หัวข้อ: กลิ่นแก้ว เริ่มหัวข้อโดย: kradan ที่ 09 ธันวาคม 2012, 11:14:PM ต้นแก้วแตกกิ่งไพศาล สูงเทียมคคนานต์ ยื่นก้านเป็นรังปักษี มาลาเกลื่อนปกธรณี เฉกดวงฤดี ตกหล่นสุดฝืนขื่นขม กลิ่นแก้วกำจรตามลม หอมหวนชวนดม แต่เราเฝ้าตรมฤทัย นึกถึงคนราร้างไกล ทัดบุหงาให้ แต่วันนี้ใยห่างหาย ทิ้งให้เราเฝ้าเมามาย อ้างว้างเดียวดาย ร้องไห้ใต้แก้วลำพัง.. หัวข้อ: Re: กลิ่นแก้ว เริ่มหัวข้อโดย: พิมพ์วาส ที่ 10 ธันวาคม 2012, 11:33:AM ละเมียดละไมภวังค์ ว่าอนิจจัง
เกินรั้งเกินห้ามแก้วไว้ กลีบร่วงกลีบโรยโชยไป อาลงอาลัย ระทมซานซมตรมคราง หม่นไหม้หม่นหมองจำจาง ใจแรมใจร้าง เคว้งคว้างคว้างเคว้งเขวทรวง ธรณินทร์แผ่นดินไม่ลวง หลั่งน้ำตาร่วง หยดปรอยหยดคคนางค์ (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_176.gif) (http://www.klonthaiclub.com) หัวข้อ: Re: กลิ่นแก้ว เริ่มหัวข้อโดย: จารุทัส ที่ 10 ธันวาคม 2012, 03:26:PM เศร้าสร้อยดั่งหมดสตางค์ มิเคยละวาง
รอแก้วผลิดอกกลับคืน อาลัยอาวรณ์วานซืน สะอึกสะอื้น แก้วตาสัญญาหมายมั่น เราสองจะครองคู่กัน ใยยามเหมันต์ หนาวสั่นสะท้านเดียวดาย ฤดูผันแปรกลับกลาย กลีบเมฆหนีหาย กลีบดอกชอกช้ำโรยรา (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_052.gif) (http://www.klonthaiclub.com) หัวข้อ: Re: กลิ่นแก้ว เริ่มหัวข้อโดย: kradan ที่ 10 ธันวาคม 2012, 06:31:PM แก้วร่วงดุจมรณา ปกพสุธา
ประหนึ่งชีวาดับสูญ เนิ่นนานยิ่งตรมเพิ่มพูน น้องนี้อาดูร ฤาพี่ลืมแล้วหน่ายหนี ลุ่มหลงดอกไม้ราตรี ลุ่มหลงวจี ปล่อยดวงฤทัยใฝ่หา จึงปล่อยน้องช้ำโรยรา อ่อนเปลี้ยด้อยค่า จนถึงเหมันต์สิ้นใจ... หัวข้อ: Re: กลิ่นแก้ว เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 10 ธันวาคม 2012, 09:53:PM ขอซับน้ำตาทรามวัย ให้หายอาลัย
จากรักโรยร้างแรมลา แว่วเสียงสำเนียงพรรณนา ประดุจดั่งว่า เอกาว้าเหว่เซซัง โลกกว้างยังมีที่หวัง โปรดสดับตรับฟัง น้ำคำโอบเอื้ออาทร กลิ่นใดใกล้โสตบังอร อย่าสลัดตัดรอน โปรดสูดดมเถิดโฉมยง แหงนหน้าขึ้นซิอนงค์ แล้วสงบใจลง “แก้ว”รอถนอมเนื้อนวล เนิน จำราย |