หัวข้อ: ...วอนสีกา... เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 30 มิถุนายน 2013, 12:59:AM (http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQiH7kuFmYmHvYD7-urhPi26IIhVEim5KBij0sukk88qtQ-vfMCww) บวชเรียนมาช้านานเกินการกล่าว เทศน์ทุกคราวโยมฟังคำสั่งสอน ทำความดีมีธรรมคือคำวอน แล้วให้พรเป็นสุขกันทุกครา ด้วยหัวใจใฝ่ฝันวันหลุดพ้น เพื่อทุกคนมีแรงแสวงหา อริยสัจสี่จำทุกคำมา เอาปัญญาละทุกข์จะสุขใจ สีกาทำสำรับกับคาวหวาน เตรียมอาหารอย่างดีกว่าที่ไหน นั่งซักถามตามชิดติดฤทัย คำเทศน์ไงพาหลงปลงมิเป็น ทั้งอ้อล้อฉอเลาะเสนาะหู เมื่อหลงดูอ่อนไหวให้มองเห็น สีกามาปรึกษาเข้าทั้งเช้าเย็น คือประเด็นอยู่หรือสึกต้องตรึกตรอง จงหยุดก่อน...สีกา...อย่าสึกพระ ผู้ชายนะดีดีมีสนอง ตามวัดวาอารามอย่าตามมอง เลิกใฝ่ปองสนแต่ธรรมคือกรรมดี ---กังวาน--- หัวข้อ: Re: ...วอนสีกา... เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 30 มิถุนายน 2013, 04:24:AM สาธุ....รับคำสอนและพรท่าน ทะลุผ่านมองเห็นเด่นแสงสี หนักแน่นในพระธรรมคำศีลมี อ่านรู้ดีสีกามาประจำ ประเด็นอยู่หรือสึกตรึกตรองด้วย คงตีหวยเลขวันให้ขันขำ มีอ้อล้อฉอเลาะเสนาะคำ คงเตือนย้ำหนักแน่นไว้ในคำลวง สมาธิตริตรองมองตลอด คำอ้อนออดหลงรับกลับติดบ่วง กาเมสุมิจฉาอย่าโทษดวง หากเลยล่วงข้อนี้มีกรรมเวร ภาพลวงตาติดหลอนหล่อนมาบ่อย หลวงพี่เคยใช้สอยคอยงานเด่น เช็ดปัดกวาดกุฏิซิจำเป็น ทุกเช้าเย็นวันนี้มิเห็นมา สมาธิกลับหายกลายเป็นห่วง สุดาดวงอยู่ไหนไม่เห็นหน้า แอบเหลือบมองไปมั่วทั่ววัดวา จิตภาวนาเริ่มหายกลายพะวง ดั่งหนามตำผิวหนังหักฝังอยู่ ทั้งที่รู้ปล่อยวางอ้างลืมหลง กลายแผลติดเชื้อร้ายไม่คิดปลง จะยืนยงนานหลายทำลายตน. นพ 30มิ.ย.56 หัวข้อ: Re: ...วอนสีกา... เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 30 มิถุนายน 2013, 09:35:AM emo_87 กังวานวอนสอนบรรดาสีกาหญิง บาปกรรมยิ่งอิงพระจะเสื่อมศรี ยามม้วยมรณ์จรเร่อเวจี ต้องคลุกคลีผีเปรตน่าเวทนา แต่อกเราเศร้าทรวงดวงฤดี สีกากีมีมากยากคบหา เพียงเครื่องแบบแอบบังยังกายา ใช้รีดเร้นเข่นฆ่าเลี้ยงหากิน สันติราษฎร์ฟาดฟันบรรลัยลาญ ทำตัวพาลมารเห็นเป็นนิจสิน เสียดายนักลักขณาตราแผ่นดิน ต่างลืมสิ้นบดินทร์มอบตอบประทาน... emo_33 -บูรพาฯ- emo_126 หัวข้อ: Re: ...