|
หัวข้อ: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: อนิลจร ที่ 06 ตุลาคม 2012, 09:15:PM (http://www.ktc.co.th/ktcworld/data/uploadimage/20071225-1154457.jpg) ภาพ "ป่าสน บนดอยสูง" อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จ. อุตรดิตถ์ ยามเผชิญ โลกกว้าง ลำบากจิต ข้าเคยคิด ว่าเก่งกล้า อยู่เสมอ ยามพบด้าว ยลภูดล ข้าเผลอเรอ หลงเพ้อเจ้อ อ้างอวดตน จนมัวเมา ยามนี้ข้า สำนึก ระลึกคิด ว่าชีวิต ข้าช่าง แสนโง่เขลา ราวกับกบ ในกะลา โง่ไม่เบา มองดูเรา มองดารา แสนต่างกัน อนิลจร ๖ ตุลาคม ๒๕๕๕ emo_126 หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 06 ตุลาคม 2012, 10:50:PM จินตการผ่านฝันปล่อยมันเถอะ มีให้เยอะแยกแยะถูกแหละผิด ล้วนอาวุธสุดคมทางความคิด แล้วประดิษฐ์เรียงร้อยเป็นถ้อยคำ ได้หนึ่งแล้วเขียนต่อหัวข้อใหม่ เนิ่นนานไปคารมจะคมขำ ควรขยันฝึกปรือลงมือทำ เป็นประจำแววกวีจะมีมา เนิน จำราย หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 07 ตุลาคม 2012, 05:04:AM ยามเผชิญ โลกกว้าง ลำบากจิต ข้าเคยคิด ว่าเก่งกล้า อยู่เสมอ ยามพบด้าว ยลภูดล ข้าเผลอเรอ หลงเพ้อเจ้อ อ้างอวดตน จนมัวเมา ยามนี้ข้า สำนึก ระลึกคิด ว่าชีวิต ข้าช่าง แสนโง่เขลา ราวกับกบ ในกะลา โง่ไม่เบา มองดูเรา มองดารา แสนต่างกัน อนิลจร ๖ ตุลาคม ๒๕๕๕ emo_126 emo_100 แต่งกลอนแปด..เป็นแปด อย่างที่ว่า อย่าเอาเก้า เข้าฝ่า ผ่าเข้าดั้น จำกัดคำ นำใช้ ให้สัมพันธ์ อย่าผสมข่มกัน นั้นไม่งาม ภาษากานท์สานสมทุกคมขาน เกินประมาณการไหนให้ไหวหวาม นำมาเรียงเสียงใสไพเราะความ เพียงอย่าข้ามตามใคร หวั่นไหวเกิน "บ้านริมโขง" emo_100 หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 07 ตุลาคม 2012, 06:57:AM emo_116 emo_116 emo_116 แต่งกลอนแปด เป็นเก้า เราสับสน แต่งตามตน ด้นดั้น พลันห่างเหิน แต่งสะดุด สุดใจ ใช่ว่าเพลิน แต่งตอนเดิน ลำบาก ยากยิ่งนัก แต่งตอนเช้า เข้าสวน ครวญเพลงแว่ว แต่งได้แจ๋ว จริงเจ้า เฝ้าขายผัก แต่งตอนยิ้ม พริ้มพราย ยามย้ายยัก แต่งแล้วชัก เขินเขิน ขาดเกินมี พันทอง emo_100 emo_100 หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: อนิลจร ที่ 07 ตุลาคม 2012, 11:03:AM ขออภัย ข้าคง จะสับสน มัวกังวล การสอบ ไล่ตอนนี้ มัวแต่นั่ง มัวเมา เกลาบัญชี อ่านภาษี ตาลาย เลอะเลือนไป กลอนนี้แต่ง เล่นเล่น ไม่มีชื่อ ไว้ฝึกปรือ ฝีมือ หวังลองใช้ เผือตอนสอบ หัวว่าง ส่งกลอนให้ อาจารย์ไว้ เผื่อได้ คะแนนฟรี อนิลจร ๗ ตุลาคม ๒๕๕๕ emo_126 หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 22 ธันวาคม 2012, 01:28:AM ...
