หัวข้อ: สวัสดีมวลมิตรอีกครั้งครับ(ข้าน้อยช่างวาสนาน้อยนัก) เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2013, 01:06:PM (http://www.picpostclub.com/uploads/90ed1ac.jpg) (http://www.picpostclub.com/view.php?c=90ed1ac)
๐วาสนาข้าน้อยต่ำต้อยนัก ต้องขลุกขลักขวยขวายคลายตัณหา เพิ่งเริ่มต้นมนตราภาวนา กรรมเก่ามากัดกร่อนบั่นทอนบุญ ๐วาดหวังไว้เจ็ดวันจะมั่นหมาย เช่นชาติชายอุบาสกปิฎกหนุน ประพฤติธรรม์กรรม์ไสวเป็นใบบุญ แต่ต้นทุนกุศลเหมือนฝนแล้ง ๐ที่ทำงานประสานมาถึงข้าน้อย ไม่อาจคอยเจ็ดวันเหมือนท่านแกล้ง ให้ลาเพียงหกวันลดหลั่นแรง อย่าหน่ายแหนงหนีไกลคนไข้รอ ๐ก็นี่เดือนกุมภาฯท่านว่างั้น เป็นเดือนสั้นราชการจึงวานขอ ลาเท่านี้นิพิทพักจิตพอ แล้วรีบถ่อสังขารทำงานพลัน ๐โอ้เอกองค์พระสรรเพชรเสด็จโปรด อภัยโทษผิดสัจจะบาปมหันต์ ข้าน้อยมีอุปปีฬกกรรม์* มาบีบคั้นข่มเข็ญบำเพ็ญเพียร ๐จึงลาแล้วกุฎีคีรีพฤกษ์ ดนูนึกน้อยใจในบุญเศียร กราบลาท่านคณะสงฆ์บรรจงเวียน วางธูปเทียนท่องนโมพุทโธพรม ๐กรรมฐานท่านสอนแต่ตอนต้น ยังไกลผลผลาญกิเลสอันเลศถม แต่ขอถึงไตรรัตน์จรัสปม ปัจจัยบ่มบุญกรรมชำนะมาร ๐แม้นบุญมีปีหน้าข้าน้อยหวัง กลับมายังวัดนี้วิเศษศาส์น ถึงเวลากราบลาท่านอาจารย์ กลับสู่งานช่วยคนพ้นโรคาฯ เชิงอรรถ(กระผมอ้างอิงจากหนังสือกรรมทิปนี ของท่านป.อ. ปยุตโต ที่เคยอ่านมาครับ) (อุปปีฬกกรรม=อุบ-ปะ-ปี-ละ-กะ-กรรม คือ กรรมมีหน้าที่เบียดเบียนกรรมอื่นเข้าไปทำร้ายหรือบีบคั้นกรรมอื่นที่มีสภาพตรงกันข้าม ซึ่งมีทั้งฝ่ายกุศลและฝ่ายอกุศล เป็นผลให้กรรมฝ่ายตรงกันข้ามอ่อนกำลังลงเสื่อมลง) -กระผมมีวาสนาน้อย จึงได้มีโอกาสนอนวัดเพียงเท่านี้และสวัสดีมวลมิตรอีกครั้งครับ emo_126 emo_126 emo_126 หัวข้อ: Re: สวัสดีมวลมิตรอีกครั้งครับ(ข้าน้อยช่างวาสนาน้อยนัก) เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 06 กุมภาพันธ์ 2013, 01:11:PM อนุโมทนามิ สาธุ สาธุ สาธุ emo_126 |