วอนสีกา... เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 30 มิถุนายน 2013, 10:39:AM สามเณร ไม่นาน กรานลาสึก แค่รู้ลุ่ม นุ่มลึก ตรึกตรองหน ฉันข้าวปลา อาศัย ใบนิมนต์ หล่อสกนธ์ จนครบ จบเล่าเรียน เหลือแต่ตัว ขรัวแก่ ดูแลวัด เฝ้าแจงจัด ชำนิ มิพาเหียร กวาดศาลา อาคาร ลานวนเวียน จุดธูปเทียน ทำวัตร หัดบาลี พระรูปหนุ่ม รุ่มร้อน ทอนกิเลส เข้าสู่เขต วงวัด หวังขัดสี จำพรรษา หน้ากฐิน ด้วยยินดี รอบกุฏี มิขาด ญาติหญิงชาย ผลไม้ ใสเย็น ประเคนฉัน ภัตตาหาร หวานมัน ทันถวาย ทั้งวันคืน ตื่นหลับ รับวุ่นวาย โทรไร้สาย มิจบ คอยรบกวน โหงวเฮ้งต้อง ตำรา น่าเป็นพระ คล่องวาทะ ธรรมทูต พูดกระสวน หมายสืบต่อ ก่อร่าง สร้างขบวน กล่าวเชิญชวน คฤหัสถ์ เข้าวัดวา ขอแค่นี้ ขอดีดี ขอได้ไหม หวังจะให้ ช่วยชาติ ศาสนา คงแสนนาน ท่านอยู่ เป็นครูบา วอนสีกา อย่าคึก สึกพระเลย emo_126 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ...วอนสีกา... เริ่มหัวข้อโดย: พยัญเสมอ ที่ 30 มิถุนายน 2013, 12:04:PM ผมว่าของแบบนี้มันตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอกครับ จะไปโทษผู้หญิงเขาฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก ถ้าผู้หญิงเป็นฝ่ายเข้าปลุกปล้ำพระ หรือหลอกใส่ยานอนหลับ ยาเลิฟ ยาปลุกเซ็กในอาหารให้พระฉันแล้วกระทำชำเราก็ว่าไปอย่าง แบบนั้นจึงจะเรียกว่าผู้หญิงสึกพระ emo_52 แต่ถ้าพระไปเต็มใจเออออห่อหมกกะเขามันก็ช่วยไม่ได้นิ อันสตรีไม่มีศีลก็สิ้นสวย บุรุษด้วยไม่มีศีลก็สิ้นศรี อันสมณะไม่มีศีลก็สิ้นดี ข้าราชการนี้ไม่มีศีลก็เลวทราม (คำกลอนสุภาษิตของเก่าไม่ทราบนามผู้แต่งครับ) ขออภัยครับ พอดีช่วงนี้เลิกกลอนไปออนเกมส์ emo_19 วอนสอนสั่งสีกาจะหาผัว อย่ามากมัวตัณหาให้พาหัน โปรดละเว้นหนึ่งไซร้ไว้สักวัน คือบุรุษผู้ถือบรรพชาชน อันพระเถรเณรชีผู้มีศีล งดเว้นปีนป่ายหาจงอย่าสน ในแง่เชิงชู้สาวร้าวระคน จะปี้ป่นศาสนาพาหมองมัว โลกใช่ไร้ใบพุทราคงหาได้ ไม่อดอยากยากไร้ชายมีทั่ว ชายผ้าเหลืองพึงเว้นเวรกรรมกลัว มิมีใครติว่าชั่วมัวหม่นใจ อีกพระสงฆ์ทรงศีลชินวร สู้ศึกษาคำสอนได้อาศัย พุทธโพธิ์พฤกษ์สุขสมเงาร่มใบ จงเห็นภัยในมารยาของนารี อย่าหลงสวยรวยรูปน่าจูบฟัด ดังคฤหัสต์เฉกเช่นเป็นสมี พึงสังวรณ์อย่างยิ่งสิ่งยวนยี อย่าให้มีอยู่ในห้วงดวงกมล จึงจะงดงามสมน่าชมชื่น ภิรมย์รื่นบรรพชาสง่าผล เป็นหลักชัยในวิสุทธิ์พุทธมณฑล นำพาตนผ่องพ้นได้จากภัยมาร Orion264(มือขวา) ไหนๆก็มาละ เอาซะหน่อย emo_52 หัวข้อ: Re: ...วอนสีกา... เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 30 มิถุนายน 2013, 08:02:PM จงหยุดก่อน...สีกา...