หัวข้อ: หว้า เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 14 พฤษภาคม 2013, 06:11:PM (http://www.vitamin.co.th/upload/7(73).jpg)
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต หว้า หว้าหวานเปรี้ยวเสี้ยวหนึ่งถึงปนฝาด สิ้นความสดรสชาติอาจเสื่อมถอย อยากหวนลิ้มชิมยลมนต์ดงดอย แต่โอกาสพลาดบ่อยลอยล่องไป ผลพราวคล้ำดำสุกทุกพวงช่อ คล้ายเย้าลมพรมล้อกอกิ่งไหว เด็กอาจมองปองยื้อมือยื่นไว ด้วยหมายมั่นฝันใฝ่ได้หว้ากิน ฯ อริญชย์ ๑๔/๕/๒๕๕๖ ปล.ขออภัยข้อมูลผิดพลาด ปรับเป็นกลอนธรรมดาแล้ว emo_107 หัวข้อ: Re: หว้า เริ่มหัวข้อโดย: Rallow ที่ 14 พฤษภาคม 2013, 07:26:PM หว้ารสชาติ หอมหวน ชวนน่ากิน กระทบสิ้น เลยได้กลิ่น รสชาติอันเปรี้ยวหวาน เมื่อแรกแย้มเฝ้ารอดังกังวาน ดูน่าทานน่ากิน ใครได้กลิ่นต้องมีชิ้นต่อๆไป อรรถรส คนอ่าน จึงเลยขอ อยากได้หว้า สดหวาน...น่าหลงไหล หากวันดีลูกสดแย้ม...ช่างล่อใจ อยากจะใคร่ขอไว้สักช่อเอย หัวข้อ: Re: หว้า เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 14 พฤษภาคม 2013, 08:44:PM emo_126 emo_126 หวานลูกหว้า น่ากิน คุ้นลิ้นฉัน มีหลายหลาก มากพันธู์ นะท่านเอ๋ย อร่อยหนอ หน้าแล้ง แย่งกันเอย ฝาดเฝื่อนเคย ลิ้มรส สดทุกวัน แมลงหนู หมู่นก ที่ผกผิน ลูกหล่นดิน กินหมด มิปดนั่น ที้งกระรอก กระแต แหมแบ่งปัน แต่คนนั้น ดันแข่ง แย่งกันกิน พันทอง emo_126 emo_126 emo_126 หัวข้อ: Re: หว้า เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 14 พฤษภาคม 2013, 10:24:PM พราวงามพวงดอกหว้า……….เรืองวิไล
เหลืองอ่อนพาเพลินใจ……….แต่งแต้ม คราลมผ่านพงไพร…………...งามเด่น ผลสุกโอชาแย้ม…………......กรุ่นแท้ชวนถวิล ฯ อริญชย์ ๑๔/๕/๒๕๕๖ emo_107 หัวข้อ: Re: หว้า เริ่มหัวข้อโดย: ช่วงนี้ไม่ว่าง ที่ 15 พฤษภาคม 2013, 12:21:AM เมื่อประมาณสามสิบปีก่อนสมัยผมเป็นเด็กๆ เคยเก็บลูกหว้ามาก่อน มันเป็นผลไม้ป่า ผลและรสชาติคล้ายกับเชอรี่ แต่รสชาติเข้มข้นกว่า ชาวป่าเวลาเจอผลไม้อะไรถ้าจะเก็บลูก ไม่ว่าจะเป็น หว้า สีละมัน(คล้ายลิ้นจี่) รางสาด มะไฟ สำลอง(ขออนุญาตเขียนเป็นสำลองแทน สำรอง เพราะสำลอง คือลูกไม้ชนิดหนึ่งไม่เกี่ยวอะไรกับการเป็นตัวสำรองจึงควรมีชื่อเรียกเฉพาะตน) ผลไม้ที่เดี๋ยวนี้คงหากินยาก อย่างเช่นลูกคุย ลูกพลับ(ป่า)ลูกหูตะเข้ ลูกพะวา(ลักษณะคล้ายมังคุด เปลือกเหลือง