หัวข้อ: O จากวันนั้น ถึงวันนี้ . . O เริ่มหัวข้อโดย: aasdang ที่ 20 มิถุนายน 2014, 06:18:AM .
. (http://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1381586290.jpg) ๒๕๑๙ O คืนมืดฟ้าหม่นจันทร์หล่นร่วง ดาวช่วงเกลื่อนฟ้าลับลาหาย ลมแผ่วพลิ้วโบกกรรโชกชาย เมื่อสายตา, พลบ-บรรสบกัน O สงัดงันเงียบกลางเยียบเย็น โชนเต้น-แววตาไหวพร่าสั่น ห้วงใจอื้ออึงเสียงดึงดัน ฝ่าฟันสู่หมายที่ปลายจร O ครั่นครืนฟ้าฝนน้ำหล่นเม็ด ราวเพชรโรยเส้นเกินเร้นซ่อน หากห้วงอกใจคือไฟฟอน รุมร้อนอารมณ์เกินข่มลง O ทุกก้าวย่างเหยียบช่างเงียบงัน แรงฝันฮึกเหิมก็เสริมส่ง โชนออกเชื่อมเส้นจนเป็นวง จำนงแน่นหนักร่วมผลักดัน O ยกก้าวย่างเล็ดลอดเม็ดฝน หยดควงร่วงหล่น..อยู่บนฝัน ไหวเหวี่ยงลมเร้าผ่านเถาวัลย์ แล้วกลิ้งหยดสั่น..ไหลหลั่นลง O เรี่ยวแรงหดหายที่ปลายทาง ป่ากว้างยางยูง..ยอดสูงส่ง หัวใจผ่อนวางที่กลางดง ปลดปลงคับแค้น..ฝากแผ่นดิน O ความคิดสุมสั่งในครั้งนั้น มุ่งมั่นหนักแน่นดุจแผ่นหิน หมายพลิกแผ่นฟ้า..ครอบธานินทร์ ถ้วนถิ่นครอบงำด้วยกำลัง . . ๒๕๕๗ O ฉันคือประชาชน ผู้ยากจนทนทุกข์ทั้งลุก-นั่ง ที่คำพูดคำจาไม่น่าฟัง และความหวังอยู่ไหนก็ไม่รู้ O ฉันคือประชาชน ทำงานอย่างอดทน .. ดิ้นรนอยู่ ไม่มีเกียรติเลอเลิศ คอยเชิดชู แต่-ลบหลู่, ส่อเสียด, หยามเหยียด .. พร้อม ! O ฉันคือประชาชน ที่เฝ้าขวนขวายรับการขับกล่อม ถูกหยิบยื่นจริง, เท็จ-ให้เด็ดดอม ที่ภาพค้อมหัวรับ .. งาม-จับตา O ความหวังอันเคยมี, บัดนี้หาย- ไปกับปลายแฉกลิ้นจนสิ้นค่า ทั้งเลวทรามชั่วดีทุกลีลา ล่มกับฝ่าเท้าต่ำเหยียบย่ำลง O ความรักในศักดิ์ศรี ใครหนอที่จับจูงจนสูงส่ง ความเป็นคนที่เห็น .. วกเป็นวง- ผลุบโผล่ตามจำนงที่บงการ O ความรักความภักดี ใครหนอที่ปรุงศัพท์ขึ้นขับขาน ที่ที่ความเป็นคนต้องบนบาน- อธิษฐาน ให้เชื่อจนเหงื่อย้อย ! O ความมั่นคงของชาติ คืออำนาจความคดถูกปลดปล่อย