หัวข้อ: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 12 กันยายน 2012, 04:16:PM วันนี้เสนอตอน:
วิจารณ์สุนันยา เธอแต่งกลอนวอนรักสลักค่า พจนาหวานซึ้งฝังตรึงจิต เปรียบอกหักรักลาคือยาพิษ คอยสะกิดดวงฤทัยอยู่หลายคน ตัวอักษรสีชมพูมองดูเด่น บ่งบอกเช่นความหมายที่คลายหม่น เหมือนท่องเที่ยวถิ่นมีกวีมนตร์ ซึ่งเปี่ยมล้นความหวังพลังใจ เรื่องเฮฮาตลกขอยกออก กลอนเธอบอกยืนยันเพียงฝันใฝ่ หมายผดุงวรรณศิลป์แผ่นดินไทย จึงอ่อนไหวทุกถ้อยที่ร้อยกรอง จะวิจารณ์ให้ขำคงลำบาก เพราะถ้าหากเธอโกรธอาจโดดถอง เทควันโด เช้า-ค่ำ ฝึกช่ำชอง ขอยกย่องแต่งกลอนหวานสถานเดียว!ฯ Arinchai 9/12/2012 emo_107 emo_68 emo_107 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 12 กันยายน 2012, 04:54:PM emo_111....ครั้งระทม ตรมหมอง ลองลื้ออ่าน กลอนนงคราญ พาใจ ไปฝันเกี่ยว กับอารมณ์ ขมขื่น มิฝืนเชียว หลงอยู่เสี้ยว นาที มีน้ำตา... emo_33 รัตนาวดี emo_54 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: ดาว อาชาไนย ที่ 12 กันยายน 2012, 05:27:PM แม้กลอนขมขื่นใดก็ไม่เขียน มิยอมเปลี่ยนแนวใหม่ไปกลอนเปรี้ยว เขียนกลอนน่าชื่นชมดั่งคมเคียว จะไปเกี่ยวใจใครบ้างไม่รู้ ใครนะปาดหน้าเรา หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 12 กันยายน 2012, 05:34:PM วันนี้เสนอตอน: วิจารณ์สุนันยา เธอแต่งกลอนวอนรักสลักค่า พจนาหวานซึ้งฝังตรึงจิต เขียนอกหักรักลาเปรียบยาพิษ คอยสะกิดดวงฤทัยอยู่หลายคน ตัวอักษรสีชมพูมองดูเด่น สื่อให้เห็นความหมายที่คลายหม่น เหมือนท่องเที่ยวถิ่นมีกวีมนตร์ ซึ่งเปี่ยมล้นความหวังพลังใจ เรื่องเฮฮาตลกขอยกออก กลอนเธอบอกยืนยันเพียงฝันใฝ่ หมายผดุงวรรณศิลป์แผ่นดินไทย จึงอ่อนไหวทุกถ้อยที่ร้อยกรอง จะวิจารณ์ให้ขำคงลำบาก เพราะถ้าหากเธอโกรธอาจโดดถอง เทควันโด เช้า-ค่ำ ฝึกช่ำชอง ขอยกย่องแต่งกลอนหวานสถานเดียว!ฯ Arinchai 9/12/2012 emo_107 emo_68 emo_107 (http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcRhfbtJovY-zpPTiDpvE_P_-QZMcw7bAlJoG2gDEogQJuww6Oli9ZMHfmrZ) เปิดมาเจอ เผลอลง หรือสงสัย จะวิจารณ์ อะไร ให้หวาดเสียว คนเขียนกลอน อ้อนรัก สลักเกลียว หัวใจเปลี่ยว เดียวดาย ระบายวาง มีหวานคลอ ล้อเล่น เป็นบางช่วง อยากให้ห่วง ช่วงเหว่ว้า อย่าเมินหมาง จินตนา พาฝัน หวั่นอำพราง บนเส้นทาง อักษร ให้กลอนพา คุณอริญฯ รินร่าย ให้จำเพาะ ดั่งมาเจาะ ใจหม่น เฝ้าค้นหา รู้ไปหมด ไขขาน สุนันยา วิจารณ์มา ดั่งเห็น ว่าเป็นจริง ไม่ต้องกลัว จะโกรธ ได้โปรดว่า วิจารณ์มา ให้รู้ เรื่องผู้หญิง หากขำได้ เชิญหนอ ไม่ขอติง เพราะทุกสิ่ง ยอมรับ ประทับใจ “สุนันยา” emo_126 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 12 กันยายน 2012, 05:56:PM emo_111 emo_111 emo_111 กว่าจะจารกานท์กลอนมาอ้อนอ่าน ชลธารผ่านตาร้อยกว่าไห เป็นหยดหมึกผนึกสาส์นไหลผ่านไป ชวนใครใครให้สลดในบทกลอน ผ้าเช็ดหน้ากว่าร้อยต้องคอยซับ ยามจ้องจับสดับจ้องมองอักษร ปานว่าใจให้อนาถจะขาดรอน ตามบังอรสมรน้องเจ้าของกานท์... emo_33 " บูรพ์ " emo_126 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: รการตติ ที่ 12 กันยายน 2012, 06:18:PM (http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line8/12852_75753.gif) รู้แต่ว่ากานท์กลอนอักษรสวย เขียนต่อด้วยทุกตอนอักษรหวาน สุขุมนุ่มออดอ้อนอักษรกานต์ เปรียบประมาณกลอนรักอักษรริน มีแทรกบทหวานซึ้งคะนึงหา บทโศกาเคล้ากวีก็มีศิลป์ บทยั่วเย้าเหงาหยอกย้อยยอกจินต์ ก็ประพิณหมดจดล้วนงดงาม (http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line8/12852_75753.gif) รการตติ หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 12 กันยายน 2012, 08:07:PM emo_111....ครั้งระทม ตรมหมอง ลองลื้ออ่าน กลอนนงคราญ พาใจ ไปฝันเกี่ยว กับอารมณ์ ขมขื่น มิฝืนเชียว หลงอยู่เสี้ยว นาที มีน้ำตา... emo_33 รัตนาวดี emo_54 บอกตามตรง คงเน้น เป็นกลอนเศร้า ก็ก็เหงา สะสม ตรมเรียกหา หวานที่เห็น เป็นบ้าง เพียงครั้งครา แล้วแต่ว่า เหตุการณ์ ผ่านมาเชียว... emo_01 "สุนันยา" emo_126 แม้กลอนขมขื่นใดก็ไม่เขียน มิยอมเปลี่ยนแนวใหม่ไปกลอนเปรี้ยว เขียนกลอนน่าชื่นชมดั่งคมเคียว จะไปเกี่ยวใจใครบ้างไม่รู้ ใครนะปาดหน้าเรา พี่ดาว เขียนตามแนว เนื้อเรื่อง มีเคืองขุ่น หวานละมุล ห่างหาย กลายอดสู มิได้คม คารมเด่น เห็นพร่างพรู กลอน งู งู ปลาปลา น้ำตาริน... emo_33 "สุนันยา" emo_126 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 12 กันยายน 2012, 08:32:PM บทกลอนเธอหวานหยดมดยังไต่ ดูอบอุ่นลมัยแทบตายดิ้น ถึงกลอนเศร้าหัวใจคล้ายพังภินท์ ดั่งชีวินจะดับลงล่วงลับลา กลอนของพี่หมดจดงามหยดย้อย เศร้าน้อยหน่อยก็ดีคุณพี่ขา พออ่านกลอนพี่เสร็จเช็ดน้ำตา เพื่อนหันมาเห็นเข้า...เค้าสุดอาย ณัชชา emo_33 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: yaguza ที่ 12 กันยายน 2012, 08:33:PM รู้แต่ว่ากานท์กลอนอักษรสวย เขียนต่อด้วยทุกตอนอักษรหวาน สุขุมนุ่มออดอ้อนอักษรกานต์ เปรียบประมาณกลอนรักอักษรริน มีแทรกบทหวานซึ้งคะนึงหา บทโศกาเคล้ากวีก็มีศิลป์ บทยั่วเย้าเหงาหยอกย้อยยอกจินต์ ก็ประพิณหมดจดล้วนงดงาม รการตติ เธอเขียนกลอน ได้หวาน ปานน้ำผึ้ง และซาบซึ้ง เพียงไหน อย่าไถ่ถาม ฉุดอารมณ์ หนุ่มน้อย ให้คล้อยตาม แค่เอ่ยนาม สุนันยา น้ำตาคลอ เป็นเจ้าแม่ กลอนรัก กลอนหักอก กลอนตลก บอกให้ อย่าได้ขอ มาวิจารย์ เพื่อนเรา เท่านี้พอ อย่าหน้างอ คว้าหน้าสา มาตามตี ....