หัวข้อ: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 08 มกราคม 2013, 10:42:PM เมื่อก่อนตอนที่ผมมาเล่นกลอนที่นี่ใหม่ๆ ผมว่ากระทู้กลอนที่เริ่มใหม่มีมากกว่าทุกวันนี้นะครับ(ผมรู้สึก อาจไม่จริงก็ได้) ตอนนั้นเรามีกลุ่มเพื่อนมาก คนหนึ่งแต่งคนหนึ่งก็ตอบ กระจายกันออกไป จะไม่มาไล่ตอบกระทู้กันยาว
แต่ถ้าไม่ค่อยมีใครกล้าขึ้นกระทู้กลอนใหม่ กลอนมันก็จะไม่หลากหลายมีแต่การไล่ตอบกระทู้กัน ก็คึกคักดี กลอนเยอะแต่ขาดความหลากหลาย ผมเคยสงสัยว่าทำไมไม่ค่อยมีคนขึ้นกระทู้กลอนใหม่สักเท่าไร แต่ก็ไม่ได้จริงจังที่จะหาคำตอบ จนกระทั่งได้ยินเพื่อนสมาชิกรุ่นไล่ๆกัน พูดว่า ไม่กล้าแต่งกลอนขึ้นกระทู้ใหม่เพราะกลัวกลอนจะตาย คือไม่มีใครมาต่อกลอน คนที่เคยเล่นด้วยกันหายหมดแล้ว แต่งไปก็ตกกระดานเปล่าๆ ผมได้ยินถึงได้รู้คำตอบว่า การที่ไม่ค่อยมีคนแต่งกลอนขึ้นกระทู้ใหม่เพราะกลัวกลอนตาย ตกกระดานนี่เอง อันนี้จริงไหมครับเพื่อนสมาชิก ถ้ากลอนตายคนก็ตายมลายสิ้น ถ้ากลอนดิ้นคนก็ดิ้นไม่สิ้นเสียง ถ้ากลอนหลับคนก็หลับดับสำเนียง ก็เหลือเพียงกลอนซ้ำๆตอบตามกัน emo_82 หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: เสริมสูรย์ ที่ 08 มกราคม 2013, 11:05:PM (http://upic.me/i/av/7fxoc.jpg) หัวข้อน้อยข้อยว่าน่าจะเหมาะ คนจะเกาะตามกัดเหมือนจัดสรร เข้ามารุมทึ้งเล็มทั้งเค็มมัน กลอนดีนั้นกลับกลายไม่ตายนะ เพราะจะเด้งขึ้นใหม่ได้เรื่อยเรื่อย ไม่เน่าเปื่อยหลุดกระเด็นเห็นจะจะ ไอ้ที่ตกกระดานเร็วพัวะพะ มากไปละ... มากจนล้นกระดาน อ้างถึง ขออภัยมิได้ลบหลู่นะครับ เห็นกลอนที่ไม่ค่อยน่าสนใจโผล่มาแล้วก็หายไปมีไม่น้อย พวกนี้แหละที่ดันกลอนดีๆ ให้ตกกระดานเร็ว ส่วนหัวข้อดีๆ ฝีปากกล้า ก็จะหมุนเวียนขึ้นมาใหม่อยู่ตลอดเวลา เพราะมีคนชมชอบ เข้ามาดูมาต่อบ่อยๆ กลอนดีไม่มีวันตายหรอกครับ ส่วนภาพประกอบนี้ ก็ให้ดูเล่นขำขำ อย่าคิดลึกว่าผมล่วงเกินนะ หุ หุ ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัว ไม่จำเป็นต้องคล้อยตามหรอกนะจ๊ะ จะบอกให้ หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 08 มกราคม 2013, 11:27:PM เคยลงกลอนเอาไว้ไร้คนต่อ เคยนั่งท้อถูกเมินเกินขับขาน เขียนก็ดีมากมายใครไม่ปาน emo_26 เพื่อนปล่อยผ่านซะงั้นมันน้อยใจ เวลาว่างก็รอต่อกลอนเขา ทั้งกลอนเศร้ากลอนขำทำหน้าใส ต่อเสียจนปัดเป๋ซวนเซไป เจ้าของไล่ไม่ให้ต่อท้อจริงจริง --ณัช-- emo_20 หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 09 มกราคม 2013, 12:02:AM (http://www.maemaiplengthai.com/webboard/attachments/20090305_5fbb4ebaefb7283f1969nFJ6TJeVs5Xp.jpg) จะลงกลอน ไว้รอ ต่อนะคะ อย่าเลยละ ปล่อยไว้ ใจเศร้ายิ่ง มิได้เอ่ย เปรยเล่น เน้นใจจริง อยากแอบอิง รักลอง ต่อน้องนะ! emo_54 รัตนาวดี emo_116 emo_95 emo_95 emo_84 emo_126 หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: เสริมสูรย์ ที่ 09 มกราคม 2013, 12:11:AM (http://upic.me/i/rc/jb9vm.jpg) นี่ก็กลอนชั้นดีมีโซ่ด้วย ที่ไม่สวยอีตรงลงสระอะ พี่เพิ่งใช้ข้างบน 'จน' นะจ๊ะ ว่าจะละรีบลุก มาปลุกเรอะ? หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: เสริมสูรย์ ที่ 09 มกราคม 2013, 12:27:AM (http://upic.me/i/a0/hxtgg.jpg) เผลอหย่อนฟักร้อนทิ้งไว้ นึกได้รีบเข้ามาโบกให้เย็น นี่ก็ย่างวันใหม่ใช่ไหมเอ่ย เอ๊ะ! เราเคยย่างปลามือหน้าเปรอะ เอา "วันใหม่" มาย่างท่าจะเลอะ ใครเจอเจอะคงสะกิดคิดว่าเซี้ยว หุ หุ ไม่ร้อนแล้ว แค่อุ่นๆ ขออำไพนะ (http://upic.me/i/eq/ytqea.jpg) หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 09 มกราคม 2013, 04:24:AM ([url]http://upic.me/i/rc/jb9vm.jpg[/url]) นี่ก็กลอนชั้นดีมีโซ่ด้วย ที่ไม่สวยอีตรงลงสระอะ พี่เพิ่งใช้ข้างบน 'จน' นะจ๊ะ ว่าจะละรีบลุก มาปลุกเรอะ? (http://4.bp.blogspot.com/-7JaC7miqU8Y/T2ABOS8OVZI/AAAAAAAAA08/XEVUN4sFFHY/s1600/PrettyGirl.gif) อยากมาเล่นกับเขาบ้าง..