หัวข้อ: "แด่เพื่อนร่วมทางสายสันโดษ" เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 25 ตุลาคม 2012, 09:46:PM สันโดษได้อย่าไร้รัก
จิตกำหนดจดจำด้วยสำนึก ข่มรู้สึกขันแข่งแสวงหา ดำรงตนพอเพียงเลี้ยงกายา มีเมตตาเผื่อแผ่คิดแต่ดี ช่วยสังคมสมค่าตามฐานะ ถือสัจจะน้อมธรรมนำวิถี สำรวมคำกิริยาวางท่าที สงบอินทรีย์ยับยั้งระวังตน โลภโกรธหลงชอบชังแม้ตั้งอยู่ ตระหนักรู้กิเลสหาเหตุผล มีมานะละลดและอดทน ตรองกมลโน้มน้าวขาวหรือดำ ผ้าทอรักถักเถิดประเสริฐค่า คู่ฟากฟ้ากัปกาลนานฉนำ ยังสานต่อก่อเกิดเลิศเลอล้ำ เป็นไม้ค้ำชูโชคให้โลกยืน เนิน จำราย หัวข้อ: Re: "แด่เพื่อนร่วมทางสายสันโดษ" เริ่มหัวข้อโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 25 ตุลาคม 2012, 11:00:PM (http://www.qzub.com/bar_030.gif) (http://www.qzub.com) สันโดษได้ อย่าไร้รัก แม้สักนิด รักด้วยจิต เมตตาใจ ไม่ขมขื่น รักอยู่ยง คงมั่น วันมะรืน ไม่เป็นอื่น รักเที่ยงแท้ อย่างแน่นอน เมตตา ปรารถนาเห็น เขาเป็นสุข หมดเรื่องทุกข์ กังวลคลาย หายเล่าร้อน กรุณา ยินดีด้วย ช่วยอ่อนวอน ให้เขาผ่อน ความเศร้า ที่เผาใจ มุทิตา การุณ จุนเจือจาน หมดทุกข์ผ่าน การเปลี่ยน ไม้เวียนใกล้ อุเบกขา โกรธขึ้นมา คราครั้งใด ต้องวางใจ สงบ สยบมาร มารคือ โลภโกรธหลง จงจำไว้ เข้าสิงใคร ใจเป็นบ้า น่าสงสาร โกรธคือโง โมโหบ้า พาระราน จิตฟุ้งซ่าน อย่าท้อแท้ แผ่เมตตา ชลนา ทิชากร (http://www.qzub.com/bar_028.gif) (http://www.qzub.com) http://www.youtube.com/watch?v=_7-7ucqX-zU หัวข้อ: Re: "แด่เพื่อนร่วมทางสายสันโดษ" เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 26 ตุลาคม 2012, 02:25:PM ....สันโดษ.........พอใจ..........สิ่งมี
บ่งวจี................ไม่โลภ........หลงใหล สิ่งโลก..............บยึด-..........ติดไป พอใจ................พอเพียง......เพียงพอ ....สันโดษ..........ใช่พอ........ในธรรม์ หยุดทำ..............ดีกัน..........อ้างหนอ ฉันนั้น...............สันโดษ.......โปรดรอ สวรรค์สิ.............เธอขอ.........เอาเอง หัวข้อ: Re: "แด่เพื่อนร่วมทางสายสันโดษ" เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 26 ตุลาคม 2012, 10:01:PM แด่คุณ ชลนาฯ
