พิมพ์หน้านี้ - สุดเหลือจะทนกับพวก...............

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

จิปาถะ => ห้องนั่งเล่น => ข้อความที่เริ่มโดย: พยัญเสมอ ที่ 07 กันยายน 2012, 02:57:PM



หัวข้อ: สุดเหลือจะทนกับพวก...............
เริ่มหัวข้อโดย: พยัญเสมอ ที่ 07 กันยายน 2012, 02:57:PM


           ขออภัยที่ต้องใช้คำไม่สุภาพ   แต่ว่ามันเป็นเรื่องอ่านแล้วรู้สึกเหลือจะทนจริงๆ
เว็บไซต์บางเว็บไซต์นั้นเป็นเว็บไซต์ของชาวต่างชาติ  เขาจึงไม่ค่อยให้ความสำคัญ
กับเรื่องศาสนาหรือความเชื่อของคนไทยพุทธ มากนัก   ดังนั้นจึงมีพวกบ่อนทำลาย
ความเชื่อทางศาสนา  ใช้เป็นที่โพสต์ข้อความหมิ่น  ทำลายศาสนา  โดยไม่มีใครไปดูแลจัดการครับ
แม้แต่ผู้ดูแลระบบเองก็ไม่ได้ให้ความสนใจ(ก็เพราะมันเป็นเว็บของชาวต่างชาติไง)
ดังตัวอย่างกระทู้นี้

http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=60238afb16fb5f5c&fid=60238afb16fb5f5c0004c9175817920f&table=%2Fguru%2Fuser%3Fuserid%3D01033899566234334942%26tab%3Dwtmtor

และอีกหนึ่งบุคคลผู้นี้
http://guru.google.co.th/guru/user?userid=15183909567593551569 (http://guru.google.co.th/guru/user?userid=15183909567593551569)
(ลองอ่านกระทู้เก่าๆของเขาแล้วจะรู้ดี)
บุคคลที่กล่าวมานี้พยายามจะยัดเยียดความเชื่อเข้าไปในความคิดของผู้อ่านว่า
คำสั่งสอนทางพุทธศาสนาในปัจจุบัน เรื่อง กฎแห่งกรรม และความเวียนว่ายตายเกิด
ชาตินี้ชาติหน้า นรกสวรรค์นั้น เป็นเรื่องหลอกลวง  ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า
     ถ้าว่าบุคคลนี้พูดว่า เขาไม่เชื่อเรื่องกรรม  ไม่เชื่อเรื่องนรกสวรรค์  ผมจะไม่ว่าเลย
เพราะมันเป็นสิทธิ์ของแต่ละบุคคล  ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้   แต่ที่เห็นแล้วสุดทนก็คือ
การกล่าวหาคำสอนของพระพุทธเจ้าว่าหลอกลวง  กล่าวหาว่าเป็นคำสอนปลอม
ที่เขียนขึ้นในภายหลัง  ซึ่งมันเป็นการบิดเบือน และทำลายคำสอนทางพุทธศาสนาอย่างชัดเจน
ผมเองก็ไม่ทราบว่า  จะมีบุคคลใด หรือหน่วยงานใดในภาครัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบ
และจัดการต่อเรื่องนี้
       ขอขอบคุณทุกท่านที่ฟังผมระบายความอัดอั้นจนจบ  (บอกตรงๆว่าทนมานาน)
คนที่ใช้ นอร์ตัน คือนามแฝงผมเอง




