พิมพ์หน้านี้ - กลิ่นกลอนสาบโคลน

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

จิปาถะ => เรื่องทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: อริญชย์ ที่ 29 ตุลาคม 2012, 06:37:AM



หัวข้อ: กลิ่นกลอนสาบโคลน
เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 29 ตุลาคม 2012, 06:37:AM
(http://hilight.kapook.com/img_cms/ele300.jpg)
ขอบคุณภาพประกอบจาก http://hilight.kapook.com/view/40162 (http://hilight.kapook.com/view/40162)

     กลิ่นกลอนสาบโคลน

เป็นนักกลอนรากหญ้าจากฟ้าทุ่ง
หมายผดุงถิ่นฐานแดนบ้านป่า
บ่มีเกียรตินักกวีให้ตีตรา
คงคุณค่าเพียงดินโคลนกลิ่นกลอน

อาบน้ำคลองประจำผิวคล้ำหม่น
ตากแดดฝนพึ่งพิงธารสิงขร
ขาดคำรุ้งละมุนรสสุนทร
ทุกอักษรวกเข้าลำเนาไพร

เขียนกลอนหวานกลับนึกถึงพฤกษา
แต่งปรัชญากระหวัดเรื่องสัตว์ใหญ่
มองโลกตื้นบางเบามิเข้าใคร
แง่คิดไหนใครเห็นประเด็นคำ

เพียงเขียนได้ ใช่เป็นดั่งเช่นเขา
สาบโคลนเคล้าแทรกซึมไม่ดื่มด่ำ
กลิ่นกลอนจึงโชยมาให้ระกำ
หวานเลิศล้ำชาตินี้ ไร้วี่แวว!ฯ

                         อริญชย์
                   ๒๙/๑๐/๒๕๕๕


 emo_107 emo_60 emo_95 emo_86 emo_95 emo_60 emo_107


http://www.youtube.com/watch?v=V08sVsWwId4&feature=related







หัวข้อ: Re: กลิ่นกลอนสาบโคลน
เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 29 ตุลาคม 2012, 07:09:AM
(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/548/43548/images/2968444_181344003_2.jpg)
"หอมหมื่นลี้" เหมือนกลอนพี่อริย์..

ล้วนถ้อยคำจารจัดประภัสสร
ขับกานท์กลอนภาษาอยู่หน้าแถว
จินตนาเลิศล้ำล้วนข้ามแนว
ลำนำแพร้วเพริศพริ้ง..จนหญิงละเมอ
(http://www.qzub.com/bar_141.gif) (http://www.qzub.com)
ผิวสีแทน..แมนมากน้องอยากบอก
คนบ้านนอกเท่ห์จังน้องยังเผลอ
ว่าพี่เป็นทาร์ซานผ่านมาเจอ
ขอเสนอใบสมัคร..อยากเป็นเจน
(http://www.qzub.com/bar_141.gif) (http://www.qzub.com)
จะพูดถึง นก..หนู ดูเหมาะสม
จะพูดชมฤาษี..ยายชี..ตาเถร
พูดถึงสัตว์ก็น่ารัก..เป็นวรรคเป็นเวร
พูดเบี่ยงเบนอย่างไร..ก็ให้งาม
(http://www.qzub.com/bar_141.gif) (http://www.qzub.com)
งั้นลองด่าให้ฟังบ้างได้ไหม
ว่ากลอนไหนสาบหนอ..น้องขอถาม
พี่เชี่ยวชาญกานท์กวีน้องนี้ตาม
ใช่ลามปามขอดอม..หอมกลิ่นกลอน
(http://www.qzub.com/bar_141.gif) (http://www.qzub.com)
มะแซม
 emo_17


หัวข้อ: Re: กลิ่นกลอนสาบโคลน
เริ่มหัวข้อโดย: Music ที่ 29 ตุลาคม 2012, 09:44:AM
 emo_95


กลิ่นอ่อนอ่อน.ผ่อนคลาย.บรรยายย้ำ
คือกลิ่นซ้ำ.คุ้นเคย.เปรยอักษร
หอมกลิ่นกาย.สาปโคลน.จนอาวรณ์
แม้ปากบอน.ไม่เบื่อ.เมื่อรำพัน

เพราะตรงไป-ตรงมา.สารพัด
ถูกอายัด.ย่นย่อ.หลอกล่อฝัน
โดนจิ้มใจ.ให้เจ็บ.เหน็บทุกวัน
ต่างหวานมัน.พันทวี.ดี"สะใจ"


 emo_100


หัวข้อ: Re: กลิ่นกลอนสาบโคลน
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 29 ตุลาคม 2012, 02:58:PM

(http://www.qzub.com/nature_003.jpg) (http://www.qzub.com)

