|
หัวข้อ: ทุ่งร้างนางจร เริ่มหัวข้อโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 12 มกราคม 2013, 09:10:PM (http://farm4.static.flickr.com/3477/3319039232_1bf245e58a.jpg) (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) (http://www.klonthaiclub.com) หุ่นไล่กา กลางนา พาหวนคิด ถึงอดีต จิตครวญ ให้หวนหา ทุ่งนาร้าง นางจร อ่อนระอา ทิ้งทุ่งนา ป่าเขา ลำเนาไพร เคยนั่งเคียง เลี้ยงควาย อยู่ชายทุ่ง เก็บผังบุ้ง หุงข้าว ดาวไข่ไก่ ต้มหนอไม้ ใส่ปลาร้า ปลาทูไทย ล้อมวงใต้ ไทรใหญ่ ใกล้เถียงนา เจ้าลืมกลิ่น ดินโคลน โดนเอียงอาย กลิ่นสาบควาย ระคายเคือง เบื้องนาสา ทิ้งพี่อยู่ ผู้เดียว เปลี่ยวอุรา กับน้ำตา บ่านอง ต้องกล่ำกลืน หุนไล่กา กลางนา พาใจเศร้า เขาลืมเรา เหงาจัง นั่งขมขื่น ลืมบึงหนอง ท้องนา ฟ้ากลางคืน ทิ้งพี่ยืน กลืนน้ำตา ที่บ่านอง ชลนา ทิชากร (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif) (http://www.klonthaiclub.com) http://www.youtube.com/watch?v=Ec0TjR_DCHE หัวข้อ: Re: ทุ่งร้างนางจร เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 13 มกราคม 2013, 08:24:AM emo_100 emo_87 ยืนกลางแดด แผดเผา ทุกเช้าค่ำ สุดระกำ ช้ำหม่น ทนสนอง ให้ชาวนา อ้าแขน แสนลำพอง นกการ้อง บินหนี ทุกทีไป กิจวัติ ทุกวัน ของฉันนี้ จะกี่ปี กี่เดือน ยังเคลื่อนไหว ไม่มีร่ม มากาง อ้างว้างใจ พูดไม่ได้ ใบ้บื้อ คือความจริง ยามลมพัด จัดให้ ได้แน่แน่ ฝืนดวงแด แค่รอ ต่อทุกสิ่ง เหงื่อรินไหล ไคลย้อย พลอยประวิง ดั่งผีสิง นิ่งงัน มิผันจร เกิดเป็นหุ่น ไล่กา น่าอนาถ เสื้อผ้าขาด หุ้มห่อ ทนรอก่อน แม้จะหนาว ยังห่ม ลมทุกตอน โฉมบังอร ยืนเดี่ยว ขาดเหลียวแล หากเป็นคน ทำได้ ไหมเล่าท่าน คงจาบัลย์ หวั่นจิต คิดแทบแย่ นี่เป็นหุ่น ขุ่นข้อง ไม่ร้องแง คิดในแง่ ความดี เขามีคุณ พันทอง emo_100 emo_87 emo_126 หัวข้อ: Re: ทุ่งร้างนางจร เริ่มหัวข้อโดย: khuadkao ที่ 13 มกราคม 2013, 12:23:PM เธอมองหุ่นไล่กาน้ำตาไหล มันไม่ไล่เธอแน่แม่เนื้ออุ่น ไยเธอทิ้งข้าวกล้าท้องนาบุญ ลืมเคยคุ้นใครคนหนึ่งซึ่งใจเดิม คนเคยรักมาทิ้งขว้างเมื่อร้างรัก ยากเกินหักใจจริงยิ่งรักเพิ่ม เคยทำไร่นาท้อร่วมต่อเติม ต่างช่วยเสริมสร้างหวังกำลังใจ ขี่ไอ้ทุยลุยทุ่งมุ่งนาแล้ง ช่วยกันแปลงนาร้างสร้างนาใหม่ ความยากแค้นแสนเข็ญที่เป็นไป นั้นช่วยให้รักจริงยิ่งกว่ารัก จวบไอ้หนุ่มบางกอกมันออกค่าย มาช่วยย้ายนาแล้งเป็นแปลงผัก พอฐานะเริ่มฟื้นขึ้นสักพัก เธอก็หักเหหันปันหัวใจ ไปรักหนุ่มบางกอกที่กลอกกลิ้ง เขารักจริงรักแน่นั้นแค่ไหน ชายบางกอกเจ้าชู้รู้ถมไป สาวบ้านใกล้ยังไม่เหลือเป็นเหยื่อมา ไปหลงคารมอ้างชายบางกอก หนุ่มบ้านนอกคำว่ารักยังรักษา แม้นถูกเขาลวงเห็นเป็นสาวนา กลับมาหารักเก่าที่เฝ้ารอ หัวข้อ: Re: ทุ่งร้างนางจร เริ่มหัวข้อโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 13 มกราคม 