พิมพ์หน้านี้ - ๐ ลานอิฐ ๐

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนธรรมะ+กลอนสอนใจ+กลอนธรรมชาติ+กลอนปรัชญา => ข้อความที่เริ่มโดย: กระบี่เดี่ยว ที่ 09 พฤษภาคม 2013, 04:44:PM



หัวข้อ: ๐ ลานอิฐ ๐
เริ่มหัวข้อโดย: กระบี่เดี่ยว ที่ 09 พฤษภาคม 2013, 04:44:PM
(http://photos.hi5.com/0003/528/868/xC6a5o528868-02.jpg)



๐ ลานอิฐ ๐


๐ เพียงผากผ่าวแผ่วผิวพอพลิ้วผ่าน
กระทบลานกรำแสงกำแพงสวน
กระไอพร่ากล้าแผดกร้านแดดอวล
กระทบล้วนมวลแล้งแห่งฤดู
 
๐ สะพานอิฐคร่ำครึ ฤดูก่อน
กะเทาะร่อนกร่อนสีที่ทอดอยู่-
อย่าท้าทายปรายแดดแผดอณู
ประหนึ่งผู้รู้กาลประมาณตน

๐ จงหยัดยืนฝืนทนรอสักนิด
สะพานอิฐผ่าวลานผ่านกาลหม่น
คงชำระชะล้างลงทางจน
เอ่อท้วมท้นหม่นพรูอณูดิน

๐ กว่าพรรษามาครบบรรจบสู่
ก่อนพรั่งพรูพลิ้วผ่านบนลานหิน
อยู่สง่าผ่าเผยอย่างเคยชิน
จวบจนสิ้นคิมหันต์คงผันดวง....

๐ เพียงชั่ววูบลูบพรายด้วยสายหมอก
แผ่วระลอกดั่งสายจากปลายสรวง
โลมชีวิตอิฐผากจากผ่าวทรวง
ให้ผ่านล่วงช่วงผ่าวที่พราวลาน

๐ ประโลมแรกแทรกสู่อณูลึก
ทุกรู้สึกผนึกคลายสายประสาน
ประโลมนั้นผันอยู่ครู่ประมาณ
แต่เปรียบกาลผ่านสู่มิรู้วาย


ขอขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตครับ

กระบี่เดียว


หัวข้อ: Re: ๐ ลานอิฐ ๐
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 09 พฤษภาคม 2013, 07:51:PM
วสันต์กาลผ่านเคลื่อนมาเยือนเยี่ยม
โรยฝนเปี่ยมอกลานผสานสาย
เชื่อมละอองกรองฝุ่นมุ่นระบาย
ชำระล้างสร้างลายดอกอิฐอวล

ยังทอดกายเรียงทางรอย่างก้าว
บ้างก้อนร้าวบิ่นแตกแผกผังสวน
สงบงันเย็นร้อนย้อนทบทวน
ทำหน้าที่ถูกถ้วนทั้งอดทน

แทรกระหว่างซ้ายขวาคั่นมาลี
ให้ทอดเท้าเปรมปรีดิ์ลืมทุกข์หม่น
อิฐอารีเอื้องามยามร้อนรน
จิบปรัชญาพรมฝนจนชุ่มใจ
.....................................................................


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_007.gif) (http://www.klonthaiclub.com)



หัวข้อ: Re: ๐ ลานอิฐ ๐
เริ่มหัวข้อโดย: muneenoi ที่ 09 พฤษภาคม 2013, 08:51:PM
จากคิมหันต์ ผันสู่ ฤดูฝน
ทั่วสากล อลอวล ด้วยมวลหมอก
สายลมผ่าน พลิ้วไหว ในระลอก
ดังจะบอก อิฐร้อน มาผ่อนเย็น

จากอิฐงาม ทรามลง ตรงทางเก่า
คล้ายคนเรา ที่ผ่านล่วง ห้วงทุกข์เข็ญ
เพราะต่อสู้ จึงรู้แกร่ง แทงประเด็น
ก่อนมาเป็น ช่อมาลี ที่งดงาม

   "มุนีน้อย"

 emo_95


หัวข้อ: Re: ๐ ลานอิฐ ๐
เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 09 พฤษภาคม 2013, 09:08:PM




แทรกระหว่างซ้ายขวาคั่นมาลี
ให้ทอดเท้าเปรมปรีดิ์ลืมทุกข์หม่น
อิฐอารีเอื้องามยามร้อนรน
จิบปรัชญาพรมฝนจนชุ่มใจ
.......................................................................

...คุณเพรางาย......