กลอนแปดต้องลองจัดสัมผัสบ้าง ขออิงอ้างฉันทลักษณ์ศิลป์อักษร ฝึกแสวงแรงไปคนไร้พร พเนจรผ่านมาขออย่าเมิน เป็นนักเลงเก่งอยู่แค่หมู่บ้าน ไม่จัดจ้านเพิ่งหัดยังขัดเขิน อยากแต่งกลอนอ้อนพราวให้สาวเพลิน ก็เก้อเกินคำขานไม่หวานจริง ... หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 22 ธันวาคม 2012, 03:10:AM emo_89 emo_116 emo_116 พเนจร จากไหน ใคร่ถามหน่อย เป็นหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่ ไยจึงนิ่ง ตอบให้รู้ หน่อยหนา อย่าประวิง เอาเรื่องจริง มาบอก อย่าหลอกกัน ตื่นนอนแล้ว ใช่ไหม ในยามนี้ หรือว่ามี ธุระ ว่าไปนั่น หรือเดือดร้อน ในทรวง เป็นห่วงพลัน ตีสามนั้น มาออน ฤๅอ่อนใจ ช่วยเอ่ยมา ช้านัก จักไม่เหมาะ สาเหตุเพราะ ฉันง่วง ช่วงนี้ใช่ เสียงเครื่องบิน บินผ่าน ร้าวรานใจ ทั้งเสียงไก่ เริ่มขัน ฉันตาปรือ รอคำตอบ อยู่นะ อย่าอิดออด หรือรอพรอด คนรัก จักไม่ถือ แค่แหย่เล่น หรอกเจ้า เดี๋ยวข่าวลือ เรื่องจริงคือ พึ่งตื่น ยังฝืนทรวง พันทอง emo_111 emo_111 emo_111 หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 22 ธันวาคม 2012, 08:27:AM ...
คนเร่ร่อนนอนเสื่อไม่เหลือหมอน สะดุดกลอนรอรักอยากพักถาม เจียมต้วน้อยถอยไว้กลัวไม่งาม ขอชั่วยามแรมแรงรุ่งแจ้งจร รอตะวันลั่นฟ้าเห็นหน้าเพื่อน คืนแรมเดือนดาวดิ่งลงสิิงขร คล้ายชีวิตบิดกฏบทลคร ด้วยสองกรแขนคู่ของผู้ใด หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 22 ธันวาคม 2012, 08:48:AM (http://image.ohozaa.com/i/e55/LvyECO.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wsr1dsSqD6NmNgcQ) คนเร่ร่อน นอนเสื่อ เชื่อคงแย่ ต้องตายแน่ ดวงจิต คิดหวั่นไหว ฝากแขนอ่อน นอนหนุน อุ่นละมัย ซบอิงไหล่ หลับสบาย ได้คลายร้อน รอตะวัน สาดส่อง มองยอดไม้ ขึ้นมาใหม่ ได้พบ ไม่หลบก่อน แต่ใจสาว หนาวสั่น หวั่นจากจร พ้นสิงขร เมื่อไหร่ คงไกลกัน พันทอง (http://image.ohozaa.com/i/8eb/8FOADz.png) (http://image.ohozaa.com/view2/w8c7tBjXL781v9Ix) หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 22 ธันวาคม 2012, 04:13:PM แต่งกลอนแปดทีไรไพล่ไปเจ็ด
ไม่ยอมเข็ดสอนใหม่เข้าใจบ้าง รู้หรอกรักกลอนเจ็ดไม่จืดจาง แต่กลอนแปดทิ้งขว้างไม่ดีนะ ใจหนอใจไผลเผลอละเมอเล่น คนใจเย็นใจเบาเฝ้าปล่อยปละ เอ้า! กลอนแปดก็แปดแปดดูซะ หก เจ็ด แปด นับขณะ ประดิษฐ์คำ มาบ่นบื้อแทรกบทสนทนา ขออภัยหน่อยจ้า...