หัวข้อ: ✿..ไม่ควรถามแค่ยามทุกข์..✿ เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 20 มกราคม 2013, 04:46:PM (http://www.flowerslover.in.th/wp-content/uploads/2012/05/%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A53.jpg) ไม่จำเป็นต้องถามเมื่อยามทุกข์ ไม่จำเป็นต้องสุขแล้วเลิกถาม ไม่จำเป็นต้องฟังใครบอกความ ไม่จำเป็นต้องตามมารยาทดี แม้ไม่เกิดทุกข์ท้อก็ถามเถอะ แม้ไม่เกิดทุกข์เจอะถามได้นี่ แม้ไม่เกิดทุกข์ใดก็ไมตรี แม้ไม่เกิดทุกข์มีได้ทักทาย อย่าคิดว่าต้องทุกข์จึงควรทัก อย่าคิดว่าต้องหนักลำบากหลาย อย่าคิดว่าต้องไข้ไม่สบาย อย่าคิดว่าต้องอายถามเดิมเดิม อย่างน้อยก็ได้เอ่ยวิสาสะ อย่างน้อยก็ได้นะรู้เรื่องเพิ่ม อย่างน้อยก็ได้ของสมองเติม อย่างน้อยก็ได้เสริมเพิ่มมิตรแท้ สุขหรือทุกข์ถามไถ่ไม่ต้องเกี่ยง สุขหรือทุกข์ถามเพียงเป็นเพื่อนแน่ สุขหรือทุกข์ถามได้ไม่ต้องแปล สุขหรือทุกข์ถามแม้รู้เรื่องราว ดอกพิกุลไม่ร่วงยามเอ่ยปาก ดอกพิกุลไม่จากสีนวลขาว ดอกพิกุลไม่กลายเป็นหนอนคาว ดอกพิกุลไม่ร้าวกลีบกระจาย emo_93 "กานต์ฑิตา" ๒๐ มกราคม ๒๕๕๖ (http://i428.photobucket.com/albums/qq9/yamiejung24/uy117.gif) กลบทกลอน: ดอกไม้พวงคำน้อง X X X X O O O O ซ้ำคำ ๔ คำ ต้นวรรค เปลี่ยนกระทู้ทุกบท (๔ วรรค) หมู่นักสนมว่าแม่ร่มโพธิ์ทองทิพย์ หมู่นักสนมว่าจะลิบครรไลสถาน หมู่นักสนมว่าแม่ร่มโพธิ์นากนาน หมู่นักสนมว่าลมกาลประหารพัด ต่างต่างองค์ต่างทรงค่อนทรวงโลก ต่างต่างองค์ต่างวิโยคแสนสาหัส ต่างต่างองค์ต่างทรงซึ่งโทมนัส ต่างต่างองค์ต่างอัดอั้นอุรา (ศิริวิบุลกิตติ์) กลบทกลอน: ดอกไม้พวงพู่ร้อย ลักษณะบังคับเหมือนกับดอกไม้พวงคำน้องทุกประการ นิจจาเอ๋ยกระไรเลยไม่เคยเห็น นิจจาเอ๋ยกระไรน่าน้ำตากระเด็น นิจจาเอ๋ยกระไรได้เช่นนี้ แค้นใจเจ็บใจงมหลงลมล่อ แค้นใจเจ็บใจหนอไม่พอที่ แค้นใจเจ็บใจหนอเพราะเชื่อดี แค้นใจเจ็บใจกระจี้บัดสีใจ (พระราชนิพนธ์: ประชุมจารึกวัดพระเชตุพน ฯ) หัวข้อ: Re: ✿..ไม่ควรถามแค่ยามทุกข์..✿ เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 20 มกราคม 2013, 04:53:PM คุณพี่กานต์คะ..
ถ้าเช่นนั้น เป็นกลบทเดียวกันที่มี 2 ชื่อเหรอคะ.. แซมสงสัยจริงๆ ค่ะ .. แซมชอบหัดกลบทใหม่ๆ ที่ไม่ยากจนเกินไป.. ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ที่แบ่งปัน emo_126 emo_126 emo_126 แซมค่ะ หัวข้อ: Re: ✿..ไม่ควรถามแค่ยามทุกข์..✿ เริ่มหัวข้อโดย: ♥ กานต์ฑิตา ♥ ที่ 20 มกราคม 2013, 05:05:PM เรียน คุณแซม ทราบค่ะ
กลบททั้ง 2 กลบท คือ ดอกไม้พวงคำน้อง และ ดอกไม้พวงพู่ร้อย เป็นกลบทที่มีข้อบังคับเหมือนกัน ทุกประการค่ะ เพียงแต่ปรากฏอยู่ในตำรากลอนคนละเล่มกัน emo_50 กลบทดอกไม้พวงคำน้อง ปรากฏในหนังสือชื่อ ศิริวิบุลกิตติ์ แต่งในสมัยอยุธยาตอนปลาย ผู้แต่งคือ หลวงศรีปรีชา (เซ่ง) เนื้อเรื่องนำมาจาก ศิริวิบุลกิตติ์ชาดก แต่งด้วยคำประพันธ์ ประเภทกลอน โดยใช้กลบทชนิดต่างๆ สลับกันตลอดเรื่อง รวมกลบท ทั้งสิ้น ๘๕ ชนิด มีทั้งที่ซ้ำ และต่างจากกลบทใน จินดามณี เนื่องจากแต่งโดยผูกเป็นเรื่องราว กลบทใน ศิริวิบุลกิตติ์ จึงเป็นแบบกลอักษรทั้งหมด ส่วน กลบทดอกไม้พวงพู่ร้อย ปรากฏในหนังสือชื่อ ประชุมจารึกวัดพระเชตุพน ฯ เกิดขึ้นในสมัย พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ แห่งกรุง รัตนโกสินทร์ พ.ศ. ๒๓๗๕ ทรงปฏิสังขรณ์ วัดพระเชตุพน ฯ และทรงมีพระราชประสงค์ จะให้เป็นแหล่งเล่าเรียนวิชาความรู้ ของมหาชน ไม่เลือกชั้นบรรดาศักดิ์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้รวบรวม เลือกสรร ตำรับตำราต่างๆ โดยตรวจแก้จากของเดิมบ้าง และประชุมผู้รู้ให้แต่งขึ้นใหม่บ้าง ทั้งด้านวรรณคดี โบราณคดี และวิชาอื่นๆ และโปรดฯ ให้จารึกแผ่นศิลาไว้ ในบริเวณวัดพระเชตุพน ฯ เมื่อผู้ใดสนใจวิชาใด ก็สามารถ เล่าเรียนได้จากศิลาจารึกนั้น จารึกวัดพระเชตุพนฯ ได้รับการรวบรวมพิมพ์ เป็นหนังสือขึ้น ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๒ เนื้อหาแบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ ประเภทร้อยแก้ว และประเภทร้อยกรอง ในแต่ละประเภท ยังแบ่งออกเป็น ๕ หมวด มี หมวดประวัติวัด หมวดวรรณคดี หมวดสุภาษิต หมวดทำเนียบ และหมวดอนามัย ตำรากลบท อยู่ในหมวดวรรณคดี มีทั้งหมด ๙๗ ชนิด มีทั้ง กลอักษร และกลแบบ ส่วนใหญ่ซ้ำกับกลบทในศิริวิบุลกิตติ์ emo_126 emo_126 emo_126 หัวข้อ: Re: ✿..ไม่ควรถามแค่ยามทุกข์..✿ เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 20 มกราคม 2013, 05:54:PM พวงคำน้องยอมรับว่าจับจิต พวงคำน้องเรียงลิขิตได้หลากหลาย พวงคำน้องค่อยละเลียดแล้วเครียดคลาย พวงคำน้องพรรณรายวางลายคำ พวงพู่ร้อยห้อยระย้าไม่กล้าเผย พวงพู่ร้อยเอื้อนเอ่ยว่าคมขำ พวงพู่ร้อยพร้อยเสียงเรียงลำนำ พวงพู่ร้อยเจ้าประจำแอบคร่ำครวญ เนิน จำราย หัวข้อ: Re: ✿..ไม่ควรถามแค่ยามทุกข์..✿ เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 20 มกราคม 2013, 06:10:PM เคยตระหนักรักฤทธิ์พิสิฐศิลป์ เคยตระหนักรักประทิ่นกลิ่นหอมหวน เคยตระหนักรักจรุงฟุ้งอบอวล เคยตระหนักรักล้วนชวนชื่นชม แต่ความจริงยิ่งแท้แค่เล่ห์ฤทธิ์ แต่ความจริงยิ่งพิษพาจิตต์ขม แต่ความจริงยิ่งลวงทรวงระบม แต่ความจริงยิ่งตรมรักลมลวง บูรพาฯ emo_126 หัวข้อ: Re: ✿..ไม่ควรถามแค่ยามทุกข์..✿ เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 21 มกราคม 2013, 03:51:AM (http://img1.imagehousing.com/25/b117acd54aa836b461cfd83c966f4c24.jpg) (http://www.imagehousing.com/image/888871) (http://ar-mie1.webs.com/photos/ar-mie5/p39.gif) ไม่รู้หรือคือหนึ่งในมารยาท ไม่รู้หรือคืออาจเกินคาดหมาย ไม่รู้หรือคือคนล้นอบาย ไม่รู้หรือคือชายคล้ายหวั่นเกรง เรื่อของเขาเราแส่แม่อาจเฉาะ เรื่องของเขาเราเจาะโดนเคาะเฉ่ง เรื่องของเขาเรารู้ดูครื้นเครง เรื่องของเขาเราเลบงเร่งได้ไง เพียงเฝ้ามองลองเลียบเหมือนเทียบท่า เพียงเฝ้ามองลองหาเลิกสาไถย เพียงเฝ้ามองลองถามแค่นามใด เพียงเฝ้ามองลองใส่หนึ่งไมตรี จะให้ถามก็กลัวตัวหาเรื่อง จะให้ถามก็เคืองเปลืองศักดิ์ศรี จะให้ถามก็ล้วนป่วนฤดี จะให้ถามก็ฉวีไม่มีใจ อยากรู้เขาเขาหาว่าส..เสือก อยากรู้เขาเขาเลือกเผยเปลือกไหน อยากรู้เขาเขาแกล้งตัดแต่งไป อยากรู้เขาเขาไร้ไม่อยากมอง จึงเจียมตนเจียมจิตยามชิดใกล้ จึงเจียมตนเจียมใจไม่ให้หมอง จึงเจียมตนเจียมจบครบครรลอง จึงเจียมตนเจียมสนอง..เพียงสองตา "บ้านริมโขง" ๒๑ มกราคม ๒๕๕๖ (http://ar-mie2.webs.com/photos/D-day-C/d77.gif) หัวข้อ: Re: ✿..ไม่ควรถามแค่ยามทุกข์..✿ เริ่มหัวข้อโดย: Moo Dum ที่ 21 มกราคม 2013, 01:18:PM มีคนถาม ฉันว่า ถ้ามีรัก มีคนถาม ฉันหนัก หทัยไหม? มีคนถาม ฉันสุข ทุกข์เพียงใด? มีคนถาม ฉันใฝ่ ใครรักจอง? ฉันเพียงตอบ เขาว่า ถ้ามีรัก ฉันเพียงตอบ เขาจัก ปกปักป้อง ฉันเพียงตอบ เขาฝัน ร่วมครรลอง ฉันเพียงตอบ เขาต้อง ครองสุขใจ ในความฝัน สิ่งที่ มีให้เห็น ในความฝัน สิ่งเป็น เช่นว่าใช่ ในความฝัน สิ่งนี้ ไม่หนีไกล ในความฝัน สิ่งใฝ่ ได้ครองนาน ในความจริง สิ่งหวาน พาลขมฝาด ในความจริง สิ่งวาด อาจไม่หวาน ในความจริง สิ่งฝัน อาจกันดาร ในความจริง สิ่งคาน อาจค้ำจุน ความรักเก่า เราเก็บ เจ็บครั้งใหญ่ ความรักเก่า เราไร้ ใครเกื้อหนุน ความรักเก่า เราเลือน เหมือนสิ้นบุญ ความรักเก่า เราวุ่น หมุนเวียนวน ความรักใหม่ ใจฟื้น ถูกตื่นปลุก ความรักใหม่ ใจสุข ทุกแห่งหน ความรักใหม่ ใจปอง ครองหน้ามน ความรักใหม่ ใจล้น คนรักเรา Moo Dum มือใหม่ แวะมาแจมจ้ะ emo_26 emo_73 emo_126 emo_73 |