๕๑. คืนค่ำทิฆัม-พ-ระ-สะท้อน ศ-ศิ-ธระรูจี ส่องสาดเพราะปราศ-สุ-ริ-ยะสี ธ-ร-ณีก็เหน็บหนาว ๗๕๒. โผแผ่วระแนว-ช-ละ-ระริก ว-ตะ-พลิกก็พลิ้วพราว วงแล่น ณ แผ่น-ท-กะ-สกาว ข-ณะ-หาวพิลาสเห็น ๗๕๓. วังเวง ณ เพรง-บุ-พะ-สยาม ข-ณะ-ยามนะเยียบเย็น อกนวละล้วน-ถ-วิ-ละเพ็ญ ฤ-จะ-เว้นประหวั่นไหว ๗๕๔. นับกาละผ่าน-ร-ติ-พิลาส ด-นุ-นาฏะร่วมนัย รวมพันธะนัน-ทิ-พิ-สมัย ห-ฤ-ทัยะสุดถอน ๗๕๕. นานเนิ่นเผชิญ-ทุ-ขะ-ระรุม พิ-ษะ-ทุมนัส-ทอน ห่วงเห็นบ่เว้น-ฤ-ดิ-นิวรณ์ ฤ-จะ-ซ่อนจะรอนสูญ ๗๕๖. ไกลห่างระหว่างระยะประเทศ ยุ-พ-เรศะอาดูร ภพเห-ตุ-เชษ-ฐะ-และ-ผอูน ต-ละ-สูรยะต่างแสง ๗๕๗. รุมร้อน ฤ ผ่อน-วิ-ต-กะขวัญ ร-ติ-ทัณฑะทิ่มแทง สาปใดกระไร-บ่-ผละ-บ่แผลง ข-ณะ-แว้ง ฤ เหลือหวัง ๗๕๘. ห้อมห่อพะนอ-น-ยะ-ฉะอ้อน ฤ-ดิ-อระแอบอัง เคลื่อนครองสนอง-ภ-วะ-ภวังค์ ต-ละ-ครั้งก็สุดขืน ๗๕๙. เหยียบย่างระหว่างระยะตะวัน ทะ-ลุ-คั่นระหว่างคืน บรรจบประภพ-นิ-ละ-ทะมื่น ข-ณะ-คลื่นระลอกวน ๗๖๐. แจ่มแจ้งเพราะแรง-อ-ธิ-ษ-ฐาน พิ-ส-ดารก็บันดล ด้วยอิทธิฤทธิ์-สั-ต-ยะผล อ-นุ-สนธิสืบสาย ๗๖๑. ชาติใดฤทัย-ก็-จะ-กระหวัด ป-ฏิ-พัทธะหนึ่งชาย ช่วงภพจะลบ-ระ-ยะ-สลาย จิ-ตะ-หมายจะผูกพัน ๗๖๒. ชาติใดฤทัย-จะ-ป-ฏิพัท- ธะ-กระ-หวัดเสมอวัลย์ รัดล้อมประนอม-ร-หั-สะฝัน กระ-จะ-มั่นกระจ่างหมาย ๗๖๓. โดยกาละผ่าน-อุ-สุ-มะยาม ผิ-วะ-หวามและวุ่นวาย ย่อมเนตรและเจ-ต-นะ-สยาย น-ยะ-คล้ายจะรอคอย ๗๖๔. กี่คืนสะอื้น-วิ-ต-กะเศร้า ทุ-ขะ-เร้าและหยัดรอย เดือนปี ฤ มี-สุ-ขะ-ทยอย ยุ-ติ-สร้อย .. และคืนสรวล ๗๖๕. คืนเปลี่ยวและเสี้ยว-ก-ม-ละเยา- วะ-ก็-เคล้ากะคร่ำครวญ ห่วงหา .. และอา-ดุ-ระ-กระบวน ก็-กระ-อวละบีบเค้น ๗๖๖. เคลิ้มคลอพะนอ-ร-ติ-นิวรณ์ ดุ-จะ-อ้อนจะรอเอ็น- ดูต้อง .. ตระกอง-ประ-ทุ-ษะเข็ญ ยุ-ติ-เร้นปลาตเลือน ๗๖๗. รูปเอย .. เพราะเผย-ประ-ลุ-สุบิน อุ-ระ-ถิ่นสะท้าน-เทือน เพรงภพตระหลบ-บ-ทะ-เสมือน- ก-ละ-เคลื่อนจะรับคน ๗๖๘. รูปเอย .. เพราะเผย-ป-ฏิ-ปทา ดุ-จะ-ว่าจะเวียนวน- รอบกรรม .. เพราะคำ-บุ-ร-พะพ้น ด-ละ-บนและบำบวง ๗๖๙. ค่ำเปลี่ยวก็เหนี่ยว-บ-ทะ-คะนึง