อย่าสึกพระ ผู้ชายนะดีดีมีสนอง ตามวัดวาอารามอย่าตามมอง เลิกใฝ่ปองสนแต่ธรรมคือกรรมดี ---กังวาน--- มารผจญมากมายในทางโลก สุขคู่โศกบอกได้ในวิถี เป็นนักบวชกลายมาเป็นสมี ก็อยู่ที่เวรกรรมที่ทำมา ถ้าครองตนอยู่ได้ในศิลสัตย์ ข้อจำกัดมั่นไว้ใครไม่กล้า ถึงพบมารมากมีร้อยสีกา อุเบกขาซะอย่างย่อมห่างมาร --ณัชชา-- emo_14 หัวข้อ: Re: ...วอนสีกา... เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 30 มิถุนายน 2013, 08:07:PM emo_100 emo_126 แม้นปรบมือ ข้างเดียว เฝ้าเทียวหา รู้หักห้าม ตามมา อย่าพล่าผลาญ ทั้งสีกา ทั้งพระ รู้ประมาณ ราคะซ่าน ท่านจบ พบทางตัน หากปรบมือ ข้างเดียว เข้าเกี่ยวข้อง รู้ไตร่ตรอง ครองสมณะ ละหุนหัน เป็นสีกา เช่นเดียว อย่าเกี่ยวพัน ระยะห่าง วางกั้น นั้นพึงมี การพูดจา ปราศัย ใคร่ครวญก่อน ขืนออดอ้อน กันสอง จะหมองศรี เสื่อมเสียชื่อ วงศ์วรรณ ลงทันที จงคิดดี ทำดี หนีพ้นภัย พันทอง ๓๐/๐๖/๕๖ emo_126 emo_126 หัวข้อ: Re: ...วอนสีกา... เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 30 มิถุนายน 2013, 08:49:PM ๐อันตัณหาราคะที่สะสม เป็นรากปมมารยาร้อยสาไถย อยู่ฝังแน่นเหนี่ยวหน่วงดวงฤทัย ยากจะใช้ช่องทางสว่างจินต์ ๐จึงไม่แปลกหากสงฆ์ดำรงพรต มีจิตลดคันธุระละล้าสิ้น ด้วยกิเลสเลศร้ายคลายพิษกิน ให้ถวิลถวัลย์หาประดาตม ๐ท่านจึงว่าอย่าประมาท,หัดสติ ตัณหาผลิเพลิงเผาใกล้เกล้าผม เพียงพลั้งเผลอราคะสิงอารมณ์ และเพาะบ่มบาปบังทางนิพพาน emo_126 หัวข้อ: Re: ...วอนสีกา... เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 30 มิถุนายน 2013, 10:12:PM emo_107 emo_116 emo_95 สีกาเอ๋ยอย่าไปใกล้หลวงพี่ เดี๋ยวจะมีครหาพาฟุ้งซ่าน จะไปวัดไปวาหาศีลทาน หรือไปควานหาเวรจะเป็นกรรม แต่งตัวให้มิดชิดด้วยจิตซื่อ เพื่อไปถือสันโดษเข้าโบสถ์พร่ำ ท่องสวดมนต์ภาวนาคาถาธรรม เพื่อน้อมนำสมาธิเข้าตริตรอง เมื่อทำงานเหนื่อยยากลำบากจิต บ้างถูก,ผิด,จิตตก,พาบกพร่อง หันเข้าหาธรรมะช่วยประคอง อาบละอองรสพระธรรมชุ่มฉ่ำจินต์ จงเคร่งครัดข้อห้ามตามจารีต ที่ท่านขีดป้องกันบ่วงมารสิ้น จงสำรวมอินทรีย์ที่โบยบิน ไร้มลทินติดตัวดั่งบัวงาม เทอญฯ “ไพร พนาวัลย์” emo_126 หัวข้อ: Re: ...วอนสีกา... เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 30 มิถุนายน 2013, 10:41:PM สาธุ....