ยากูซ่า.... หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 12 กันยายน 2012, 09:42:PM emo_126 หลายกระทู้ดูเศร้าเหงาซุกซ่อน เขียนโคลงกลอนอ่อนหวานผลงานพี่ เสน่ห์คำนำร้อยถ้อยวจี อินทุกทีที่อ่านงานทุกคราว กลอนซึ้งซึ้งเศร้าซ่อนอักษรหวาน ชอบแอบอ่านงานดีๆของพี่สาว แกงใจดีรับไปให้เจ็ดดาว แด่พี่สุ ณ.บัดนาว...เอาไปครอง.. emo_20 ---สะเลเต--- หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 12 กันยายน 2012, 10:04:PM (http://valentinesday-gifts.org/wp-content/uploads/2011/01/Precious-Heart-Bouquet-Carnations-Flowers-Fast.jpg) เผยอารมณ์กลมกล่อมล้อมประดับ ร้อยสลับวจีใสไม่มีสอง ทั้งน้ำใจท้นเอ่อเธอปรองดอง เพื่อน..พี่..น้อง เธอแบ่งปันสัมพันธ์ใจ (http://upic.me/i/63/4784753a9f695.gif) ดั่งมาลีรวยรินชื่นกลิ่นฉม ลำนำคมตรึงจิตพิสมัย จินตนาการบรรเจิดล้วนเลิศนัย เธอได้ใจของแซมไปแจมกลอน emo_116 แซมค่ะ หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 13 กันยายน 2012, 06:19:AM emo_111 emo_111 emo_111 กว่าจะจารกานท์กลอนมาอ้อนอ่าน ชลธารผ่านตาร้อยกว่าไห เป็นหยดหมึกผนึกสาส์นไหลผ่านไป ชวนใครใครให้สลดในบทกลอน ผ้าเช็ดหน้ากว่าร้อยต้องคอยซับ ยามจ้องจับสดับจ้องมองอักษร ปานว่าใจให้อนาถจะขาดรอน ตามบังอรสมรน้องเจ้าของกานท์... emo_33 " บูรพ์ " emo_126 พี่บูรพ์ฯก็ พูดเกิน เขินนะนี่ น้ำตาพลี เรียกให้ ใครสงสาร เขียนกลอนเล่า เคล้าเรื่อง เคืองดวงมาน อักษรพาล ช้ำสลด รันทดใจ จะแถมผ้า เช็ดหน้า นำมาฝาก มันก็ยาก คิดส่ง ว่าตรงไหน ผ้าร้อยผืน หากส่ง คงน้อยไป น้ำตาพี่ มากกว่าใคร คงไม่พอ “สุนันยา” emo_95 emo_62 emo_126 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 13 กันยายน 2012, 06:29:AM (http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line8/12852_75753.gif) รู้แต่ว่ากานท์กลอนอักษรสวย เขียนต่อด้วยทุกตอนอักษรหวาน สุขุมนุ่มออดอ้อนอักษรกานต์ เปรียบประมาณกลอนรักอักษรริน มีแทรกบทหวานซึ้งคะนึงหา บทโศกาเคล้ากวีก็มีศิลป์ บทยั่วเย้าเหงาหยอกย้อยยอกจินต์ ก็ประพิณหมดจดล้วนงดงาม (http://www.whenifallinlove.net/diary/images_line/line8/12852_75753.gif) รการตติ คุณรการฯ หวานนำ คำฉ่ำชื่น สุจึงยื่น หวานตอบ มอบไหวหวาม เมื่อวลีมีวอน สุอ้อนตาม อักษรความ ยามรัก สลักตรึง เมื่ออารมณ์ พรมประสาน กานท์สลัก ได้ประจักษ์ อยู่บ่วง ห้วงคิดถึง เศร้าก็สอด พลอดคำ เพ้อรำพึง ด้วยคะนึง ซึ้งสุด ไม่หยุดครวญ.. "สุนันยา" emo_126 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 13 กันยายน 2012, 06:56:AM บทกลอนเธอหวานหยดมดยังไต่ ดูอบอุ่นลมัยแทบตายดิ้น ถึงกลอนเศร้าหัวใจคล้ายพังภินท์ ดั่งชีวินจะดับลงล่วงลับลา กลอนของพี่หมดจดงามหยดย้อย เศร้าน้อยหน่อยก็ดีคุณพี่ขา พออ่านกลอนพี่เสร็จเช็ดน้ำตา เพื่อนหันมาเห็นเข้า...เค้าสุดอาย ณัชชา emo_33 ต้องขอโทษ ณัชชา พาเธอเศร้า น้ำตาเจ้า เจิ่งนอง พร่องเป็นสาย อ่านผลงาน ระทม ตรมเดียวดาย ถึงกับต้อง ฟูมฟาย ระบายมา พี่จะลอง เขียนตาม คำนัชฯบ้าง จัดมาวาง ให้แกร่ง แหล่งภาษา แต่ตองเพียร เรียนพร่ำ จำนรรจา วานนัชชา ชี้นำ ถ้อยคำกลอน... emo_20 "สุนันยา" emo_126 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 13 กันยายน 2012, 07:07:AM เธอเขียนกลอน ได้หวาน ปานน้ำผึ้ง และซาบซึ้ง เพียงไหน อย่าไถ่ถาม ฉุดอารมณ์ หนุ่มน้อย ให้คล้อยตาม แค่เอ่ยนาม สุนันยา น้ำตาคลอ เป็นเจ้าแม่ กลอนรัก กลอนหักอก กลอนตลก บอกให้ อย่าได้ขอ มาวิจารย์ เพื่อนเรา เท่านี้พอ อย่าหน้างอ คว้าหน้าสา มาตามตี ....ยากูซ่า.... อ่านถ้อยเธอ วิจารณ์ ฉันยิ้มได้ คนอะไร กล่าวมา พาสุขศรี ขำนะขำ คำร้อย ถ้อยวจี จริงหรือนี่ เป็นเจ้าแม่ แลคำกลอน กลอนตลกเขียนได้ ในบางครั้ง หากเธอรั้ง ไม่สะดุด ฉุดอักษร จะเพ้อพก ถกความ ตามทุกตอน ไม่มีงอน หน้าง้ำ ทำตีรวน... emo_45 "สุนันยา" emo_126 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 13 กันยายน 2012, 07:36:AM (http://i269.photobucket.com/albums/jj52/modx/NB143.gif) ยามง่วงเหงา เข้าอ่านกานท์ สราญรื่น บางคราขื่น ขมมาน พานไห้หวน ยืมกลอนพี่ ผ่อนคลาย หายรัญจวน โศกกำสรวล คล้ายกัน พอผันไกล อ่านกานท์เขา เหงาไม่ทัน เช้ายันค่ำ เหงาประจำ ซ้ำพา น้ำตาไหล หวานปนเศร้า เหงาซึ้ง ตรึงตราใจ “สุนันยา”ร่ำไห้ ได้ทั้งวัน น้องคนเล็กมาล่า emo_116 "ดิน" (http://i269.photobucket.com/albums/jj52/modx/NB143.gif) หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: มังตรา ที่ 13 กันยายน 2012, 08:11:AM อ่านถ้อยเธอ วิจารณ์ ฉันยิ้มได้
คนอะไร กล่าวมา พาสุขศรี ขำนะขำ คำร้อย ถ้อยวจี จริงหรือนี่ เป็นเจ้าแม่ แลคำกลอน กลอนตลกเขียนได้ ในบางครั้ง หากเธอรั้ง ไม่สะดุด ฉุดอักษร จะเพ้อพก ถกความ ตามทุกตอน ไม่มีงอน หน้าง้ำ ทำตีรวน... "สุนันยา" เป็นคนหวาน ซ่านซึ้ง หนึ่งในหล้า เจ้าปัญญา ปัญหาแน่ แพ้สมร วาจางาม จรด ทุกบทกลอน นิสัยอ้อน ชวนหลง ส่งหัวใจ สุนันยา แปลว่าไร ให้ช่วยบอก อย่าแปลหลอก เฉตรง เดี๋ยวงงใส่ มังสุยา คำพ้อง น้องแปลไง ช่วยแปลให้ พี่รู้ เลิกวู่วาม emo_89 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 13 กันยายน 2012, 09:54:AM emo_126 หลายกระทู้ดูเศร้าเหงาซุกซ่อน เขียนโคลงกลอนอ่อนหวานผลงานพี่ เสน่ห์คำนำร้อยถ้อยวจี อินทุกทีที่อ่านงานทุกคราว กลอนซึ้งซึ้งเศร้าซ่อนอักษรหวาน ชอบแอบอ่านงานดีๆของพี่สาว แกงใจดีรับไปให้เจ็ดดาว แด่พี่สุ ณ.