ที่ที่ความถูกต้องนั้นล่องลอย ให้เถื่อนถ่อยจับจองเข้าครองเมือง O ฉันคือประชาชน ที่ที่ความเป็นคนจำป่น .. เปลื้อง- ลงฝังกลบ .. อุดหนุนความขุ่นเคือง คอนเชื่อเชื่องงมงายลงถ่ายทิ้ง ! O ยืนฟังนั่งรอมาพอแรง จนภาพแร้งร้องร่ำก่อนดำดิ่ง- ลงจิกซากเน่าเหม็น .. ก็เห็นจริง- ว่าภาพยิ่งแสร้งทำ .. นั้นต่ำนัก ! O ภาพฝูงชนเรือนแสนเนืองแน่นสู้ กับกลุ่มผู้สามานย์ .. เข้าหาญหัก ที่ที่ราศีสรวง .. ถูกล้วงควัก- ดึงลากหลักการอสัจจ์ขึ้นบัตรพลี O เป็นภาพประชาชน ที่สุดทน เพราะรักในศักดิ์ศรี สุดทนเกินยอมรับให้อับปรีย์- หอบราคี .. น่าชังขึ้นนั่งเมือง O เป็นภาพประชาชน ที่อึดอัดเสียจน .. จำป่น-เปลื้อง- นักรบด้วยปลายลิ้น .. จนสิ้นเปลือง- โอกาสความรุ่งเรืองของเมืองไทย O เป็นนักรบไว้ป้องชาติ กลับใช้ปืนอุกอาจทำบาตรใหญ่ กรูขึ้นบนทำเนียบย่ำเหยียบใจ กระบอกปืนหันใส่ .. เผ่าไทยนี้ O ภาพฝูงชนเรือนแสนเนืองแน่นถนน เคลื่อนตัวบนน้ำใจอันไหลรี่ สองมือยกเงื้อสับความอับปรีย เพรียกเสรีเพรียกสิทธิ์อันติดตัว O ร่วมหยาบหยามยศศักดิ์จนหักโค่น ร่วมถ่ายโอนความรู้ให้รู้ทั่ว ร่วมเปลี่ยนแปลงโมหันต์ให้สั่นรัว- แค่ในหัวใจชาติ .. อำนาจนิยม O เป็นหนึ่งความบริสุทธิ์ที่รุดเร่ง- ฝ่ากุมเหงแถวทัพ .. ร่วมขับ-ข่ม- ทุรชาติตัวโตผู้โสมม จนสังคมนอบน้อม .. ลุก-พร้อมกัน O เป็นหนึ่งความบริสุทธิ์ที่ผุดพลุ่ง- ขึ้นพร้อมเพื่ออำรุงความมุ่งมั่น ล่ม-นักรบหลงงานเมื่อวานวัน ยก-ชาติพันธุสยามให้งามตา O สีสิบปีล่วงลับให้นับเนื่อง ความเป็นชาติเชื่อเชื่อง .. ที่เบื้องหน้า- ยังคงกลาดเกลื่อนเช่น .. ที่เป็นมา คือศรัทธาบ้าบอด .. ยังทอดเงา O สีสิบปีลับล่ม .. เหลือปมด้อย แฝงแววตาเงื่องหงอย .. ที่คอยเฝ้า- ฝันให้ฟ้าสีทอง .. เป็นของเรา ถิ่นที่สีหม่นเทา .. ทอดเงา - ล้อม ! หัวข้อ: Re: O จากวันนั้น ถึงวันนี้ . . O เริ่มหัวข้อโดย: aasdang ที่ 27 มิถุนายน 2014, 05:59:PM .