เนื้อในเหลืองรสชาติเดียวกับมังคุด) ลูกคอแลน(เปรียวสุดๆ) ชาวป่าเวลาเจอผลไม้ป่า จะเก็บ โค่น จะเก็บ โค่น แต่ชาวป่าก็ไม่อาจเทียบกับนายทุนที่ได้รับสัมปทานอยู่ดี เพราะชาวป่าใช้ขวาน กว่าจะตัดได้ทีละต้นก็เหนื่อย แต่นายทุนใช้เลื่อยเครื่องเพียงไม่นานป่าก็เหี้ยนหมด ทุกวันนี้ป่าที่ว่ามีถนนลาดยางตัดผ่านหมดแล้ว emo_54 หัวข้อ: Re: หว้า เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 15 พฤษภาคม 2013, 01:28:AM ([url]http://www.vitamin.co.th/upload/7(73).jpg)[/url] ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต หว้า หว้าหวานเปรี้ยวเสี้ยวหนึ่งถึงปนฝาด สิ้นความสดรสชาติอาจเสื่อมถอย อยากหวนลิ้มชิมยลมนต์ดงดอย แต่โอกาสพลาดบ่อยลอยล่องไป ผลพราวคล้ำดำสุกทุกพวงช่อ คล้ายเย้าลมพรมล้อกอกิ่งไหว เด็กอาจมองปองยื้อมือยื่นไว ด้วยหมายมั่นฝันใฝ่ได้หว้ากิน ฯ อริญชย์ ๑๔/๕/๒๕๕๖ ปล.ขออภัยข้อมูลผิดพลาด ปรับเป็นกลอนธรรมดาแล้ว emo_107 เห็นลูกหว้าสีดำกำลังเหมาะ เคยทะเลาะกับมดแดงมันหวงถิ่น ปีนขึ้นไปบนต้นหล่นร่วงดิน อร่อยลิ้นหายอยากจนปากดำ emo_15 รีบ-รีบกินให้อิ่มแล้วค่อยเก็บ แล้วค่อยเหน็บใส่พกไม่ตกต่ำ แบ่งให้กับเจ้าของที่จ้องจำ เกือบจะค่ำค่อยลงมาปลงแบ emo_10 คนละครึ่งยังดีที่เหลือหน่อย มดแดงต่อยปัดเข่นจนเป็นแผล เอาขี้เถ้าถูทาไม่น่าแล ให้พ่อแม่ได้กินท่านยินดี emo_56 แหม ลูกหว้าพวงนี้ที่เคยเห็น เหมือนดั่งเป็นต้นนั้นที่ฉันหนี ทั้งมดแดง,เจ้าของ,ที่จ้องชี้ อยากจะลี้หลบไปไม่แบ่งเลย emo_52 “ไพร พนาวัลย์” เป็นหนึ่งในผลไม้ที่ชอบที่สุด emo_19 หัวข้อ: Re: หว้า เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 15 พฤษภาคม 2013, 01:58:AM สมัยเด็กชอบปีนกินบนต้น เพราะความซนพ่อห้ามแกล้งทำเฉย แก้ตัวไปทุกครั้งยังไม่เคย จะเกินเลยปีนป่านไม่ชำนาญ หลายครั้งเก็บปลิดได้ใส่ตะกร้า เลือกลูกหว้าสุกดำนำกลับบ้าน แช่น้ำเกลือเวลาพอประมาณ แล้วตักผ่านกระชอนช้อนผึ่งลม ได้รสชาติหวานฝาดและออกเค็ม คือเติมเต็มเฉพาะให้เหมาะสม บางต้นมีมดแดงแฝงอยู่จม ต่างรุมกันกัดผมระบมกาย ตัวเล็กเล็กนะนั่นมันไม่น้อย ต่างรอคอยหมุนเวียนเปลี่ยนที่หมาย คงคิดว่ารุกเขาเอาให้ตาย ไม่เบื่อหน่ายยังจ้องมองเราเลย ทั้งหัวหูจั๊กแร้และง่ามขา เยี่ยวใส่ตาด้วยนี่มิอยู่เฉย แสบจนร้องนะนั่นฉันมิเคย ขยี้เสยเงยก้มระบมแดง วันต่อมาท้าทายหมายชนะ ไม่ลดละแยบยลใช้กลแฝง กุงเกงลิงรัดขาทะมัดทะแมง ใช้ขี้เถ้าแทนแป้งมาทาตัว มันไม่กัดแล้วนี่ได้ทีฉัน กินทั้งวันกิ่งไหนเก็บได้ทั่ว พ่อมาเห็นแล้วนี้มีความกลัว ลิ้นระรัวเป็นครั้งแรกอย่าแปลกใจ โดนกิ่งหว้าขวับขวับนับมิทัน ยืนขาสั่นสับสนสุดทนไหว ขี้เถ้าช่วยด้วยซีถูกตีไง มันปลิวไปตามแรงไม้หน่ายเลยเรา. นพ 15พ.ค.56 หัวข้อ: Re: หว้า เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 15 พฤษภาคม 2013, 06:18:AM ขออนุญาต “ท่านพี่ช่วงนี้ไม่ว่าง” แต่งเติมเสริมกลอนเน้อ
บันทึกเรื่องพงไพรเมื่อวัยเยาว์ เมื่อประมาณสามสิบปีที่ผ่านผัน สมัยนั้นผมเป็นเด็กยังเล็กอยู่ เคยเก็บลูกหว้าลิ้มชิมลองดู ทำให้รู้คล้ายเชอรี่รสดีล้น แต่รสชาติของหว้าเข้มกว่ามาก ชาวป่าหากพบผลไม้ในไพรสณฑ์ จะเก็บลูกสีละมันหว้านั้นยล รางสาดมะไฟผลจนสำลอง ปัจจุบันป่าไม้เริ่มหายลับ หาลูกคุยลูกพลับมาจับจ้อง ลูกพะวาลูกคอแลนดินแดนทอง เลาะห้วยหนองคลองไปก็ไม่เจอ สมัยก่อนผู้คนเก็บผลไม้ เพียงแค่ใช้ขวานโค่นลงล้นเกร่อ แต่ก็เหนื่อยเมื่อยล้าอยู่นะเออ จึงได้ผลเลิศเลอเสนอมา แต่ต้องแพ้นายทุนมาจุ้นจ้าน เพราะไม่นานเพียงเขารุกเข้าป่า ใช้เลื่อยเครื่องยนต์ดังอหังการ์ ทำลายค่าจนเหี้ยนโล่งเตียนไพร ตัดถนนลาดยางทอดทางผ่าน มียวดยานแล่นกันอย่างหวั่นไหว สัมปทานผืนป่าค้ากำไร ด้วยมีใจต่ำแท้เห็นแก่ตัว!ฯ อริญชย์ ๑๕/๕/๒๕๕๖ ปล.ขอขอบคุณล่วงหน้า ท่านพี่ช่วงนี้ไม่ว่าง ณ โอกาสนี้ หัวข้อ: Re: หว้า เริ่มหัวข้อโดย: yaguza ที่ 15 พฤษภาคม 2013, 02:03:PM ฟังผู้ใหญ่ ยุคเก่า มาเล่าบอก ไม่รู้หรอก ไม่เคยเห็น เป็นไฉน สาละมัน ลูกหว้า ลูกมะไฟ รางสาดไซร้ ตลอดจน ผลสำลอง เกิดไม่ทัน นี่นา อย่าว่าผม จะหาชม เดี๋ยวนี้ ไม่มีของ มีแต่เงาะ กระท้อน ทั้งหมอนทอง อีกลองกอง มะม่วง พวงลำไย เดี๋ยวนี้คน ยุคใหม่ ไม่ใช้ขวาน ช่างโบราณ จริงหนา ล้าสมัย อยากจะกิน ที่ตลาด เกลื่อนกราดไป ผลไม้ เมืองไทย หลากหลายพันธุ์ emo_26 .....ยากูซ่า.... หัวข้อ: Re: หว้า เริ่มหัวข้อโดย: พยัญเสมอ ที่ 15 พฤษภาคม 2013, 06:29:PM ฟังผู้ใหญ่ ยุคเก่า มาเล่าบอก ไม่รู้หรอก ไม่เคยเห็น เป็นไฉน สาละมัน ลูกหว้า ลูกมะไฟ รางสาดไซร้ ตลอดจน ผลสำลอง เกิดไม่ทัน นี่นา อย่าว่าผม จะหาชม เดี๋ยวนี้ ไม่มีของ มีแต่เงาะ กระท้อน ทั้งหมอนทอง อีกลองกอง มะม่วง พวงลำไย เดี๋ยวนี้คน ยุคใหม่ ไม่ใช้ขวาน ช่างโบราณ จริงหนา ล้าสมัย อยากจะกิน ที่ตลาด เกลื่อนกราดไป ผลไม้ เมืองไทย หลากหลายพันธุ์ emo_26 .....