ก็อย่างว่า กลัวเขาหาว่าฉันนั้นสะเออะ กลอนกลืนกล้ำขุกเข็ญเห็นเลอะเทอะ ช่างมันเฮ๊อะ..คนบ้าแต่น่าเจี๊ยะ emo_100 แซมค่ะ หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 09 มกราคม 2013, 06:34:AM ยอมรับว่า ไม่กล้า วางหัวข้อใหม่ เช้าไปไร่ ไล่วัว ตีเผียะเผียะ เราคนแก่ ยักแย่ ใส่แต่เกี๊ยะ กลัวโดนเลียะ ไม่ทัน ตอบกระทุ กระทุ แผลงมาจาก กระทู้ emo_100 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 09 มกราคม 2013, 06:43:AM emo_100 ทีผู้สาวคราวใดไล่ตามต่อ ไม่ระย่อพ้อปองกับน้องหนู ไม่เห็นท้อต่อปากน้ำหมากพรู เราแอบดูอยู่หลังยังนึกเคือง... emo_120 emo_26 emo_32 บูรพาฯ emo_126 หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 09 มกราคม 2013, 07:01:AM emo_116 emo_116 emo_116 กระทู้เก่า หรือใหม่ เราไม่สน ต่อทุกคน เลยจ้า อย่าหาเรื่อง แต่ช่วงนี้ เวลาน้อย คอยเนืองเนือง ไม่ขุ่นเคือง หรอกเจ้า โปรดเข้าใจ ลงมาเลย กระทู้ หนูรีบต่อ อย่าไปท้อ ตีตน หม่นหมองไหม้ ดีไม่ดี ก็รอ ต่อกลอนไป กลอนของใคร วางมา ไม่พาเมิน ขออภัย จริงใจ ใช่ล้อเล่น กลอนใครเด่น ต่อมาก มิขากเขิน แต่ถูกจิต มิตรรัก ชักต่อเพลิน พ่อมหา จำเริญ เชิญลงกลอน พันทอง emo_126 emo_126 emo_126 หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: ช่วงนี้ไม่ว่าง ที่ 09 มกราคม 2013, 09:03:AM หากจะเปรียบคนแต่งกลอนเป็นเหมือนผู้ผลิตสินค้า สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการแต่งกลอนก็คือ ๑.ความสุขใจ,ความพอใจของผู้อ่าน ซึ่งเปรียบไปก็เหมือนกับผู้บริโภคที่มาซื้อสินค้าของเรา ๒.ความสุขใจ,ความพอใจของเพื่อนนักกลอนด้วยกัน ซึ่งเปรียบไปก็เหมือนผู้ผลิตสินค้าด้วยกันแต่ต่างแบรนด์ ซึ่งอาจจะเป็นลูกค้าของเราด้วย หรือไม่บางทีก็อาจจะเป็นคู่แข่ง,ศัตรูทางการค้า ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราแต่งกลอนเพื่อจะเอาใจใคร คนอ่านหรือว่านักกลอน ถ้าคิดว่าจะเอาใจคนอ่านก็ไม่ต้องไปสนใจอะไรมาก ดูแค่จำนวนครั้งในการคลิกเข้าไปอ่านก็พอครับ "อย่าลืมตรวจสอบตามเว็บต่างๆด้วยว่ามีคนลอกกลอนเราไปหรือเปล่า" ถ้ามีก็แสดงว่าฝีมือใช้ได้ emo_45 ถ้าไม่มี แสดงว่ายังต้องปรับปรุงอีกเยอะ เพราะยังไม่โดนใจผู้บริโภค แต่ถ้าจะเอาใจเพื่อนสมาชิกนักกลอนด้วยกันก็คงต้องดูที่ การตอบ การกดให้คะแนน การกดปุ่มขอบคุณนั่นแหละครับ emo_87 emo_87 emo_87 emo_87 emo_87 emo_87 emo_87 emo_87 emo_100 emo_100 หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: ดาว อาชาไนย ที่ 09 มกราคม 2013, 09:27:AM ที่ไม่กล้านำสินค้ามาวางขาย เพราะเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ คนไม่สนใจ เพราะเป็นสินค้าเน่า ๆ คนที่เคยบอกว่า ชอบกลอนพี่ดาวจัง ยังไม่แล เคยต่อกลอนยังไม่ต่อ ลงไปก็ไม่มีคนอ่าน แล้วยังจะกล้ามาลงกลอนอีกหรือ หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: ช่วงนี้ไม่ว่าง ที่ 09 มกราคม 2013, 09:37:AM หมู่นี้เบื่อ เศรษฐกิจซบเซา ผู้บริโภคไม่ให้ความสนใจ เลิกผลิต ปิดกิจการไปแล้วครับ(ม้วนเสื่อกลับบ้านดีกว่า) (เหตุผลจริงๆก็คือ ในช่วงสามปีกว่าที่ผาดโผนอยู่ในยุทธจักรเว็บกลอนนี่ก็แต่งกลอนมากมายซะจนเบื่อน่ะครับ คิดว่ามันคงถึงจุดที่อิ่มตัวแล้วจริงๆ ความสนุกความตื่นเต้นต่างๆมันก็พลอยหดหายไปด้วย) ถ้าแทนที่จะมีแต่การต่อกลอนจากนักกลอนด้วยกันมาเป็นการคอมเม้นท์จากผู้อ่านที่เป็นผู้อ่านจริงๆที่ไม่ใช่กากีนั้งคิดว่าน่าจะเพิ่มเชื้อไฟให้ลุกโพลงขึ้นมาได้ emo_126 emo_126 emo_126 emo_126 emo_126 หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: ..กุสุมา.. ที่ 09 มกราคม 2013, 10:08:AM (http://sphotos-a.xx.fbcdn.net/hphotos-snc6/c0.0.843.403/p843x403/224966_534985676519935_1568338792_n.jpg) ข้าพเจ้าเป็นผู้บริโภค..มิใช่เป็นผู้ผลิต.. มิชอบสินค้าที่นำเสนอเพื่อ..แลกคะแนน หรือกดขอบคุณ..แต่ชอบสินค้าคุณภาพเจ้าค่ะ ..ม้วนเสื่อกลับบ้าน เช่นกัน..จบ.. หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 09 มกราคม 2013, 11:07:AM (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) (http://www.klonthaiclub.com)