ระ-อุ-ซึ้ง ณ ในทรวง หล่อหลอมประนอม-ห-ทั-ยะดวง ด-ละ-ห่วงคระโหยเห็น ๗๗๐. คาบรัตติกาล-บุ-พะประภพ ก็-สงบและเงียบ-เย็น อีกฟากนภา-ลั-ยะ ฤ เว้น- ชิ-วะ-เล่นระเริงร้อง ๗๗๑. เพรางายผกาย-ป-ฐ-มะแสง ทะ-ลุ-แทงประเทียบทอง โชนฉายสยาย-รุ-จะ-ละออง นิ-ละ-ผองก็ต้องผลาญ ๗๗๒. ผ่านคืนก็คืน-จิ-ตะ-ประหวัด กิ-จ-วัตระวันวาน อิ่มเอมเขษม-ก-ม-ละคราญ บ-ริ-บาลบำเพ็ญบุญ หัวข้อ: Re: O วสันตลีลา .. O เริ่มหัวข้อโดย: aasdang ที่ 18 กรกฎาคม 2014, 08:29:PM http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2014&date=18&group=2&gblog=78 (http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=07-2014&date=18&group=2&gblog=78) O หนึ่งในดวงใจ...O (http://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1405689929.jpg) ทวนไฟฉันท์ ๓๙ O พากย์นี้กรองเฉพาะหมายจะร่าย-วรร-ณะ-ขบวร ประสาทะคิดประสิทธิควร - - - สงวนความ หวังจะเอื้ออุบัติรหัสะงาม "คนใกล้"จะไหวตาม - - - ลุตา O ให้รับรู้ภวะซึ่งคะนึง-ส-หะ-ส-ถา- นภาพกะรอพะนอสภา- - - - วะอารมณ์ เพื่อภวังคะผ่านผสานผสม ข้องเกี่ยวและเกลียวกลม - - - ประการ O สำนึกเถิด-บ-ทะนั้นจะสรร-คะ-พิ-ส-ดาร ประดุจะล่วง ณ ห้วงสถาน - - - พิมานทอง จังหวะแห่งถวิลฤสิ้นคระลอง เมื่อนัยพิสัยนอง - - - ประนัง O แม้นดวงเดียว-ร-พิ-แผงแสดง-พ-ละ-ประ-ดัง วิโร-จ-นาประภานภัง- - - - คะปลั่งแดง ช่วงระหว่างเพราะวาระกาละแปลง ปรับเห็นและเร้นแสง - - - กะโสม O ดั่งโรจน์แรง-สุ-ริ-ยันถวั-ล-ยะ-โพยม กระอุกกระไอสมัยะโหม - - - ตระโบมหา ดั่งประจบประจันบุหลันนภา โลมคลื่นระรื่นถา - - - ผทม O ตาวันบอกระยะต่างระหว่าง-ภ-วะ-ป-ฐม วิตกะวัตรและทัศน์นิยม - - - ภิรมย์ยล บอกจะเพียงจะเพื่อจะเอื้อพิมล รอยห่างระหว่างหน - - - ฤเห็น O ห่างเพียงรูปเฉพาะหมายเพราะปลาย-พิ-สั-ยะ-เร้น กมละสรรค์อนันตะเป็น - - - จะเช่นปอง คาบระหว่างประสิทธิ์วิจิตรสนอง หวังเพียงจะเคียงตรอง - - - ตริตาม O คาบคำนึง-ผิ-วะ-ตรงประสงค์-ร-หั-สะ-ความ ผจงสมัยพิสัยะขาม - - - จะข้ามไข ร้อยละเมียดละมุนกรุณะใคร