พิมพ์หน้านี้ - ***ซู้กระแทว...แซวกระทู้***

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

จิปาถะ => ห้องนั่งเล่น => ข้อความที่เริ่มโดย: choy ที่ 09 มิถุนายน 2013, 10:22:AM



หัวข้อ: ***ซู้กระแทว...แซวกระทู้***
เริ่มหัวข้อโดย: choy ที่ 09 มิถุนายน 2013, 10:22:AM
***ซู้กระแทว...แซวกระทู้***

รอดูบอลดึกแล้         ง่วงนอน
ตอบกระทู้แซวกลอน      เรื่อยเลื้อย
ผิท่านอย่าสะออน      ล้อเล่น สนุกนา
มโนมุ่งแจ้วเจื้อย         พิสุทธิ์แท้เจตนาฯ

อัญขยมนี่ไซร้         บ้าบอล
ดึกดื่นตาอาวรณ์         ถ่างค้าง
ทีวีจ่อเฝ้านอน         จ้องเพ่ง รอนา
บอลเตะช้าจินต์คว้าง      คลิกเข้าบ้านกลอนฯ

จึงแจ้งสาสน์ทั่วถ้วน      บ้านกลอน
ใครอยู่ดึกฟังก่อน      ใคร่ชี้
อาจมีแหย่ขอดอ้อน      แก้ง่วง ท่านนา
ผิอย่าถือความจี้         ไล่เบี้ยเคลียร์ใจฯ

***ขออำไพช่วงนี้ใครชอบโพสต์ตอนดึกๆ อาจถูกข้อย ***ซู้กระแทว...แซวกระทู้*** ล้อกลอน หรือข้อความที่ท่านโพสต์เพื่อแก้ง่วงคั่นเวลารอดูบอล (ยุโรป อายุไม่เกิน 21 ปี) โปรดอย่าถือสา คิดเป็นเรื่องจริงจัง จิตเจตนานั้น เพื่อ “ความสนุกสนานล้วนๆ” ไม่มีอกุศลจิตใดๆ แอบแฝงทั้งสิ้น…และขออภัยเจ้าของทุกกระทู้, ผู้โพสต์ที่ถูกแซวล้อมา ณ โอกาสนี้ด้วย

สนอง เสาทอง
9 มิถุนา 56


หัวข้อ: Re: ***ซู้กระแทว...แซวกระทู้***
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 09 มิถุนายน 2013, 11:55:AM
                   

                  สะสางสิ่งคั่งค้าง    นอนเอย
                เป็นอย่างนี้จนเคย    ตื่นเช้า
                นอนดึกป่วนตายเลย   หลับตื่น หลับตื่น
                ผ่านรุ่งเกือบเที่ยงเข้า   สะอื้นสะออน

                  มี่งมิตรเชิญร่วมร้อย    เรียงวจี กันนา
                หลายท่านติดทีวี     ตามต้อย
                เนินนอนหลับฝันดี    เห็นเพื่อน หญิงนอ
                สองนิ่มนางแน่งน้อย   แม่ช้อยแม่พลอย (สี่แผ่นดิน)
                     
                               เนิน จำราย


หัวข้อ: Re: ***ซู้กระแทว...แซวกระทู้***
เริ่มหัวข้อโดย: choy ที่ 09 มิถุนายน 2013, 01:24:PM
                   

                  สะสางสิ่งคั่งค้าง    นอนเอย
                เป็นอย่างนี้จนเคย    ตื่นเช้า
                นอนดึกป่วนตายเลย   หลับตื่น หลับตื่น
                ผ่านรุ่งเกือบเที่ยงเข้า   สะอื้นสะออน

                  มี่งมิตรเชิญร่วมร้อย    เรียงวจี กันนา
                หลายท่านติดทีวี     ตามต้อย
                เนินนอนหลับฝันดี    เห็นเพื่อน หญิงนอ
                สองนิ่มนางแน่งน้อย   แม่ช้อยแม่พลอย (สี่แผ่นดิน)
                     
                               เนิน จำราย


(อ้างถึง)

แม่พลอย แห่ง “สี่แผ่นดิน”
(บ่แม่น...ช้อยแห่งบ้านกลอนไทยเด้อ)

สี่แผ่นดินค่าแพร้ว      วรรณกรรม
นวนิยายเลิศล้ำ      ผ่องแผ้ว
อาจารย์หม่อมจารกำ      ซาบถ่อง แท้นา
ถ้วนสี่แผ่นดินแก้ว      ครบสิ้นเหตุสมัยฯ

พระยาพิพิธแล้      บิดา
แม่แช่มนั้นมารดา      เรื่องร้อย
แม่พลอยแม่ช้อยอา      ยุรุ่น แม่นา
หลวงนพบิดาช้อย      แม่ชั้นมารดาฯ