รักคือเพชรเม็ดงามอร่ามเหลือ เกิดก่อเกื้อสิ่งหวังสิ้นกังขา ยื้ออารมณ์ย่อยยับกลับคืนมา ได้รักษาใจกายยามไข้ป่วย มีโอกาสอย่าปล่อยให้ลอยหาย เข้ามาใกล้ค่อยคิดพินิจฉวย ขืนบิดเบือนเอื้อนอ้าท่าสำรวย ขาดคนช่วยดูแลครั้นแก่ตัว รักให้เป็นเห็นช่องสนองตอบ นับว่าชอบถ้วนถี่เลือกดีชั่ว อย่าเพลินหลงฉุดดึงถึงเมามัว ยามเสียตัวเสียสาวเจ้าเสียดาย แด่คุณ ทูแชร์ สรรพสิ่งแจ่มชัดหทยา เหมือนวาทยกรกรองเพลง รังสรรค์สดชื่นครื้นเครง บรรเลงดนตรีคีตกานท์ กายรับคำสั่งดั่งว่า ดุ่มเดินมรรคาผันผ่าน หมายมุ่งรุ่งเรือง-กันดาร เรา-ท่านกำหนดลด-เพิ่ม เนิน จำราย หัวข้อ: Re: "แด่เพื่อนร่วมทางสายสันโดษ" เริ่มหัวข้อโดย: Music ที่ 27 ตุลาคม 2012, 11:09:AM emo_79 โปรดมาร่วมสวมฝัน..จันทร์กระจ่าง ณ ท่ามหว่างล้อมลึกที่หึกเหิม ความสันโดษโหดร้ายเมื่อได้เติม ดั่งเผดิมดรุณ..จนอุ่นทรวง โปรดมาร่วมสวมฝัน..วันที่ใช่ เคียงชิดใกล้ได้รักจนหนักหน่วง ความเดียวดายคลายฤทธิ์ลืมพิษลวง ใจทั้งดวงแดดิ้น..เจียนสิ้นลง โปรดมาร่วมสวมฝัน..กระสันเหนี่ยว ความโดดเดียวย่อยยุ่ยเป็นผุยผง เธอขับขานสานฝันอันมั่นคง เปลี่ยนเที่ยงตรงเป็นอ่อนโยน..ดั่งโดนไฟ โปรดมาร่วมสวมฝัน..กับฉันต่อ รักร่วมก่อหล่อหลอมพร้อมเหลวไหล อันตรธานวาดหวังช่างกระไร ทำร้ายใจคนสันโดษ..โปรดอย่าทำ โปรดมาร่วมสวมฝัน..คืนสันโดษ ฉันไม่โกรธถ้าเชยชิมจนอิ่มหนำ แม้ไม่ยินว่า"รัก"เลยสักคำ แค่เป็นกรรมของกานท์..เพียงด้านเดียว emo_111 หัวข้อ: Re: "แด่เพื่อนร่วมทางสายสันโดษ" เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 27 ตุลาคม 2012, 04:24:PM โปรดหันหลังนั่งลง..ฟังตรงนี่
รวม น้อง พี่ กิ่ง แก่น ให้แน่นเหนียว ผูกสมัครรักมั่นฟั่นเป็นเกลียว ไม่โดดเดี่ยว“สันโดษ”ประโยชน์มี มาแลกเปลี่ยนเรียนรับลำดับเหตุ รู้สังเกตใคร่ครวญถูกถ้วนถี่ ทั้งบาปบุญคุณโทษรักโกรธดี คู่หรือคี่ งามสรรพ อัปลักษณ์ ปรารภโลกน้อมธรรมนำมาคิด ช่วงชีวิตหนึ่งนั้นแสนสั้นนัก ข้ามให้พ้นภาพลวงห้วงกับดัก ก็ประจักษ์กรรมดีเป็นที่สุด ธรรมชาติโลกหมุนเกื้อหนุนโลก สุขกับโศกเราสร้างแค่สมมุติ สละได้เสียสิ้นดิ้นจนหลุด คือพิสุทธิ์ “เอวัง”สิ่งทั้งปวง เนิน จำราย หัวข้อ: Re: "แด่เพื่อนร่วมทางสายสันโดษ" เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 28 ตุลาคม 2012, 03:43:PM กล้วยหนึ่งหวี สี่ใบ กินได้มื้อ สะดวกซื้อ วางขาย ท้ายตลาด ตัดจากสวน สุกบ่ม ชมรสชาติ เงินสิบบาท อิ่มท้อง ถึงสองวัน นอนคืนค้าง ห้างนา หลังคาจาก ปูฝาฟาก ไม้ลัง ตั้งบนสัน ดึกสงัด พัดเย็น เห็นดาวจันทร์ ฟางสุมควัน กันยุง ไฟหุงกิน สมุนไพร ไต่รั้ว หัวเปลือกต้น เก็บดอกผล ขายใช้ ได้ทั้งสิ้น เป็นหยูกยา รักษาตน พ้นโรคิน ต้มน้ำริน กิน.