หัวข้อ: ๐ จุดเทียนรัก ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 23 ตุลาคม 2013, 06:16:AM ๐ กระดาษสาแผ่นน้อย เบาบาง หยิบค่อยบรรจงวาง แผ่นไม้ ดินสอจ่อลงกลาง ขวางขิต ตีช่องลากตัดไขว้ ละซ้ายเหลือขวา ประณมหัตถ์ทัดอกจรกคิ้ว คว่ำสิบนิ้วแบราบทาบผืนผ้า ขอพรพระมะ อะ อุ ลุพุทธา ประทานข้าสัมฤทธิ์สิทธิเมฯ ๐ ซ้ายบนล้ำโฉลก โชคดี ซ้ายล่างเคราะห์โรคี หลุดข้อง ขวาบนชะตาศรี ประเสริฐ ขวาล่างจดนามน้อง คู่อ้ายรายเรียง สาวใยฝ้ายสายสิญจน์สามสิบเส้น นำรวมเป็นสายเดียวจักเกลียวฝั้น วางไส้ลงคงคลึงสีผึ้งมัน เล่มยาวสั้นแค่คืบคือ"เทียนรัก" ๐ กระถางจุก่องแก้ว เกร็ดทราย เทียนปักงามแพรวพราย เด่นดั้ง พรมน้ำชุ่มระบาย รอบทั่ว ไฟจ่อปลายเทียนตั้ง เจิดจ้าไสว วอนพิสุทธิ์พุทธาอานุภาพ ซึ้งซึมซาบอาบจิตพิสมัย ดลเราสองครองรักสมัครใจ นานสืบไปไม่ลับถึงกัปกัลป์ emo_126 รพีกาญจน์ ภาคผนวก...จุดเทียนรัก ปักเทียนลงในกระถางบรรจุทราย พรมน้ำให้ทั่ว แตะทรายให้แน่น จุดไฟไฟต้องลม บังเกิดแสงสว่างจ้า อันหมายถึง ธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ รวมกับกระแสจิตที่แน่วแน่ จึงจะสัมฤทธิ์ผล หัวข้อ: Re: ๐ จุดเทียนรัก ๐ เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 23 ตุลาคม 2013, 07:15:AM ถูกเอานะจังงังนั่งไม่ติด คอยแต่คิดถึงอ้ายชายในฝัน ให้ร้อนลุ่มกลุ้มใจมาหลายวัน เอ๊ะนี่ฉันเวียนหัวเริ่มตัวชา หมอดูทักว่าลูกนั้นถูกของ และจะต้องแก้เคล็ดที่เด็ดกว่า ว่าฉันถูกเทียนรักปักอุรา ให้รีบมาร่วมหอ หมอระพี --ณัชชา-- emo_55 หัวข้อ: Re: ๐ จุดเทียนรัก ๐ เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 23 ตุลาคม 2013, 08:02:AM ฉบงง
ขนดินขนทรายเร็วจี๋ ตามสูตรหมอผี ขมังไสยแห่งแคว้นล้านนา จากนั้นบรรจุใส่ภา- ชนะซื้อมา กระถางดินเผาใบงาม ฉีดน้ำพลางยิ้มตาวาม วันนี้เหล่าทราม- วัยต้องสยบแก่เรา ตลาด กระดาษ A0 วางลงที่ตรงหน้า หยิบดินสอสีฟ้า...นำมาเหลา จนปลายแหลมแวมวับ...จับเป็นเงา แล้วจึ่งเอามาขีดกรีดตาราง ประกบหัตถ์อธิษฐานบนบานฟ้า ท่องคาถาเร็วรี่...บอกผีสาง "มะ อะ อุ" ด้วยเสียงสำเนียงบาง กราบเบญจางคประดิษฐ์, ขอฤทธา เริ่มต้นจาก "หนึ่งโสม" โฉมสะท้าน "Prapacarn" "ละอองดิน" ยุพินสง่า ทั้ง "พันทอง" ผ่องฉวีศรีประภา "กานต์ฑิตา" ครู "พี ฯ" กวีเซียน โอ๊ย! ผมมือไม้หงิก, กระดิกมิไหว แหม! ยังไม่หมดบัญชีที่อยากเขียน จึ่งยอมแพ้ลดละสละเพียร ไม่ "จุดเทียนรัก"อวด...เพราะปวดมือ ศรีเปรื่อง ๒๓ ต.ค. ๒๕๕๖ หัวข้อ: Re: ๐ จุดเทียนรัก ๐ เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 23 ตุลาคม 2013, 08:28:AM ง่วงแต่เช้า!!