๐ช่วงนี้น่ะเงียบเหย้า เชียบเชาว์ เชียวนา หลายท่านบ่นเบาเบา เบื่อบ้าง มวลมิตรเก่งกาจเขา ก็หลีก ลี้นอ ท้อต่อกลอนโคลงค้าง ห่างบ้านกลอนไกล ๐ถามใจตนแต่งด้วย มนตร์ใด อ้อ!!รักภาษณ์พงศ์ไทย ถิ่นแท้ เปลี่ยวบ้างไป่เป็นไร รักษ์อยู่ นิรันดร์นา กาลเปลี่ยนเพื่อนอย่าแพ้ ผลุบขึ้นขึงขัง ๐ปล่อยพลังสมองประกาศก้อง กลอนสลวย ตัวกระผมย่อมอวย อรรถอ้าง จะเหลือหนึ่งซึ่งสวย สมปราชญ์ ดีกว่าบ่เหลือ, ร้าง เยื่อชี้นี่สยามฯ ๐มิตรอย่าคร้ามครั่นคว้า คำคม ตั้งเถิดกระทู้รมย์ รื่นเร้า ใครบ่อ่านเราชม เราชื่น เองนา บ้านบ่เหลือไผเฝ้า ก็ครื้นเครงเองฯ (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_030.gif) (http://www.klonthaiclub.com) หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: ช่วงนี้ไม่ว่าง ที่ 09 มกราคม 2013, 12:43:PM สำหรับใครที่กลัวว่า กลอนที่ดีๆของตัวเองจะถูกเบียดและตกไปจากหน้าจออย่างรวดเร็ว วันนี้ผมมีวิธีแก้มานำเสนอครับ ใครจะนำไปใช้ก็ได้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ นั่นก็คือ ให้คุณทำการ ปริ๊นต์กลอนลงในแผ่นกระดาษแล้วใช้สก๊อตเทปแปะติดไว้กับหน้าจอเลย คราวหลังทุกๆครังที่ เปิดคอมขึ้นมาคุณจะได้เห็นกลอนของตัวเองลอยเด่นติดอยู่หน้าจอชัดเจนโดยไม่มีการถูกเบียดตกหล่นไปไหน อย่าลืมเขียนโน๊ตสั้นๆกำกับไว้ด้วยว่า"ห้ามดึงออก" emo_45 หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: เสริมสูรย์ ที่ 09 มกราคม 2013, 03:25:PM หากจะเปรียบคนแต่งกลอนเป็นเหมือนผู้ผลิตสินค้า สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการแต่งกลอนก็คือ ๑.ความสุขใจ,ความพอใจของผู้อ่าน ซึ่งเปรียบไปก็เหมือนกับผู้บริโภคที่มาซื้อสินค้าของเรา ๒.ความสุขใจ,ความพอใจของเพื่อนนักกลอนด้วยกัน ซึ่งเปรียบไปก็เหมือนผู้ผลิตสินค้าด้วยกันแต่ต่างแบรนด์ ซึ่งอาจจะเป็นลูกค้าของเราด้วย หรือไม่บางทีก็อาจจะเป็นคู่แข่ง,ศัตรูทางการค้า ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราแต่งกลอนเพื่อจะเอาใจใคร คนอ่านหรือว่านักกลอน ...................................... "ช่วงนี้ไม่ว่าง๑" ......................................... ถ้าแทนที่จะมีแต่การต่อกลอนจากนักกลอนด้วยกันมาเป็นการคอมเม้นท์จากผู้อ่านที่เป็นผู้อ่านจริงๆที่ไม่ใช่กากีนั้งคิดว่าน่าจะเพิ่มเชื้อไฟให้ลุกโพลงขึ้นมาได้ ......................................... "ช่วงนี้ไม่ว่าง๒" (http://upic.me/i/5m/r5mic.jpg) สมันยังเป็นหนุ่มมาก ชอบแต่งกลอนหวาน กลอนเพ้อ กลอนอกหัก อยากให้ "คนนั้น" อ่าน และชมเชย แต่ที่เป็นจริงก็คิอ "เขียนเอง อ่านเอง เออเอง" เลิกเขียนกลอนไป ๒๐ ปี เพราะไม่มีคนอ่าน ไม่มีเวทีชก หมดไฟ แถมไม่มีเชื้อ จากนั้นถูกสะกิดให้คืนชีพ (โดยบังเอิญ) อีก ๒-๓ ปี แล้วก็หยุดไปอีก (อกหักอีก) เพิ่งกลับมาชกที่เวทีนี้ เมื่อไม่กี่เดือนนี้เอง เพราะเห็นคนดูแยะ ปี่กลองระทึกใจ เหตุที่กลับมาครั้งนี้เพราะมีเพื่อนรัก (อยู่สังเวียนอื่น) ร่วมคุยด้วยเขียน (กลอน) ด้วย เรียกว่าคุยกันเรื่องกลอนจนค่อนคืน ก็ว่าได้ อ้อ... เป็นเพื่อนสมัยเรียนหนังสือน่ะ และการชก season นี้ อาจจะเป็นการชกฤดูกาลสุดท้ายในชีวิตผม.... ก็เป็นได้! มาคราวนี้ความรู้สึกปรับเปลี่ยนไปแยะ ที่คุณช่วงฯ กล่าวว่า สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการแต่งกลอนก็คือ ๑.