รับคำสอนและพรท่าน ทะลุผ่านมองเห็นเด่นแสงสี หนักแน่นในพระธรรมคำศีลมี อ่านรู้ดีสีกามาประจำ ประเด็นอยู่หรือสึกตรึกตรองด้วย คงตีหวยเลขวันให้ขันขำ มีอ้อล้อฉอเลาะเสนาะคำ คงเตือนย้ำหนักแน่นไว้ในคำลวง สมาธิตริตรองมองตลอด คำอ้อนออดหลงรับกลับติดบ่วง กาเมสุมิจฉาอย่าโทษดวง หากเลยล่วงข้อนี้มีกรรมเวร ภาพลวงตาติดหลอนหล่อนมาบ่อย หลวงพี่เคยใช้สอยคอยงานเด่น เช็ดปัดกวาดกุฏิซิจำเป็น ทุกเช้าเย็นวันนี้มิเห็นมา สมาธิกลับหายกลายเป็นห่วง สุดาดวงอยู่ไหนไม่เห็นหน้า แอบเหลือบมองไปมั่วทั่ววัดวา จิตภาวนาเริ่มหายกลายพะวง ดั่งหนามตำผิวหนังหักฝังอยู่ ทั้งที่รู้ปล่อยวางอ้างลืมหลง กลายแผลติดเชื้อร้ายไม่คิดปลง จะยืนยงนานหลายทำลายตน. นพ 30มิ.ย.56 เตือนสติตรึกตรองอย่าหมองเศร้า เพราะตัวเรามีกิเลสคือเหตุผล การยึดติดชิดพระละตัวตน นั่นคือหนทางผิดอย่าคิดลอง ทำตามกฎลดบ้างห่างสักหน่อย โปรดอย่าปล่อยตัณหามาสนอง ใช้ศีลธรรมนำจิตคิดตรึกตรอง คงประคองกันอยู่สู่นิพพาน ---กังวาน--- emo_126 หัวข้อ: Re: ...วอนสีกา... เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 30 มิถุนายน 2013, 10:55:PM emo_87 กังวานวอนสอนบรรดาสีกาหญิง บาปกรรมยิ่งอิงพระจะเสื่อมศรี ยามม้วยมรณ์จรเร่อเวจี ต้องคลุกคลีผีเปรตน่าเวทนา แต่อกเราเศร้าทรวงดวงฤดี สีกากีมีมากยากคบหา เพียงเครื่องแบบแอบบังยังกายา ใช้รีดเร้นเข่นฆ่าเลี้ยงหากิน สันติราษฎร์ฟาดฟันบรรลัยลาญ ทำตัวพาลมารเห็นเป็นนิจสิน เสียดายนักลักขณาตราแผ่นดิน ต่างลืมสิ้นบดินทร์มอบตอบประทาน... emo_33 -บูรพาฯ- emo_126 เพราะโลภโมโทสันนั่นสาเหตุ ตายเป็นเปรตคงมิเชื่อเหลือคำขาน เครื่องแบบนี้มีไว้ให้ประจาน ทำตัวพาลรีดเร้นมิเป็นคน กรรมใครก่อต่อติดมิผิดแน่ ย่อมจะแผ่ตามไปไม่สับสน ทำอย่างใดได้อย่างนั้นอย่ากังวล หลีกไม่พ้นกฎแห่งกรรม...จงทำดี ---กังวาน--- emo_126 หัวข้อ: Re: ...วอนสีกา... เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 30 มิถุนายน 2013, 11:16:PM สามเณร ไม่นาน กรานลาสึก แค่รู้ลุ่ม นุ่มลึก ตรึกตรองหน ฉันข้าวปลา อาศัย ใบนิมนต์ หล่อสกนธ์ จนครบ จบเล่าเรียน เหลือแต่ตัว ขรัวแก่ ดูแลวัด เฝ้าแจงจัด ชำนิ มิพาเหียร กวาดศาลา อาคาร ลานวนเวียน จุดธูปเทียน ทำวัตร หัดบาลี พระรูปหนุ่ม รุ่มร้อน ทอนกิเลส เข้าสู่เขต วงวัด หวังขัดสี จำพรรษา หน้ากฐิน ด้วยยินดี รอบกุฏี มิขาด ญาติหญิงชาย ผลไม้ ใสเย็น ประเคนฉัน ภัตตาหาร หวานมัน ทันถวาย ทั้งวันคืน ตื่นหลับ รับวุ่นวาย โทรไร้สาย มิจบ คอยรบกวน โหงวเฮ้งต้อง ตำรา น่าเป็นพระ คล่องวาทะ ธรรมทูต พูดกระสวน หมายสืบต่อ ก่อร่าง สร้างขบวน กล่าวเชิญชวน คฤหัสถ์ เข้าวัดวา ขอแค่นี้ ขอดีดี ขอได้ไหม หวังจะให้ ช่วยชาติ ศาสนา คงแสนนาน ท่านอยู่ เป็นครูบา วอนสีกา อย่าคึก สึกพระเลย emo_126 รพีกาญจน์ พระยังหนุ่มรุ่มร้อนไฟฟอนเผา สีกาเอาเชื้อเพลิงใส่ไม่อยู่เฉย กามกิเลสเหตุพื้นพื้นอยากชื่นเชย พระมิเคยก็แสนยากจากสีกา ถ้าเห็นด้วยช่วยหน่อยช่วยปล่อยปะ เมื่อท่านละทางโลกหมดโศกหนา อย่ายุ่มยามตามชิดติดท่านมา ให้ครูบาสร้างกุศลได้ผลบุญ ---กังวาน--- emo_126 หัวข้อ: Re: ...