พิมพ์หน้านี้ - ทวนวันโพ้น

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนคิดถึง => ข้อความที่เริ่มโดย: เพรางาย ที่ 18 พฤศจิกายน 2012, 10:10:AM



หัวข้อ: ทวนวันโพ้น
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 18 พฤศจิกายน 2012, 10:10:AM

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif) (http://www.klonthaiclub.com)

กาลครั้งนั้น
สายน้ำยังประพันธ์บทเพลงหวาน
เรือใครหนอเที่ยวล่องท่องชำนาญ
เด็ดผักบุ้งดอกบานปักหลักรอ

มีกุ้งปลาร้อยตอกมาบอกขาย
แถมบัวสายอวบงามตามคำขอ
ผิวเกรียมกร้านงานใดไม่เคยท้อ
ยิ้มซื่อซื่อนั้นหนอแอบพ้อนัย

เมื่อลานข้าวลอมฟางได้ห่างหาย
สิ้นภาพควายวกวนด้นรอยไถ
และปักเป้าสีสดหมดฟ้าไป
มีหนึ่งใจทวนวันเทียวฝันซ้ำ


(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif) (http://www.klonthaiclub.com)


หัวข้อ: Re: ทวนวันโพ้น
เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 18 พฤศจิกายน 2012, 10:28:AM




......กระแสสินธุ์รินวนชลเชี่ยว

...ใหลคดเคี้ยวตามเส้นธาร..ทุกกาลสมัย

...มิอาจล่องท่องทำนองที่ต้องใจ

...แม้นเลือกได้...กระแสจักทวน..เพื่อหวนคืน





หัวข้อ: Re: ทวนวันโพ้น
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 18 พฤศจิกายน 2012, 11:53:AM

([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_131.gif[/url]) ([url]http://www.klonthaiclub.com[/url])

กาลครั้งนั้น
สายน้ำยังประพันธ์บทเพลงหวาน
เรือใครหนอเที่ยวล่องท่องชำนาญ
เด็ดผักบุ้งดอกบานปักหลักรอ

มีกุ้งปลาร้อยตอกมาบอกขาย
แถมบัวสายอวบงามตามคำขอ
ผิวเกรียมกร้านงานใดไม่เคยท้อ
ยิ้มซื่อซื่อนั้นหนอแอบพ้อนัย

เมื่อลานข้าวลอมฟางได้ห่างหาย
สิ้นภาพควายวกวนด้นรอยไถ
และปักเป้าสีสดหมดฟ้าไป
มีหนึ่งใจทวนวันเทียวฝันซ้ำ


([url]http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_017.gif[/url]) ([url]http://www.klonthaiclub.com[/url])

หมดหน้าฝนหม่นเศร้าเข้าหน้าแล้ง
ผืนนาแห้งไร้ควายหมายเหยียบย่ำ
เศษเถ้าฟางโดนไฟเผาไหม้ดำ
ลมกระหน่ำซ้ำรอยลอยเวียนวน

เสื้อตัวใหม่ได้มาคราน้ำหลาก
เขาบริจาคให้มาเมื่อหน้าฝน
คอยไล่นกไล่กาล้าก็ทน
มิเคยบ่นร้อนหนาวเข้าถึงทรวง

แต่บัดนี้เปื่อยไปได้ผุขาด
อเนจอนาถน้อยใจไร้คนห่วง
ฝืนต่ออีกยาวไกลไปตามดวง
จะคืนทวงชีวิตใหม่ หุ่นไล่กา.

นพ
18พ.ย.55


หัวข้อ: Re: ทวนวันโพ้น
เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 18 พฤศจิกายน 2012, 04:38:PM
(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_063.gif) (http://www.klonthaiclub.com)
รอยล้อเกวียนเลือนลี้รอยอีแต๋น
พวงผักแว่นเหี่ยวแห้งแกล้งแบหลา
ผักบุ้งแบนใบสั้นข้างคันนา
หมู่มัจฉาแปลกกลิ่นพื้นดินดอน

นี่น่ะหรือคือถิ่นที่ชินชุ่ม
ไหนล่ะพุ่มปทุมากระสินธุ์กร่อน
ไหนล่ะโคลนควายคล่ำคลุกคลีคลอน
วิหคร่อนลังเลเล่ห์รังเดิม

แสงแปลกตานั่นมาจากฟ้าไหน
ช่างย่ามใจสาดส่องซ้องกระเหิม
ร่มราตรีนี้สว่างกลางนาเดิม
มาแต่งเติมต้นกล้าฟู่ฟ่าจัง