อบ ประคบ.ทา ฝ้ายถักทอ ม่อฮ่อม ย้อมสีตุ่น เสื้อขาวขุ่น ตะเข็บ เย็บมือผ้า เตี่ยวสามส่วน ห้วนหลวม สวมกายา ไร้ปัญหา ถนัด ขัดข้องเคือง มองโลกศิวิไลซ์ ให้ความรัก หยุดไสผลัก ตักตุน รุนแต่เรื่อง ชูอภัย ใจกว้าง สร้างบ้านเมือง มิคุยเขื่อง ทะนง หลงตนเอง อยู่อย่างยอ พอเพียง เลี้ยงชีวิต ละกล่าวผิด โทษกัน ทัณฑ์ข่มเหง น้อมพระธรรม กรรมทุน บุญพรเพรง ช่วยกระเตง สวัสดิ์ ปัจฉิมวาย emo_126 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: "แด่เพื่อนร่วมทางสายสันโดษ" เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 28 ตุลาคม 2012, 08:12:PM (http://statics.atcloud.com/files/comments/165/1650229/images/1_original.jpg) (http://ar-mie2.webs.com/photos/D-day-I/ss100.gif) ไร้ทางไปอ้างตนคนสันโดษ ไร้ของโปรดว่าพอต่อความหมาย ไร้ใดอยากปากเอ่ยเผยพอกาย ไร้มุ่งหมายปลายสุดขุดพอเพียง ไม่เห็นใครไหนทำตามคำอ้าง ถ้ามีทางต้องไปหรือใครเถียง เมื่อน้ำมาไม่ตักพักลำเลียง ไร้คู่เคียงไม่หาประสาคน ล้วนปากว่าตาขยิบหยิบปลามัน ไขว่คว้ากันฝันเฟื่องเรื่องสับสน จะต้องดีกว่าใครในสกล ภาวนาจน เทวาพลอยบ้าตาม สันโดษจริง เมืองไหนมีไฟแค้น.. ต้องสุขแสนแดนสงบจบคำถาม แต่เมืองนี้เดี๋ยวนี้ที่คุกคาม ทุกโมงยามตามล่าพาวุ่นวาย รู้หน้าที่พลเมืองก็เฟื่องแล้ว ไม่แตกแถวล้ำแดนแสนสุขหลาย หน้าที่ใครใครทำไม่กล้ำกราย ไม่ก้าวก่ายกีดกันบีบคั้นใคร สังคมบ้าเบี้ยวบิดคนผิดศีล สังคมปีน-เกลียวกันปั่นเรื่องใส่ ล้วนแต่คนผู้กล้าพาเป็นไป แล้วสันโดษ..ประโยชน์ใด..ถ้าใครมี.. "บ้านริมโขง" ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ (http://i80.photobucket.com/albums/j198/fluffyboy101/Line/l_saka4.gif) หัวข้อ: Re: "แด่เพื่อนร่วมทางสายสันโดษ" เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 29 ตุลาคม 2012, 12:00:PM emo_95 emo_95 emo_95 อยากมาร่วมแบ่งปันสายสันโดษ แต่ขอโทษพิมพ์เสร็จสะเด็ดแล้ว พอจะส่งเนทหลุดกุดทั้งแนว หัวใจแป้วแต่งใหม่ไม่ได้เลย จึงขอส่งของขวัญแห่ง “สันโดษ” เพื่อประโยชน์ชูเชิดมาเปิดเผย พุทธธรรมนำทางสว่างเอย แม้เอื้อนเอ่ยไม่ถึงครึ่งแห่ง “ธรรม” “ไพร พนาวัลย์” emo_126 emo_126 emo_126 ความสันโดษ เป็นทรัพย์อย่างยิ่ง ความสันโดษ ความยินดีพอใจตามมีตามได้ตามกำลังและความจำเป็นของตน