......อิฐก้อนเหลี่ยมเมื่อลบ..คม....ปมความรู้สึก

...ได้ตรองตรึก...หมดพะวง....สิ้นสงสัย

...บนเส้นทางย่างน้อมนบ....สงบใจ

...แสนอำไพ...เห็นวิจิตร....ชีวิต..งาม












หัวข้อ: Re: ๐ ลานอิฐ ๐
เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 09 พฤษภาคม 2013, 09:17:PM
การถูกเหยียบถูกย่ำนั้นช้ำแน่
ทั้งคนแก่คนหนุ่มทุ่มเท้าหยาม
อิฐก็รับขับสู้อย่างรู้ความ
คือทำตามภารกิจที่ติดตน

เพราะนี่หรือคือหน้าที่มิมีขัด
คุณสมบัติรองรับกับเหตุผล
เขาสร้างเจ้าเข้าใจไม่ทุกข์ทน
เกิดเป็นคนรู้หน้าที่ดีเกินพอ

       ---กังวาน---


หัวข้อ: Re: ๐ ลานอิฐ ๐
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 09 พฤษภาคม 2013, 10:26:PM

แต่เปรียบกาลผ่านสู่มิรู้วาย

ป่นดินแดงแต่งตำเทน้ำถอก
สองเท้าซอกย่ำย่ำซ้ำถึงสาย
คดใส่กรอบขอบสี่เหลี่ยมเรียงราย
จวบจนบ่ายเหือดแห้งแจงถอดพิมพ์

ค่อยบรรจงลงวางกลางเตาก่อ
แกลบหุ้มห่อจ่อไฟฟืนไม้จิ้ม
เผาคุกรุ่นอุ่นไหม้ลามเลียริม
สีทับทิมหมากสุกใสสุกงาม

สิ่งประดิษฐ์อิฐเก่าเบาก้อนแกร่ง
ก่อกำแพงตึกบ้านลานสนาม
สารพัดวัดวาสร้างอาราม
ยึดนิยามรากแน่นแก่นมั่นคง

เรารู้จักทักกันในวันนี้
ผูกไมตรีดีงามตามประสงค์
อยู่ในกรอบชอบธรรมเจตจำนง
จะดำรงเอื้อออมถนอมใจ

จับเข่าคุยคราครั้งพลาดพลั้งผิด
อย่าเบือนบิดจิตจุกจนลุกไหม้
หรือตวาดสาดเสทะเลไฟ
ถามโลกนี้มีใครไม่ผิดเลย

สรรเสริญเยินยอก็เท่านั้น
ด่าเดียดฉันท์ยินคำทำเฉยเฉย
ปูความรักหนักแน่นดุจแผ่นเอย
งามผ่าเผยราบเรียบเปรียบอิฐลาน

รพีกาญจน์



หัวข้อ: Re: ๐ ลานอิฐ ๐
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 10 พฤษภาคม 2013, 06:24:AM
emo_126 emo_126 emo_126
หากพูดได้ นะท่าน มันคงบ่น
เหยียบย่ำจน หม่นไหม้ ไร้ทางผ่าน
จะเอื้อนเอ่ย เผยวจี ยังมีมาร
คอยระราน พานพบ จบชีวี

ทั้งปัดแข้ง ปัดขา ทำก๋ากั่น
เก้าอี้นั้น สั่นคลอน จนร้อนจี๋
ไม่อยากเห็น ใครนั้น เด่นดังซี
เรื่องใส่สี ตีไข่ บอกใช่เลย
พันทอง
 emo_126 emo_126





หัวข้อ: Re: ๐ ลานอิฐ ๐
เริ่มหัวข้อโดย: กระบี่เดี่ยว ที่ 10 พฤษภาคม 2013, 09:40:AM
วสันต์กาลผ่านเคลื่อนมาเยือนเยี่ยม
โรยฝนเปี่ยมอกลานผสานสาย
เชื่อมละอองกรองฝุ่นมุ่นระบาย
ชำระล้างสร้างลายดอกอิฐอวล

ยังทอดกายเรียงทางรอย่างก้าว
บ้างก้อนร้าวบิ่นแตกแผกผังสวน
สงบงันเย็นร้อนย้อนทบทวน
ทำหน้าที่ถูกถ้วนทั้งอดทน

แทรกระหว่างซ้ายขวาคั่นมาลี
ให้ทอดเท้าเปรมปรีดิ์ลืมทุกข์หม่น
อิฐอารีเอื้องามยามร้อนรน
จิบปรัชญาพรมฝนจนชุ่มใจ
.....................................................................