ความสุขใจ,ความพอใจของผู้อ่าน ในความรู้สึกของผม กลับกลายเป็นว่า ผมมีความสุขที่ได้เขียนสิ่งที่ผมอยากเขียน (จบ) และหากจะมีต่อ (แน่ละ! อันดับ ๒) มีโอกาส "สื่อ" สิ่งที่เขียนแก่ใครก็ได้ที่อยาก "เสพ" มัน อันดับ ๑ ของคุณช่วงฯ จึงเป็นอันดับ ๓ ของผม (ขออภัย มิได้ดิสเครดิต หรือบลัฟฟ์ กันนะครับ) emo_126 ส่วนจะขายดิบขายดี หรือขายไม่ออกกองในสต๊อคใต้ถุนบอร์ด ผมแทบจะไม่สนใจครับ ขอบคุณที่ให้โอกาสนักมวยฤดูกาลชกสุดท้าย ได้จับไมค์ระหว่างพักยก (แม้ผู้ชมส่วนใหญ่กำลังเพลิดเพลินกับ พริตตี้ emo_119 ที่ถือป้ายบอกยกบนเวที ก็ตามเถอะ) นี่ถ้าไม่มี quote ที่ ๒ ของคุณช่วงฯ ผมคงไม่กล้ารับไมค์นะเนี่ย เหอ! เหอ! อายุบวร* ครับ *อายุบวร เป็นคำทักทายกันของชาวศรีลังกา ทำนอง "สวัสดี" ของไทย ผมชอบคำนี้มาก ใช้ทักทายกับเพื่อนสนิทบางคนจนติดปาก และติดท้ายเมล์เสมอๆ หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: เสริมสูรย์ ที่ 09 มกราคม 2013, 03:42:PM ยอมรับว่า ไม่กล้า วางหัวข้อใหม่ เช้าไปไร่ ไล่วัว ตีเผียะเผียะ เราคนแก่ ยักแย่ ใส่แต่เกี๊ยะ กลัวโดนเลียะ ไม่ทัน ตอบกระทุ กระทุ แผลงมาจาก กระทู้ emo_100 รพีกาญจน์ (http://upic.me/i/jk/pygqo.jpg) เขียนให้แยะแปะไว้ให้อ่านเถอะ เขียนให้เยอะเหลือไว้ใช้ปะผุ รถมันเก่าเราจ้องมองทะลุ ถึงได้ยุให้รำ*ขำไหมฮะ? *แค่ยุให้รำ แค่ไม่เคยตำให้รั่ว หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: เสริมสูรย์ ที่ 09 มกราคม 2013, 03:57:PM .............................. คนที่เคยบอกว่า ชอบกลอนพี่ดาวจัง ยังไม่แล เคยต่อกลอน1ยังไม่ต่อ ลงไปก็ไม่มีคนอ่าน แล้วยังจะกล้า2มาลงกลอนอีกหรือ ดาว อาชาไนย (http://upic.me/i/4g/od24r.jpg) 2ใครกล้าครับ? พี่ดาว หรือ คนที่เคยบอก? หุ หุ 1ผมเป็นช่างซ่อมกลอนครับ เรียกใช้ได้ ๒๔ ชม. (๐๒) ๒ อย่า ๒ สุ่ม ๔ สุ่ม ๕ เหอ เหอ หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: เสริมสูรย์ ที่ 09 มกราคม 2013, 04:30:PM ............................... ขออภัย จริงใจ ใช่ล้อเล่น กลอนใครเด่น ต่อมาก มิขากเขิน แต่ถูกจิต มิตรรัก ชักต่อเพลิน พ่อมหา จำเริญ เชิญลงกลอน พันทอง (http://upic.me/i/lq/1g6ly.jpg) การลงกลอนสมัยนี้ทีหายาก คำน้องฝากทิ้งท้ายในบทก่อน พี่นั่งตรึกตรองไปใกล้ม้วยมรณ์ ที่ "ลงกรณ์" ก็เห็นแต่แค่ "จุฬา" เสียงจากยอดดอยแว่วๆ: "โคซาหมัยนี้ใช้แต่ลู่บิละ" . หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 09 มกราคม 2013, 08:14:PM ............................... ขออภัย จริงใจ ใช่ล้อเล่น กลอนใครเด่น ต่อมาก มิขากเขิน แต่ถูกจิต มิตรรัก ชักต่อเพลิน พ่อมหา จำเริญ เชิญลงกลอน ฟันทอง ([url]http://upic.me/i/lq/1g6ly.jpg[/url]) การลงกลอนสมัยนี้ทีหายาก คำน้องจากทิ้งท้ายในบทก่อน พี่นั่งตรึกตรองไปใกล้ม้วยมรณ์ ที่ "ลงกรณ์" ก็เห็นแต่แค่ "จุฬา" เสียงจากยอดดอยแว่วๆ: "โคซาหมัยนี้ใช้แต่ลู่บิละ" emo_126 emo_126 ตาเสริมสูรย์ มูลเหตุ มีเลสเล่ห์ ชื่อเขาเก๋ จะตาย ทำขายหน้า พันทองนะ มิใช่ ฟันทองนา หรือหูตา พร่ามัว มั่วไหมคุณ จะตัดแว่น ให้ใส่ ไว้ขยาย จะได้อ่าน ง่ายดาย ไม่วายวุ่น รีบมาแก้ ไขใหม่ ได้การุณย์ เตรียมกระสุน ไว้รอ พ่อรีบมา พันทอง emo_126 emo_126 หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 09 มกราคม 2013, 08:27:PM emo_111 emo_111 emo_111 เห็นกลอนฮิทมิตรรักขอปักหมุด “ฮ็อท”ที่สุดวันนี้ไม่หนีหน้า เดี๋ยวตกเทรนเล่นกันทุกวันมา ขอใส่ตรา”ลุงไพร”ไว้ด้วย เนาะ “ไพร พนาวัลย์” emo_94 หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 09 มกราคม 2013, 08:51:PM emo_100 ทีผู้สาวคราวใดไล่ตามต่อ ไม่ระย่อพ้อปองกับน้องหนู ไม่เห็นท้อต่อปากน้ำหมากพรู เราแอบดูอยู่หลังยังนึกเคือง... emo_120 emo_26 emo_32 บูรพาฯ emo_126 เป็นไปตามความคำทำนายทัก ชาตินี้จักมักมีดีร้ายเรื่อง ชอบสุงสิงจริงใจใช้หวานเปลือง หนีเนืองเนืองเคืองขู่จากผู้ชาย emo_86 รพีฯ หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 09 มกราคม 2013, 09:08:PM emo_116 emo_116 emo_116 กระทู้เก่า หรือใหม่ เราไม่สน ต่อทุกคน เลยจ้า อย่าหาเรื่อง แต่ช่วงนี้ เวลาน้อย คอยเนืองเนือง ไม่ขุ่นเคือง หรอกเจ้า โปรดเข้าใจ ลงมาเลย กระทู้ หนูรีบต่อ อย่าไปท้อ ตีตน หม่นหมองไหม้ ดีไม่ดี ก็รอ ต่อกลอนไป กลอนของใคร วางมา ไม่พาเมิน ขออภัย จริงใจ ใช่ล้อเล่น กลอนใครเด่น ต่อมาก มิขากเขิน แต่ถูกจิต มิตรรัก ชักต่อเพลิน พ่อมหา จำเริญ เชิญลงกลอน พันทอง emo_126 