วอนสีกา... เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 30 มิถุนายน 2013, 11:31:PM emo_126ทานโทษ...รัตน์มาต่อแต่ไม่แต่งนะคะ emo_50 แต่งไม่ออกเจ้าค่ะพี่หลวงไข่ emo_26 emo_32 http://www.youtube.com/watch?v=-et3RtEMTBA หัวข้อ: Re: ...วอนสีกา... เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 30 มิถุนายน 2013, 11:35:PM ผมว่าของแบบนี้มันตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอกครับ จะไปโทษผู้หญิงเขาฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก ถ้าผู้หญิงเป็นฝ่ายเข้าปลุกปล้ำพระ หรือหลอกใส่ยานอนหลับ ยาเลิฟ ยาปลุกเซ็กในอาหารให้พระฉันแล้วกระทำชำเราก็ว่าไปอย่าง แบบนั้นจึงจะเรียกว่าผู้หญิงสึกพระ emo_52 แต่ถ้าพระไปเต็มใจเออออห่อหมกกะเขามันก็ช่วยไม่ได้นิ อันสตรีไม่มีศีลก็สิ้นสวย บุรุษด้วยไม่มีศีลก็สิ้นศรี อันสมณะไม่มีศีลก็สิ้นดี ข้าราชการนี้ไม่มีศีลก็เลวทราม (คำกลอนสุภาษิตของเก่าไม่ทราบนามผู้แต่งครับ) ขออภัยครับ พอดีช่วงนี้เลิกกลอนไปออนเกมส์ emo_19 วอนสอนสั่งสีกาจะหาผัว อย่ามากมัวตัณหาให้พาหัน โปรดละเว้นหนึ่งไซร้ไว้สักวัน คือบุรุษผู้ถือบรรพชาชน อันพระเถรเณรชีผู้มีศีล งดเว้นปีนป่ายหาจงอย่าสน ในแง่เชิงชู้สาวร้าวระคน จะปี้ป่นศาสนาพาหมองมัว โลกใช่ไร้ใบพุทราคงหาได้ ไม่อดอยากยากไร้ชายมีทั่ว ชายผ้าเหลืองพึงเว้นเวรกรรมกลัว มิมีใครติว่าชั่วมัวหม่นใจ อีกพระสงฆ์ทรงศีลชินวร สู้ศึกษาคำสอนได้อาศัย พุทธโพธิ์พฤกษ์สุขสมเงาร่มใบ จงเห็นภัยในมารยาของนารี อย่าหลงสวยรวยรูปน่าจูบฟัด ดังคฤหัสต์เฉกเช่นเป็นสมี พึงสังวรณ์อย่างยิ่งสิ่งยวนยี อย่าให้มีอยู่ในห้วงดวงกมล จึงจะงดงามสมน่าชมชื่น ภิรมย์รื่นบรรพชาสง่าผล เป็นหลักชัยในวิสุทธิ์พุทธมณฑล นำพาตนผ่องพ้นได้จากภัยมาร Orion264(มือขวา) ไหนๆก็มาละ เอาซะหน่อย emo_52 คุณมือขวาว่ากล่าวเรื่องราวชัด ปฏิบัติหลักธรรมกรรมฐาน พระมิหลงปลงจิตติดบ่วงมาร ข้ามวัฏสงสารนิพพานมี สีกาก็ขอแค่เก่งเคร่งในศีล อย่าป่ายปีนหากิเลสเขตวัดนี่ เมื่อเข้าวัดปฏิบัติธรรมคือกรรมดี มาถูกที่ทำถูกทางสว่างใจ ---กังวาน--- emo_126 หัวข้อ: Re: ...