บัดนาว...เอาไปครอง.. emo_20 ---สะเลเต--- คงเป็นดาว ลูกไก่ เธอให้พี่ เพราะว่ามี เจ็ดดวง พ่วงสนอง ขอขอบใจ คำคม ชมร้อยกรอง ที่นวลน้อง ส่งความ พี่ฉ่ำจินต์ ยกให้พี่สักคน ช่วยทนอ่าน แม้นเศร้านาน หวานน้อย พลอยถวิล อาจปวดร้าว ทำเจ้าน้ำตาริน อย่าไปอิน จนเพ้อ เผลอคร่ำครวญ... emo_26 "สุนันยา" emo_126 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 13 กันยายน 2012, 10:08:AM (http://valentinesday-gifts.org/wp-content/uploads/2011/01/Precious-Heart-Bouquet-Carnations-Flowers-Fast.jpg) เผยอารมณ์กลมกล่อมล้อมประดับ ร้อยสลับวจีใสไม่มีสอง ทั้งน้ำใจท้นเอ่อเธอปรองดอง เพื่อน..พี่..น้อง เธอแบ่งปันสัมพันธ์ใจ (http://upic.me/i/63/4784753a9f695.gif) ดั่งมาลีรวยรินชื่นกลิ่นฉม ลำนำคมตรึงจิตพิสมัย จินตนาการบรรเจิดล้วนเลิศนัย เธอได้ใจของแซมไปแจมกลอน emo_116 แซมค่ะ ช่างหวานคำ นำกล่าว เอามาบอก ดุจเย้าหยอก ออกคำ ฉ่ำอักษร แซม แจ่มใส ด้วยรส บทสุนทร เอื้ออาทร กรองกานท์ ผ่านให้มา เพียงใส่ใจ ตอกย้ำ ความรู้สึก จิตสำนึก ตรึกลง ตรงภาษา แล้ววาดฝัน นั้นใส่ จินตนา กลั่นออกมา เป็นกลอน เพื่ออ้อนเธอ... emo_47 "สุนันยา" emo_126 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: ก้าวแรกฯ... ที่ 13 กันยายน 2012, 10:27:AM มาตามติดสะกิดกายสหายเก่า อ่านกานท์เศร้าเหงาซ่านผ่านอักษร เธอบรรจงลงสลักทุกวรรคตอน เศร้าแฝงอ้อนแฝงงอนตอนจดจาร บทประพันธ์สรรสร้างบางรู้สึก เผยส่วนลึกผนึกเก่าทั้งเศร้า.หวาน ฤาขื่นขมถมเศร้าเคล้าดวงมาน กี่วันวารผ่านกรำช้ำเดียวดาย เพียรจารจดเถิดนะสหายเก่า จงเขียนเล่าเศร้า.หวานผ่านความหมาย- ที่ลึกซึ้งตรึงอยู่ไม่รู้วาย ทุกเรื่องราวมิเปล่าดายหรอกที่รัก ก้าวแรกฯ... หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 13 กันยายน 2012, 01:41:PM (http://i269.photobucket.com/albums/jj52/modx/NB143.gif) ยามง่วงเหงา เข้าอ่านกานท์ สราญรื่น บางคราขื่น ขมมาน พานไห้หวน ยืมกลอนพี่ ผ่อนคลาย หายรัญจวน โศกกำสรวล คล้ายกัน พอผันไกล อ่านกานท์เขา เหงาไม่ทัน เช้ายันค่ำ เหงาประจำ ซ้ำพา น้ำตาไหล หวานปนเศร้า เหงาซึ้ง ตรึงตราใจ “สุนันยา”ร่ำไห้ ได้ทั้งวัน น้องคนเล็กมาล่า emo_116 "ดิน" (http://i269.photobucket.com/albums/jj52/modx/NB143.gif) เอ่อ..