emo_126 emo_126 พ่อมหาจำเริญก็เกินทิด ทำเบือนบิดยืดขยักเก็บอักษร ดูทีหรือพันทองน้องเว้าวอน ทำเป็นนอนตีพุงให้ยุงกัด เนินจำรายใจร้อนอาทรเจ้า จึงต้องเข้ามาต่อพอแก้ขัด คำอึกอักช่วยผ่านอ่านรวบรัด ทั้งสำบัดสำนวนยังรวนเร เลยปีใหม่หลายวันพอทันย้อน มาร้องกลอนตั้งขบวนแบบสรวลเส เชิญเปิดม่านขานคำทำฮาเฮ ลงตังเกหาปลาเอามากิน หรือชมทุ่งคุ้งหนองคลองละหาน ห้วยลำธารหมอกฟ้าภูผาหิน แจ้งเพื่อนพ้องไกลใกล้ได้ยลยิน รวมทั้งสิ้นทุกท่านทั่วบ้านกลอน เนิน จำราย หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 09 มกราคม 2013, 09:26:PM (http://image.ohozaa.com/i/6f2/1KYc7.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wgaHzaY4enCOYHJF) รีบมาต่อ ขอขอบ มอบหนึ่งแต้ม พร้อมกับแย้ม ยิ้มสวย สำรวยก่อน เจอพ่อหนุ่ม รูปหล่อ มาง้องอน (คิดเอาเองจ้า) ตามต่อกลอน ดีใจ เหมือนได้ทอง ดูคึกคัก สักหน่อย อย่าปล่อยผ่าน จดจ้องนาน มานร้าว หนาวสยอง รีบเร่งเข้า มาไว ใจลำพอง อย่ามัวมอง น้องพี่ รี่เข้ามา คนละบท สองบท มันหยดย้อย อย่าชม้อย แลเล็ง เร่งหน่อยหนา สามทุ่มแล้ว ขอจร ไปก่อนนา พรุ่งนี้ว่า กันใหม่ ไปแล้วเอย พันทอง (http://image.ohozaa.com/i/6f2/1KYc7.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wgaHzaY4enCOYHJF) หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 09 มกราคม 2013, 09:31:PM กระทู้กลอนน้อยลงคงต้องคิด เมียสะกิดว่าน้อยลงคงสังหรณ์ ร่างกายคงเข้าชราเราว่าวอน นั่งแต่งกลอนแต่ละบทรันทดใจ ออกนอกบ้านพานพบสบน้องหนู เอ๊ะ!ยังสู้คระครื้นระรื่นไหว แปลกจริงหนอขอบอกมิหลอกใคร เชื่อหรือไม่...กระทู้มากต้องจากเมีย ---กังวาน--- หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: เสริมสูรย์ ที่ 10 มกราคม 2013, 12:22:AM .................... จะตัดแว่น ให้ใส่ ไว้ขยาย จะได้อ่าน ง่ายดาย ไม่วายวุ่น รีบมาแก้ ไขใหม่ ได้การุณย์ เตรียมกระสุน ไว้รอ พ่อรีบมา พันทอง emo_126 emo_126 (http://upic.me/i/l8/mapc4.jpg) เตรียมกระสุนไว้แล้วก็แจวดิ ตั้งสติละโหวยโกยละหวา ยิ่งฟันน้องต้องไม่ธรรมดา เฉาะกบาลสักคราร้ายกว่าปีน หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: ..กุสุมา.. ที่ 10 มกราคม 2013, 09:46:AM (http://www.nanagarden.com/Picture/Product/400/111660.jpg) เสียงจากยอดดอยแว่วๆ: “โคซาหมัยนี้ใช้แต่ลู่บิ” กลอน..บนดอยเดือดร้อนนอนสะดุ้ง รีบเปิดมุ้งหรี่ตาโผล่หน้ายื่น ลู่..บิ ดอยแกล้มเหล้าเมาซดกลืน ยิ้มสดชื่นลู่หมู..รึลู่บิ emo_40 โคอาลัยม่ายรุ..ลู่ (เหลู้าบ) emo_26 emo_20 จากมะหน่อแม่นาย..สีลา นะหละปูน.. emo_45 หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 10 มกราคม 2013, 01:59:PM ([url]http://www.nanagarden.com/Picture/Product/400/111660.jpg[/url]) เสียงจากยอดดอยแว่วๆ: “โคซาหมัยนี้ใช้แต่ลู่บิ” กลอน..บนดอยเดือดร้อนนอนสะดุ้ง รีบเปิดมุ้งหรี่ตาโผล่หน้ายื่น ลู่..บิ ดอยแกล้มเหล้าเมาซดกลืน ยิ้มสดชื่นลู่หมู..รึลู่บิ emo_40 โคอาลัยม่ายรุ..ลู่ (เหลู้าบ) emo_26 emo_20 จากมะหน่อแม่นาย..สีลา นะหละปูน.. emo_45 ลู่หมู ลู่บิ ขอแผลงเป็น ลูกหมู ลูกบิด กลอนบุราณ ดานลิ่ม หัวทิ่มบ่อ ชักคะยอ ขึ้นลง ตรงเปิดปิด มะเลื่อมใส ไล่ลม จมช่องมิด แนบสนิท อุกตุก กลอนลูกหมู emo_87 ว่าด้วยกลอน วางรูปไม่เป็นอ่ะ หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 10 มกราคม 2013, 06:57:PM .................... จะตัดแว่น ให้ใส่ ไว้ขยาย จะได้อ่าน ง่ายดาย ไม่วายวุ่น รีบมาแก้ ไขใหม่ ได้การุณย์ เตรียมกระสุน ไว้รอ พ่อรีบมา พันทอง emo_126 emo_126 ([url]http://upic.me/i/l8/mapc4.jpg[/url]) เตรียมกระสุนไว้แล้วก็แจวดิ ตั้งสติละโหวยโกยละหวา ยิ่งฟันน้องต้องไม่ธรรมดา เฉาะกบาลสักคราร้ายกว่าปีน (http://image.ohozaa.com/i/944/bXKTut.