หัวข้อ: Re: สุดเหลือจะทนกับพวก...............
เริ่มหัวข้อโดย: ..กุสุมา.. ที่ 07 กันยายน 2012, 05:01:PM
อย่าเชื่อ 10 ประการ (กาลามสูตร) กาลามสูตรกังขานิยฐาน 10
หมายถึง วิธีปฎิบัติในเรื่องที่ควรสงสัย หรือหลักความเชื่อ ที่ตรัสไว้ในกาลามสูตร
1.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา (มา อนุสฺสเวน)
2.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบๆกันมา (มา ปรมฺปราย)
3.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ (มา อิติกิราย)
4.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำรา หรือคัมภีร์ (มา ปิฏกสมฺปทาเนน)
5.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก (มา ตกฺกเหตุ)
6.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะอนุมาน (มา นยเหตุ)
7.อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล (มา อาการปริวิตกฺเกน)
8.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว (มา ทิฏฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา)
9.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ (มา ภพฺพรูปตาย) ชื่อได้
10.อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา (มา สมโณ โน ครูติ)
ต่อเมื่อใด รู้เข้าใจด้วยตนว่า ธรรมเหล่านั้น เป็นอกุศล เป็นกุศล มีโทษ ไม่มีโทษ เป็นต้นแล้ว จึงควรละหรือถือปฏิบัติตามนั้น
สูตรนี้ในบาลีเรียกว่า เกสปุตติสูตร ที่ชื่อกาลามสูตร เพราะทรงแสดงแก่ชนเผ่ากาละมะ แห่งวรรณะกษัตริย์
ที่ชื่อเกสปุตติยสูตร เพราะพวกกาละมะนั้นเป็นชาวเกสปุตตะนิคม ในแคว้นโกศล ไม่ให้เชื่องมงายไร้เหตุผลตามหลัก 10 ข้อ
ตัวอย่าง
 1.อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา ประเภท "เขาว่า" "ได้ยินมาว่า" ทั้งหลาย
 2.อย่าได้ยึดถือถ้อยคำสืบๆกันมา ประเภท "ใครๆว่า" "โบราณว่า" ตามกระแส
 3.อย่าได้ยึดถือโดยความตื่นข่าวว่า เข่าว่าอย่างนี้ ประเภทข่าวลือ ข่าวโคมลอย ทั้งหลาย
 4.อย่าได้ยึดถือโดยอ้างตำรา อย่าไปตามตำรามากนัก ตำราว่าอย่างนั้น ต้องออกมาเป็นอย่างนั้น เท่านั้น
เป็นอย่างอื่นไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะอย่าลืมว่า ตำราบางเล่ม คนแต่งก็มั่วมาบ้าง เขียนไม่ครบบ้าง
ใส่ไข่เอาเองบ้าง คนมีกิเลสไปแก้ไขตำรา คนมีผลประโยขน์ ไม่แก้ไขตำราเท่ากับเราโดนหลอก
5.อย่าได้ยึดถือโดยนึกเดาเอาเอง เช่น เข้าใจเอาเอง หรือข้อมูลไม่พอ ใจร้อนเดาสุ่มเอา มั่วๆ เอา
6.อย่าได้ยึดถือโดยการคาดคะเน การคาดการณ์ตามประวัติศาสตร์ ตามสถิติ ความน่าจะเป็น
ซึ่งอาจจะผิดก็ได้ เพราะเห็นแค่ร้อย อย่าเหมาว่าที่ร้อยเอ็ดจะเป็นไปด้วย
7.อย่าได้ยึดถือตรึงตามอาการ อย่าเห็นว่าอาการแบบนี้ น่าจะเป็นแบบนี้ ให้คิดเผื่อๆไว้ด้วย เช่น
เห็นคนไข้เป็นแบบที่เคยรักษาคนอื่นๆมาก่อน อย่าไปตรึกเอาเองว่าเป็นแบบนั้น เห็นเงาก็จ่ายยาได้
เพราะเหนือฟ้ายังมีฟ้า อย่าเข้าข้างตนเอง นั่งสมาธิเห็นโน่น เห็นนี้ อย่านึกว่าเป็นจริง เพราะอาจจะเป็นจิตหลอกจิต
8.อย่าได้ยึดถือโดยชอบใจว่า ต้องกันกับทิฐิของตัว อย่าเอาความเห็นของตนเป็นใหญ่ อะไรที่ตรงกับที่ตนคิดไว้เท่านั้นที่เชื่อได้
คนคิดแบบนี้ ดื้อตายชัก
9.อย่าได้ยึดถือโดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรจะเชื่อได้ ระวังจะโดนหลอก อย่าลืมว่า สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
10.อย่าได้ยึดถือโดยความนับถือว่าสมณะนี้เป็นครูของเรา การยึดอาจารย์ของตนเองมากไป ก็ไม่ดี ควรทำตาม
ทดสอบดู ถ้าผิดพลาดก็ไม่ต้องเชื่อ ถ้าทำแล้วดีขึ้นก็แสดงว่าเชื่อได้
แบ่งปันจากที่มา : http://www.easyinsurance4u.com/buddha4u/kalamasutta.htm (http://www.easyinsurance4u.com/buddha4u/kalamasutta.htm)
 emo_126 อ่านเพิ่มเติมจากพระสุตตันตปิฎก เจ้าค่ะ


หัวข้อ: Re: สุดเหลือจะทนกับพวก...............
เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 07 กันยายน 2012, 05:14:PM
ท่านนอร์ตันจงขันติเป็นที่ตั้ง
ใครชิงชังให้ร้ายอภัยเขา
เพราะความเชื่อกลาดเกลื่อนไม่เหมือนเรา
โปรดอย่าเอาโลกทับกับตนเลย

แม้นสมัยพระจอมไตรยังไม่พ้น
ยังมีคนคิดต่างร้างธรรมเฉย
เจ้าสำนักลัทธิต่างผลิเปรย
ชนชื่นเชยข้อวัตรตามศรัทธา

พระชินวรสอนไว้ในใจนี้
อยากเห็นดีแจ่มชัดศาสนา
ปฏิบัติเคร่งครัดจรัสตา
ดั่งคาถาปัจจัตตังลำพังตน
emo_126

(ช่างเขาเถอะครับท่านมือขวา ฝรั่งที่มาบวชในเมืองไทยก็มากมายที่ท่านซาบซึ้งในรสพระธรรม พระบรมครูยังเคยตรัสเทศน์ถึงบัว๔เหล่า ผมว่าทำนองเดียวกันครับ)
emo_126



หัวข้อ: Re:สุดจะทน...
เริ่มหัวข้อโดย: เพรางาย ที่ 09 กันยายน 2012, 06:10:AM
หากสิ่งใดร้ายแล้ว
เราพยายามแก้กลับให้คงดีถึงที่สุด
ก็ถึงคราวต้องใช้อุเบกขา
เพื่อรักษาใจให้ผ่องแผ้ว
พร้อมรับอุปสรรคชีวิตอื่น
ที่จะทยอยมาเยือน

ขอบคุณที่นำมาบอกเล่า
บางทีอาจมีใครที่อ่านแล้ว
สามารถดำเนินการบางประการ