(หน้าแดงก่ำ) emo_25 เห็นคนจรมุดพงลงลำนำ อย่าหน้าง้ำโกรธานะสาวน้อย "โอ้ละหนอ ไก่ป่ารู้หน้าที่ เอ้ก เอ้ก อี้ อี้ เอ้ก เอก เสกแสงสร้อย พรายน้ำตาจันทร์จวงเลื่อนดวงลอย กะพริบพร้อยเหือดหายไม่ทันลา..." emo_79 หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 22 ธันวาคม 2012, 10:18:PM emo_101 emo_101 emo_101 อยากจะแต่งกลอนแปดอย่างนักปราชญ์ ให้ฉูดฉาดชุ่มฉ่ำแบบสามช่า แต่งทีไรไม่ลื่นจนเมื่อยล้า เหมือนกับม้าขึ้นเขาตอนเข้ามุม แต่ว่าแต่งทีไรใจแทบหลุด เหมือนกับจุดขี้ไต้อยู่ในตุ่ม เผลอทีไรใช้เก้าคำคะมำคุม เหมือนตกหลุมตกร่องกระยองกระแยง emo_32 “ไพร พนาวัลย์” emo_86 หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 23 ธันวาคม 2012, 10:54:AM (http://image.ohozaa.com/i/944/bXKTut.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wxi4whIZ5ZtgqGLI) จัดแต่งองค์ ทรงเครื่อง เรืองระยับ ผ้ารีดทับ จับจีบ รีบตกแต่ง สไบนาง คาดคต กดทะแยง ตุ้มหูแบ่ง มาใส่ ให้เหมาะกัน ส่วนถุงน่อง รองเท้า ขาวหุ้มส้น สุภาพชน เขาใส่ อย่าไหวหวั่น ว่างามเนาะ เหมาะสม ภิรมณ์พลัน งามดั่งจันทร์ ผ่องเพ็ญ เด่นเลิศลอย แล้วหวีผม เกล้ามวย ใช้กรวยครอบ ม้วนให้รอบ ศรีษะ จะก้นหอย นำปิ่นปัก ตรงกลาง อย่างแม่พลอย มีภู่ห้อย ปลายปิ่น ถิ่นนิยม เสร็จจัดแจง แต่งหน้า ทาแป้งร่ำ ขอบตาคล้ำ ทาทับ นับว่าสม วาดเรียวปาก เอิบอิ่ม ยิ้มชวนชม เยื้องกรายสม หญิงไทย วิไลเอย พันทอง (http://image.ohozaa.com/i/944/bXKTut.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wxi4whIZ5ZtgqGLI) หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 24 ธันวาคม 2012, 11:24:PM ...
กลอนจะดีมีครูคอยจู้จี้ เผลอก็ตีเป็กเป๊กเสียงเขกขู่ ใจละห้อยพร้อยตาแล้วหนาครู ใครจะรู้คำซ่อนแอบอ้อนอิง กลอนทรงเครื่องเรืองรองดังทองพัน เทียมเทพชั้นมีองค์มาลงสิง สถานนี้ที่รู้มีอยู่จริง เป็นแม่หญิงแน่เน้ออย่าเผลอลอง หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 24 ธันวาคม 2012, 11:52:PM (http://www.klonthaiclub.com/pic/bar_011.gif) (http://www.klonthaiclub.com) แซมก็ต้องปรับปรุงค่ะ..เจ็ด หรือเก้าประจำเลย..ต้องขอบคุณ..คุณครูผู้จ่อจี้ ไม่หลีกหนี..ศอกเข่า..ท่านเฝ้าถอง เขียนกลอนแปดแฝดสี่มีทำนอง ลำนำร้องเพลินเพลิดบรรเจิดกานท์ (http://upic.me/i/u2/48444z0c8y6274p.gif) แต่มัวเผลอขาดเกินแกล้งเมินซะ เงอะเงอะงะแอบสดับมาขับขาน หนูยังด้อยโปรดอภัยว่าให้ทาน เวลางานแอบอ้อนร่ายกลอนยาว (http://upic.me/i/u2/48444z0c8y6274p.gif) แซมค่ะ emo_107 โดยเฉพาะถ้าแอบเขียนเวลางาน... emo_26 หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 25 ธันวาคม 2012, 12:37:AM ...