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wxi4whIZ5ZtgqGLI) สติแตก แยกร่าง ทางคตเคี้ยว คงนอนเปลี่ยว เดียวดาย คล้ายทนฝืน ผุดลุกนั่ง หวังรวย ซวยทั้งคืน เจอลูกปืน ยิงกราด อนาถนา ทำลับล่อ หลอกเล่น ประเคนให้ ศอกสับใส่ ใจกลาง ระหว่างขา ตาเหลือกหลน ลนลาน ปานชีวา เตะฝ่าหมาก ปากอ้า อยากซ่าส์นัก พันทอง (http://image.ohozaa.com/i/944/bXKTut.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wxi4whIZ5ZtgqGLI) หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 10 มกราคม 2013, 09:54:PM ไม่้เคยกลัวกลอนตายไม่อายหรอก แค่อยากบอกความในใจใส่กลอนหนัก ไม่ค่อยมีลีลากลอนน่ารัก เนื้อหาหลักมักบ่นปนเปกลอน (มาส่งกลอนหนึ่งกระทู้ครับ และก็มาดูกลอนที่เพื่อนต่อกระทู้ด้วย emo_126) หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: พยัญเสมอ ที่ 15 มกราคม 2013, 12:00:PM สุภาษิตว่าไว้ "ยิ่งสูงยิ่งหนาว" อ่านจากในกระทู้ เห็นบอกว่ามีหลายคนในบ้านกลอนไทย ไม่กล้าเปิดหัวข้อใหม่ เพราะกลัวว่ากระทู้จะเป็นหมัน ไม่มีใครตอบ ทีแรกผมก็งงจริงๆเหมือนกันแฮะ ว่าเรื่องแค่นี้เองทำไมถึงต้องอายด้วย แต่พอนึกไปนึกมาก็คล้ายกับจะได้คำตอบว่า โอ๋วววว ก็บางคนเขา มีคะแนนสูงถึงหลักพัน มันก็เป็นธรรมดาอยู่เองที่เขาจะต้องกลัวว่าเมื่อลงกลอนไปแล้วกลัวไม่มีคนอ่านไม่มีคนตอบ ถ้าลงไปแล้วไม่มีใครเข้า อ่านหรือมาคอมเม้นท์มีหวังได้อับอายขายหน้าประชาชีแน่ มันไม่เหมือนกับเราที่มีคะแนนกลอนกิ๊กก๊อกเพียงไม่กี่คะแนนเท่านั้น จะมีใครมาตอบ หรือไม่มันก็ไม่สำคัญอะไรนัก เปรียบเทียบกับตอนที่เราเล่นกูรู แรกๆก็ไม่มีอะไร แต่พอตอบไปๆ ชื่อเสียงก็เพิ่มขึ้นจนกระทั่งติดท็อป(ในบอร์ดเล็กๆบอร์ดหนึ่งในกูรู) จากนั้นก็ค่อยๆไต่อันดับขึ้นจากอันดับ ๑๐ เป็น ๙-๘-๗ พออันดับขึ้นมาถึง ๔ เราเริ่มกังวลลใจแล้ว ที่กังวลใจก็คือเรามีชื่อเสียงติดอยู่ในอันดับ ๔ ในบอร์ดนั้น เรากลัวว่าจะมีผู้เชิญเราไปถาม(ตั้งคำถามโดยเชิญเราให้ไปตอบโดยตรง)แล้วเราตอบไม่ได้ ในฐานะที่มีชื่อเสียงติดท็อปอยู่ในบอร์ด ที่จัดว่าค่อนข้างสูง ถ้าเกิดตอบไม่ได้เรามีหวังอับอายขายขี้หน้าแน่ ยิ่งชื่อเสียงขึ้นมาอยู่อันดับ ๓ เราก็ยิ่งกังวลมากขึ้น ในที่สุดเมื่อชื่อเสียงขึ้นมาอยู่ ในอันดับสอง เราเลยตัดสินใจเลิกเล่นกูรูไปหลายเดือนเพื่อรอให้คนอื่นแซงหน้าไปซะก่อน โดยหันไปใช้ชื่ออื่นแทน(ในกูรูไม่ได้ห้ามมีหลายชื่อ อย่างบ้านกลอนไทย) แตเจ้ากรรม พอเวลาผ่านไป คำตอบที่เราเคยไปตอบไว้ก็ได้รับเลือกทำให้ชื่อเสียงเราเพิ่มขึ้นจนแซงขึ้นไปอยู่ในอันดับหนึ่ง ผลสุดท้ายเราก็เลยต้องใช้อีกบัญชีหนึ่งอย่างถาวรมาจนกระทั่งทุกวันนี้ จากเรื่องที่เล่ามานี้จะเห็นได้ว่า สำหรับบางคนก็อยากจะได้และไปให้ถึงอันดับหนึ่ง แต่สำหรับบางคนก็รู้สึกหวั่นเกรงที่จะต้อง ไปอยู่ในอันดับหนึ่งเป็นเป้าเด่นให้คนอื่นโจมตีได้ง่ายๆ ดังนั้นเราจึงพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมบางคนถึงไม่ค่อยกล้าจะเปิดกระทู้ใหม่ๆด้วยเหตุผล ที่ว่า กลัวจะไม่มีใครเข้าไปอ่าน กลัวจะไม่มีใครเข้าไปตอบ กลัวจะกระทู้จะตกบอร์ดเก้อ ก็เพราะเขามีคะแนนกลอนอยู่ในอันดับที่สูงนั่นเอง ส่วนเรามันคะแนนกลอนกิ๊กก๊อก จะมีใครอ่านหรือไม่ มันก็ไม่สำคัญอะไรสำหรับเราอยู่แล้ว emo_45 นี่หรือเปล่า ที่เขาบอกว่า ยิ่งอยู่สูงยิ่งหนาวน่ะ emo_68 หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: พยัญเสมอ ที่ 15 มกราคม 2013, 12:11:PM emo_89 emo_89 emo_89 emo_89 emo_89
ผู้มีคะแนนกลอนมากที่สุด 5 อันดับแรก ณ วันที่ 15 มกราคม 2556 emo_94 1. รพีกาญจน์ 1600 คะแนน 2. panthong.kh 1309 " 3. --ณัชชา-- 1232 " 4. ไพร พนาวัลย์ 1007 " 5. yaguza 932 " emo_100 emo_68 emo_126 หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: กังวาน ที่ 15 มกราคม 2013, 12:53:PM คุณมือขวามาเข้าใจอะไรผิด มันเป็นสิทธิลงกลอนตอนเขาแต่ง เพราะบางทีไม่มีเวลาจะมาแจง เขาต้องแบ่งเวลามาว่ากลอน กระทู้ใหม่ไม่ตั้งฟังไว้ก่อน มิผลัดผ่อนของคนอื่นยื่นอักษร แค่ตอบตามอ่านตามก็งามงอน จึงขอวอนให้เข้าใจไม่ต้องจำ คะแนนเยอะใช่เรื่องใหญ่ใครใครสน ชื่อเสียงล้นไม่แต่งมาช่างน่าขำ คนที่นี่มีหัวใจไม่แกล้งอำ เพราะเขาทำด้วยใจรัก....