หัวข้อ: ทบทวนวิชาโคลงด้วยบทเพ้อละเมอรัก เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 30 มกราคม 2013, 01:24:AM -โคลง๔สุภาพ
๐ฝอยฝนโปรยหลั่งพร้อม ลมหนาว สั่นสะท้านทุกข์ราว เฉียบเนื้อ หาผ้าห่มสีขาว พรมอุ่น ฤๅเทียบไอรักเอื้อ โอบหุ้มหฤหรรษ์ ๐ประชันผ้าผ่อนพริ้ง เหมันต์- ฤดูเฮย ช่างงดงามแต่งสรร เฉดช้อย ลักษณ์ส่งเสกผิวพรรณ พลอยผ่อง ลึกแห่งใจไป่คล้อย เพริศคล้ายลายฉวี ๐หนีหนาวนี้นึกน้อม นวลแข ได้กอดกายน้องแล อุ่นอ้อน กลางหิมะปรวนแปร ยะเยือก ร่างเล็กเรียวอาจป้อน ฤทธิ์ร้อนเริงฤดี -โคลง๔ตรีพิธพรรณ ๐มีมรสุมซึ่งเข้า กระทันหัน ปรับเปลี่ยนวันร้อนเป็น ค่ำสะท้าน ร่างรวนปั่นป่วนพลัน เป็นหวัด เพียงพักตร์นุชพริ้มต้าน ต่อริ้วลมหนาว ๐แพรวพราวพันธุ์ดอกไม้ นานา สุริยาส่องแสง รุ่งเร้า ถึงถวิลกลิ่นบุปผา หอมชื่น ยังบ่เพียงแก้มเจ้า กลิ่นเย้ายวนเสมอ ๐หลงละเมอเมื่อหลับเคลิ้ม เคลียคลอ วธูแฮ แสนสุขขอจันทร์จง อย่าเร้น ค่ำคืนอยู่ยาวพอ เพลินรัก เผลอตื่นกลับแกล้งเน้น ที่แท้กอดหมอน -โคลงจัตวาทัณฑี ๐ถอนเงินถอนง่ายทั้ง ธนาคาร ถอนรักปักหวานยวน ยากไซร้ ถอนฤทธิ์พิศวาสนาน นับกัป ใครจะอาจถอนได้ นอกขั้นอรหันต์ ๐สวรรค์เสกเดือนคู่ข้าง ดารา สร้างรหัทมัจฉาเคียง ชีพชื้น รวีชูหมู่บุษบา บานรับ อรุณเฮย ไยแน่งน้อยสะอื้น คู่อ้ายอายหรือ ๐ถ้าถือรักมั่นแล้ว โลเล เพียงพจน์บทเพทุบาย บ่งร้าย คำบอกกลอกกลิ้งเท เลศถ่ม รสรักนี้กลับคล้าย หลอกน้ำตาคลอ -โคลงกระทู้๔(อย่าริก่อรัก หากภักดีด้อย อย่าอ่อยอรรถอ้อน ร่ายร่อนสัมพันธ์ เน้นบั่นรอยบาด จนขยาดจนคร้าม กลกามรักลวง เป็นบ่วงเผาชนม์) ๐อย่าริก่อรักถ้า รวนเร หากภักดีด้อยเซ ส่ายซึ้ง อย่าอ่อยอรรถอ้อนประเด ประดังรัก ร่ายร่อนสัมพันธ์ขึ้ง ขัดข้องขรมเข็ญ ๐เน้นบั่นรอยบาดเบื้อง ลึกฤทัย จนขยาดจนคร้ามไป โลกหน้า กลกามรักลวงไฟ ระอุ เป็นบ่วงเผาชนม์กล้า กร่อนไหม้นิจนิรันดร์ -โคลงกระทู้๒(แกล้งรัก แกล้งห่วง แกล้งลวง จ้วงดับ ได้รัก ได้ชอบ ได้มอบ ได้เจ็บ) ๐แกล้งรักกันกล่อมแกล้ง เกลียวกลึง แกล้งห่วงหวงคนึง กอดใกล้ แกล้งลวงหลอกคิดถึง ทุกขณะ จ้วงดับดิ้นแดได้ เดชร้ายสาไถย ๐ได้รักลางรักได้ สมประสงค์ ได้ชอบชมอนงค์ อิ่มยิ้ม ได้มอบรักยรรยง ยอมยอก ได้เจ็บบ้างหลังลิ้ม รักให้ประสบการณ์ -โคลง๒ ดั้น ๐แว่วหวานเวียนวาบเย้า ยวนสุขรอบเกศเกล้า กับนาง ๐ห่างเพียงวาดุจเว้น เกินโยชน์อันรักเร้น หลีกหนี ๐เมื่อมีใจจรัสล้วน รักผุดผ่องพร้องถ้วน จึ่งหวง -โคลง ๓ ดั้น ๐คิดควงขนิษฐา ปรารถนาคู่แท้ เพียงพบหนึ่งข้อแม้ อย่าครวญ ๐อวลไอรักร่ำร้อง ดังกึกก้องโสตนี้ เหมือนเร่งเร้าเซ้าซี้ เสน่หา ๐อุราเรืองเฟื่องฟุ้ง ด้วยคละคลุ้งรักแย้ม ทุกค่ำคืนแต้มแก้ม กอดนวล -โคลงดั้นวิวิธมาลี ๐หอมหวนแห่งกลิ่นแป้ง ปะพักตร์ ช่างชื่นใจชื่นกาย กรุ่นล้อม นั่นเรียกพิษนุชหนัก นำเคลิบ เคลิ้มนอ มองทิศใดห้อมด้วย เดชอนงค์ ๐นั่งยืนเดินคิดคล้อย คนึงถึง ส่งจิตหมายมุ่งตรง แน่งน้อย ริมฝีปากตราตรึง ฤทัยตรึก งามอย่างหยดย้อยเยิ้ม หยาดยวน ๐แต่งโคลงเพลินกระทู้ แนวเดียว ใครคลื่นไส้ใครจวน เบื่อบ้าง ฝึกโคลงรักด้วยเฉลียว คนอ่าน แนวอื่นกลัวอ้างว้าง เปลี่ยวเขิน -โคลงดั้นบาทกุญชร ๐เดินถึงโคลงสุดท้าย ทวนแถลง ดั้นบาทกุญชรชวน แช่มช้อย ย่างเยื้องอย่างช้างแปลง เป็นบท โคลงนา ฉบับละเลียดคล้อยเข้ม ค่าขลัง ๐จึงจักจบพจน์เพ้อ โดยโคลง นี้นา หวังศาสตร์วิเศษสยามยัง อยู่เหย้า สมองไป่เปรื่องปราดโยง ญาณปราชญ์ ฝืนอุตส่าห์เฝ้าสร้าง ศุภสาส์นฯ emo_85 emo_85 emo_85 emo_126 emo_126 emo_126 |