ผ่านวอนเลาะอ่อนไหว - - - ระแวง O คืนแลวันจะส-มานเพราะผ่าน-รุ-จะ-แสดง ขจัดประภาสพิลาสะแรง - - - ละแหล่งลง ทัศนาเสมือนตะวันและจันทระทรง ชั่วกัลป์อนันต์คง - - - ประคอง O เกรงไร้สิ้น-ภ-วะนั้นจะปัน-บ-ทะ-ส-นอง ประสาทะฤทธิ์ประสิทธิรอง - - - ละอองรมย์ อาจจะหมายวิวัฒน์อุบัติสม เฝ้าคิดขจิตจม - - - ณ ใจ O คือ..น้ำค้างระดะหยาดพิลาส-ชุ-ติ-พิ-ไล สลับสล้าง ณ กลางไผท - - - ไสววาม- นั้นจะผ่องและผายผกายพิราม ยอแสงแจรงยาม - - - ณ ยล O คือ..น้ำใจระดะหลั่งประดัง-อุ-ระ-ระ-คน ละหยดผิว์สาปะนาบกมล - - - พิมลเหลือ นั้นก็ผ่องและผายผกายอะเคื้อ ยอแสงแจรงเชื้อ - - - เผชิญ O คือ..สัมพันธ์ขณะแรกก็แทรก-บ-ทะ-ประ-เมิน สุพจนีวิถีเผอิญ - - - ก็เพลินพร้อง งามก็พลันสถาปนาคระลอง ฉาบอุ่นละมุนจอง - - - ณ ใจ O คือ..งดงาม-ถิ-ระ-พร้อมประนอม-ร-หั-สะ-นัย อุบัติซึ้งคะนึงสมัย - - - กะใครนั้น หมายละล่องถวิลคละจินตะบรร- โลมทรวงและหน่วงขวัญ - - - พธู วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ O ขวัญเอย..จะเย้ยจะเยาะจะหยัน เถอะนะ..ขวัญก็ลองดู แรงหวานจะซ่านกมละรู้ นยะชู้จะเชื้อเชิญ O จงต้านและทานกะ-พิ-ส-มัย ผิ-วะ-ใกล้จะก้ำเกิน ป้องไว้นะใจ-ผิ-วะ-เผอิญ จะสะเทิ้นสะท้านไหว O พากย์นี้พิถีทะลุทะลวง เฉพาะทรวงและดวงใจ หมายตรึงระรึง-ร-ติ-พิ-สัย ระบุให้ละห้อยหา O คำถ้อยจะปล่อย-น-ยะ-ประ-สิท- ธิประชิดและบัญชา จักเริ่มกระเหิม-พ-ละ-ส-ถา- ป-นะ-ภาวะอาวรณ์ O หมายพากย์สัมผัสะต้องตระกอง-จิ-ตะ-ส-มร ประสงคะวางระหว่างนิวรณ์ - - - ฉะอ้อนนั้น หวังจะพิมพ์เพราะศัพทะขับประพันธ์ กล่อมเกลี้ยงประเดียงขวัญ - - - นะเอย หัวข้อ: Re: O วสันตลีลา .. O เริ่มหัวข้อโดย: aasdang ที่ 22 กรกฎาคม 2014, 06:14:AM http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=02-2014&date=12&group=42&gblog=214 (http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=02-2014&date=12&group=42&gblog=214) O หญิงเอย .. ! O (http://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1392217099.jpg) O เผยหน้า .. ประดาบุรุษะเพศ ระบุเจตนะแห่งใจ เผยว่า .. ประดาสติ, วิสัย- ดุจะใกล้จะไหม้เกรียม O เผยคิด .. จริตะมุกระทำ ระบุตำหนิเฝ้าเตรียม รับส่งประสงค์ บ ละ บ เหนียม มุหะเปี่ยม บ อาจปลง O เฒ่าแก่ก็แค่ประทุษะภาษ อภิวาทะร่วมวงศ์ เพ็ญเขลาเพราะเยาวะอภิมง- คละบงกะชาติบัว O ผู้ดี .. กระนี้ เฉพาะเจาะจง จะณรงคะด้วยกลัว- อำนาจปลาต .. จิตะระรัว- พฤติชั่วจะโฉ่ฉาว O ปากปลิ้น .. และลิ้นขณะกระหวัด ปริยัติก็ยืดยาว สีดำเพราะคำกระแดะก็ขาว ปุระหนาวก็ร้อนระรุม ! O แก่เฒ่า .. และเยาวะจะณรงค์ เพราะประสงคะเข้าคุม- อำนาจ, และอาชญะจะสุม- สุขะชุ่ม ณ หัวใจ O หญิงเอย เพราะเผยประพฤติกรรม อุปถัมภะจัญไร ปากอ้า .. จะพานิกระไทย- สุขะได้ไฉนหนอ O ขรม-โข สิ โมฆะพจนารถ คติทาสะทอดทอ พล่ามไว้ ก็ใคร .. ละนะจะรอ- พิเคราะห์ข้อคดีความ ? หัวข้อ: Re: O วสันตลีลา .. O เริ่มหัวข้อโดย: aasdang ที่ 24 กรกฎาคม 2014, 08:55:PM O เพ็ญเดือนหก .. O (http://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1291117436.jpg) O งดงาม ณ ยามชุติวิพุธ บริสุทธิดำรง บรรสาระศานติพิศวง ละประสงคะสืบสาย O งามเด่นเพราะเพ็ญศศิพิลาส รุจะสาดและกำจาย โลมฟ้าคละพานิละสลาย นยะหมายจะเปรียบเหมือน O บรรโลมโพยมบทะจรัส บริพัตรเพราะดาวเดือน อกเอ๋ยเพราะเชยนยะสะเทื้อน ฤ จะเคลื่อนจะคลายสูญ O ช่วงนั้นถวัลยะพิสิฏ เพาะจริตะจำรูญ หล่อหลอมถนอมพฤติวิทูร ละอดูระหักหาย O ท่ามกลางพยางคะบริภาษ วิปลาสะกำจาย เลือนรางระหว่างรัถยะหมาย ขณะบ่ายบ่รายเรียง O เขาว่า .. เพราะว่าผิวะสดับ เสนาะศัพทะสำเนียง ปานว่าจะพาทิพยะเสียง ประลุเคียงประคองขวัญ O ยินว่า .. เพราะว่าคติวิจิตร ผิวะคิดก็คมครัน จึงว่าเพราะกว่าอรรถะสวรรค์ กละคันถะควรขวาย O ยากแต่จะแปรศิระชะเง้อ ผิวะเพ้อเพราะบรรยาย เปรียบเข็ญจะเร้นอัตะสยาย ธิระผายและเพียรเผย O เกินกาลจะผ่านอริยะวาท อธิชาติชมเชย ล่วงถิ่นมุนินทระจะเผย สัจะเกยมโนกรรม O จึงภาษประหลาดระบุระบือ มุหะถือผิว์คือธรรม จึงพาละผ่านบทะกลัม- พระซ้ำกระหน่ำเสริม O อักโขมโนทัศนะอ้าง นยะต่างสิแต่งเติม ผ่านวาทะปราชญะเฉลิม