ของนักกลอน ขอแสดงความนับถือ ---กังวาน--- หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 15 มกราคม 2013, 01:28:PM emo_89 emo_89 emo_89 emo_89 emo_89 ผู้มีคะแนนกลอนมากที่สุด 5 อันดับแรก ณ วันที่ 15 มกราคม 2556 emo_94 1. รพีกาญจน์ 1600 คะแนน 2. panthong.kh 1309 " 3. --ณัชชา-- 1232 " 4. ไพร พนาวัลย์ 1007 " 5. yaguza 932 " emo_100 emo_68 emo_126 ใช้สิทธิ์พาดพุง emo_44 ท่านมือขวามั่ว คิดแทนคนอื่นได้ไง -ณัช- emo_52 หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 15 มกราคม 2013, 02:36:PM ทุกคนมีสิทธิ์คิด ทุกคนมีสิทธิ์เขียน ถ้าความเห็นต่างควรเคารพซึ่งกันและกัน ควรสร้างความเข้าใจแทนการโกรธเคือง บางทีเป็นเรื่องแค่นิดเดียวเท่านั้น ผมว่างเว้นแต่งกลอนนานเกือบ 40 ปี เพราะต้องทำงานตามกรอบที่วางไว้ให้สำเร็จ ลูกชายแนะนำให้รู้จักบ้านกลอนไทย ซื้อคอมพ์มือสอง ลองจิ้มใช้หัดแต่งกลอน กลอนชิ้นแรกวาง 6 มกราคม 2554 ในชีวิตไม่เคยคิดและไม่เคยส่งอะไรประกวด คิดว่าจะอยู่เพียง 1 ปี(ลูกชายไปก่อนแล้ว) เพราะรักกลอนครับจึงอยู่เรื่อยมาจนบัดนี้ ทุกอย่างที่มีในกลอนของผม สะท้อนมาจากประสบการณ์และเรื่องจริงเกือบทั้งสิ้น ยกเว้นเรื่องความรักทะลึ่งทะเล้น ผมไม่มีความลับและไม่เก็บผลงานกลอนครับ ที่ผมไม่ตั้งกระทู้เพราะว่า มีงานส่วนตัวและงานส่วนรวมต้องทำ เข้ามาอ่านกลอน มีเวลาเขียนตอบนิดหน่อยเท่านั้น กลัวคนอื่นโกรธผม แต่ผมไม่โกรธใครครับ emo_126 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: พยัญเสมอ ที่ 15 มกราคม 2013, 05:04:PM 55555 ต้องขออภัยทุกท่านด้วยที่เอ่ยนาม แต่เป็นการเอ่ยเพียงเพื่อให้รู้ว่าใครบ้างที่มีคะแนนกลอนอยู่เป็นอันดับต้นๆเท่านั้นนะครับ ไม่ได้หมายความว่าท่านเหล่านั้นจะต้องเกรงกลัวที่จะต้องตั้งกระทู้ใหม่ดังว่า(...ข้าน้อยขออภัย..... emo_20) บางทีผมอาจจะผิด.....ที่ใช้ตนเองมาเป็นบรรทัดฐานตัดสินผู้อื่นว่าผู้อื่นจะต้องเป็นเหมือนกับตัว...ซึ่งคนเราแต่ละคนจะคิดไม่เหมือนกัน เพียงแต่มันเกิดความสงสัยว่า เหตุใดจึงมีเพื่อนสมาชิกบางคน(ซึ่งก็ไม่ทราบว่าใคร...เพราะเขาไม่ได้ระบุชื่อ)เกิดความกลัวที่จะต้อง ตั้งหัวข้อใหม่ขึ้นมาเพียงเพราะกลัวว่ากลอนจะไม่มีใครตอบ กลัวจะตกบอร์ด เป็นกลอนตาย เราก็ต้องมานั่งคิดหาเหตุผลว่า เหตุใดเขาถึงกลัว(ไม่รู้จะถามกับใครเพราะเขาไม่ได้ระบุชื่อ) ดังนั้นก็เลยต้องคิดแบบใช้ตรรก เอา และตรรกข้อหนึ่งก็คือ ทฤษฎียิ่งสูงยิ่งหนาว ที่ถูกหยิบยกมาสำหรับแก้ข้อสงสัยนี้ โดยใช้ตัวผมเองเป็นบรรทัดฐาน(ซึ่งมันอาจจะผิดก็ได้ เพราะคนเราคิดไม่เหมือนกัน) แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องยอมรับก็คือ เมื่อคนเราเดินทางมาถึง ณ จุดๆหนึ่งซึ่งถือว่าอยู่ในจุดที่สูงเหนือ กว่าคนอื่นๆแล้ว จะทำอะไรก็ยิ่งจะต้องระมัดระวังไปหมด เพราะกลัวจะพลาด จนเกิดมีคำพูดเปรียบเทียบว่า ยิ่งสูงยิ่งหนาว,ไม้ใหญ่ล้มเสียงดัง อะไรทำนองนี้ ซึ่งกับคนทั่วไปที่ยังไม่มีโอกาสมาถึงจุดนี้จะไม่มีวันเข้าใจได้เลย แต่ก็อีกนั่นแหละ...บางทีความคิดของผม กับข้อสรูปว่า ยิ่งสูงยิ่งหนาวมันอาจจะผิดพลาดก็ได้ จริงๆแล้วมันเป็นแค่การไขข้อข้องใจให้กับตนเอง แล้วเอามาแชร์เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะไปลบหลู่ผู้หนึ่งผู้ใด ถ้าทำให้โกรธเคื่อง ข้าน้อยต้องขออภัย อิอิ emo_126 หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 15 มกราคม 2013, 05:25:PM emo_111 emo_101 emo_111 จะอยู่สูงหรือต่ำใช่ลำบาก มีเวลาไม่มากไม่อยากตั้ง เข้ามาเพื่อพักผ่อนดั่งนอนรัง ใช่อยากดังอยากเด่นเพียงเล่นกลอน ขอชื่นชมนักฝันขยันตั้ง ที่คอยหลั่งเรียงรายรำบายก้อน รอยหยักแห่งสมองส่องบัญชร ฝากสุนทรผองเพื่อนเยี่ยมเยือนกัน ไม่รู้ร้อนรู้หนาวยามก้าวสู่ เพราะทุกผู้คือเพื่อนเยือนสุขสันต์ บ้านหลังนี้มีสุขทุกคืนวัน ร่วมสร้างสรรค์บรรณพิภพให้อบอวล emo_56 “ไพร พนาวัลย์” หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: ..