ตาปิดต้องคิดหนัก เจอเทียนรักร่ายมนต์..เราคนซื่อ ทุกคาถาท่านหมอผลก็คือ นัยน์ตาปรือหาวถี่ถี่..ขยี้ช้าช้า น้ำมันพรายสายสิญจน์สามสิบเส้น "รอดก็เก่ง"ยากเผ่นเร้นหลบหน้า กลิ่นเทียนหอมล้อมรักทักทายมา ปักอุราตราตรึง..จึงง่วงนอน.. emo_02 ---สะเลเต--- หัวข้อ: Re: ๐ จุดเทียนรัก ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 23 ตุลาคม 2013, 09:57:AM ถูกเอานะจังงังนั่งไม่ติด คอยแต่คิดถึงอ้ายชายในฝัน ให้ร้อนลุ่มกลุ้มใจมาหลายวัน เอ๊ะนี่ฉันเวียนหัวเริ่มตัวชา หมอดูทักว่าลูกนั้นถูกของ และจะต้องแก้เคล็ดที่เด็ดกว่า ว่าฉันถูกเทียนรักปักอุรา ให้รีบมาร่วมหอ หมอระพี --ณัชชา-- emo_55 จุดเช้ามืดหวืดเดียวเหลียวหลังถึง พาตะลึงเป็นได้อย่างไรนี่ หญิงอกรุมรุ่มร้อนรอนกายี แรงฤทธีคาถามหาไว เทียนสว่างสร้างปรองดองงามเล่ม วอนคลุมเต็มลู่ลานบ้านกลอนใหญ่ เพื่อรู้รักสามัคคีมีเยื่อใย รวมหนึ่งในกวินกานท์ยินดี emo_126 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ จุดเทียนรัก ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 23 ตุลาคม 2013, 10:49:AM ง่วงแต่เช้า!!ตาปิดต้องคิดหนัก เจอเทียนรักปักตรึง..อึ่งกึมกี่ หมอร่ายมนต์ดลใจในเช้านี้ ตื่นตอนเช้าหาวถี่ถี่..ขยี้ตา น้ำมันพรายสายสิญจน์สามสิบเส้น "รอดก็เก่ง"ยากเผ่นเร้นหลบหน้า กลิ่นเทียนหอมล้อมรักทักทายมา ปักอุราตราตรึง..จึงง่วงนอน.. emo_02 ---สะเลเต--- แสนวิตกต๊กกะใจเทียนให้ร้าย ง่วงถึงสายแทบทรุดสุดไถ่ถอน กาแฟถ้วยช่วยไม่ได้แน่นอน แย่สุดตอนนายเห็นเป็นเรื่องยาว จำต้องจับดับเทียนเท่านี้ก่อน เพื่อผันผ่อนด่วนสุดหยุดปากหาว เลิกงานแลงแสงมุดจุดอีกคราว ไส้เทียนขาวเส้นนี้มีชื่อเธอ emo_55 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ จุดเทียนรัก ๐ เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 23 ตุลาคม 2013, 11:22:AM ฯลฯ วอนพิสุทธิ์พุทธาอานุภาพ ซึ้งซึมซาบอาบจิตพิสมัย ดลเราสองครองรักสมัครใจ นานสืบไปไม่ลับถึงกัปกัลป์ emo_126 รพีกาญจน์ ภาคผนวก...จุดเทียนรัก ปักเทียนลงในกระถางบรรจุทราย พรมน้ำให้ทั่ว แตะทรายให้แน่น จุดไฟไฟต้องลม บังเกิดแสงสว่างจ้า อันหมายถึง ธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ รวมกับกระแสจิตที่แน่วแน่ จึงจะสัมฤทธิ์ผล (http://www.sahavicha.com/UserFiles/Image/13631303.gif) รับรอง..