ดินจ๋า พาคำ มาย้ำติด เหมือนสะกิด พิษลาม ทำใจหวั่น จุ๊ จุ๊ จุ๊ อย่าเอ็ด เดี๋ยวเสร็จกัน พี่แอบฝัน หวานคลอ นั้นพอมี แต่ความฝัน มับจบ คล้ายหลบเลี่ยง เป็นทางเบี่ยง เบนบ่าย กลายถอยหนี จึ่งต้องวน มาเศร้า เหงาทั้งปี เป็นอย่านี้ ประจำ....จะทำไง?...เฮ้อ!!!! emo_33 "สุนันยา" emo_126 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 13 กันยายน 2012, 01:42:PM เป็นคนหวาน ซ่านซึ้ง หนึ่งในหล้า เจ้าปัญญา ปัญหาแน่ แพ้สมร วาจางาม จรด ทุกบทกลอน นิสัยอ้อน ชวนหลง ส่งหัวใจ สุนันยา แปลว่าไร ให้ช่วยบอก อย่าแปลหลอก เฉตรง เดี๋ยวงงใส่ มังสุยา คำพ้อง น้องแปลไง ช่วยแปลให้ พี่รู้ เลิกวู่วาม "มังตรา" emo_89 หวานซ่านซึ้ง ตรึงใจ เช่นไหนหนอ มาแกล้งล้อ ให้งง ส่งคำถาม หรือสนใจ เหลียวแล แค่เนื้อความ "สุนันยา" เพียงนาม ไร้คำแปล "มังสุยา"คำพ้อง คล้องความหมาย มังตราร่าย อักษรา คราชื่นแข มนตร์อักษร วอนไว้ ให้เหลียวแล ไม่รู้แน่ แค่เพียง ร้อยเรียงกานท์... emo_82 "สุนันยา" emo_126 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 13 กันยายน 2012, 02:18:PM มาตามติดสะกิดกายสหายเก่า อ่านกานท์เศร้าเหงาซ่านผ่านอักษร เธอบรรจงลงสลักทุกวรรคตอน เศร้าแฝงอ้อนแฝงงอนตอนจดจาร บทประพันธ์สรรสร้างบางรู้สึก เผยส่วนลึกผนึกเก่าทั้งเศร้า.หวาน ฤาขื่นขมถมเศร้าเคล้าดวงมาน กี่วันวารผ่านกรำช้ำเดียวดาย เพียรจารจดเถิดนะสหายเก่า จงเขียนเล่าเศร้า.หวานผ่านความหมาย- ที่ลึกซึ้งตรึงอยู่ไม่รู้วาย ทุกเรื่องราวมิเปล่าดายหรอกที่รัก ก้าวแรกฯ... เธอรินร้อย ถ้อยหวาน มาขานสู่ ให้ได้รู้ ดวงจิต ไม่คิดผลัก กำลังใจ แนบเนา เฝ้าท้วงทัก ซึ้งยิ่งนัก ลำนำ ที่ย้ำมา อย่าเพิ่งหน่าย หายห่าง ทางอักษร อย่าเบื่อกลอน คนเหงา เฝ้าครวญหา อย่าทิ้งไป ไม่หวง ห่วงนำพา อย่า ลืมสุนันยา นะเพื่อนเอย กลอนยังเหงา เศร้าขม ระทมท้อ ด้วยยังรอ คนปลอบ มอบคำเผย ยังอยากอ้อน วอนพร่ำ ทุกคำเปรย อย่าละเลย เฉยนัก ถ้ารักจริง... emo_20 "สุนันยา" emo_126 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 13 กันยายน 2012, 02:44:PM (http://upic.me/i/hw/173864-attachment.jpg) (http://upic.me/show/39136996) มุมหนึ่ง... น้องสุคะ.. เพราะอะไร อ่อนไหวนัก ใครหาญหัก น้ำใจ ให้โศกสม กลอนน้องสุ เศร้าหวาน รานอารมณ์ ไม่เคยตรม ยังครวญเศร้า เหงาเหมือนกัน อีกมุมหนึ่ง... น้องสุคะ.. เพราะอะไร มีใจเขียน มุพากเพียร ก้าวย่าง บนทางฝัน รักเสริมสวย ด้วยศรี กวีวรรณ รักรำพัน รำพึง ซาบซึ้งกลอน และมุมนี้ น้องสุคะ.. พี่ตั้งใจ ไม่ให้ตอบ มาเพื่อมอบดอกไม้ สายอักษร ขว้างก้อนหินทิ้งไป ไม่อาวรณ์ ดอกไม้พร ประดับขวัญ "สุนันยา" (http://upic.me/i/be/1221689yxbzj270tj.gif) (http://upic.me/show/3886737) พี่ พูนสุข หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 13 กันยายน 2012, 03:27:PM (http://image.free.in.th/z/ie/75_400.jpg) มุมหนึ่ง... พี่พีฯคะ.. เพราะกรรมมา พาโศกศัลย์ อดีตนั้น ระทม ตรมหนักหนา ใช่อ่อนไหว เพียงพร่ำ ลำนำมา ในส่วนลึก สุนันยา ล้าเกินทน อีกมุมหนึ่ง... พี่พีฯคะ.. เพราะรักบทพจนา จึงเรียงร้อย อักษรา มาเป็นผล รักความงาม ยามร่าย คล้ายต้องมนตร์ บันดาลดล ให้เพียร เฝ้าเขียนกานท์ และมุมนี้ พี่พีฯคะ.. สิ่งให้มา พาใจซึ้ง ติดตราตรึง กว่ารส บทคำหวาน จะจดจำ คำสอนไว้ ในดวงมาน ชื่นพรขาน สานสู่"สุนันยา” emo_126 "สุนันยา" (http://www.bloggang.com/data/praewkwun/picture/1226396988.jpg) หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 13 กันยายน 2012, 04:40:PM emo_116 emo_107 emo_95 ทางชีวิตหักเหต้องเร่ร่อน อู่เคยนอนร้อนรุ่มต้องคลุมหน้า น้ำเนตรตกอกช้ำต้องจำลา ดั่งถลาจากรังใจพังภินท์ สู้ชีวิตคิดหนักเพราะรักขม แม้ตรอมตรมเพียงใดยังไม่สิ้น ปลอบใจตนทนฝันขยันบิน จนชาชินความเศร้าแห่งเงากรรม ปลอบกมลคนไกลเอาใจช่วย ที่เคยป่วยให้หายอย่ากรายกล้ำ จงหมดทุกข์หมดโศกมีโชคนำ ฝากถ้อยคำพร่ำวอนดั่งพรพรม “ไพร พนาวัลย์” หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 13 กันยายน 2012, 04:57:PM emo_116 emo_116 emo_116 ทางชีวิต บางครั้ง ยังสับสน ทั้งมีดมน หนทาง อ้างว้างสม กรรมอันใด ไม่รู้ สู้ระทม รักมาล่ม พังพาบ วาบหวิวทรวง แสนเหว่ว้า อาวรณ์ นอนไม่หลับ ตั้งตานับ วันรอ หนอเป็นห่วง จิตหวั่นไหว มองฟ้า อย่าหลอกลวง คนอยู่ไกล ยังหวง ทุกช่วงจินต์ ฝากกานท์กลอน ไปห่ม พรหมเจ้าขา ฝากนภา ครวญเพลง บรรเลงสิ้น ฝากฝันดี ทุกคืน ชื่นชีวิน ฝากยุยุพิน ไปกอด ตลอดคืน พันทอง emo_116 emo_116 emo_116 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 13 กันยายน 2012, 05:13:PM emo_116 emo_107 emo_95 ทางชีวิตหักเหต้องเร่ร่อน อู่เคยนอนร้อนรุ่มต้องคลุมหน้า น้ำเนตรตกอกช้ำต้องจำลา ดั่งถลาจากรังใจพังภินท์ สู้ชีวิตคิดหนักเพราะรักขม แม้ตรอมตรมเพียงใดยังไม่สิ้น ปลอบใจตนทนฝันขยันบิน จนชาชินความเศร้าแห่งเงากรรม ปลอบกมลคนไกลเอาใจช่วย ที่เคยป่วยให้หายอย่ากรายกล้ำ จงหมดทุกข์หมดโศกมีโชคนำ ฝากถ้อยคำพร่ำวอนดั่งพรพรม “ไพร พนาวัลย์” กราบขอบคุณ ละมุนถ้อย คอยปลอบขวัญ จากคืนวัน รานร้าว เฝ้าทับถม ชีวิตดั่ง ละคร ที่ซ่อนปม ต้องตรอมตรม ดั่งเห็น ล้วนเป็นกรรม เพราะลุงไพร รู้หมด บทชีวิต พรหมลิขิต ขีตเน้น เป็นเรื่องขำ จึงเบือนบิด ปิดขวาง ทางกระทำ อยู่บนรอย ระกำ สุดช้ำทรวง กลอนที่เขียน ตกผลึก ฝังลึกอยู่ ทนอดสู ชินช้า เพื่อท้าสรวง อยากสนาน หวานชื่น รื่นทั้งปวง แต่ว่าดวง อาภัพ....จึงอับจน... emo_126 “สุนันยา” หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: มังตรา ที่ 13 กันยายน 2012, 10:23:PM หวานซ่านซึ้ง ตรึงใจ เช่นไหนหนอ