กุสุมา.. ที่ 15 มกราคม 2013, 05:31:PM emo_116 emo_95 emo_100 “ ยิ่งสูงยิ่งหนาว “ ยิ่งไม่เข้าใจ.. สุดท้ายก็กลับสู่สามัญ ..อย่าสนใจ อย่าใส่ใจ กับตัวหนังสือที่ข้าพเจ้านำมาวางเลย ตัวอักษรที่วางอยู่นี้เป็นแค่เหตุการณ์สมมุติ ไม่ใช่เรื่องจริง เป็นแค่ศิลปะ อ่านจบแล้วก็แล้วไป จะเกิดเป็นเรื่องจริงไม่ได้ ก็แค่นำอักษรมาเรียงให้อ่านเป็นเรื่องราว แล้วแต่ผู้ใดจะอ่าน ไปตามความรู้สึก นึกคิดของใคร สุดท้ายก็คือความว่างเปล่า ..แต่..กระจกเงาที่สะท้อนกลับออกมาหลังการอ่าน..สามารถส่องให้เห็นจิตใจและ พฤติกรรมของแต่ละคนว่าเป็นเยี่ยงใด.. emo_26 ๐ ถ้าเมื่อใดคนอ่าน อ่านตามตัวหนังสือเข้าใจในศิลปะ เข้าใจในสิ่ง ที่ผู้เขียนอยากสื่อ รสชาด เรื่องราวสมมุติให้ได้อรรถรสตามตัวอักษร ที่นำมาวาง..ผู้นั้นเข้าใจกวี.. emo_85 emo_82 หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 15 มกราคม 2013, 05:35:PM คนเราคิดต่างกันนั้นจริงอยู่ ใครจะรู้ว่าใครไม่ถือสา จะพาดพิงผู้ใดให้มองตา เดี๋ยวเขาเคืองขึ้นมาไม่เข้าที หลายเหตุผลคนคิดไปไม่มีเหมือน จะตักเตือนต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรี แม้นว่าเรามุ่งหวังตั้งใจดี เขาอาจมีโทสะในอารมณ์ ใครแต่งกลอนอย่างไรตามใจเถิด แค่อยากเปิดกระทู้ใหม่ให้เหมาะสม มีกลอนตอบซ้ำมากไปไม่น่าชม แต่ถ้าคุณนิยมก็ตามใจ emo_126 หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: yaguza ที่ 15 มกราคม 2013, 06:17:PM เปรียบเทียบกับตอนที่เราเล่นกูรู แรกๆก็ไม่มีอะไร แต่พอตอบไปๆ ชื่อเสียงก็เพิ่มขึ้นจนกระทั่งติดท็อป(ในบอร์ดเล็กๆบอร์ดหนึ่งในกูรู) จากนั้นก็ค่อยๆไต่อันดับขึ้นจากอันดับ ๑๐ เป็น ๙-๘-๗ พออันดับขึ้นมาถึง ๔ เราเริ่มกังวลลใจแล้ว ที่กังวลใจก็คือเรามีชื่อเสียงติดอยู่ในอันดับ ๔ ในบอร์ดนั้น เรากลัวว่าจะมีผู้เชิญเราไปถาม(ตั้งคำถามโดยเชิญเราให้ไปตอบโดยตรง)แล้วเราตอบไม่ได้ ในฐานะที่มีชื่อเสียงติดท็อปอยู่ในบอร์ด ที่จัดว่าค่อนข้างสูง ถ้าเกิดตอบไม่ได้เรามีหวังอับอายขายขี้หน้าแน่ ยิ่งชื่อเสียงขึ้นมาอยู่อันดับ ๓ เราก็ยิ่งกังวลมากขึ้น ในที่สุดเมื่อชื่อเสียงขึ้นมาอยู่ ในอันดับสอง เราเลยตัดสินใจเลิกเล่นกูรูไปหลายเดือนเพื่อรอให้คนอื่นแซงหน้าไปซะก่อน โดยหันไปใช้ชื่ออื่นแทน(ในกูรูไม่ได้ห้ามมีหลายชื่อ อย่างบ้านกลอนไทย) แตเจ้ากรรม พอเวลาผ่านไป คำตอบที่เราเคยไปตอบไว้ก็ได้รับเลือกทำให้ชื่อเสียงเราเพิ่มขึ้นจนแซงขึ้นไปอยู่ในอันดับหนึ่ง ผลสุดท้ายเราก็เลยต้องใช้อีกบัญชีหนึ่งอย่างถาวรมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ขี้โม้โคตร emo_87 emo_87 emo_87 ....ยากูซ่า.... หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 15 มกราคม 2013, 06:44:PM emo_89 emo_89 emo_89 มีมุมต่างกางออกบอกเฉลย จากใจเผยเอ่ยแจ้งแถลงไข ระบายความตามจิตที่คิดไป สื่อความนัยให้เห็นเป็นเรื่องดี อย่าหมองหมางสร้างความจะลามลุก หมดสนุกสุขกลอนอักษรศรี ทุกวันนี้มีเรื่องเคืองมากมี ขอสักที่หนีห่างเพื่อล้างใจ... emo_05 --บูรพาฯ-- emo_126 หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: พยัญเสมอ ที่ 15 มกราคม 2013, 06:48:PM เหอะ โม้อะไรกัน ก็บอกแล้วว่าบอร์ดเล็กๆบอร์ดหนึ่ง emo_87 emo_87 emo_87 emo_87 หัวข้อ: Re: ทำไมมีหัวข้อกระทู้กลอนน้อยลง เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 16 มกราคม 2013, 01:19:AM ยิ่งอยู่สูงยิ่งหนาวน่ะ (ยิ่งสาวทำไมยิ่งไม่สวยนะ emo_26) งั้นก็เข้าตำรา ขึ้นขี่หลังเสือแล้วอย่าลงมาให้เสือกัด แถมยังแทะกระดูกต่ออีก emo_34 ช่วงนี้ไม่ใคร่ว่าง จึงไม่มีเวลาขยันขึ้นหัวข้อจ้า แบบว่า...ขอพลอยซบกอดไปพลางๆทุกที่นั่นแหละค่ะ ขออย่าถือสากันก็แล้วกันนะคะ .... ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ emo_126 จากใจรัก รัตนาวดี emo_116 (http://2.bp.blogspot.com/-nlGH3L8CGis/UA9hH5rFCbI/AAAAAAAAC9c/dpIJ6DBP8Tw/s1600/1280157781.gif) |