เทียนต้นนี้ไม่มีดับ555 emo_45 พับเพียบพร้อม น้อมเกศ เจตฯกำหนด พนมกร ประณต สะกดมั่น อธิษฐาน ผ่านฟ้า วิลาวัณย์ ชลาลัย ไพรสัณฑ์ ชั้นธรณี โปรดสดับ รับรู้ ดวงคู่เปิด หากบรรเจิด แจ่มจ้า สง่าศรี เป็นเนื้อทอง(ลำยอง55) ครองชม สมกันดี ด้วยฤทธี มีผล ดลบันดาล ให้เทียนนี้ ที่จุด งามผุดผ่อง ถึงแม้ต้อง วายุ ให้ลุผ่าน ชายหมายเรียง เคียงนี้ "รพีกาญจน์" ขอประทาน ขานทราบ กราบวิงวอน ขอเทียนรัก ชักชู ปูทางด้วย เอื้ออำนวย ช่วยนำ ดั่งคำอ้อน หากบุญนำ กรรมหมด ปรากฏย้อน พบคู่ซ้อน ก่อนชรา เถิด...สาธุ ..emo_12 "ดิน" (http://www.qzub.com/cartoon_016.gif) หัวข้อ: Re: ๐ จุดเทียนรัก ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 23 ตุลาคม 2013, 02:28:PM ...................................... เริ่มต้นจาก "หนึ่งโสม" โฉมสะท้าน "Prapacarn" "ละอองดิน" ยุพินสง่า ทั้ง "พันทอง" ผ่องฉวีศรีประภา "กานต์ฑิตา" ครู "พี ฯ" กวีเซียน โอ๊ย! ผมมือไม้หงิก, กระดิกมิไหว แหม! ยังไม่หมดบัญชีที่อยากเขียน จึ่งยอมแพ้ลดละสละเพียร ไม่ "จุดเทียนรัก"อวด...เพราะปวดมือ ศรีเปรื่อง ๒๓ ต.ค. ๒๕๕๖ ลา เอ๊ย ลา ขึ้นต้นเป็นขุนศรีเปรื่อง เขียนหรูฟูเฟื่อง เรื่องออกลีลา... ต๊กกะใจ ใครหนอ จ่อเทียนจุด ท่องปุดปุด ฮัดช่า นึกว่าผี..บรื๋อ ทะลึ่งกาย ฟายฟ้อน ตอนราตรี..บรือ ผ้าไม่มี..บรื๊อ ร่ายรำ ย่ำปังปัง! เดินตุตะ ชะรอย "กองกอย"แน่ จั๊กกะแร้ ตีผับ กับ"กระหัง" เต้น"ม้าบ้อง" ย่องวน รอบต้นรัง ไฟออกดั้ง วูบวาบ คราบ"ผีโพง" หรือรับจ้าง ช่างเขียน แปงเทียนรัก พะเยิบพะยัก มือลาก ปากโป้งโป้ง ดินสอขีด ปี๊ด ปี๊ด รีดเส้นโยง เท่งโทงโทง เร่าร้อง ก้องพนา... โสม โสม โสม โสม โสม โสม โสม โสม... แซม แซม แซม แซม แซม แซม แซม แซม... ดิน ดิน ดิน ดิน ดิน ดิน ดิน ดิน... พัน พัน พัน พัน พัน พัน พัน พัน...ฯลฯ ขยุกขยิก ขลิกไป เขียนไม่ออก มันบ่งบอก ครูเอือม เสื่อมคาถา ก็เมื่อคืน ลื่นไหล กับใครมา มือซ้ายขวา ยุบยับ จับอะไร? ลา เอ่ย ลา ลงท้ายก็เขียนไม่ออก ขี่ม้าสามศอก เลยบอกศาลา... emo_87 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ จุดเทียนรัก ๐ เริ่มหัวข้อโดย: ศรีเปรื่อง ที่ 23 ตุลาคม 2013, 04:44:PM ฮ่วย! ตู้อันนี่...คือเว่าจั่งซั่น...
โอ่ย....โอ่ยย....โอ่ยยยยยย (ลำเพลิน) ฮาแต่เปิดผ้าม่านกั้ง.....ออกมานั่งเทิ่งเตียง ยินแต่เสียงเพลงลา......ผู้ใด๋มาโห่ฮ่อง... สวัสดีเด้อพี่น้อง....ผมจอบมาส่องเบิ่ง....เห็นแต่เงาเมิ่งเกิ่ง....ย่างรำเซิ้งจ่มมนตร์ ผมละย่านบ่แมนคน....เลยแลนวนเมือบ้าน...เลยแลนวนเมือบ้าน...... (กรูรูรูรูรูรูรู............อ้าวย่อน) โอย...เดนาง...โอยเด้อนาง....ละมันเดิกมาแล้ว...กะเสียงแมวฮ่องมาว...หรือแมนแมวแม่ป้า...มาฮ่องใส่หู คิด..ฮอดซู่....คิดฮอดซู่...ก็เอาแว่นมาแงง...เห็นเงาคำแพง...