ยากูซ่า.... ผลไม้โหล นั้นหนา ว่ามีเกลื่อน ปลูกตามเรือน ตามสวน พรวนดินนั่น สู้ของป่า หรือไฉน อย่างไรกัน สิ่งสำคัญ หากินยาก ฝากบอกยา(กูซ่า) แม้มีเงิน มีทอง กองท่วมบ้าน คิดใคร่ลิ้ม ชิมรสหวาน ยากควานหา อยากให้"กัน" นั้นไซร้ ได้เปิดตา ผลไม้ป่า มิมีขาย อย่างในเมือง คำว่าของโหล หมายถึงของที่มีขายดาดดื่นทั่วไปใครๆก็สามารถซื้อหามาได้ครับ ในที่นี้ ใช้คำว่าผลไม้โหล หมายถึงผลไม้ที่ใครๆก็สามารถหาซื้อกินได้ไม่ยาก ไม่ได้หมายถึงผลไม้ที่บรรจุอยู่ในขวดโหล (คำนี้ได้มาจากอาจารย์ผม คือผมเป็นคนที่ชอบสะสมพระเครื่องลางของขลัง เวลาที่ผมเอาพระไปให้ท่านดู ท่านก็จะบอกว่า เป็นพระโหล ซึ่งหมายถึงพระที่มีให้เช่าตามท้องตลาดทั่วไป ไม่ใช่พระหายากแบบเป็นพระหลักยอดนิยมราคาแพง คำว่าโหล มันเลยติดปากมาใช้กับของอื่นๆอีก เช่นคำว่าของโหล เสื้อผ้าโหล ราคาถูกๆ ของที่ใครๆก็สามารถซื้อหามาครอบครองได้) emo_87 หัวข้อ: Re: หว้า เริ่มหัวข้อโดย: พยัญเสมอ ที่ 15 พฤษภาคม 2013, 06:52:PM ขออนุญาต “ท่านพี่ช่วงนี้ไม่ว่าง” แต่งเติมเสริมกลอนเน้อ บันทึกเรื่องพงไพรเมื่อวัยเยาว์ เมื่อประมาณสามสิบปีที่ผ่านผัน สมัยนั้นผมเป็นเด็กยังเล็กอยู่ เคยเก็บลูกหว้าลิ้มชิมลองดู ทำให้รู้คล้ายเชอรี่รสดีล้น แต่รสชาติของหว้าเข้มกว่ามาก ชาวป่าหากพบผลไม้ในไพรสณฑ์ จะเก็บลูกสีละมันหว้านั้นยล รางสาดมะไฟผลจนสำลอง ปัจจุบันป่าไม้เริ่มหายลับ หาลูกคุยลูกพลับมาจับจ้อง ลูกพะวาลูกคอแลนดินแดนทอง เลาะห้วยหนองคลองไปก็ไม่เจอ สมัยก่อนผู้คนเก็บผลไม้ เพียงแค่ใช้ขวานโค่นลงล้นเกร่อ แต่ก็เหนื่อยเมื่อยล้าอยู่นะเออ จึงได้ผลเลิศเลอเสนอมา แต่ต้องแพ้นายทุนมาจุ้นจ้าน เพราะไม่นานเพียงเขารุกเข้าป่า ใช้เลื่อยเครื่องยนต์ดังอหังการ์ ทำลายค่าจนเหี้ยนโล่งเตียนไพร! ฯ อริญชย์ ๑๕/๕/๒๕๕๖ ปล.ขอขอบคุณล่วงหน้า ท่านพี่ช่วงนี้ไม่ว่าง ณ โอกาสนี้ ดีมากๆครับท่านอริญชย์ ยุคนี้สมัยนี้อะไรๆมันก็พลิกกลับตาลปัตรไปหมด คนเขียนกลอนต้องมาให้คะแนนคนที่ตนเองแต่งกลอนให้ เช่นเดียวกับเรื่องของพี่ช่วง ที่คนเป็นเจ้าของกลอนต้องตกเป็นจำเลยในข้อหาว่าก๊อบปี้ทั้งๆที่ไม่เคยไปก๊อบปี้ น่าเศร้าเหมือนกัน อยากให้คะแนน แต่ติดตรงที่สัจจะปฏิญาณ จึงมอบคำนิยมชมเชยนี้ไว้แทน Orion264(มือขวา) ๑๕ พค.๒๕๕๖ |