อาจารย์หม่อมคึกฤทธิ์   ครุปราชญ์
เอตทัคคะเปรื่องปราด   พหุล้ำ   
การเมืองเขื่องบทบาท   ชั้นนายก ท่านนา
คมปากกากรีดขย้ำ      คอลัมนิสต์กล้าซอยสวนพลูฯ


***พอเท่านี้นะท่านเนิน เดี๋ยวจะไม่งาม พลาดพลั้งไปจะเป็นการลบหลู่เกียรติภูมิท่าน แต่ก่อนนี้ผมมีหนังสือนวนิยายสี่แผ่นดินฉบับเก่ามากๆ แต่ไม่ทราบผู้ใดยืมใช้คงรูปถาวรไม่ยอมคืน
***งานเขียนของหม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นหนึ่งในงานเขียนที่มีอิทธิต่อผมมากๆ ทำให้ตัดสินใจทิ้งวิชากฎหมายที่ร่ำเรียนมาเพื่อมาเขียน และทำหนังสือกระทั่งทุกวันนี้


***ตัวละครเด่นๆ ใน สี่แผ่นดิน
***รุ่นแม่พลอย

•   แม่พลอย เป็นตัวละครสำคัญของนวนิยายเรื่อง สี่แผ่นดิน งานประพันธ์ของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช แม่พลอยเกิดเมื่อปี 2425 และเสียชีวิตเมื่อปี 2489 รวมอายุได้ 64 ปีเศษ
•   คุณเปรม สามีของพลอย ข้าราชบริพารผู้จงรักภักดี
•   แม่ช้อย หลานของคุณสาย ช้อยอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับพลอย ช้อยเป็นลูกของ หลวงนพ และ แม่ชั้น
•   คุณอุ่น ลูกคนโตของพระยาพิพิธฯ ดูแลจัดแจงทุกอย่างภายในบ้านพระยาพิพิธฯ เกลียดชังน้องต่างมารดาของตนอย่างพลอยและเพิ่ม
•   คุณชิด ลูกคนรองของพระยาพิพิธฯ พี่ชายต่างแม่ของพลอย ติดฝิ่นและการพนันจนผลาญทรัพย์สินของพ่อและพี่สาวจนหมด
•   พ่อเพิ่ม ลูกคนที่ 3 ของพระยาพิพิธฯ พี่ชายร่วมมารดาของพลอย เป็นคนรักสนุกและไม่เอาจริงเอาจัง
•   คุณเชย ลูกคนที่ 4 ของพระยาพิพิธฯ พี่สาวต่างแม่ของพลอย พี่สาวคนเล็กแก่กว่าพลอย 2 ปี รักพลอยยิ่งกว่าพี่น้องแท้ ๆ ของตน อย่างคุณอุ่น และคุณชิด
•   หลวงโอสถ สามีคุณเชย เป็นหมอแผนดั้งเดิม มีฐานะค่อนข้างยากจน
•   พี่เนื่อง พี่ชายของช้อย รักแรกของพลอย
ตัวละครรุ่นลูกของพลอย
•   อ้น ประพนธ์ ลูกชายของคุณเปรมที่เกิดกับบ่าวในบ้าน พลอยขอรับเป็นบุตรของตน ต่อมาอ้นได้เข้าเป็นทหาร
•   อั้น ประพันธ์ ผู้ชายและเป็นลูกคนแรกของพลอย อั้นจบกฎหมายจากต่างประเทศ เข้าร่วมกับฝ่ายเปลี่ยนแปลงการปกครอง
•   อ๊อด ประพจน์ ลูกชายคนที่สองของพลอย จบวรรณคดีจากต่างประเทศ
•   ประไพ ลูกคนที่สามของพลอย เป็นผู้หญิง รักสวยรักงาม หัวสมัยใหม่และเอาแต่ใจตัวเอง
•   เสวี เป็นเพื่อนของตาอั้น คู่หมั้นประไพและได้แต่งงานกัน
•   ลูซิลล์ ภรรยาแหม่มของตาอั้น
ตัวละครรุ่นพ่อแม่ของพลอย
•   พระยาพิพิธฯ พ่อของพลอย
•   แม่แช่ม มารดาของพลอย เป็นเอกภรรยาของพระยาพิพิธฯ แต่ไม่ใช่ฐานะคุณหญิง
•   เสด็จพระองค์หญิงฯ เจ้านายผู้ชุบเลี้ยงอุปถัมภ์พลอย
•   คุณสาย ข้าหลวงตั้งแต่เสด็จท่านยังทรงพระเยาว์ เสด็จจึงมอบให้คุณสายช่วยดูแลกิจการส่วนพระองค์ทุกอย่าง
•   คุณนุ้ย และ คุณเนียน อาคุณเปรม
•   หลวงนพ พ่อของช้อย พี่ชายของคุณสาย มียศเป็นคุณหลวง
•   แม่ชั้น แม่ของช้อย
•   ยายพิศ บ่าวซึ่งแม่แช่มช่วยมาไว้ใช้ทำงานบ้านต่าง ๆ