ละนั่งเทียมแว่นแก้ว...ละนั่งเทียมแว่นแก้ว...อึอึอึ (ทำลูกคอเก้าชั้น...เลียนแบบมนสิทธิ์ คำสร้อย) ศรีเปรื่อง ๒๓ ต.ค. ๒๕๕๖ ปล. วันนี้ว่างจัด...เลยหาอะไรแผลง ๆ เล่น จริง ๆ หมอลำ ผมแต่งไม่เป็นหรอก....แต่มีบทเก่งที่เคยหัดร้องตอนสมัยประถมอยู่บทหนึ่ง เอามาเป็นแบบ...แล้วแกะ ๆ ก็เลยออกมาเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ emo_85 อธิบายศัพท์: ฮ่วย! = คำอุทานแสดงความไม่พอใจ ตู้ = คำเรียกชื่อคนแก่ ของคนแถบอีสานเหนือ (อุดรฯ, หนองคาย, หนองบัวลำภู....) เว่า = พูด จั่งซั่น = อย่างนั้น, อย่างนี้ เทิ่ง = บน จอบ = แอบ ฮ่อง = ร้อง จ่ม = บ่น ย่าน = กลัว แมน = ใช่ แลน = วิ่ง เมือ = กลับ ย่อน = อาการยุบ ๆ ยืด ๆ ในที่นี้สื่อถึงการรำ ออกสเต็ปแดนซ์แนวอีสาน เดิก = ดึก "เมิ่งเกิ่ง" ขนาดลูกอีสานร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างผมก็ไม่ชัดในความหมาย มันน่าจะแปลว่า "ใหญ่ เห็นชัดถนัดตา" ทำนองนี้ (มั้ง) "คำแพง" จริง ๆ เป็นคำวิเศษณ์ มีความหมายในทำนองว่า น่ารัก น่าทะนุถนอม (ในภาษาพูดไม่ว่าจะไทยกลาง หรือ ไทยอีสาน จะเอาคำวิเศษณ์ไปใช้เป็นคำนามอยู่เสมอ ๆ เช่น เฮ้ย! ไอ้อ้วนไปไหนมา คือ จริง ๆ เขาไม่ได้ชื่ออ้วนหรอก แต่เขาตัวอ้วน อิอิ) แงง = ส่อง (กระจก) ดูตัวเอง (คำนี้ ต้องออกเสียงยาวกว่าภาษากลางนิดหนึ่ง) เทียม = คู่กัน, อยู่กับ, อยู่ข้าง ถอดความ: อ้าว! ทำไมลุงถึงพูดอย่างนั้นล่ะ เมื่อเปิดผ้าม่าน (หมอลำจะเปิดผ้าม่านตอนเริ่มแสดง) ผมก็ออกมานั่งที่เตียง ได้ยินเสียงเพลงลา....ก็ตงิด ๆ ใจสงสัยว่ากันใครมาร้อง สวัสดีครับพี่น้อง (เห็นหมอลำเขาชอบใช้ประโยคนี้เลยเอาใส่ไว้เท่ห์ ๆ งั้นแหละ) ผมเลยออกมาดู เห็นเงาใหญ่ ๆ กำลังเดินรำเซิ้งพร้อมกับบ่นบริกรรมคาถา ผมกลัวว่าจะไม่ใช่คน....ก็เลยวิ่งหนีกลับบ้าน โอ้น้องเอย...เมื่อตกดึก...ก็มีเสียงแมวร้อง "มาว ๆ ๆ" หรือจะเป็นแมวของคุณป้า มาส่งเสียงให้ได้ยินถึงข้างหู คิดถึงคนรัก ก็เลยแว่นมาส่องดูตัวเอง...แต่กลับเห็นเป็นเงาของเธอ (ท่อนลำท่อนนี้ผมไม่ได้แต่งเอง จำเขามาอีกที อิอิ) หัวข้อ: Re: ๐ จุดเทียนรัก ๐ เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 23 ตุลาคม 2013, 05:14:PM ฮ่วย! ตู้อันนี่...คือเว่าจั่งซั่น... โอ่ย....โอ่ยย....โอ่ยยยยยย (ลำเพลิน) ฮาแต่เปิดผ้าม่านกั้ง.....ออกมานั่งเทิ่งเตียง ยินแต่เสียงเพลงลา......ผู้ใด๋มาโห่ฮ่อง... สวัสดีเด้อพี่น้อง....ผมจอบมาส่องเบิ่ง....เห็นแต่เงาเมิ่งเกิ่ง....ย่างรำเซิ้งจ่มมนตร์ ผมละย่านบ่แมนคน....เลยแลนวนเมือบ้าน...เลยแลนวนเมือบ้าน...... (กรูรูรูรูรูรูรู............