หัวข้อ: เขียน..เจ้าเซ็นเต้นต้ำบุด เริ่มหัวข้อโดย: คอนพูธน ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2013, 11:03:AM (http://myveget.com/back/picture/1310897807.jpg) เช้านี้ที่ลานเพลง ๏ จรดบรรจงแต้มจินต์ปิ่นคำปัก ฝึกฉันทลักษณ์เคียงลานสานอักษร ชวนรำพันฉลุพร้องถ่องสุนทร เชิญบทกลอนขับกล่าว..พราวเรียงพราย ๏ บรรโลมกานท์เสนาะก้องฟ่องแห่งฝัน มาด้วยกันสลัดกรร่อนพลางร่าย ชูก้านช่อกิ่งเชิดเลิศคมลาย ต่อเป็นสายพวงสร้อย..ร้อยวางริน ๏ ดอกแก้วหอมโชยห่มลมพาล่อง นวลขาวผ่องงามผาดศาสตร์แห่งศิลป์ บางกลีบชอกอับโชคโบกลาบิน ร่วงซบดินกลางดง..หลงจูบลักษณ์ ๏ นกขมิ้นไพรเหลืองพร้อยคอยแว่วขาน เสียงกังวานเหมือนว่าป่าช่วยปัก ก่อนบินโผมองพฤกษ์นึกสวยนัก สายลมทักพลางถาม..ยามเช้ายล ๏ แสงแดดอ่อนสาดอุ่นกรุ่นป่ากลิ่น เพรงไผ่ยินหวานย่อมหอมทุกหน พลันเมฆเลื่อนม่านไหลใดบัดดล บรรดาฝนเทฟ้า..มาชอบไม้ ๏ เถิดวาดหยาดพจียิ้มนิ่มฟังนุ่ม จัดทรงพุ่มบนพานขานความไข ชมอัศจรรย์บรรเจิดเทิดคงไทย งามพลิ้วไหวเพลินวัทน์..ทัศน์คำทอง ๚ะ๛ คอนพูทน (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_191.gif) (http://www.klonthaiclub.com) กลบทเจ้าเซ็นเต้นต้ำบุด ฉบับกลอน ๘ คำเช่น-งามพลิ้วไหวเพลินวัทน์ทัศน์คำทอง-ในแต่ ละวรรค กำหนดให้สัมผัสอักษร ๒ คู่ คือคำที่ ๓-๕ (ไหว-วัทน์) และคำที่ ๖-๘ (ทัศน์-ทอง) สัมผัสสระ ๑ คู่ คือคำที่ ๕-๖ (วัทน์-ทัศน์) นอกนั้นเหมือนกลอนสุภาพ..ด้วยความขอบคุณ. (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_191.gif) (http://www.klonthaiclub.com) หัวข้อ: Re: เขียน..เจ้าเซ็นเต้นต้ำบุด เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2013, 02:28:PM (ขอร่วมฝึกฝีมือด้วยคนครับท่าน) ๐แสงจันทราแจ่มทาบอาบอวลอ้อน กล่อมฉันนอนคืนนี้สีสุกส่อง หลับตาฝันบ่เฝื่อนเตือนใจตรอง ถึงนวลน้องหนึ่งนั้นสัญญาซึ้ง ๐ฝันฉันกลับแข็งกร้าวร้าวรักร้อน คอยจะกร่อนทรุดเกินเผินขาดผึง คล้ายจะมีหมู่มารต้านใจตรึง รักก็จึงเป็นเจ็บเล็บข่วนลง ๐จำใจตื่นลืมตาล้าเหลือหลาย นี่หรือชายทนงเชื้อเสือพิษสง จะมาตายก็แต่แชเชือนชง หนึ่งอนงค์ผินหน้าลาร้างเลือน ๐โอ้ว่าดาวดูเด่นเร้นรักหรือ ไยไม่ยื้อแสงยวนควรหยุดเคลื่อน อันสัมพันธ์มันพร่องถ้องกระเทือน จึงบิดเบือนแสงบังทั้งทุกข์ทึม emo_111 emo_111 emo_85 emo_85 emo_126 emo_126 หัวข้อ: Re: เขียน..เจ้าเซ็นเต้นต้ำบุด เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 08 กุมภาพันธ์ 2013, 03:52:PM (http://upic.me/i/os/dsc05019.jpg) องศารักหักร่วงทรวงเลยทรุด เกินรั้งฉุดกระชาก..เขาเงียบขรึม ความเย็นชาแสนช้ำเศร้านั่งซึม ม่านหมอกครึ้มถึงคราว..ร้าวหนอรัก ไร้หนทางห่างทิศคิดเป็นคู่ ไกลสุดกู่ยากก่อ..ทอใยถัก ความสัมพันธ์เลือนพร่าท้าเข้าทัก เจ็บยิ่งนักรักนี้...ทุ ก ข์ ร ะ ท ม ---สะเลเต--- |