วอนสีกา... เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 30 มิถุนายน 2013, 11:50:PM มารผจญมากมายในทางโลก [/quote]สุขคู่โศกบอกได้ในวิถี เป็นนักบวชกลายมาเป็นสมี ก็อยู่ที่เวรกรรมที่ทำมา ถ้าครองตนอยู่ได้ในศิลสัตย์ ข้อจำกัดมั่นไว้ใครไม่กล้า ถึงพบมารมากมีร้อยสีกา อุเบกขาซะอย่างย่อมห่างมาร --ณัชชา-- emo_14 พูดนะง่ายกายกิเลสเหตุตัณหา ก็สีกายั่วเย้าเฝ้าเรียกขาน ใจมิแข็งแรงเท่าเรากังวาน หลงเบิกบานเชื่อฟังพังทันที สีกาก็ขอร้องมองห่างห่าง ปิดช่องว่างหัวใจไปเลยนี่ ฟังแค่ธรรมคำเทศน์สมเหตุดี ปัญญามีจงตรึกตรองมิหมองมัว ---กังวาน--- emo_126 หัวข้อ: Re: ...วอนสีกา... เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 30 มิถุนายน 2013, 11:58:PM emo_100 emo_126 แม้นปรบมือ ข้างเดียว เฝ้าเทียวหา รู้หักห้าม ตามมา อย่าพล่าผลาญ ทั้งสีกา ทั้งพระ รู้ประมาณ ราคะซ่าน ท่านจบ พบทางตัน หากปรบมือ ข้างเดียว เข้าเกี่ยวข้อง รู้ไตร่ตรอง ครองสมณะ ละหุนหัน เป็นสีกา เช่นเดียว อย่าเกี่ยวพัน ระยะห่าง วางกั้น นั้นพึงมี การพูดจา ปราศัย ใคร่ครวญก่อน ขืนออดอ้อน กันสอง จะหมองศรี เสื่อมเสียชื่อ วงศ์วรรณ ลงทันที จงคิดดี ทำดี หนีพ้นภัย พันทอง ๓๐/๐๖/๕๖ emo_126 emo_126 เป็นเหตุผลคนดีสีกาพระ รู้จักละคือความดีที่ยิ่งใหญ่ ศาสนารุ่งเรืองคู่เมืองไทย รู้อะไรว่าเหมาะหมดเคราะห์กรรม ---กังวาน--- emo_126 หัวข้อ: Re: ...วอนสีกา... เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 01 กรกฎาคม 2013, 12:12:AM ๐อันตัณหาราคะที่สะสม เป็นรากปมมารยาร้อยสาไถย อยู่ฝังแน่นเหนี่ยวหน่วงดวงฤทัย ยากจะใช้ช่องทางสว่างจินต์ ๐จึงไม่แปลกหากสงฆ์ดำรงพรต มีจิตลดคันธุระละล้าสิ้น ด้วยกิเลสเลศร้ายคลายพิษกิน ให้ถวิลถวัลย์หาประดาตม ๐ท่านจึงว่าอย่าประมาท,หัดสติ ตัณหาผลิเพลิงเผาใกล้เกล้าผม เพียงพลั้งเผลอราคะสิงอารมณ์ และเพาะบ่มบาปบังทางนิพพาน emo_126 กิเลสเร่าเผาร่างสร้างราคะ มิลดละเลิกราน่าสงสาร ก่อกำเนิดเกิดข่าวใหญ่ใจร้าวราน ทางนิพพานมืดมิดเพราะจิตตน มิโทษใครคงใช่กรรมคำพระกล่าว หมดเรื่องราวมิอยากเห็นเป็นอีกหน อย่าประมาทพลาดไปใจทุกข์ทน เกิดเป็นคนขอเถิดพระ...โปรดละเว้น ---กังวาน--- emo_126 หัวข้อ: Re: ...