การดำรงชีวิตอยู่ของประชาชนในปัจจุบัน ถูกเหตุปัจจัยต่างๆ หลากหลายมากระทบกระทั่ง เบียดเบียนอยู่ทุกเมื่อ ซึ่งล้วนแต่ทำให้การดำเนินชีวิตเป็นไปด้วยความยากลำบาก ไม่สามารถดำเนินชีวิตตามสมควรแก่อัตภาพที่ควรจะเป็นให้อยู่ดีมีสุขได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ควรที่ทุกคนจะต้องหันกลับมาทบทวนถึงแนวทางแห่งการประพฤติปฏิบัติของตน เพื่อประคับประคองตนให้รอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งปวง มีความอยู่ดีมีสุขตามสมควร ด้วยการปฏิบัติตามหลักธรรม คือ ความสันโดษ ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแนะนำชาวโลกให้หาความสุขโดยการถือ สันโดษ คำว่า "สันโดษ"ความหมายของสันโดษ แปลว่าความยินดี คือความพอใจ ความยินดีด้วยของของตนซึ่งได้มาด้วยความเพียร ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และโดยชอบธรรม สันโดษ หมายถึง ความหมายของสันโดษ คำว่า สันโดษ โดยทั่วไปมี 3 ประการ คือ 1. ยถาลาภสันโดษ ยินดีตามได้ 2. ยถาพลสันโดษ ยินดีตามกำลัง 3. ยถาสารุปปสันโดษ ยินดีตามสมควร ความสันโดษ ประกอบด้วย ประการ ที่ 1 ยถาลาภสันโดษ หมายถึง ความยินดีตามที่ตนได้มา คือตนได้สิ่งใดมาหรือเพียรหาสิ่งใดมาได้ ไม่ว่าจะหยาบหรือประณีตแค่ไหนก็ยินดีพอใจด้วยสิ่งนั้น ไม่ติดใจอยากได้สิ่งอื่น ไม่เดือดร้อนกระวนกระวายเพราะสิ่งที่ตนไม่ได้มา ไม่ปรารถนาสิ่งที่ตนไม่พึงได้ หรือเกินไปกว่าที่ตนจะพึงได้โดยถูกต้องชอบธรรม ไม่เพ่งเล็งปรารถนาสิ่งของที่คนอื่นได้ จนเกิดความริษยา ประการที่ 2 ยถาพลสันโดษ หมายถึง ความยินดีตามกำลัง คือ ยินดีแต่พอแก่กำลังร่างกายสุขภาพและวิสัยของตน มีความพอใจในการจัดสรรหน้าที่การงาน จัดสรรการศึกษาศิลปวิทยา และจัดสรรคุณธรรมเพื่อปฏิบัติให้สมกับกำลังสติปัญญาของตนเอง เลือกทำในสิ่งที่ตนเองถนัดแล้วตั้งใจปฏิบัติให้ก้าวหน้าไปตามกำลังแต่ละ อย่างด้วยความขยันหมั่นเพียร ประการที่ 3 ยถาสารุปปสันโดษ หมายถึง ความยินดีตามสมควร หรือยินดีตามที่เหมาะสมกับภาวะ ฐานะ แนวทางชีวิต และจุดหมายแห่งการบำเพ็ญกิจของตน ไม่นึกคิดอยากได้ทรัพย์สมบัติที่ล้ำค่าเกินฐานะของตนเอง บางครั้งแม้จะได้สิ่งที่เกินฐานะของตนเองมาก็ไม่ลุ่มหลงว่าเป็นสิทธิ์ที่ควร จะได้ กลับเห็นว่าสิ่งที่ได้มานั้นล้ำค่า ควรให้คนอื่นได้มีส่วนร่วมดูแลรักษาหรือบริโภคใช้สอยด้วย โดยการทำให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและแก่สังคมรอบข้าง