มาแกล้งล้อ ให้งง ส่งคำถาม หรือสนใจ เหลียวแล แค่เนื้อความ "สุนันยา" เพียงนาม ไร้คำแปล "มังสุยา"คำพ้อง คล้องความหมาย มังตราร่าย อักษรา คราชื่นแข มนตร์อักษร วอนไว้ ให้เหลียวแล ไม่รู้แน่ แค่เพียง ร้อยเรียงกานท์... ล่อให้งง ทำไง ไม่เคยรู้ ที่ทำอยู่ ล่อรัก เหมือนจักสาน ด้วยสนจิต ติดหล่ม เลยซมซาน ถึงร้าวราน ยังภักดิ์ เกินหักใจ สุนันยา คำนี้ พี่พร่ำเรียก จนปากเปียก ไม่ถลำ หาคำใหม่ จึงอยากรู้ ถ้อยความ นิยามไป เผื่อผลักไส ยังทราบ ไม่บาปกรรม emo_89 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 14 กันยายน 2012, 10:17:AM โถกระไร ใจคนมาบ่นบอก เหมือนเย้าหยอกให้เห็นเป็นเรื่องขำ ใช้เล่ห์ลวง บ่วงร้อย มาคอยอำ หากแม้นเชื่อ น้ำคำ คงช้ำมาน มังสุยา อ่านดู พอรู้ได้ คนอะไร ไขสือ สื่อคำหวาน ก็มังตรา สุนันยา พาเคียงกานท์ ถ้อยคำขาน อักษรา...คราร้อยกรอง emo_47 "สุนันยา" emo_126 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: มังตรา ที่ 14 กันยายน 2012, 01:40:PM โถกระไร ใจคนมาบ่นบอก
เหมือนเย้าหยอกให้เห็นเป็นเรื่องขำ ใช้เล่ห์ลวง บ่วงร้อย มาคอยอำ หากแม้นเชื่อ น้ำคำ คงช้ำมาน มังสุยา อ่านดู พอรู้ได้ คนอะไร ไขสือ สื่อคำหวาน ก็มังตรา สุนันยา พาเคียงกานท์ ถ้อยคำขาน อักษรา...คราร้อยกรอง "สุนันยา" กล่าวเรื่องเด่น เป็นจริง หญิงฟังเล่น แม่เนื้อเย็น ให้ช้ำ ทำหม่นหมอง รู้ดีหรอก สุนันยา ถ้าอยากครอง คงจักต้อง เจียมตน ด้วยจนใจ แต่สิทธิ์ศักดิ์ รักใคร ตามใจนึก ตกผลึก รักมาก อยากชิดใกล้ สิทธิ์ของคน จะรัก มักเป็นไป สิทธิ์คนไล่ พี่รู้แล้ว นะแก้วตา emo_89 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 14 กันยายน 2012, 04:04:PM คำวิจารณ์ นั้นลึก รู้สึกหวั่น ถ้อยจำนรรจ์ หวานคม เข้าถมถา อักษรกานท์ หว่านปอง ของมังตรา ประหนึ่งว่า ขื่นขม ระทมใจ ใครก็ต่าง รู้เห็น ความเป็นมิตร แนบสนิท ติดตรึง ซึ้งเพียงไหน กาลเวลา ผันผ่าน นานเท่าใด มิเคยไกลจากบ่วง ห้วงคำนึง... emo_54 "สุนันยา" emo_126 หัวข้อ: Re: นักวิจารณ์สมัครเล่น ๓ เริ่มหัวข้อโดย: เนิน จำราย ที่ 15 กันยายน 2012, 05:47:PM ขี้ใจน้อยคอยจ้องแต่ร้องไห้ ห่างไม่ได้เดี๋ยวโทรฯหาบอกว่าคิดถึง ชอบร้องเพลงเสียงเจื้อยแจ้วแนวหนูผึ้ง แต่งกลอนซึ้งปนเศร้าเคล้าน้ำตา เนิน จำราย (พี่ชายที่น่ารัก) |