วอนสีกา... เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 01 กรกฎาคม 2013, 12:24:AM emo_107 emo_116 emo_95 สีกาเอ๋ยอย่าไปใกล้หลวงพี่ เดี๋ยวจะมีครหาพาฟุ้งซ่าน จะไปวัดไปวาหาศีลทาน หรือไปควานหาเวรจะเป็นกรรม แต่งตัวให้มิดชิดด้วยจิตซื่อ เพื่อไปถือสันโดษเข้าโบสถ์พร่ำ ท่องสวดมนต์ภาวนาคาถาธรรม เพื่อน้อมนำสมาธิเข้าตริตรอง เมื่อทำงานเหนื่อยยากลำบากจิต บ้างถูก,ผิด,จิตตก,พาบกพร่อง หันเข้าหาธรรมะช่วยประคอง อาบละอองรสพระธรรมชุ่มฉ่ำจินต์ จงเคร่งครัดข้อห้ามตามจารีต ที่ท่านขีดป้องกันบ่วงมารสิ้น จงสำรวมอินทรีย์ที่โบยบิน ไร้มลทินติดตัวดั่งบัวงาม เธอญฯ “ไพร พนาวัลย์” emo_126 ถูกของพี่ที่สอนวอนสาวสาว เกิดเรื่องราวมิดีมีคนหยาม ศาสนาพาให้ใจงดงาม ทุกถ้อยความหวังดีจากที่ใจ จุดประสงค์ลงเตือนใช่เบือนบิด กุศลคิดถึงธรรมเกินคำไข อยากเห็นพุทธศาสนาคู่ฟ้าไป เคียงข้างไทยชั่วนิจนิรันดร ---กังวาน--- emo_126 หัวข้อ: Re: ...วอนสีกา... เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 01 กรกฎาคม 2013, 04:38:AM emo_126 emo_60 emo_126 เมื่อสีกาถวายทานด้วยงานใหญ่ พระพอใจไม่ท้วงทุกช่วงเห็น ปลงไม่ตกยกออกกระฉอกกระเด็น เลยจำเป็นเฟ้นไว้ปัจจัยงาม ไม่บอกใครไหลหลงคงเก็บกอด เป็นเหมือนมอดขอดเกล็ดสำเร็จหวาม จนไร้เปลือกเลือกห่อเติมต่อตาม เลยอร่ามหวามไหวไร้สิ่งบัง เมื่อแสวงแสงธรรมนำหลุดพ้น กลับสับสนบนอบายที่หมายหวัง แสงดับวูบลูบลงตรงภวังค์ ตามืดดั่งบอดใบ้ปล่อยให้จูง ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดสะเด็ดกว่า มามัวคว้าสัจธรรมนำคนฝูง สุขคนเดียวเดี่ยวเดินเหินดั่งยูง หวังอยู่สูงยุ่งทำไม..ใคร่ทำทาน.. emo_26 "บ้านริมโขง" emo_126 หัวข้อ: Re: ...วอนสีกา... เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 02 กรกฎาคม 2013, 07:56:PM emo_126 emo_60 emo_126 เมื่อสีกาถวายทานด้วยงานใหญ่ พระพอใจไม่ท้วงทุกช่วงเห็น ปลงไม่ตกยกออกกระฉอกกระเด็น เลยจำเป็นเฟ้นไว้ปัจจัยงาม ไม่บอกใครไหลหลงคงเก็บกอด เป็นเหมือนมอดขอดเกล็ดสำเร็จหวาม จนไร้เปลือกเลือกห่อเติมต่อตาม เลยอร่ามหวามไหวไร้สิ่งบัง เมื่อแสวงแสงธรรมนำหลุดพ้น กลับสับสนบนอบายที่หมายหวัง แสงดับวูบลูบลงตรงภวังค์ ตามืดดั่งบอดใบ้ปล่อยให้จูง ขึ้นสวรรค์ชั้นเจ็ดสะเด็ดกว่า มามัวคว้าสัจธรรมนำคนฝูง สุขคนเดียวเดี่ยวเดินเหินดั่งยูง หวังอยู่สูงยุ่งทำไม..ใคร่ทำทาน.. emo_26 "บ้านริมโขง" emo_126 พุทธองค์ทรงนำธรรมเผยแผ่ การเกิดแก่เจ็บตายกายสังขาร ผ่านภิกษุบรรลุธรรมฉ่ำดวงมาน ด้วยต้องการดับทุกข์ทุกยุคมา เมื่อพลาดพลั้งยั้งใจเอาไม่อยู่ สิ่งที่รู้ความลุ่มหลงคงถามหา เสน่ห์นางอย่างแรงแกล้งบังตา เพราะสีกาต้องสึกสุดตรึกตรอง การดับทุกข์ปลุกเปลี่ยนต้องเขียนใหม่ แปรผันไปสร้างทุกข์สุขสนอง เบื่อร่มกาสาวพัสตร์ตัดไม่มอง หันมาลองทางโลก...จงโชคดี ---กังวาน--- emo_126 |