อ้าวย่อน) โอย...เดนาง...โอยเด้อนาง....ละมันเดิกมาแล้ว...กะเสียงแมวฮ่องมาว...หรือแมนแมวแม่ป้า...มาฮ่องใส่หู คิด..ฮอดซู่....คิดฮอดซู่...ก็เอาแว่นมาแงง...เห็นเงาคำแพง...ละนั่งเทียมแว่นแก้ว...ละนั่งเทียมแว่นแก้ว...อึอึอึ (ทำลูกคอเก้าชั้น...เลียนแบบมนสิทธิ์ คำสร้อย) ศรีเปรื่อง ๒๓ ต.ค. ๒๕๕๖ ปล. วันนี้ว่างจัด...เลยหาอะไรแผลง ๆ เล่น จริง ๆ หมอลำ ผมแต่งไม่เป็นหรอก....แต่มีบทเก่งที่เคยหัดร้องตอนสมัยประถมอยู่บทหนึ่ง เอามาเป็นแบบ...แล้วแกะ ๆ ก็เลยออกมาเป็นอย่างที่เห็นนี่แหละ emo_85 อธิบายศัพท์: ฮ่วย! = คำอุทานแสดงความไม่พอใจ ตู้ = คำเรียกชื่อคนแก่ ของคนแถบอีสานเหนือ (อุดรฯ, หนองคาย, หนองบัวลำภู....) เว่า = พูด จั่งซั่น = อย่างนั้น, อย่างนี้ เทิ่ง = บน จอบ = แอบ ฮ่อง = ร้อง จ่ม = บ่น ย่าน = กลัว แมน = ใช่ แลน = วิ่ง เมือ = กลับ ย่อน = อาการยุบ ๆ ยืด ๆ ในที่นี้สื่อถึงการรำ ออกสเต็ปแดนซ์แนวอีสาน เดิก = ดึก "เมิ่งเกิ่ง" ขนาดลูกอีสานร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างผมก็ไม่ชัดในความหมาย มันน่าจะแปลว่า "ใหญ่ เห็นชัดถนัดตา" ทำนองนี้ (มั้ง) "คำแพง" จริง ๆ เป็นคำวิเศษณ์ มีความหมายในทำนองว่า น่ารัก น่าทะนุถนอม (ในภาษาพูดไม่ว่าจะไทยกลาง หรือ ไทยอีสาน จะเอาคำวิเศษณ์ไปใช้เป็นคำนามอยู่เสมอ ๆ เช่น เฮ้ย! ไอ้อ้วนไปไหนมา คือ จริง ๆ เขาไม่ได้ชื่ออ้วนหรอก แต่เขาตัวอ้วน อิอิ) แงง = ส่อง (กระจก) ดูตัวเอง (คำนี้ ต้องออกเสียงยาวกว่าภาษากลางนิดหนึ่ง) เทียม = คู่กัน, อยู่กับ, อยู่ข้าง ถอดความ: อ้าว! ทำไมลุงถึงพูดอย่างนั้นล่ะ เมื่อเปิดผ้าม่าน (หมอลำจะเปิดผ้าม่านตอนเริ่มแสดง) ผมก็ออกมานั่งที่เตียง ได้ยินเสียงเพลงลา....ก็ตงิด ๆ ใจสงสัยว่ากันใครมาร้อง สวัสดีครับพี่น้อง (เห็นหมอลำเขาชอบใช้ประโยคนี้เลยเอาใส่ไว้เท่ห์ ๆ งั้นแหละ) ผมเลยออกมาดู เห็นเงาใหญ่ ๆ กำลังเดินรำเซิ้งพร้อมกับบ่นบริกรรมคาถา ผมกลัวว่าจะไม่ใช่คน....ก็เลยวิ่งหนีกลับบ้าน โอ้น้องเอย...เมื่อตกดึก...ก็มีเสียงแมวร้อง "มาว ๆ ๆ" หรือจะเป็นแมวของคุณป้า มาส่งเสียงให้ได้ยินถึงข้างหู คิดถึงคนรัก ก็เลยแว่นมาส่องดูตัวเอง...แต่กลับเห็นเป็นเงาของเธอ (ท่อนลำท่อนนี้ผมไม่ได้แต่งเอง จำเขามาอีกที อิอิ) emo_116 emo_126 โอ้..สุดยอด..แสดงว่าว่างจริง เรานั่งนิ่ง แน่นั่น พลันขยับ จะเดินหน้า ม้าย่อง น่องดันพับ เมายาดอง ลำยองหลับ ประทับทรวง อยากจะเซิ้ง จะลำ ทำเก้อเขิน เสียงลำเพลิน ผู้ป่าวเปรื่อง ถึงเมืองหลวง ผิดจังหวะ ท่าเต้น เห็นแต่พวง- แก้มย้อยยวง พุงเขยื้อน เหมือนหมูบิน emo_45 พันทอง emo_116 emo_126 หัวข้อ: Re: ๐ จุดเทียนรัก ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 23 ตุลาคม 2013, 06:16:PM ([url]http://www.sahavicha.com/UserFiles/Image/13631303.gif[/url]) รับรอง..