เริงรมย์รื่นตื่นกลิ่นดินดูดสาร
รีบเบ่งบานออกรับอย่างคับคั่ง
ลืมมูลเก่าไม่เย้ายวนจ่อจวนพัง
ลืมระวังฤทธิ์พิษที่ติดตรึงฯ

(http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_063.gif) (http://www.klonthaiclub.com)


หัวข้อ: Re: ทวนวันโพ้น
เริ่มหัวข้อโดย: สุวรรณ ที่ 18 พฤศจิกายน 2012, 09:25:PM
ก่อนโน้นมีโสนขึ้นตามหนอง
ห้วย คู คลอง ท้องน้ำ ,ความคิดถึง
ต้นขี้เหล็กเด็กเล็ก เคยเด็ดดึง
แถวริมบึงเราต่างวิ่งเล่นกัน

เล่นซ่อนแอบปิดตาแล้วนับเลข
ใต้ก้อนเมฆเอกเขนกจนหลับฝัน
เผลอแค่แป๊บหลับตาพาหลับพลัน
ตื่นมาฟ้าเปลี่ยนผันเข้ากลางคืน

หันรีหันขวางมองรอบทิศ
นภาปิดสีหม่น คนสะอื้น
เพื่อนต่างหายไปไหน ไยเรายืน-
พิงต้นไม้กลมกลืน อยู่เดียวดาย

เดินกลับบ้านสะท้านหลังภวังค์นัก
จึงจ้ำอ้าวเสียหลัก ล้มนอนหงาย
นัยน์ตาสบเข้ากับตาของอีกกาย
พานโล่งอกสบาย  แม่ของเรา

แสนดีใจรีบถลาสู่อ้อมกอด
แขนต่อแขนสวมสอดกระชับเข้า
สองเราต่างเดินกลับบ้านใต้ฟ้าเทา
แล้วแม่เอ็ดเมื่อถึงเหย้า เจ้าดื้อนัก


หัวข้อ: Re: ทวนวันโพ้น
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 18 พฤศจิกายน 2012, 09:39:PM

emo_79      emo_111       emo_79

ใช้ตะเกียงน้ำมันก๊าดไปตีกบ
พอยามพลบกบร้องก้องหาคู่
ควันตะเกียงสีดำเข้าตำรู-
จมูกคู่ของพม่าช่างน่ากลัว  emo_26

แล้วเลยไปยามเบ็ดที่วางไว้
ปลาตัวใหญ่ดิ้นตูมตรงมุมหลัว
ได้ทั้งกบทั้งปลาหูตามัว
แม่เข้าครัวต้มแกงแบ่งกันกิน

มีเจ้าทุยเป็นเพื่อนเคลื่อนคราดไถ
แล้วดักไซปลายนาเสียงปลาดิ้น
ข้าวในนาปลาในน้ำชุ่มฉ่ำดิน
ฝนตกรินทีไรดีใจจัง

ได้ดำนากล้างามยามหน้าฝน
สุขกมลหนักหนาชาวนาหวัง
ฟ้าฝนดีปีไหนคงได้ตังค์
ซื้อแหวนน้อยให้ร้อยชั่งเจ้านั่งยิ้ม

ข้าวออกรวงสีทองเต็มท้องทุ่ง
ชาวนามุ่งเก็บเกี่ยวเดี๋ยวท้องอิ่ม
ได้นวดข้าวเอาปลาชวนมาชิม
สาโทริมคันนายิ่งพาเพลิน

มาบัดนี้ชาวนาต้องหน้าหม่น
ต้องดิ้นรนใช้หนี้ที่นานเนิ่น
ต้องขายนาใช้หนี้ที่กองเกิน
แล้วมาเดินรดน้ำ...สนามกอล์ฟ!!  emo_15

“ไพร พนาวัลย์”


หัวข้อ: Re: ทวนวันโพ้น
เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 19 พฤศจิกายน 2012, 01:26:AM



 emo_116
 

...ทวนวันโพ้น โน่นหนา กลอนพาขำ
แรกเขียนคำ บ่อยผิด แต่จิตชอบ
จึงทิ้งไว้ ไม่แก้ แต่ขอตอบ
ยังลักลอบ อ่านขำ ย้ำทบทวน... emo_26

รัตนาวดี
emo_85


หัวข้อ: Re: ทวนวันโพ้น
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 19 พฤศจิกายน 2012, 11:06:AM