จิตะเหิมบ่เคยหาย O ดั่งโลมและโหมวตะสะบัด ชะธวัชะปลิวปลาย อวดอยู่ก็ภูษิตะสยาย สิละม้ายจะง่ายเห็น O เฉดรงคะบ่งรัฐะประจักษ์ บริรักษะร่มเย็น บอกผู้ศัตรูสุขุมะเพ็ญ ผิวะเร้นจะรุกราน O ลมฤทธิ์อวิชช์ผิวะกระชั้น ฤจะทันจะทัดทาน เห็นแต่จะแปรมุหะผสาน อวตาระรูปหลง O มิจฉาประดาขณะกระหวัด ปริวัตระเวียนวง ฤๅรู้จะสู่มรรคะประสงค์ ถิระทรงประภัสสร O อวดอยู่ก็ภูษิตะประหลาด วิปลาสะอาภรณ์ โลมฤทธิ์อวิชช์บทะสะท้อน ฤจะผ่อนสะพัดผืน O หลงศรัทธ์ระบัดทิฐิพิลาป รสะซาบก็ยากคืน เว้นผู้เพราะรู้วิชช์จะขืน ประลุตื่นณในตน O เศร้านั้นเพราะนันทิวิปลาส คติทาสะจำนน สิ้นหวัง ฤ ดั่งอุตริฉล ทุพพละปล้นธรรม O งดงามก็ยามทิฐิวิพุธ บริสุทธิเนื่องนำ นัยแท้จะแผ่ศักยะล้ำ สัทะค้ำบ่คลายคลอน O อัญชลิตพระพุทธน้อม.....นำใจ ต่างประทีปชวาลไข............ขจ่างเรื้อง ปลิดป่นมืดหม่นใน.............สำนึก สิ้นนา ครวญใคร่หมายปลิดเปลื้อง...เท็จถ้อยเดียรถีย์ ฯ หัวข้อ: Re: O วสันตลีลา .. O เริ่มหัวข้อโดย: aasdang ที่ 03 สิงหาคม 2014, 08:21:AM O ขอบขันธปราการ .. O
O แว่วบท-สุ-พจ(ะ)-นะ-ทะ-ยาน พิ-ส-ดาร-ก็-บันดล แฝงเลศ-และ-เจต(ะ)-นะ-ระ-คน อ-นุ-สน-ธิ-สื่อสาร O โลกันต์-ม-หรร-ณ-พะ-ส-มุทร ร-ณ-ยุทธ-กะ-วิญญาณ จากสรร-คะ-อัน-สิ-ริ-พิ-ศาล มุ-หะ-ผ่าน-ตะ-ล่อมตรึง O ป่วยการ-จะ-ผ่าน-ทิ-พ-ยะ-คำ ระ-บุ-นำ-ลุ-คำนึง ป่วยการ-จะ-ผ่าน-ร-หั-สะ-ถึง ภ-วะ-ซึ่ง-ป-ลาตทรง O ล้วนสรร-พะ-ศัพท์-ธิ-ระ-ประ-ดิษฐ์ กระ-อุ-ฤท-ธิ-ธำรง ชูกรร-มะ-ค้ำ-ชิ-วะ-ด-รงค์ วั-ฏะ-วง -บ- เว้นวาง O เบื้องบทสุพจ(ะ)-นะ-ประ-พิมพ์ สั-ตะ-ปริ่ม-จะ-อับปาง เปลื้องคำ-ก็-คัม-ภิ-ระ-พ-ยางค์ จะ-ผละ-ห่าง-ก็-กล่าวหา O หวานลิ้น- บ่- สิ้น-ร-สะ-เขษม ด-ละ-เปร-มะ-เอมอา- รมย์ยิน-ถ-วิล-บ่-ละ-บ่-ลา บ่-ละ-คว้า-และ-คลุกคลี O ต้องโสต-ประ-โมท(ะ)-ยะ-ระ-บัด อ-วิ-ภัช(ะ)-วาที บ่งทิศ-ข-จิต-พฤ-ติ-วิ-ถี ส-ดุ-ดี-บ่-เว้นวาย O อบอุ่น-กะ-สุน-ท-ริ-ยะ-ภาพ ข-ณะ-ทาบ-แตะ, ทักทาย อุ่นหนอ-จะ-พอ-ทุ-ขะ-ส-ลาย พิ-ษะ-คลาย ..