เทียนต้นนี้ไม่มีดับ555 emo_45 พับเพียบพร้อม น้อมเกศ เจตฯกำหนด พนมกร ประณต สะกดมั่น อธิษฐาน ผ่านฟ้า วิลาวัณย์ ชลาลัย ไพรสัณฑ์ ชั้นธรณี โปรดสดับ รับรู้ ดวงคู่เปิด หากบรรเจิด แจ่มจ้า สง่าศรี เป็นเนื้อทอง(ลำยอง55) ครองชม สมกันดี ด้วยฤทธี มีผล ดลบันดาล ให้เทียนนี้ ที่จุด งามผุดผ่อง ถึงแม้ต้อง วายุ ให้ลุผ่าน ชายหมายเรียง เคียงนี้ "รพีกาญจน์" ขอประทาน ขานทราบ กราบวิงวอน ขอเทียนรัก ชักชู ปูทางด้วย เอื้ออำนวย ช่วยนำ ดั่งคำอ้อน หากบุญนำ กรรมหมด ปรากฏย้อน พบคู่ซ้อน ก่อนชรา เถิด...สาธุ ..emo_12 "ดิน" ([url]http://www.qzub.com/cartoon_016.gif[/url]) โมทนี คลี่หทัย ได้สุขสันต์ น้อมเคียมคัล อันตะ มะอะอุ พรหมศิริ วิศิษฎ์ วิษณุ มัสดุ ศิวะ ตรีพระองค์ ทรงเมตตะ ประทาน ภาณอิตถี สัมฤทธี ฉันทะ สมประสงค์ นรลักษณ์ พักตร์ผ่อง เรืองรองรงค์ วสุวงค์ ศศิ รติยา ก้มเศียรกราบ ทาบบาท วาทนมัส มั่นศีลสัจ รักขิต จิตเกษา ปกสกนธ์ พ้นพาล มารนานา ครองชีวา เคียงคู่ สู่นิรันดร์ emo_126 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ จุดเทียนรัก ๐ เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 23 ตุลาคม 2013, 09:03:PM emo_116 emo_60 emo_95 emo_116 ขอปักเทียนแห่งรักด้วยภักดิ์มั่น มอบนิรันดร์เพียงน้องประคองคู่ ฤาบุพเพสันนิวาสประสาทพรู เป็นทาสรักโฉมตรูสุดบูชา emo_46 ขอเป็นเล่มสุดท้ายมิถ่ายถอน ดั่งหนึ่งพรแห่งพรหมอุดมค่า ท่านลิขิตให้พบประสบตา ดั่งดาราเคียงจันทร์นิรันดร emo_56 มิปักเทียนเล่มใหม่แห่งใดอีก ขอหลบหลีกความรักอยากพักผ่อน อยู่กับเธอคนเดียวมิอาทร จงสมพรอธิษฐานเถิดท่านพรหม emo_47 “ไพร พนาวัลย์” emo_126 หัวข้อ: Re: ๐ จุดเทียนรัก ๐ เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 24 ตุลาคม 2013, 06:33:AM (http://image.ohozaa.com/i/507/DWtJlh.jpg) (http://image.ohozaa.com/view2/xatupbIFz6w9H6nf) ท่านพรหมฟัง ดังแว่ว แผ่วไปไหม ทาสรักใด ใครกัน หวั่นไม่สม ไม่เอ่ยชื่อ เสียงสาว ร้าวอกตรม จะชื่นชม อย่างไร ใจอาวรณ์ อยู่บ้านกลอน ไหมหนอ ขอถามหน่อย แม่เนื้อกลอย คนเก่ง เพ่งอักษร กอถึงฮอ บอกใบ้ ในคำกลอน หรือหว่านอ้อน สาวสาว ให้หนาวทรวง มาหลอกเล่น เช่นนี้ ไม่ดีแน่ ชายอย่าแหย่ หยอกเย้า เคล้าถึงสรวง หญิงอกหัก รักกร่อย หงอยแดดวง พ่อเรือพ่วง ยวงย้วย ช่วยบอกที ขืนปักเทียน ไปทั่ว จักมัวหมอง พรหมท่านส่อง ตาทิพย์ กระพริบถี่ เกิดเทียนดับ ลับลง คงบ่ดี ไส้เทียนพี่ อ่อนไป ไฟมอดเชื้อ พันทอง ๒๓/๑๐/๕๖ emo_116 emo_126 หัวข้อ: Re: ๐ จุดเทียนรัก ๐ เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 24 ตุลาคม 2013, 09:53:AM โมทนี คลี่หทัย ได้สุขสันต์ น้อมเคียมคัล อันตะ มะอะอุ พรหมศิริ วิศิษฎ์ วิษณุ มัสดุ ศิวะ ตรีพระองค์ ทรงเมตตะ ประทาน ภาณอิตถี สัมฤทธี ฉันทะ สมประสงค์ นรลักษณ์ พักตร์ผ่อง เรืองรองรงค์ วสุวงค์ ศศิ รติยา ก้มเศียรกราบ ทาบบาท วาทนมัส มั่นศีลสัจ รักขิต จิตเกษา ปกสกนธ์ พ้นพาล มารนานา ครองชีวา เคียงคู่ สู่นิรันดร์ emo_126 รพีกาญจน์ (http://www.qzub.com/cartoon_016.gif) ลออเอียง เคียงอ้าย ที่หมายภักดิ์ เพิ่งประจักษ์ รักนี้ ที่สุขสันต์ อุระรอง สองกร ชายช้อนพลัน ประสานกัน ครั่นเหนียม อายเรียมลน สบตาซึ้ง ตรึงทรวง ดวงยิหวา ดุจผกา พาผ่อง ราวต้องฝน เลือดฝาดฝ่า มาแทรก แปลกพิกล ช่างสับสน ปนปาน มานจะบิน เทียนรักผ่อง ผุดนัก ประจักษ์แจ้ง รพีฯแฝง ศศิ ผลิถวิล หมั้นแหวนเพชร เจ็กกระรัต มัดใจ"ดิน" โปรดยลยิน สิ้นปี นี้ลงคาน. emo_12 "ดิน" (http://www.qzub.com/cartoon_016.gif) หัวข้อ: Re: ๐ จุดเทียนรัก ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 24 ตุลาคม 2013, 12:34:PM ([url]http://image.ohozaa.com/i/507/DWtJlh.jpg[/url]) ([url]http://image.ohozaa.com/view2/xatupbIFz6w9H6nf[/url]) เกิดเทียนดับ ลับลง คงบ่ดี ไส้เทียนพี่ อ่อนไป ไฟมอดเชื้อ พันทอง ๒๓/๑๐/๕๖ emo_116 emo_126 พิธีกรรม นำให้ กายใจสุข แถมปลดทุกข์ เบาบาง อย่างเหลือเชื่อ พราหมณ์ปราชญ์ ศาสตร์พุทธ ผีผุดเจือ แต่งปรุงเพื่อ คนคละ บูรณาการ เสริมต่อทุน คุณภาพ อาบชีวิต ช่วยพิชิต โสมม ซมทุกด้าน ก่อประโยชน์ โทษไร้ ปราศภัยพาล บนพื้นฐาน ถูกต้อง ครรลองดี ของจะดี มีชั่ว ตัวผู้ใช้ ตริตรองไต่ ขบวน ครบถ้วนถี่ เริ่มจากเจตน์ เหตุผล ต้นปลายชี้ เสมอที่ ตั้งจิต พิจารณา แม้นหมอครู ผู้แจ้ง แสร้งทำผิด สร้างจริต หลายหลาก มากตัณหา ด้วยคาดหมาย กายกาม ทรามบีฑา ท้ายชีวา สู่เหว เปลวไฟเพลิง กาลเวลา คลากลับ สลับเปลี่ยน ดังใจคน วนเวียน เรียนรู้เหลิง ความมิชอบ ครอบงำ ทำเปิดเปิง มัวสุขสันต์ บันเทิง เริงอบาย เทียนมุ่งมั่น หันตัว ครอบครัวรัก มิคิดสัก เงินตรา ค่าใช้จ่าย สแกนกรรม นำเห็น เป็นรายราย ถ้าเทียนหน่าย หนีร้าง จ้าง(เท่าไรก็)ไม่ทำ ยินอาจารย์กล่าวเช่นนั้นจริงๆ emo_126 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ จุดเทียนรัก ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 24 ตุลาคม 2013, 08:36:PM ปักเทียนตั้ง