***ขอบคุณข้อมูลจากอากู๋ (วิกิพีเดีย-สารานุกรมเสรี)


สนอง เสาทอง
9 มิถุนา 56



หัวข้อ: Re: ***ซู้กระแทว...แซวกระทู้***
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 09 มิถุนายน 2013, 03:09:PM

                            ขอบพระคุณท่านแท้   สนอง เสาทอง
                          สมคิดสมดั่งปอง   ใฝ่รู้
                          ทบทวนเริ่มเมียงมอง   สี่แผ่น ดินเนา
                          ปัดฝุ่นดึงจากตู้  ฝึกฟื้นใจเนิน












หัวข้อ: Re: ***ซู้กระแทว...แซวกระทู้***
เริ่มหัวข้อโดย: choy ที่ 10 สิงหาคม 2013, 09:49:AM
***หลายๆ ท่านอาจไม่สบายใจเมื่อถูกอำกระทู้ จริงๆ การอำ-แซววรรณกรรมเป็นศิลปะแขนงหนึ่งของงานวรรณกรรม สำหรับฝรั่งตะวันตกการถูกนำผลงานมาอำถือว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่ง เพราะผลงานของเขาถูกให้ความสำคัญ จนถูกนำมาอำ-แซว

***สำหรับนักอำตัวพ่อในแวดวงวรรณกรรมไทยคือ ไพบูลย์ วงษ์เทศ เคยรวมเล่มหนังสือ วรรณอำร่วมสมัย ชื่อ "ฉันจึงมาหาความหงอย" อำใครต่อใครหลายๆ คน อาทิ

      - ชาญวิทย์ เกษตรกะปิ (ชาญวิทย์ เกษตรศิริ)
      - ส.ศิวะยัวะ (สุลักษณ์ ศิวรักษ์)
      - อังคาร กัลยานพวง (อังคาร กัลยาณพงศ์)
      - วิทยากร กุนเชียง (วิทยากร เชียงกูล)
      - เนาวรัตน์ พงษ์ไพเบี้ย (เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์)
      - สุชาติ สวัสดิ์เสียว (สุชาติ สวัสดิศรี)
      - เสถียร จันทิเมนธอล (เสถียร จันทิมาธร) ฯลฯ 

ตัวอย่างบทหนึ่งในบทกวี “ฉันจึงมาหาความหมาย” ที่ถูกไพบูลย์ วงษ์เทศนำมาอำเป็น “ฉันจึงมาหาความหงอย” ดังข้างล่างนี้
วรรค (บท) ทองของ “ฉันจึงมาหาความหมาย” (วิทยากร เชียงกูล)

"ฉันเยาว์ ฉันเขลา ฉันทึ่ง
ฉันจึง มาหา ความหมาย
ฉันหวัง เก็บอะไร ไปมากมาย
สุดท้าย ให้กระดาษ ฉันแผ่นเดียว"

ถูกไพบูลย์ วงษ์เทศ มาอำเป็น “ฉันจึงมาหาความหงอย” (อำชื่อผู้แต่งเป็น วิทยากร กุนเชียง) และอำในบทนี้ว่า

"ฉันเมา ฉันหง่าว ฉันอึ้ง
ฉันจึง มาหา ความหงอย
ฉันหวัง จะดึง ให้หมดปอย
สุดท้าย ดึงได้น้อย แค่กระจุกเดียว"


***เพราะรักหรอกจึงอำจ้า

5555ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


หัวข้อ: Re: ***ซู้กระแทว...แซวกระทู้***
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 10 สิงหาคม 2013, 12:58:PM
emo_116 emo_126
ฉันซึม ฉันเซา เพราะเมาหนัก
ฉันรัก ฉันหลง งงเต็มที่
ฉันเหนื่อย ฉันหน่าย มาหลายปี
ฉันจึง ไม่มี ที่สักแปลง

ฉันยก ฉันซด จนหมดขวด
ฉันดวด ฉันดริ๊ง ทิ้งน้ำแข็ง
ฉันเก่ง ฉันกล้า ซ่าส์หมดแรง
ฉันจึง ถูกแช่ง ลงแดงตาย
พันทอง
๑๐/๐๘/๕๖
 emo_116 emo_126