พิมพ์หน้านี้ - มองหมอกม่านหม่นมัวสลัวแสง

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนตลกๆ ฮาเฮ => ข้อความที่เริ่มโดย: อริญชย์ ที่ 13 กันยายน 2012, 07:40:PM



หัวข้อ: มองหมอกม่านหม่นมัวสลัวแสง
เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 13 กันยายน 2012, 07:40:PM
     หมอกม่านหม่นมัวสลัวแสง

เดินโดดเดี่ยวเดียวดายสู่ปลายฝัน
ยิ้มยืนยันเหยียบย่างบนทางฝุ่น
ท้อทุกข์ทนท่วงท่ายังการุญ
เหน็บหนาวหนุนเนื่องในหาได้เกรง

เกี่ยวเกื้อกูลเก็บก่อไม่ท้อถอย
ค่ำคืนคอยใคร่ครวญทบทวนเพ่ง
ข่มขมขื่นขีดเขียนพากเพียรเอง
เรียบเรียงเร่งเร็วรี่สุนทรีกลอน

โหยหิวหาหดหู่ยังสู้ต่อ
พากเพียรพอพึ่งพิงไม่ยิ่งหย่อน
ลบลืมเลือนแล้งลาให้อาวรณ์
จำใจจรจากจึงซาบซึ้งทรวง

มองหมอกม่านหม่นมัวสลัวแสง
ทาบทอแทงท้าทายดูคล้ายบ่วง
ความคิดแค้นคับแคบคือแบบลวง
ปั่นป่วนป่วงปกปิดชีวิตงาม ฯ

                        อริญชย์
                    ๑๓/๑๑/๒๕๕๕


ปล.เอาไว้ห้องนี้แหละ เพราะกลอนน่าขำเหลือเกิน อิอิ



 emo_107 emo_126 emo_107


หัวข้อ: Re: มองหมอกม่านหม่นมัวสลัวแสง
เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 13 กันยายน 2012, 08:11:PM
กลอนเก้งก้างกลิ้งกลอกบอกเวียนหัว
มันหมองมัวมืดมิดอย่าคิดถาม
เขาขีดขีดเขียนเขียนลอกเรียนตาม
เลยลุกลามหลามไหลไปตามกัน

สู้สะสางสืบเสาะลัดเลาะหา
คงคุณค่าคำคมภิรมย์ขวัญ
มึนมากมายหมายมุ่งยุ่งทั้งวัน
อย่าเย้ยหยันยืดยาวหนาวเลย..ตู

--natcha--

 emo_115


หัวข้อ: Re: มองหมอกม่านหม่นมัวสลัวแสง
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 13 กันยายน 2012, 08:55:PM
emo_116 emo_116 emo_116
อ่านอิ่มเอม เปรมปรีดิ์ รี่มาตอบ
อ่านจนขอบ ตาช้ำ คำโคตรหรู
อ่านวกเวียน เอียนมาก อยากลองดู
อ่านแล้วตู หมกมุ่น ขุ่นแค้นใจ

จึงเลิกอ่าน ผ่านไป หมั่นไส้นัก
จึงเลิกอ่าน หวานหนัก ชักไม่ไหว
จึงเลิกอ่าน น้องณัชฯ ไม่อัดใคร
จึงเลิกอ่าน จัดเต็มใหม่ ใจเฝ้าคอย
พันทอง
 emo_82 emo_82 emo_82


หัวข้อ: Re: มองหมอกม่านหม่นมัวสลัวแสง
เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 13 กันยายน 2012, 08:56:PM
(http://www.dreamdesignsflorist.com/wordpress/wp-content/uploads/callalily_400x400.jpg)

ต้องติดตามตัวตนคนค้นคิด
แจ่มแจ้งจิตจดจำลำนำหรู
ชื่นชมชอบชั้นเชิงน่าเชิดชู
สรรสร้างสิ่งสวยสู่ผู้อ่านกลอน
(http://upic.me/i/bv/colakhcola71a.gif)
แม้มืดมัวหมองหม่นยังบ่นได้
แกะ ก.ไก่ก่อกานท์มาจารอ้อน
แซมซาบซึ้งซ้ำซากมิจากจร
แอบออดอ้อนอ้ายอริญชย์จากถิ่นไกล
 emo_107
แซมค่ะ

จ๊าก..พี่พันปาดแซม เจ็บนะจ๊ะ..♥


หัวข้อ: Re: มองหมอกม่านหม่นมัวสลัวแสง
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 13 กันยายน 2012, 09:30:PM
ฯลฯ
ปั่นป่วนป่วงปกปิดชีวิตงาม ฯ

                        อริญชย์
                    ๑๓/๑๑/๒๕๕๕

น้องนงนุชแน่งน้อยคอยอยู่เหย้า
ผายผมเผ้าผิดผ่าน่าเกรงขาม
รอรถราเรียงรายหลายโมงยาม
ท่านทาบทามท่องเที่ยวประเดี๋ยวมา

ตรึกตรองตนตระเตรียมให้เอี่ยมอ่อง
มั่นหมายมีแมวมองคอยจ้องหา
จำจดจ่อจะแจ้งแซงดารา
ทิ้งทวงท่าท้าทายความหมายมี.

นพ
13ก.ย.55


หัวข้อ: Re: มองหมอกม่านหม่นมัวสลัวแสง
เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 13 กันยายน 2012, 10:13:PM
(http://upic.me/i/tf/070402_racola71a.gif)

รักลาโรยร้างลับมิกลับหวน
ชมชื่นชวนชั่วช่วงคล้ายลวงหลอน
เกินกล้ำกลืนเกริ่นแก้แค่ทางกลอน
จำใจจรจากจางไปทางเรา
 emo_107
แซม


หัวข้อ: Re: มองหมอกม่านหม่นมัวสลัวแสง
เริ่มหัวข้อโดย: สมนึก นพ ที่ 13 กันยายน 2012, 10:18:PM
จำใจจดจ่อจ้อง จริงจัง
เดินเดี่ยวดุจดาวดัง ดุ่มด้น
ผงาดผ่ายผอมผัง ผุดผ่าน
พวกพล่านพัวพันพ้น พ่ายแพ้พรางพราย.

นพ
13ก.ย.55


หัวข้อ: Re: มองหมอกม่านหม่นมัวสลัวแสง
เริ่มหัวข้อโดย: ชลนา ทิชากร ที่ 14 กันยายน 2012, 12:25:AM
(http://i415.photobucket.com/albums/pp236/yamiejung12/numie01/rro36.gif)

กกกอดกาย ก่ายกัก กวักแกว่งก้าว
ขาข่วนขาว ข้าวขมขื่นขึ้นของขาย
ควายคิดคำ คล้ำเคียว เคี้ยวแคล้วคาย
งงงมงาย ง่ายหงก งกงกงัน

จิกแจกจ่าย จรายจาง จ้างแจ่มแจว
เดียวดายแด่ว เด้งดวง ด้วงดุ่มดั้น
เต่าตนุ  ตุ๊ต๊ะ ตระตุ้ยตัน
พอเพริดพลัน พากเพียร เวียนหัวแล้ว

ชลนา  ทิชากร

(http://i415.photobucket.com/albums/pp236/yamiejung12/numie01/rro36.gif)