พิมพ์หน้านี้ - *** พระนางสามาวดีคำกลอน บทเกริ่นนำ***

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 22 มีนาคม 2014, 12:22:PM



หัวข้อ: *** พระนางสามาวดีคำกลอน บทเกริ่นนำ***
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 22 มีนาคม 2014, 12:22:PM
(http://upic.me/i/iz/1sama.jpg) (http://upic.me/show/50217886)

เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน
โดย  สมพงศ์  ชูสุวรรณ
***************************

ตอน  บทเกริ่นนำ

** ขอนอบน้อมบูชาพระไตรรัตน์
น้อมมนัสตั้งจิตมั่นไม่หวั่นไหว
กราบบูชาระลึกคุณเทิดทูนไว้
ที่กลางใจเป็นสำคัญอย่างมั่นคง

** กราบพระพุทธสุดประเสริฐเลิศล้ำโลก
ไม่มีทุกข์ ไม่มีโศก โลภ โกรธ หลง
พระผู้ตื่นผู้รู้แจ้งด้วยพระองค์
เป็นผู้ทรงปัญญาเหนือกว่าใคร

** กราบพระธรรมคำสอนพระศาสดา
น้อมนำมาปฏิบัติด้วยเลื่อมใส
ชำระกายวาจาและจิตใจ
ขอจงได้นำส่งสู่นิพพาน

** กราบพระสงฆ์องค์สืบต่อพระศาสนา
ทรงคุณค่ายิ่งใหญ่ในสงสาร
ประพฤติดีประพฤติชอบตลอดกาล
เป็นวงศ์วานพุทธองค์พระทรงธรรม์

** กราบพระคุณแม่พ่อผู้ก่อเกิด
ให้กำเนิดชีวิตจิตคิดสร้างสรรค์
เป็นพระพรหมและอาจารย์พร้อมพร้อมกัน
พระอรหันต์สอนลูกเป็นคนดี

** เฝ้าถนอมดูแลและกล่อมเกลี้ยง
แม้ทุกข์ยากเต็มใจเลี้ยงไม่หน่ายหนี
เสียสละทุกอย่างได้แม้ชีวี
เพื่อลูกมีความสุขปลอดทุกข์ภัย

** กราบแทบเท้าคุณครูและอาจารย์
ผู้ให้การอบรมบ่มนิสัย
และสั่งสอนวิชาการให้ตามวัย
งานวิจัยวิทยานิพนธ์สืบค้นเรียน

** ในวันนี้จะทำงานอย่าสับสน
จงช่วยดลเกิดปัญญาขณะเขียน
ท่านผู้อ่านประทับใจไม่ติเตียน
หากผิดเพี้ยนก็ว่าดีมีเมตตา

(http://upic.me/i/tt/u2som.gif) (http://upic.me/show/49917806)

add complete
by klonthaiclub fb


หัวข้อ: Re: *** พระนางสามาวดีคำกลอน ***
เริ่มหัวข้อโดย: สมพงศ์ ชูสุวรรณ ที่ 23 มีนาคม 2014, 06:27:PM
(http://upic.me/i/iz/1sama.jpg) (http://upic.me/show/50217886)

เล่าเรื่องพระนางสามาวดีคำกลอน
โดย  สมพงศ์  ชูสุวรรณ
***************************

ตอน  กษัตริย์ ๒ สหาย

** ๑. จะขอกล่าวเล่าเรื่องแต่เบื้องหลัง
เมื่อคราวครั้งพุทธกาลนานนักหนา
องค์สมเด็จพระบรมศาสดา
ทรงประทับ ณ พาราโกสัมพี

** ๒. ทรงปรารภการตายของหญิงสาว
เป็นเรื่องราวในอดีตของโฉมศรี
มาคันทิยา และ สามาวดี
จึงทรงมีพระธรรมเทศนา

** ๓. ในครานั้นยังมีสองกษัตริย์
ครองสมบัติเริงรื่นชื่นหรรษา
เป็นสหายรักกันเนิ่นนานมา
ตั้งแต่เรียนวิชาครั้งยังเยาว์

** ๔. องค์หนึ่งชื่อว่า "อัลลกัปปะ"
สถานะยิ่งใหญ่ไม่อับเฉา
ตั้งมั่นอยู่ในธรรมไม่มัวเมา
ทรงเป็นที่เคารพของทุกคน

** ๕. อีกองค์หนึ่ง "เวฏฐทีปกะ"
ทรงยึดมั่นธรรมะไม่หมองหม่น
ทรงปกครองไพร่ฟ้ามหาชน
ไร้กังวลเกิดสุขทุกข์ห่างไกล

** ๖. ครั้นเวลาผ่านไปจึงได้คิด
แสนอนาถชีวิตเสียไฉน
มาปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป
มัจจุราชเป็นใหญ่เฝ้ารังควาญ

** ๗. ทุกคนที่เกิดมาในหล้าโลก
วิปโยคชีวิตไร้แก่นสาร
ขาดที่พึ่งใดใดไม่เบิกบาน
มีแต่ทุกข์อันธกาลสุดเศร้าใจ
                               
** ๘. จึงชวนกันออกบวชเป็นฤๅษี
ด้วยความหวังจะมีธรรมใหม่ใหม่
มาชำระสะสางกายข้างใน
จะเกิดความสดใสที่แท้จริง

** ๙. เพื่อเป็นการปฏิบัติที่ยิ่งใหญ่
จึงตั้งใจแยกกันไม่สุงสิง
อยู่ห่างกันคนละทิศจิตประวิง
บำเพ็ญเพียรอย่าประวิงเข้าใจกัน

** ๑๐. ตกลงกันไว้ว่าจะจุดไฟ
ถ้าเมื่อใดไฟดับต้องคับขัน
หากไม่ป่วยก็ตายลงไปพลัน
เป็นสัญญาณผูกพันเพียงสองคน 

(http://upic.me/i/tt/u2som.gif) (http://upic.me/show/49917806)