กลอนกร้าวแกร่งแรงดีมวยมีแถม ใครจะแหยมใจถึงกลัวกึ่งกล้า กลอนบ้านนี้มีครบอยากหลบตา คอยแอบมาตอนดึกผลังฝึกมวย ยกแขนป้องจ้องตาตั้งท่าเผ่น ไม่น่าเล่นร้องอู้หาครูช่วย รุ่นพี่เราเขาเผลอไม่เอออวย คงไม่สวยใครเห็นว่าเป็นทอม เขียนกลอนไม่เก่ง กลอนพาไป... หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 25 ธันวาคม 2012, 12:43:AM (ลงกลอนพร้อมกัน กลอนผมขออนุญาตเชื่อมสัมผัสกับกลอนท่านน้องแซมเน่อ)
๐อยากจะแต่ง กลอนงาม ครั่นคร้ามนัก อ่อนลายลักษณ์ อักษรา จึงพาฉาว อยากร่ายรำ คำเอื้อน กระเทือนดาว แต่อะอ้าว ธุลี มิมีปลิว ๐ศัพท์พร่องพรุน เผาะผุ ฉลุลอก กร่อนกระฉอก ช้ำเฉอะ จนเลอะผิว ทำอย่างไร ร่ายเพลง บรรเลงพลิ้ว ให้แล่นฉิว เฉกปราชญ์ กวัดกลอน ๐คงมีเพียง ทางเดียว คือเชี่ยวโฉม ฝึกประโคม คำหวาน ครูท่านสอน ฝึกอ่านงาน นบคุณ ครูสุนทรฯ เพื่อเป็นพร พรมเกล้า เฉลาตาม emo_54 emo_126 หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 25 ธันวาคม 2012, 01:01:AM (http://www.msbgifts.com/assets/images/824900.jpg) แซมเป็นหญิงจริงแท้แม่เคยบอก เอ๊ะ!! แม่หลอกหรือเปล่าคนเขาถาม เห็นหน้าตาเจ้าชู้ดูคล้ายงาม.... (แค่คล้ายๆ.. emo_26) อยากรู้ความจริงแท้..เชิญแก้กลอน emo_116 เล็งสองหนุ่มซุ่มดึกให้คึกคัก รีบมาทักฝากใจให้ลองก่อน เจรจาพาทีไม่มีงอน..... (นี่หลอก.. emo_52) แค่อยากอ้อนรับไหม..ไม่ใช่ทอม emo_116 แซมค่ะ มาดวลกันก่อน.. emo_51 หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 25 ธันวาคม 2012, 09:02:AM (http://lightworkermike.files.wordpress.com/2011/12/little_wonders_by_kattnboys.jpg?w=468&h=609) ทำอะไรเจ้าฮูก..หรือถูกไล่ ไปขัดใจใครเล่าเขาโมโห อดนอนเตียงเคียงตั่งนั่งหัวโต จนตาโบ๋..ไม่ได้นอน..แกล้งอ้อนกัน (http://upic.me/i/o0/1201606mowzwk4se7.gif) มาหยอกยั่วคนเขา..เมาสระ อุ..อิ..อะ ขยับติด..ผิดคำผัน ความรู้ด้อย..คอยคุณ..ช่วยหนุนดัน ถ้าไม่งั้น..เจ้ากระจอก บอก..อั๊วซวย emo_107 แซมค่ะ หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 09 มกราคม 2013, 09:12:AM เฮ้...
เช้าวันนี้ขี้เกียจค่อยเหยียดร่าง สะบัดหาง...เอ้ยหัวบิดตัวเอี้ยว ขยับเลื้อย...เอ้ยแกว่งแขนแรงเชียว พอได้เรี่ยวก็ขอนอนต่อไป (http://www.youtube.com/watch?v=-gzIfJtV_rc#noexternalembed[/url) หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 09 มกราคม 2013, 07:47:PM emo_116 emo_116 บิดขี้เกียจ สามที วันนี้หนาว น้ำค้างพราว พรมร่าง อ้างว้างไหม แหย่มือออก นอกผ้า อุราไกว ลมพัดไหว ม่านบาง หน้าต่างนอน บิดขี้เกียจ ยันร่าง ถ่างตาตี่ อากาศดี ขอต่อ หนอผัดผ่อน สิบนาที ไม่นาน มานร้าวรอน หลับตาก่อน แป๊บเดียว เสียวถึงทรวง โทรศัพท์ ดังรัว หัวตกหมอน เสียงสะท้อน ปลายสาย ให้วายป่วง งานไม่ทำ ช้ำจิต ผิดทั้งปวง เหตุเพราะง่วง จริงแท้ แย่เลยเรา พันทอง emo_82 emo_82 หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: yaguza ที่ 09 มกราคม 2013, 08:17:PM บิดขี้เกียจ สามที ตีห้ากว่า นาฬิกา หัวเตียง เสียงกระเส่า เอื้อมไปปิด จิตใจ ให้ซึมเซา หาวเบาเบา ปิดปาก อยากจะนอน ลุกมาเข้า ห้องน้ำ ทำธุระ เสร็จแล้วจะ รีบบึ่ง มาถึงหมอน หยิบผ้าผวย ผืนหนา อย่างอาวรณ์ ค่อยค่อยหย่อน กายกลับ หลับอีกครา ...ยากูซ่า.... หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 10 มกราคม 2013, 12:23:AM ...