- ฤ- เคยมี ? O เพียงแย้ม-ก็-แง้ม-อั-ตะ-ประสาร อ-ว-ตาร(ะ)-ฤทธี พร้องบท-และ-รส(ะ)-พ-จ-นี ติ-ร-ถีย์- บ- บันเทา O ดำเนิน- บ่- เกิน-จุ-ณะ-ส-ภา- วะ-จะ-ว่า-บ่-พ้นเงา สมมุติ(ติ)-ฉุด-พิ-ริ-ยะ-เขลา มุ-หะ-เปล่า-ก็-เข้าปน O กบหมอบ-เพราะ-ครอบ-จุ-ละ-กะ-ลา จะ-ตริ-ว่า-น-ภาบน เวิ้งว้าง-เพราะ-ร้าง-รุ-จะ-ระ-คน นิ-ละ-ปน-ฤ-เห็นปลาย ? O ตัวเคลื่อน-เขยื้อน-วรร-ณะ-กระ-ทบ ก-ละ-ภพ(ะ)-พานกาย ตัวกู-ก็-รู้-แสยะ-ส-ยาย จะ-ส-ลาย -บ่-ง่ายแล. หัวข้อ: Re: O วสันตลีลา .. O เริ่มหัวข้อโดย: aasdang ที่ 09 สิงหาคม 2014, 06:41:PM O เส้นทาง..ที่วางทอด O
(http://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1403047511.jpg) O เท้าย่ำกระหน่ำอุทกะผืน ขณะคลื่นสงัดรอย ซ่าเสียงก็เพียงชละทะยอย บทะคอยละห้อยครวญ O หมายงาม..จะข้ามทกะมหรร- ณพะคั่นประจบจวน หมายใจจะไหวบทะกระสรวล ระอุอวละแทรกซ้อน O พบงาม ณ ยามอรุณะสาง ขณะย่าง ณ ทางจร พบเจอก็เผลออุระสะท้อน เพราะนิวรณะว่าย-วน O เหยียบย่างระหว่างสุริยะแสง ประลุแต่งประโลม”ตน” คดเคี้ยวเลาะเลี้ยวสรรพะระคน อนุสนธิปรนเปรอ O พรรณาประดากุสุมะชา- ติพิลาสะเลิศเลอ กรองกลิ่นประทิ่นรสะเสนอ ก็ละเมอสุมาลย์มอม O ช้อยช่อ..พะนอพิศะขบวร วตะอวล ฤ อดออม โลมลูบและจูบทะนุถนอม ขณะหอมระบัดหวน O เกรียวกรูเพราะรู้รสะประทิ่น ภุมรินะบินทวน แห่ห้อมพะยอมพละกระสรวล กระอุอวละอิ่มเอม O ก้าวย่างระหว่างมรรคะคระลอง ตละปองก็ปรีดิ์เปรม เฉกภู่เพราะรู้บทะเขษม รสะเขมะรุมรม O โลมพลอดตลอดรัถยะหมาย จะละลายระหว่างลม คือใจเพราะไร้คตินิยม ทิฐิข่มและคอยขืน O หลังลมระดมพละกระโชก พฤกษ์โยกและหยัดยืน อ่อนเอนกระเวนบทะบ่ฝืน ก็จะคืนจะยังคง O พร่าพรางธุมางค์ขณะตรลบ ฤ จะสบกะรูปทรง พร่านัยกระไรจะพิศวง และประสงคะสืบสาว O แจ้ง, หม่นระคนบทะประดัง ตละครั้งและต่างคราว งดงาม ฤ ทราม ฤ จะอะคร้าว ระยะก้าวก็บงการ O ก้าวไปและใจก็ทรนง อุปสงคะดวงมาน กรกุมผชุมจิตะผสาน อุปทานก็ถ่ายถึง O ร้อน, ร่มและลมพละกระหน่ำ ยุตินำลุคำนึง แทนร้อนก็ซ้อนนยะระรึง บทะซึ้งก็บรรสาร O ผ่านผายผกายนัยนะหลอม อุระอ้อมก็พร้อมการณ์ อ้อมกอดจะพลอดกะทรมาน ผิวะผลาญก็ยินดี. แปล .. O เจ้าเอยยกก้าวย่างอยู่กลางน้ำ แลเบื้องต่ำราวกระจกที่วกไหว ซ่าเสียงเพียงซบเร้ารอยเท้าใคร กระซิกไห้แว่วอยู่ไม่รู้วัน O หมายรูปงามรูปฝันข้ามอรรณพ มาบรรจบห้วงใจที่ไหวหวั่น หมายแววตาวาบวับขึ้นฉับพลัน เมื่อรูปหนึ่งใครนั้นเข้าพันธนา O พบงามก็เมื่อยามอรุณรุ่ง เริ่มใจมุ่งหมายมั่น..พร้อมฟันฝ่า ร่วมเส้นทางสัญจรเร่ร่อนมา แต่งคุณค่าหลากหลายขึ้นว่าย-วน O ระยะช่วงทิศทางก้าวย่างเหยียบ ร้อน, เย็นเยียบ..โลมสลับพาสับสน ละครั้งผ่านสะท้านทั่วทั้งตัวตน ละครั้งหนสั่งสมสุดข่มคลาย O เบ่งบานแห่งบรรดาบุปผาชาติ เผยพิลาสสีสัน..ท่ามวันฉาย หอมกุสุมรุมร่ำลมรำบาย ก็กำจายรอบภิรมย์ให้สมยอม O ดูเถิด..ช่างช้อยช่อพะนอพิศ รูปวิจิตร, กรอมถิ่นด้วยกลิ่นหอม สุดจะหักใจข่ม..ไม่ดมดอม จะหักห้อมหอมนั้นได้ฉันใด O ประหนึ่งภู่ภุมรินที่บินว่อน เมื่อลมย้อนหอมนั้น..ย่อมหวั่นไหว ถวิลหวานเกสราบุปผาไพร จะแห่ห้อมตอมไต่..ทุกตัวตน O สืบทอดเท้าก้าวย่างในทางเปลี่ยว โค้ง, คดเคี้ยว, เรื่อรอง, มืดหมองหม่น จึงเผยตามสำทับ..ให้อับจน และคอยปรนเปรอให้..หวั่นไหวตาม O มีเงาทอดยืดยาวทุกคราวย่าง มีรอยอ้างว้างเงียบให้เหยียบ-ข้าม มีวังเวงวิเวกบท..มีงดงาม มีหยาบหยามขมขื่นให้ตื่นรับ O หลังลมล่องแรงไหล-โลมไพรพฤกษ์ กิ่งลั่นคึกอ่อนเอนกระเวนกระหยับ ดอกใบพลิกหงายคว่ำร่วงสำทับ ต้นรากกลับฝ่าฝืนขึ้นยืนคอย O พรางฝุ่นหนุนละอองขึ้นครองถิ่น บดบังสิ้นแสงเงาจม..เศร้าสร้อย พรางนัยสุดชี้ช่องบอกร่องรอย ย่อมปรุงปล่อยตามฤทธิ์อันจิตมี O แจ้งหม่นเปลี่ยนปรุง..อำรุงรอบ ค่อยค่อยครอบลงกัก..ส่วนศักดิ์ศรี ขีดเส้นโลกถ้วนทั่ว..แยกชั่วดี ตัดสินชี้ถูกผิดทุกทิศทาง O ก้าวไปด้วยหัวใจที่ทรนง เคียงโฉมยงร่วมยาก..ฝ่าขวากขวาง ใจแนบใจ..มือกุม, มือนุ่ม-นาง มีศรัทธาร่วมสร้างพราวพร่างนัยน์ O กี่ร้อนจึงยากร้อนกว่าก่อนนี้ ร่มจะมีกี่ร่ม..เป็นร่มให้- ลมจะโหมแรงผ่าน..ให้ผ่านไป เพียง..หัวใจรูปรองที่ต้องการ O มือกุมเกี่ยวสบนัยน์..หัวใจหลอม เนื้ออุ่นหอม..รุมเร้า..ทรวงเผาผลาญ พรั่งพร้อมอยู่แอบออ..ด้วยทรมาน ยอมวายปราณมรณา..ทั้งอาลัย. |