จะเห็นว่า ความสันโดษ เป็นทรัพย์อย่างยิ่ง เป็นการสร้างความสุขให้แก่ชีวิต การรับและการได้มาหากไม่มีสติก็อาจลุ่มหลงไปตามอำนาจของโลภะอย่างไม่มีขอบ เขต "ความรู้จักพอก่อสุขทุกสถาน" จึงเป็นคำเตือนสติให้ตนรู้จักความสุขที่แท้จริง ดังคำพูดที่ว่า คนที่รวยที่สุดคือ คนรู้จักพอใจในสิ่งที่ตนมี และ คนที่จนที่สุดคือ คนที่ไม่รู้จักพอ ถ้าทุกคนต่างมี ความสันโดษ พอใจยินดีใช้สอยวัตถุสิ่งของต่างๆ อย่างมีสติ ไม่สุรุ่ยสุร่าย ดำเนินชีวิตด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีความอดทน มีความเพียร มีสติปัญญา และความรอบคอบเพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรอง รับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคม ก็จะสามารถสร้างความอยู่ดีกินดีเป็นเหตุให้เกิดความสุขขึ้นได้ ดังนั้น ความสันโดษ ความยินดีพอใจตามมีตามได้ตามกำลังและความจำเป็นของตน พร้อมทั้งมีขยันหมั่นเพียรหาเลี้ยงชีพด้วยความสุจริตไม่เป็นภัยต่อตนเองหรือ สังคม เมื่อหาทรัพย์มาได้แล้วต้องรู้จักเก็บออมระมัดระวังในการใช้จ่ายไม่ก่อให้ เกิดหนี้สินก็จะนำมาซึ่งความอยู่ดีมีสุข ความสันโดษ จึงเป็นคุณธรรมที่ทุกคนควรพินิจพิจารณา น้อมนำมาประพฤติปฏิบัติให้เกิดเป็นนิสัยติดตัวโดยแท้. พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ. ๙) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชร วรวิหาร [email protected] ที่มา... ข่าวสดรายวัน วันที่ 03 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 หัวข้อ: Re: "แด่เพื่อนร่วมทางสายสันโดษ" เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 29 ตุลาคม 2012, 01:38:PM ....สันโดษใช่หยุดยั้ง........กระทำดี
ต้องมั่นหมั่นกายวจี...........ประกาศก้อง เมตตาเปล่งรัศมี..............มนกระจ่าง อุ้มโอบผู้ติดข้อง.............ถูกปล้นยุติธรรม หัวข้อ: Re: "แด่เพื่อนร่วมทางสายสันโดษ" เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 29 ตุลาคม 2012, 02:48:PM ความสันโดษอดกลั้นตัณหาโหม ช่วยหน่วงโน้มจิตให้ไม่ถลำ สู่วงเวียนวัฏจักรที่ชักนำ ตกหลุมดำเลศกิเลสต้นเหตุทุกข์ ความทะเยอทะยานเคร่งควานอยาก แม้นมีมากเหมือนไฟไหม้ใจสุก ทั้งทิวาราตรีทวีทุกข์ เป็นเพลิงลุกเผาร้อนดังท่อนฟืน จงพินิจพิจารณ์ด้วยญาณเถิด สิ่งประเสริฐผ่องใสใช่ใดอื่น แต่คือจิตคิดพอหยุดก่อฟืน ย่อมชุ่มชื่นโชยชนม์กมลเรือง |