๐ เมื่อคันไถถูกทิ้งพิงข้างเถียง
ควายก็เสี่ยงหัวซังอยู่หลังสวน
หน้าที่เคยคร่ำเคร่งคราวคราดครวญ
ก็จบม้วนมลาย ณ ท้ายปี
๐ เล็มส่วนแบ่งเป็นฟางวางฟู่ฟ่อน
กับแกลลอนน้ำปริ่มอันล้นปรี่
ที่เขาวางไว้ให้ด้วยใจดี
สนองที่ช่วยไถในวานวัน
๐ ค่อยค่อยเอี้ยวเคี้ยวเอื้องอย่างเชื่องช้า
ในแววตาเหมือนตรึงกึ่งความฝัน
ภาพที่เคยไถคราดวาดประพันธ์
ก็เริ่มดันมโนให้โผล่มา
๐ วันเหนื่อยเหนื่อยเมื่อยยากเมื่อลากไถ
กระตุ้นใจเราจริง...มหิงสา
อยากให้ถึงวันน้ำพร้อมทำนา
จะได้มี..คุณค่า..กว่ายามนี้!



..... emo_02


หัวข้อ: Re: ทวนวันโพ้น
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 19 พฤศจิกายน 2012, 04:30:PM
 


 ต่อคุณรัตนาวดีค่ะ


 (http://upic.me/i/j2/aln-114.gif) (http://upic.me/show/16433914)
 (http://upic.me/i/ca/qfl41.jpg) (http://upic.me/show/41218308)
 (http://upic.me/i/j2/aln-114.gif) (http://upic.me/show/16433914)

กาลผ่านมา.. ยังตราตรึงคะนึงหา
 เหมือนมนตรา..  วนเวียนกล่อมวันหอมหวน
 บ้านริมคลอง..  คะนองนักเพื่อนชักชวน
 ครบจำนวน..กระโดดโหนโจนเถาวัลย์

 ตู้มตู้มต้าม.. วงน้ำแตกตัวแหวกว่าย
 ผลุบโผล่หาย  ดำผุดหาเจอะหน้าขัน
 เล่นซ้ำซ้ำ  *เข่ดำน้ำ ไล่ตามกัน
 ไม่นึกฝัน  เมื่อเติบกล้า  (นัก)กีฬาเงือกน้อย

 อยากกินปลาหาข้าวสุกสนุกล่อ
 เสียบตะขอ  หย่อนลงปุ๊บปลาฮุบอร่อย
 แพปลาซิวตัวจิ๋วจิ๋วหลิ่วตาคอย
 แพปลาสร้อยแทรกคึกคักไม่ทักกัน

 ทำหมกปลารสแซ่บซ่า สับปลาไว้
 ข่าตะไคร้พริกหอมตำ ยังจำมั่น
 ใบมะกรูดหั่นฝอยฝอย ต่อยไข่พลัน
 คลุกเคล้ากัน  ปรุงรส**หรอย  นั่งคอยกิน

 นำใบตองรองโหระพาวางปลาคลุก
 ปิ้งให้สุกไฟอ่อนอ่อน นอนถวิล
 น้ำลายหกยามตกปลาเป็นอาจิณ
 หอมรวยริน.. หมกปลาซิวหิวตาลาย ฯ


*เข่ คำเต็มว่า จระเข้ ภาษาถิ่นใต้
 ** หรอย  อร่อย แซ่บ


(http://upic.me/i/c2/plm88.gif) (http://upic.me/show/38978281)
 พี.พูนสุข
๑๙  พฤศจิกายน  ๒๕๕๕

(http://upic.me/i/c2/plm88.gif) (http://upic.me/show/38978281)
 

 
 


หัวข้อ: Re: ทวนวันโพ้น
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 19 พฤศจิกายน 2012, 06:17:PM
(http://upic.me/i/c2/plm88.gif)

(http://upic.me/i/j2/aln-114.gif)

อ่านเรื่องบ่นคนแก่..แหมอยากเล่า
ลูกหลานเข้านั่งล้อมพร้อมขยาย
จับเรื่องโน้นโยนเรื่องนี้มีมากมาย
ทั้งน้ำลายน้ำหมากมากกระเด็น

ใครก็ว่าคนแก่เล่าเรื่องเก่า
ฟังฟังเอาไม่ต้องมองให้เห็น
ก็ประมาณอายุบรรจุเป็น
พ.ศ.เน้นก่อนพุทธกาลประมาณนั้น