. http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=11-2013&date=06&group=41&gblog=49 (http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=11-2013&date=06&group=41&gblog=49) O ลมหายใจ .. แห่งอำนาจนิยม .. O (http://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1383718882.jpg) O ลมหายใจแห่งอำนาจนิยม พลิ้วผ่านทุกปรารมภ์เกินข่มขับ แนบอยู่ในสำนึกอย่างลึกลับ ทั้งตื่นหลับเหนื่อยอ่อนเกินซ่อนไว้ O รูปนาม, ความโดดเดี่ยว, ความเปลี่ยวเปล่า แทรกความเหงาเงียบรุมลงสุมใส่ ภาพวันวาน-แววตาแสนอาลัย ค่อยค่อยไหวเวียนวก .. ในอกคน O รูปนาม, ปวงความคิด, ความบิดเบือน- จึงแล่นเลื่อนล้อมแหล่งทุกแห่งหน ลมหายใจเหนื่อยอ่อนเคยร้อนรน- ยังอุ่นล้นด้วยเลศแห่งเพทนา O ถูก, ผิด .. ตลอดสายจวบปลายยุค คงเคล้า-คลุก .. ครอบเมืองอยู่เบื้องหน้า ด้วยอัตตายึดมั่นคอยบัญชา อยู่คอยท้าทายสมัย .. เหมือนไฟฟอน O ถูก, ผิด .. ตลอดสายจวบปลายวัย ถ้วนเลศนัย-ยังเห็นเกินเร้นซ่อน ทั้งโวหารภาพพจน์ทุกบทตอน ยังสะท้อนธาตุแท้เกินแก้ .. คลาย O ลมหายใจเหนื่อยอ่อนแม้นอ่อนล้า หากแววตาทั้งดวงยังช่วงฉาย มองโลกในเบื้องหน้าอย่างท้าทาย เย้ย-แดดสายโลมไล้อยู่ในวัน O สายลมแสนอบอุ่นยังหมุนรอบ เข้าปลุกปลอบความหวังให้ตั้งมั่น นกร้อง, คลื่นลมร่ำ, ความรำพัน- เพรียกความฝันทุกบท .. เป็นบทเดียว ! O เกิดขึ้น, สำหรับ เพื่อดับไป เยี่ยงต้นน้ำจากไพรอันไหลเชี่ยว ถึงที่ราบ-ทั้งสายย่อมคลายเกลียว- การยึดเหนี่ยว-รวมอณู .. ย่อมรู้เลือน O เกิดขึ้น, ตั้งอยู่ ย่อมรู้ดับ แม้นหมื่นแสนสับปลับจะขับเคลื่อน- เข้าต่อต้านด้วยฤทธิ์ความบิดเบือน การแล่นเลื่อนภพชาติ ฤาอาจยั้ง ? O โอ .. คำ, ความฉกฉวย .. ร่วมอวย - แว่ว งามผ่องแผ้วแห่งสุคนธ์ .. จึงล้นหลั่ง- คันธารสหวานล้ำ-เร่งกำลัง แทรกแฝง-ฝัง .. รมย์รื่นให้ตื่นตัว O ลมหายใจเหนื่อยอ่อน .. ยังอ่อนล้า หากเบื้องหน้ายามนั้น .. เงียบงัน-ทั่ว สดใสทั้งฟ้าบนเคยหม่นมัว เปลี่ยน-เพียงชั่วน้ำระยับพลิ้วกับลม O สายลมแสนอบอุ่น .. ยังหนุนเนื่อง บรรดาเรื่องถ้วนสรรพยังทับถม สายน้ำยังไหลบ่า, ถ้วนปรารมภ์- กลับค่อยล่มเลือนลับ .. อยู่กับกาล O โอ .. คำ, ความร่วมช่วย .. ยังอวย - แจ้ว ลมยังแผ่ว .. ยังพลิ้วเป็นริ้วผ่าน- โลมไล้รูปอาชญาบรรณาการ- ประดิษฐานดีชั่ว .. ขึ้นยั่วเย้ย ! หัวข้อ: Re: O จากวันนั้น ถึงวันนี้ . . O เริ่มหัวข้อโดย: aasdang ที่ 20 กรกฎาคม 2014, 10:37:AM http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=02-2014&date=11&group=42&gblog=213 (http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=02-2014&date=11&group=42&gblog=213)