ฝังแน่น แกนแหลมเหล็ก คาถาเสก เลือนลบ กลบมนต์พร่ำ มักง่ายใช้ ไฟลน ก้นเทียนดำ โปรดจดจำ อักขระ อ่อนละลาย ดูฤกษ์งาม ยามดี มีชัยโชค กาลวิโยค จงอย่า พาฉิบหาย เหมาะมื้อแลง แสงอ่อน พอร้อนคลาย หกโมงปลาย ท้ายเก้า เข้าตำรา หยุดงดเว้น วันเน่า เปล่าสูญขาด โลกาภัย พินาศ อุบาทว์หา ขึ้นหนึ่ง สาม หก สิบเอ็ด ค่ำจันทรา สอง สี่ ห้า ฟ้าตีแสง แรงฤทธี วางธูปเทียน ข้าวตอก ดอกใส่ขัน อภิวันท์ ขอบุญ คุณพระศรี เทวดา ฟ้าดิน วอนยินดี และเจ้าที่ เห็นใจ ได้เปิดทาง จุดเทียนรัก ไหว้สา หน้าพระรูป ทอแสงวูบ วาบเร็ว เปลวสว่าง ลุกโชติช่วง ดวงตา มัวฝ้าฟาง เงาน้องนาง ร่างโลม กลางโดมไฟ emo_85 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ จุดเทียนรัก ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 25 ตุลาคม 2013, 08:19:PM ([url]http://www.qzub.com/cartoon_016.gif[/url]) ลออเอียง เคียงอ้าย ที่หมายภักดิ์ เพิ่งประจักษ์ รักนี้ ที่สุขสันต์ อุระรอง สองกร ชายช้อนพลัน ประสานกัน ครั่นเหนียม อายเรียมลน สบตาซึ้ง ตรึงทรวง ดวงยิหวา ดุจผกา พาผ่อง ราวต้องฝน เลือดฝาดฝ่า มาแทรก แปลกพิกล ช่างสับสน ปนปาน มานจะบิน เทียนรักผ่อง ผุดนัก ประจักษ์แจ้ง รพีฯแฝง ศศิ ผลิถวิล หมั้นแหวนเพชร เจ็กกระรัต มัดใจ"ดิน" โปรดยลยิน สิ้นปี นี้ลงคาน. emo_12 "ดิน" ([url]http://www.qzub.com/cartoon_016.gif[/url]) สีผึ้งเหลืองละลายสายเทียนไหม้ ทอเปลวไฟโชติช่วงดวงแดงฉาน เปรียบดังรักแรกเริ่มเพิ่มเบ่งบาน แลละลานเรืองรองครองโพยม สีผึ้งเหลืองละลายสายไส้มอด รักตลอดรำพึงซาบซึ้งโสม เทียนดับพลันสรรพสิ่งวิ่งจู่โจม มิอาจโน้มน้าวใจลืม"ดิน"ได้เลย emo_116 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ๐ จุดเทียนรัก ๐ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 12 เมษายน 2014, 10:10:PM เก็บมะลิผลิขาวจากราวสวน นั่งหน้าจวนร้อยดวงเป็นพวงขวัญ วางพานทองรองรับใบขลับมัน ยื่นกำนัลยอยอบมอบแด่เธอ สางผมเรียบเสียบสะเก็จตะหวา หูซ้ายขวาทัดเทียงเรียงเสมอ รับรอยยิ้มพริ้มเพริศงามเลิศเลอ เอียงชะเง้อดุจนางพร่างพิมาน คลอสำเนียงเสียงใสพริ้งไพเราะ พริ้งเสนาะเพียงเพลงเชลงสาน เคล้าดีดสีวจีเสกวิเวกวาน ทอสะท้านสังคีตหวีดหวิวทรวง เอื้อนอำนวยอวยแด่แม่ยอดหญิง อัญเชิญสิ่งวิเศษจากเขตสรวง ประทานพรร่อนเกล้าห่มเยายวง น้อมบานบวงเสริมมั่นขวัญดนู ศุภมัสอัศจรรย์ชันษาครบ เวียนบรรจบสิบสามยามสบสู่ มานสกนณ์ดลปิยะนวลพธู สคราญคู่เคียงใกล้ไม่อำลา ...ที่รัก... ห้าสิบปีดีดักตระหนักค่า วันหมุนเวียนเปลี่ยนไปไม่กลับมา แต่ทว่ารักฉันนั้นเหมือนเดิม รพีกาญจน์ |