ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

(http://www.phargarden.com/images/thumbnail/1295002813.JPG)
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

มะกอกเลื่อมพวงย้อยเรียงร้อยผล

มะกอกเลื่อมพวงย้อยเรียงร้อยผล
คราวร่วงหล่นเกลื่อนกลาดดูดาษดื่น
คลุกเคล้าดินทับถมอย่างกลมกลืน
ผ่านวันคืนคงงอกเบี้ยออกใบ

เมื่อยามเยาว์เคยลิ้มลองชิมรส
ผลดิบสดเก็บมาจากป่าใหญ่
ไม้แทงปักควักเยื่อถึงเนื้อใน
ดึงกลับให้กระฉอกลิ่วออกมา

รสหวานมันนิดหน่อยต่างคอยหวัง
ที่เด็กตั้งใจยื้อลงมือผ่า
เติมความสุขสำราญที่บ้านนา
แม้อาจค่าด้อยเกินใครเมินมอง!ฯ

                           อริญชย์
                       ๑๕/๕/๒๕๕๖

ปล.คุณค่ารสหวานมันเพียงนิด ที่เด็ก ๆ บ้านนา ผ่าลิ้มชิมลอง  โดยใช้ไม้แหลมจิ้มตรงกลางแล้วนำออกมาแตะที่ปลายลิ้นแล้วกลืนกินรสมัน ๆ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=89 (http://www.phargarden.com/main.php?action=viewpage&pid=89)


ชื่อเครื่องยา   มะกอกเลื่อม
ชื่ออื่นๆของเครื่องยา   กอกกัน มะกอกเกลื้อน มะเลื่อม มะกอกเลือด โมกเลื่อม กุ๊ก อ้อยช้าง ช้าเกาะ ช้างโน้ม มะเกิ้ม มักเหลี่ยม
ได้จาก   
ชื่อพืชที่ให้เครื่องยา   
ชื่ออื่น(ของพืชที่ให้เครื่องยา)   
ชื่อวิทยาศาสตร์   Lannea coromandelica (Houtt.) Merr.
ชื่อพ้อง   
ชื่อวงศ์   Anacardiaceae
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
    ไม้ต้น สูงได้ถึง 13 เมตร เปลือกสีเขียวแกมเทา แตกเป็นสะเก็ดรูปสี่เหลี่ยม เนื้อไม้มียางใส ใบประกอบแบบขนนก ปลายคี่ เรียงสลับ ใบย่อยเรียงตรงข้าม ใบย่อยมี 7-9 ใบ ใบย่อยที่ปลายมีขนาดใหญ่กว่าใบย่อยอื่นๆ ใบย่อย 5-11 ใบ ยาว 5-7 เซนติเมตร กว้าง 2.5-3.5 เซนติเมตร เรียงแบบตรงข้าม รูปไข่แกมใบหอก ฐานใบมนถึงเฉียง ปลายใบแหลมถึงแหลมเป็นหาง ขอบใบเรียบ ฐานใบมนเบี้ยว ผิวใบทั้งสองด้านมีขนนุ่ม ใบอ่อนสีน้ำตาลแดง ก่อนออกดอกใบจะร่วงทั้งต้น ช่อดอกแบบช่อเชิงลด ออกที่ซอกใบใกล้ปลายยอด ดอกจะห้อยลงจากกิ่ง ดอกมีขนาดเล็กสีเหลืองอ่อน มีกลิ่นหอม กลีบดอก มี 4-5 กลีบ แยกกัน รูปขอบขนาน สีเหลืองอมเขียว ดอกแยกเพศ ดอกเพศผู้ใหญ่กว่าดอกเพศเมีย เกสรเพศผู้มี 8 อัน เกสรเพศเมีย มีรังไข่เหนือวงกลีบ ก้านช่อดอก ยาว 9-14 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงมี 4 กลีบ แยกจากกัน รูปไข่ สีเหลืองอมเขียว ผลสดรูปไข่หรือกลมรี กว้างประมาณ 0.7 เซนติเมตร ยาว 1-1.5 เซนติเมตร มีเมล็ดเดียวแข็งมาก ผลสุกสีแดง พบขึ้นตามป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าละเมาะ และป่าหญ้าทั่วไป ออกดอกราวเดือนมกราคม ถึงมีนาคม ใบอ่อนใช้รับประทานเป็นผัก ผลเป็นอาหารสัตว์

 


 emo_107