นั่งเขียนกลอนริมทุ่งยามรุ่งสาง
กลิ่นสาบฟางลอยมายามฟ้าใส
เมื่อก่อนมีเจ้าทุยแล่นลุยไป
ชาวนาไทยสมัยนี้ไม่มีมัน

ย่างเหมันต์ผันผ่านไม่นานหรอก
หมู่เมฆหมอกลอยวนให้คนฝัน
อยากจะมีสองเราหยอกเย้ากัน
หมดวสันต์เหมันต์หนาวหาสาวคอย

ดั่งกลิ่นกลอนของฉันในวันนี้
เหมือนกับมีกลิ่นโคลนกระโจนผล็อย
คนท้องนาป่าเขาเฝ้าดงดอย
ที่หลงคอยสาวกรุงน้ำปรุงปราย

นั่งเขียนกลอนวอนสาวยามหนาวเนื้อ
อยากสนิทชิดเชื้อเมื่อรำร่าย
มนต์อักษรกลอนกานท์จากมานชาย
จากถิ่นควายตัวดำเฝ้ารำพัน  emo_33

“ไพร พนาวัลย์”


หัวข้อ: Re: กลิ่นกลอนสาบโคลน
เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 29 ตุลาคม 2012, 04:07:PM
(http://www.qzub.com/bar_102.gif) (http://www.qzub.com)
กลอนกระอวลมวลโคลนกลิ่นต้นหญ้า
ชุติมาแช่มชื่นช่วยรื่นฝัน
สาดแสงทองผ่องผ่านเมื่อนานวัน
ซึ้งสีสันเลนตมที่บ่มคน

เพื่อทบทวนหวนระลึกตรึกตรองเชื้อ
ใครคอยเกื้อกูลเกล้าเฉลาผล
โคลนขุ่นคลั่กถักทอก่อกมล
ตมเตือนตนตระหนักอย่าหักวงศ์

ล้างเลนหล่มสมหวังได้นั่งสูง
หางนกยูงแผ่สง่าดั่งว่าหงส์
อย่าทอดทิ้งถากเนื้อเลือดเชื้อพงศ์
หากจำนงเจือจุนพระคุณโคลน
(http://www.qzub.com/bar_102.gif) (http://www.qzub.com)


หัวข้อ: Re: กลิ่นกลอนสาบโคลน
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 29 ตุลาคม 2012, 04:44:PM

([url]http://www.qzub.com/nature_003.jpg[/url]) ([url]http://www.qzub.com[/url])

นั่งเขียนกลอนริมทุ่งยามรุ่งสาง
กลิ่นสาบฟางลอยมายามฟ้าใส
เมื่อก่อนมีเจ้าทุยแล่นลุยไป
ชาวนาไทยสมัยนี้ไม่มีมัน

ย่างเหมันต์ผันผ่านไม่นานหรอก
หมู่เมฆหมอกลอยวนให้คนฝัน
อยากจะมีสองเราหยอกเย้ากัน
หมดวสันต์เหมันต์หนาวหาสาวคอย

ดั่งกลิ่นกลอนของฉันในวันนี้
เหมือนกับมีกลิ่นโคลนกระโจนผล็อย
คนท้องนาป่าเขาเฝ้าดงดอย
ที่หลงคอยสาวกรุงน้ำปรุงปราย

นั่งเขียนกลอนวอนสาวยามหนาวเนื้อ
อยากสนิทชิดเชื้อเมื่อรำร่าย
มนต์อักษรกลอนกานท์จากมานชาย
จากถิ่นควายตัวดำเฝ้ารำพัน  emo_33

“ไพร พนาวัลย์”


emo_89 emo_116 emo_126
นั่งเขียนกลอน อ้อนหนุ่ม กลุ้มใจนัก
ชายที่รัก ผลักไส ไล่ห่ำหั่น
ทั้งด่าทอ ท้อทด หดจาบัลย์
เคยสุขสันต์ บัดนี้ มีแต่ตรม

นั่งเขียนกลอน ก่อนเก่า เราเคียงคู่
มองปลาปู อยู่อย่าง ไม่ร้างขม
มาวันนี้ ที่เก่า เศร้าระทม
หมดอารมณ์ แล้วหนอ รอพี่ชาย

จะเหมันต์ หวั่นหนัก รักเป็นพิษ
แผลยังใหม่ ไม่สนิท คิดแล้วหน่าย
รอคอยเขา เช้าค่ำ ซ้ำใจกาย
ใจละลาย เหมือนเรา เฝ้าหลงคอย
(http://image.ohozaa.com/i/862/e24yEI.png) (http://image.ohozaa.com/view2/wdmQbostvUBfYBCK)