เลิกงานดึกคึกนักไม่พักผ่อน ก่อนจะนอนขอดวดให้ขวดขาว ยากูซ่าพาพันให้ฝันยาว เก็บไว้หาวตอนเช้าไม่เข้างาน (http://www.youtube.com/watch?v=Qk602Y66UgI#noexternalembed[/url) หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 10 มกราคม 2013, 05:41:AM ตื่นตีห้ากาแฟแก่ขมปี๋ ซดละทีมีรสชาติขาดนุ่มหวาน ฝันทั้งคืนตื่นหลับกระสับมาน ปวดกบาลทานถ่อล่อกาแฟ รพีฯ หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 10 มกราคม 2013, 08:32:AM emo_116 emo_116 emo_116 กาแฟดำ นมใส่ ไหมเล่าป๋า ตื่นเช้ามา ยกซด หมดแก้วแน่ ตามด้วยชา ล้างปาก จากดวงแด อย่าเชือนแช รีบด่วน สวนลำไย ตัดแต่งแก่ง หรือยัง อย่านั่งหาว ปุ๋ยค้างคาว ดีหนอ ต่อดอกได้ ผลผลิต ติดตรึม ซึมทำไม รวยกันใหญ่ คราวนี้ รพีกาญจน์ พันทอง emo_82 emo_126 emo_126 หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: khuadkao ที่ 10 มกราคม 2013, 12:30:PM ขวดไม่ดื่มกาแฟรสแก่จัด ไม่ถนัดขมจึงถึงปล่อยผ่าน ขวดดื่มยิ้มนางใจในดวงมาน ยิ้มเธอหวานใจจริงเป็นยิ่งนัก ยิ้มเธอหวานเกินใครในโลกหล้า แต่ว่าเหล้าหวานกว่าคราอกหัก ยามเธอไม่ยิ้มให้ชื่นใจรัก เหล้านั้นมักหวานคอขมก็กลืน หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 10 มกราคม 2013, 09:15:PM emo_116 emo_116 emo_116 กาแฟดำ นมใส่ ไหมเล่าป๋า ตื่นเช้ามา ยกซด หมดแก้วแน่ ตามด้วยชา ล้างปาก จากดวงแด อย่าเชือนแช รีบด่วน สวนลำไย ตัดแต่งแก่ง หรือยัง อย่านั่งหาว ปุ๋ยค้างคาว ดีหนอ ต่อดอกได้ ผลผลิต ติดตรึม ซึมทำไม รวยกันใหญ่ คราวนี้ รพีกาญจน์ พันทอง emo_82 emo_126 emo_126 ส่งออกแย่ แพ้อนาถ รองชาติอื่น เคยราบรื่น เป็นหนึ่ง ทึ่งกล่าวขาน ดุจดังทอง ของไทย กำไรบาน โลกต้องการ นิยม ชมชอบกิน ถูกฉ้อฉล กลไก ใช้ตลาด ซื้อผูกขาด กำหนด กดค่าสิ้น ถึงวิเศษ เกรดเอ เทลงดิน พอได้ยิน ราคา แทบบ้าตาย ลำไยทาน หวานกรอบ ชอบอร่อย เม็ดในน้อย เนื้อแช่ แก้กระหาย แคลอรี่ มีสูง บำรุงกาย เข้าล้งขาย ฟันที่ ยี่สิบ(บาท)/โล ตกแต่งต้น คนปุ๋ย ลุยถางหญ้า ให้น้ำท่า ฆ่าแมลง ช่อแทงโผล่ ค้ำกิ่งก้าน รานตอ พ่นฮอร์โมน์ จนผอมโซ เรื่อยมา กว่าทั้งปี หักต้นทุน มูลจ่าย ขายสุทธิ เหลือกระบิ เฉลี่ยปัน วันร้อยสี่(บาท) น้ำตาหลั่ง นั่งเศร้า เหงาฤดี ต้นดอกหนี้ ขอเทิน เมินใบเตือน ให้ร้อนรุ่ม กุมภา เข้าหน้าแล้ง น้ำอ่างแอ่ง แห้งขอด ตลอดเขื่อน มิว่าจ้าง ร้างงาน นานแรมเดือน คงละเถื่อน หาเงิน เดินเมืองกรุง emo_114 รพีกาญจน์ หัวข้อ: Re: หัดแต่งกลอน ๘ เริ่มหัวข้อโดย: @free ที่ 11 มกราคม 2013, 12:47:AM ...
ใครกำหนดกดค่ามันน่านัก บวกลบชักกำไรเอาไว้สูง ต้องยอมเขาเหล่ามากกระชากจูง อยากฟื้นฟุ้งแดนถิ่นปลูกกินเอง ขายกินกันเองในประเทศอะครับ มันน่าหวงอะเนาะ |