O จันทร์ - กระสันรุ่ง ..? O (http://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1392043847.jpg) O อัญชลีกราบก้มประนมกร แล้วส่งเสียงพร่ำวอนออดอ้อนสวรรค์ เพรียกทิพทั้ง 6 ฟ้าให้มาพลัน หยัดภาวะขึ้นถวัลย์ให้วันทา O สมมุติว่าเป็นทิพ .. จึงหยิบยก เอาบุญปกหัวหูเมื่อคู้ขา มอบวางความจงรักเทียบศักดา อวด-ไพร่, ข้า, ผู้ดี .. ในที่นั้น O สังขารปรุง, ปากอ้า, บรรดาถ้อย- หลั่งเคลื่อนคล้อยโลมสมัยจนไหวหวั่น งามเอยความบำบวงในช่วงวัน ปรุงแต่งอย่างสำคัญ - เผ่าพันธุ์นี้ O แว่วผ่านถ้วนคำความที่ลามรุก หวานแทรกซุกใจคน ก็ล้นปรี่ ตาพริ้มอยู่-ฤๅสิ้นความยินดี ทิพในที่ก็ร่อนคว้างอยู่กลางใจ O อัญชลีสรรเสริญ-ก้ำเกินโสต แรงปราโมทย์แผ่ซ่าน-ฤๅต้านไหว โลดเหลิงความยินดีอยู่นี่ .. ใคร? แอบหวังความเป็นใหญ่ - นี่-ใครกัน ? O โอ .. ทิพทั้ง 6 ฟ้าเจ้าข้าเอ๋ย ไม่ - "ควร, เคย" อย่ายกให้ตกสวรรค์ โลกในยามมิเคยช่วงด้วยดวงจันทร์ หากดวงวัน-มิอาจรับ .. ก็ดับซะ ! หัวข้อ: Re: O จากวันนั้น ถึงวันนี้ . . O เริ่มหัวข้อโดย: aasdang ที่ 21 กรกฎาคม 2014, 08:48:PM http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=03-2014&date=19&group=42&gblog=231 (http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=03-2014&date=19&group=42&gblog=231)
O ร่างใต้กองดิน .. O (http://www.bloggang.com/data/s/sdayoo/picture/1395237997.jpg) O ย่อมไม่ใช่บุญคุณจากรุ่นเก่า เพียงความคิดคนเขลาถูกเป่าหู แค่ร่วมมือกำจัดเหล่าศัตรู รวมจิตไทยทุกผู้ ร่วมกู้เมือง O ทั้งเลือดนายเลือดไพร่ล้วนไหลหลั่ง แต่มีนั่งหลังช้างแอบสร้างเรื่อง ว่า .. วกวาดดาบหนุนแรงขุ่นเคือง แต่งความกล่อมเชื่อเชื่อง .. ต่อเนื่องมา O ใครหรือเคยมองเห็นเรื่องเช่นนั้น เช่นรำพันบรรเลงความเก่งกล้า ใครหรือเคยเห็นการณ์นั้นผ่านตา เช่นเขาว่า .. สร้างภาพให้กราบกราน O ประวัติศาสตร์ชาติไทย .. ก็ใครเขียน ให้ร่ำเรียน .. ว่าถูก .. ชั่วลูกหลาน ชำนะย่อมผูกบท .. ผู้จดจาร พ่ายแพ้ย่อมคือพาล .. ถูกลาญลบ O เห็นเพียงเหล่าผู้นำแย่งอำนาจ, การเข่นฆาตเลือดกระเซ็น และเห็นศพ เห็นเลือดคาวแดงคล้ำ นองค่ำพลบ, การสมคบฆ่านาย .. และขายน้อง O ประวัติศาสตร์ชาติไทย .. เห็นไหมเล่า ใครเขียน-เขา .. เขียนความให้ .. งาม .. ผ่อง อ่านความ .. ใช้สำนึกคอยตรึกตรอง เจอความพร้องพร่ำอวย .. อย่าช่วย กระพือ ! O ไม่มีหรอกบุญคุณจากรุ่นไหน กลางศึกล้วนเลือดไทย ผู้ไว้ชื่อ ทั้งไพร่, นายใช่จ้าวเช่นป่าวลือ แต่ล้วนคือเลือดไทยที่ไหลริน O จึงไม่ต้องเหยียบย่ำความสำคัญ ของอาสัญชั้นไพร่ .. จนไร้สิ้น จึงไม่ต้องยกย่อง .. บางกองดิน- เกินสังขารพังภินท์ .. ถมดินแดน ! |