หัวข้อ: บทสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: ธันวาคม ที่ 14 พฤษภาคม 2013, 02:24:AM ตะวันคล้อยลอยเคลื่อนค่อยเลือนพร่อง ผ่อนแสงแดดแผดส่องจากห้องฉัน คือสัญญาณผ่านเวลาทิวาวัน อีกราตรีที่เงียบงันพลันคืบคลาน ค่ำคืนเหงาเคล้าคราสุราร่ำ ดูดดื่มด่ำน้ำจัณฑ์อันแสนหวาน รำพันพลอดกอดกระหวัดรัตติกาล เพียงพ้นผ่านม่านหมองของราตรี โซดาฟู่ฟูฟองฟ่องปริ่มเหล้า คนคละเคล้าเบาบางเจือจางสี เพลารสแฝงแรงร้อนหย่อนดีกรี ของวิสกี้สีทองผ่องอำพัน ระเลียดลิ้มพริ้มพรายผ่อนคลายเหงา เติมความเมาเร้ารุมสุมกระสัน จุดบุหรี่ที่วางอยู่ข้างกัน พวยพ่นควันคละคลุ้งฟุ้งระบาย ขวดทรงเหลี่ยมเปี่ยมเหล้าค่อยเพลาพร่อง คล้ายตะวันหลั่นล่องเลือนส่องฉาย คือสัญญาณผ่านเวลาราตรีวาย บทสุดท้ายปลายทางไม่ต่างเลย หัวข้อ: Re: บทสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 14 พฤษภาคม 2013, 06:40:AM emo_100 emo_100 ตะวันคล้อย ลอยเลื่อน ไม่เลือนหาย ทิวาวาย กลายกลับ สลับเผย ยังหมุนเวียน เพียรมา หาอย่างเคย สองเราเอย เอ่ยเอื้อน ไม่เคลื่อนครา รัติติกาล ผ่านพ้น ปนความฝัน ยังมีจันทร์ เจิดแจ่ม แซมเวหา ไยจ่อมจม เจียรเจ้า เหงาอุรา วาสนา พาให้ ได้สมปอง อย่าเศร้าสร้อย หงอยจิต คิดเป็นอื่น ยามดึกดื่น กลืนกล้ำ อย่าช้ำหมอง สุริยา ยังหวน ชวนชื่นมอง แสงใจของ สองเรา เฝ้าแอบอิง พันทอง ๑๔/๐๕/๕๖ emo_126 emo_126 หัวข้อ: Re: บทสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: ~ขลุ่ยกันแสง~ ที่ 14 พฤษภาคม 2013, 12:23:PM emo_100 emo_100 ตะวันคล้อย ลอยเลื่อน ไม่เลือนหาย ทิวาวาย กลายกลับ สลับเผย ยังหมุนเวียน เพียรมา หาอย่างเคย สองเราเอย เอ่ยเอื้อน ไม่เคลื่อนครา รัติติกาล ผ่านพ้น ปนความฝัน ยังมีจันทร์ เจิดแจ่ม แซมเวหา ไยจ่อมจม เจียรเจ้า เหงาอุรา วาสนา พาให้ ได้สมปอง อย่าเศร้าสร้อย หงอยจิต คิดเป็นอื่น ยามดึกดื่น กลืนกล้ำ อย่าช้ำหมอง สุริยา ยังหวน ชวนชื่นมอง แสงใจของ สองเรา เฝ้าแอบอิง พันทอง ๑๔/๐๕/๕๖ emo_126 emo_126 จะห้ามใจ ไม่หวั่น ฉันใดเล่า ทุกข์รุมเร้า หม่นหมอง ต้องทุกสิ่ง อกอุ่นไอ ไม่มี ที่จะอิง ใจรุ่งริ่ง รวดร้าว หนาวเนื้อใน ใจบางบาง เปียกปอน นอนหนาวหนัก ไร้ที่พัก พิงขวัญ ก็สั่นไหว ขาดคนร่วม เคียงข้าง บนทางใจ แล้วจะให้ ทนไหว..อย่างไรกัน emo_62 emo_111 emo_94 หัวข้อ: Re: บทสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: ไม่รู้ใจ ที่ 14 พฤษภาคม 2013, 05:41:PM อุษาเรื่อเจือจางด้วยพร่างหมอก พลิ้วระลอกลมพายอดหญ้าไหว โมกทักทายหอมกรุ่นละมุนละไม สงสารใจคิดถึงรำพึงครวญ โอ้สุดท้ายปลายทางฤๅว่างเปล่า เมื่อสิ้นเงาบางใครอกไห้หวน แต่เช้าสายบ่ายค่ำพร่ำรัญจวน รักเรรวนรวนร้างไร้ทางคืน ไม่รู้ใจ (http://imagehost.thaibuzz.com/il/line157.png) (http://imagehost.thaibuzz.com/show.php?id=d5b9ff17804dee4eb0996645d3735936) หัวข้อ: Re: บทสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 14 พฤษภาคม 2013, 06:06:PM (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_013.gif) (http://www.klonthaiclub.com) บทสุดท้ายวันนี้ไม่มีเขา จึงต้องเศร้าเดียวดายมิวายสะอื้น กลิ่นดอกโศกพาช้ำสุดกล้ำกลืน มันสุดฝืนแล้วใจทำไงดี? emo_40 อยู่แบบหมดอาลัยในชีวิต พรหมลิขิตขีดเส้นให้เป็นคี่ อยู่โดดเดี่ยวเดียวดายมาหลายปี ในชาตินี้ไม่มีคู่อดสูเกิน emo_33 “ไพร พนาวัลย์” (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_013.gif) (http://www.klonthaiclub.com) หัวข้อ: Re: บทสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 14 พฤษภาคม 2013, 06:49:PM ชตาฟ้าย่อมลิขิตชิวิตฟ้า ชตาข้าคือลิขิตชีวิตขืน ฤๅฟ้าไหนทรวงสะทกอกครั่นครื้น เช่นข้านี้ที่สะอื้นอยู่เดียวดาย เนิน จำราย หัวข้อ: Re: บทสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 14 พฤษภาคม 2013, 07:42:PM ([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_013.gif[/url]) ([url]http://www.klonthaiclub.com[/url]) บทสุดท้ายวันนี้ไม่มีเขา จึงต้องเศร้าเดียวดายมิวายสะอื้น กลิ่นดอกโศกพาช้ำสุดกล้ำกลืน มันสุดฝืนแล้วใจทำไงดี? emo_40 อยู่แบบหมดอาลัยในชีวิต พรหมลิขิตขีดเส้นให้เป็นคี่ อยู่โดดเดี่ยวเดียวดายมาหลายปี ในชาตินี้ไม่มีคู่อดสูเกิน emo_33 “ไพร พนาวัลย์” ([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_013.gif[/url]) ([url]http://www.klonthaiclub.com[/url]) emo_126 emo_126 เคยมีเขา ด้วยหรือ คือคำถาม พ่อตางาม เขาใหญ่ ไยขัดเขิน คร่ำครวญหา เขาอยู่ กู่ก้องเกิน เที่ยวจนเพลิน เขาขาด อนาถใจ จึงร่ำร้อง เรียกหา ถ้ามีเขา คงไม่เศร้า เดียวดาย หน่ายเหลวไหล กลิ่นดอกโศก เริงรื่น ชื่นฤทัย เขาอยู่ใกล้ ใจนั้น ต้องมั่นคง พันทอง emo_126 emo_126 หัวข้อ: Re: บทสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 15 พฤษภาคม 2013, 08:17:AM (http://image.free.in.th/z/if/389846_10151016764756920_1501225388_n.jpg) (http://pic.free.in.th/id/58bbfba526c2a03e6e510778cb72a1f5) หัวข้อ: Re: บทสุดท้าย เริ่มหัวข้อโดย: Shumbala ที่ 16 พฤษภาคม 2013, 12:46:PM นับเวลานาทีที่เลือนลับ พลางสดับสำเนียงเสียงความฝัน ล่วงเลยไปในหวังกี่ครั้งครัน หลังตะวันซบหลับกลับฟ้าคืน ร่ำเมรัยใต้น้ำค้างที่พร่างหยด กอดกำสรดกดเก็บหนาวเหน็บฝืน มิสร่างสิ้นถวิลหาล้าหยัดยืน ถึงใจหลั่งเลือดกลืนผ่านคืนวัน สรวลสุราฝ่าข้ามความเปลี่ยวเหงา ผ่อนบรรเทาเทวษล่วงสู่ห้วงหรรษ์ อาบน้ำตาราตรีที่เงียบงัน ก่อนหลับฝันลำพังอีกครั้งครา emo_126 |