จัดให้เป็นปูชนียะบุคคล
ผู้อยู่ทนอยู่นานบ้านสารขันธ์
ให้ลูกหลานกราบไหว้สายสัมพันธ์
ดึกดำบรรพ์ปันแต่งแห่งมวลชน

จากเรื่องหวนทวนวันอันไกลโพ้น
ดังถูกโยนต่างมิติที่สับสน
จากโลกเก่าของใครในบัดดล
บังเกิดผลโลกนี้ที่ปัจจุบัน

เมื่อไม่อาจกลับคืนยืนที่เก่า
จึงเรื่องเล่าเก่าเคยเลยเผยผัน
เหมือนอยากย้อนคืนกลับจับรำพัน
แต่ตะวันนั้นเดินเกินไปแล้ว

อนิจจาตัวเราดูเก่าแก่...
เพียงคอยแลเหลือบหลังลงนั่งแกร่ว
ทางข้างหน้าล้าลงไม่ตรงแนว
เสียงใสแจ๋ว..เร่งให้เล่า..เอาอีกตา..(..ยาย)  emo_26

"บ้านริมโขง"
๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๕

(http://upic.me/i/c2/plm88.gif)


หัวข้อ: Re: ทวนวันโพ้น
เริ่มหัวข้อโดย: ...สียะตรา.. ที่ 19 พฤศจิกายน 2012, 07:07:PM



......มิได้แก่ปูนยายยย...หรือย่า...นะตาเฒ่า

...เขียนบอกเล่าตามจินต์ถวิลหา

...เผื่อบางใครเข้าใจพจน์อันรจนา

...จักนำพา.....สายน้ำทวน.....อยากหวนคืน



............................ emo_87.............................






หัวข้อ: Re: ทวนวันโพ้น
เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 19 พฤศจิกายน 2012, 08:07:PM

ต่อลุงไพร ชอบคำลงท้าย กอล์ฟ

ถังปากบิด วิดน้ำ คลำตมหนอง
ต้ดใบตอง สองก้าน เราะรานหอบ
ขุดตะไคร้ ไพลข่า หน้ากระต๊อบ
นำมามอบ แม่ปรุง ห่อปิ้งปลา

กำท่อนไม้ ใหญ่ยาว ราวหนึ่งศอก
ขว้างมะกอก มะกุก สุกในป่า
เลี้ยวเลาะและ แวะหยุด ฟาดพุทรา
มีดบางผ่า ยุ่มหยิก จิ้มพริกแดง

ตะวันร้อน ตอนเที่ยง เลี่ยงเข้าร่ม
ป้องหน้าชม นกร้อง เดินต่องแต่ง
ผ่านท้ายไร่ ไซ้เห็ด เด็ดฟักแฟง
ปลาตากแห้ง แกงหวาน ทานมื้องาย

รถแล่นไป ไกลพู้น ฝุ่นตรลบ
ยินเสียงกลบ เย็นนี้ มีหนังฉาย
ออกพรรษา หน้าฝน พ้นหนาวกราย
คืนเดือนหงาย ดูหนัง นั่งบนลาน

มือจับลำ กำเคียว เกี่ยวข้าวสุก
เกวียนบรรทุก เทียมควาย ย้ายเข้าบ้าน
แต่เดี๋ยวนี้ มีเครื่องยนต์ แทนคนงาน
เหลือตำนาน ลงแขก แปลกทำนา

รพีกาญจน์ 59



หัวข้อ: Re: ทวนวันโพ้น
เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 19 พฤศจิกายน 2012, 09:10:PM


ฤทัยคำนึงถึงบ้านโอ้ป่านฉะนี้      
ดวงฤดีรู้ไหมว่าใจพร่ำ
คนอยู่ไกลโศกสลดรันทดช้ำ      
พิศรอยคำฝากมาอุราระทม

ครั้งเคียงคู่ชมทุ่งยามรุ่งสาง      
สายหมอกบางแดดอุ่นอรุณผสม
เส้นผมนางปลิวสยายตามสายลม   
น้ำค้างพรมเม็ดพร่างทั่วร่างเธอ

เสียงเขียดอึ่งริมบึ่งใหญ่ยังไต่ถาม   
อยู่ในความทรงจำตอกย้ำเสมอ
วันเวลาย่อมหวนทวนให้เจอ      
รอนะเออ...รอได้ไหมในวันนั้น
     
            เนิน  จำราย