2013, 06:53:PM (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) (http://www.klonthaiclub.com) หุ่นไล่กา เหว่ว้า น้ำตาไหล ยอดดวงใจ ไปไหน ไกลจริงหนอ ทิ้งทุ่งนา ป่าดอย ให้คอยรอ ลืมทุ่งอ้อ กอไผ่ ไหวตามลม บนเถียงนา เวลาคำ ย่ำสายัณห์ ดวงตะวัน ผันจร นอนขื่นขม มองดวงดาว พราวฟ้า ล้าระทม หยิบผาห่ม ห่มกาย คลายหนาวใจ เพ้อรำพัน วันชื่น คืนเคยสุข ลาบปลาดุก คลุกข้าว ดาวไข่ไก่ เป็นอาหาร จานโปรด โจษกันไป เธอทำให้ ได้กิน จนชินชา ต้มกะทิ บิสายบัว คั่วกลิ้งไก่ ผัดปลาไหล ใส่พริกไทย ใบยี่หร่า ลวกสะเดา กระเพราหมู ฉู่ฉี่ปลา เธอทำมา หลากรส คดใส่จาน แต่เดียวนี้ ไม่มีเธอ ที่เพ้อถึง เก็บตำลึง ดึงสายบัว ถั่วแตงร้าน ผัดใส่ไข่ ใส่ปลาร้า มาช้านาน อยากจะทาน หวานใจ ก็ไม่มา หุ่นไล่กา ว้าเหว่ เห่แรงลม เจ็บระทม ตรมเศร้า เฝ้าคอยหา เย็นพระพาย สายลม พรมพัดพา กลางทุ่งนา ป่าร้าง นางจากจร ชลนา ทิชากร (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif) (http://www.klonthaiclub.com) http://www.youtube.com/watch?v=XI_Pd3-9bpg หัวข้อ: Re: ทุ่งร้างนางจร เริ่มหัวข้อโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 30 มกราคม 2013, 12:36:PM emo_100 emo_87 ยืนกลางแดด แผดเผา ทุกเช้าค่ำ สุดระกำ ช้ำหม่น ทนสนอง ให้ชาวนา อ้าแขน แสนลำพอง นกการ้อง บินหนี ทุกทีไป กิจวัติ ทุกวัน ของฉันนี้ จะกี่ปี กี่เดือน ยังเคลื่อนไหว ไม่มีร่ม มากาง อ้างว้างใจ พูดไม่ได้ ใบ้บื้อ คือความจริง ยามลมพัด จัดให้ ได้แน่แน่ ฝืนดวงแด แค่รอ ต่อทุกสิ่ง เหงื่อรินไหล ไคลย้อย พลอยประวิง ดั่งผีสิง นิ่งงัน มิผันจร เกิดเป็นหุ่น ไล่กา น่าอนาถ เสื้อผ้าขาด หุ้มห่อ ทนรอก่อน แม้จะหนาว ยังห่ม ลมทุกตอน โฉมบังอร ยืนเดี่ยว ขาดเหลียวแล หากเป็นคน ทำได้ ไหมเล่าท่าน คงจาบัลย์ หวั่นจิต คิดแทบแย่ นี่เป็นหุ่น ขุ่นข้อง ไม่ร้องแง คิดในแง่ ความดี เขามีคุณ พันทอง emo_100 emo_87 emo_126 (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) (http://www.klonthaiclub.com) ยืนกลางแดด แผดเผา เร่าร้อนนัก ร้อนความรัก นักเหลือ แม่เนื้ออุ่น เพราะหลงรัก ปักใจ ในตัวคุณ ให้ว้าวุ้น ครุ่นจิต คิดไม่วาย อันรักอื่น หมื่นแสน ไม่แม้นเท่า ร้อนรักเขา เศร้าทรวง ห่วงไมหาย อยากชิดแนบ แอบออด กอดข้างกาย อยากกอดก่าย หายคิดถึง คะนึงครวญ สบตาเธอ เพ้อพร่ำ รำพันหา ในอุรา ผวาไหว ใจปั่นป่วน เพราะหลงรัก ปักใจ ในเนื้อนวล โศกกำสรวล ครวญคร่ำ พร่ำละเมอ วาสนา ไม่ถึง จึงผิดพลาด หมดโอกาส พลาดผิด คิดเสมอ บุญไม่พอ ขอไกล ไปจากเธอ ได้แต่เพ้อ ครวญคร่ำ ร่ำพิไล ยืนกลางแดด แผดเผา เร่าร้อนยิ่ง รักผู้หญิง ยิ่งร้อน นอนหม่นไหม้ รักเหมือนแดด แผดเผา เหงาดวงใจ รักเหมือนไฟ เผาใจ จนไหม้เกรียม ชลนา ทิชากร (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_028.gif) (http://www.klonthaiclub.com) http://www.youtube.com/watch?v=czj9tQgKCOU |