([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_007.gif[/url]) ([url]http://www.klonthaiclub.com[/url])




กี่ย่างก้าวทาบเท้าลงผ่าวกร้าน
เหนืออิฐลานผ่านฝนหล่นเม็ดใส
คลายระอุทุเลาเถ้าฝุ่นไอ
ระบายไว้ละอองน้ำยามฝนซา

จึ่งเผยทางบางแพร่งแห่งลานอิฐ
ให้ชีวิตลิขิตทิศซ้ายขวา
ฤาจะรั้งนั่งรอพอเวลา      
ชมพรรษาเผยค่าศิลาแลง

จึงปลงใจเปลือยเท้าลงก้าวผ่าน
เหนืออิฐลานผ่านฝนลบหม่นแฝง
สัมผัสเยียบเหยียบผ่านลานอิฐแดง
มิเคลือบแคลงฝุ่นแล้งแฝงเถ้าดิน

กระบี่เดียว

 emo_126


หัวข้อ: Re: ๐ ลานอิฐ ๐
เริ่มหัวข้อโดย: กระบี่เดี่ยว ที่ 10 พฤษภาคม 2013, 09:54:AM
จากคิมหันต์ ผันสู่ ฤดูฝน
ทั่วสากล อลอวล ด้วยมวลหมอก
สายลมผ่าน พลิ้วไหว ในระลอก
ดังจะบอก อิฐร้อน มาผ่อนเย็น

จากอิฐงาม ทรามลง ตรงทางเก่า
คล้ายคนเรา ที่ผ่านล่วง ห้วงทุกข์เข็ญ
เพราะต่อสู้ จึงรู้แกร่ง แทงประเด็น
ก่อนมาเป็น ช่อมาลี ที่งดงาม

   "มุนีน้อย"

 emo_95


แม้ผ่านฝนทนหนาวกี่คราวครั้ง
ก็ยังตั้งสง่าน่าเกรงขาม
แม้แดดเผาเร้ารุกทุกโมงยาม
มิเคยคร้ามข้ามกาลผ่านฤดู


โดนกระทบลบมุมโดนทุ่มบ้าง
แม้เลือนราง...ยังวางนำทางสู่
ผู้ผ่านกรายบ่ายหน้าหาประตู
เดินตามทางต่างก็รู้อยู่ไม่ไกล


กระบี่เดียวฯ


 emo_126


หัวข้อ: Re: ๐ ลานอิฐ ๐
เริ่มหัวข้อโดย: choy ที่ 10 พฤษภาคม 2013, 12:59:PM
ลานปูน
(ที่ทิ้งขยะ)

   พร้อยฉลุผิวด่างกร้านกาลบำเหน็จ
ฉลักปรุผุ, เพ็ดทูล-พ่ายสังขาร
เล่าจำเนียรขัยปรักจำหลักวาร
รวิผลาญวาโยย้ำวิรุณเยือน
   ลานปูนคร่ำแตกลายสลายธาตุ
เม็ดทรายเรี่ย, กลาดขจาย-กล่นเกลื่อน
ฝุ่นเถ้าหินเร้นร่องกร่อนรังเรือน
หื่นสาบกรุ่นเรื้อนแผลผิวพรุปูน
   กำแพงชราทลายซบกรานมโนพื้น
แพรกเถาเลื้อยระบัดครื้นเขรอะฟุ้งฝุ่น
พลาสติก-แก้วขวด, โสโครก-ปฏิกูล
ทับถมพูนรอยกูณฑ์พร่ำทำลายฯ

สนอง เสาทอง
10 พ.ค. 56



หัวข้อ: Re: ๐ ลานอิฐ ๐
เริ่มหัวข้อโดย: ยามพระอาทิตย์อัสดง ที่ 12 พฤษภาคม 2013, 11:14:AM

(http://image.free.in.th/z/iq/200932910295817177801.jpg) (http://pic.free.in.th/id/8f5988d6b6ca8a7394038e899ec7ca23)


หัวข้อ: Re: ๐ ลานอิฐ ๐
เริ่มหัวข้อโดย: กระบี่เดี่ยว ที่ 16 พฤษภาคม 2013, 09:21:AM

([url]http://image.free.in.th/z/iq/200932910295817177801.jpg[/url]) ([url]http://pic.free.in.th/id/8f5988d6b6ca8a7394038e899ec7ca23[/url])



๐ รวีจ้ารุจาแสง      ศิลาแลงสิแล้งสี
วราทิตย์สถิตมี         อณูผ่าว ณ พราวลาน

๐ ฤดูร้อนมิผ่านพ้น         นิศาชลสิขับขาน
ณ ข้ามผ่านนิศากาล      อรุณหมอกระลอกเย็น

๐ วลาหกก็ปรกฟ้า         พระพายพานภาเห็น-
วสันต์ผ่านกระซ่านเซ็น       กระทบพื้นก็พริ้งพราย

๐ เกาะเม็ดพราวสกาวทิศ      ณ ลานอิฐสถิตสาย
ชะลานขลับสลับกลาย      ประดับผืน ณ พื้นลาน


กระบี่เดียว

 emo_126