หัวข้อ: ทำไมถึงไม่ตอบกลอน ? เริ่มหัวข้อโดย: พยัญเสมอ ที่ 01 กันยายน 2012, 07:09:AM ทำไมถึงไม่ตอบกลอน ? เรื่องการแต่งกลอน เป็นอะไรที่ต้องใช้ความคิด และค่อนข้างจะใช้เวลาพอสมควร และบางคนก็ไม่มีเวลา บางคนอาจจะติดขัดด้วยความถนัดที่ไม่เท่าเทียมกัน กับบางคน การแต่งกลอนเพียงไม่กี่บทนับเป็นเรื่องขี้ผง แต่สำหรับบางคน การจะแต่งกลอนสักบทนับ ว่าเป็นเรื่องที่ยากเย็นเอาการอยู่ แค่จะแต่งเฉพาะของตัวเองก็คิดแทบสมองจะระเบิดอยู่แล้ว หากจะต้องไล่ตามตอบกลอนหมดทุกๆกระทู้ คงเป็นเรื่องที่สิ้นเปลืองเวลา และพลังความคิด เป็นอย่างมาก นอกเสียจากนานๆตอบครั้ง การตอบกลอน ควรทำเมื่อรู้สึกว่ากลอนนั้นน่าสนใจและต้องการจะตอบเพื่อแลกเปลี่ยนความ คิดเห็น หากต้องตอบเพราะรู้สึกว่าเป็นหน้าที่ที่จะต้องเข้าไปตอบ ก็จะทำให้กลอนที่ออกมานั้น จืดจืดไร้รสชาติและน่าเบื่อหน่าย เพราะไม่ได้แต่งออกมาจากอารมณ์ที่นึกสนุก แต่แต่งออกมา จากใจที่รู้สึกว่าเป็นหน้าที่ๆต้องกระทำ ซึ่งจะทำให้ผู้อ่านพลอยรู้สึกเบื่อหน่ายไปด้วย emo_121 หัวข้อ: Re: ทำไมถึงไม่ตอบกลอน ? เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 01 กันยายน 2012, 07:34:AM (http://image.ohozaa.com/i/6f2/1KYc7.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wgaHzaY4enCOYHJF) เห็นด้วยเป็นแน่แท้ ข้อคิด ต้องแต่งมาจากจิต เท่านั้น จึงจะงดงามพิศ ชวนอ่าน ยิ่งตอบแบบเหนือชั้น กระทู้นั้นวิ่งฉิว แต่จิตหนึ่งพึงได้ ควรมอง น้องใหม่ต้องประคอง เขาด้วย เหตุยังไม่ช่ำชอง การแต่ง อาจผิดถูกไม่กล้วย แต่ต้องช่วยแนะ จึงเคารพเก่าไว้ เป็นครู ไม่คิดจะลบหลู่ ท่านไซร้ ขอจงช่วยอุ้มชู ด้วยเถิด เปิดจิตเปิดใจให้ อย่าได้ขุ่นเคือง พันทอง (http://image.ohozaa.com/i/6f2/1KYc7.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wgaHzaY4enCOYHJF) หัวข้อ: Re: ทำไมถึงไม่ตอบกลอน ? เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 01 กันยายน 2012, 07:58:AM emo_89 เหมือนสายฝนหล่นรินเพียงถิ่นที่ หากเลือกชี้เลือกชมระทมไฉน สู้อุตส่าห์ว่าวอนต่อกลอนไป ไร้สิ่งใดให้มอบมาตอบแทน น้ำจิตให้น้ำใจมอบจะชอบชื่น จะผูกรักประจักษ์คืนเป็นหมื่นแสน ถึงทรัพย์อื่นผืนดินทุกถิ่นแดน ฤๅจะแม้นหมายเทียบเปรียบน้ำใจ... emo_06 " บูรพ์ " emo_126 หัวข้อ: Re: ทำไมถึงไม่ตอบกลอน ? เริ่มหัวข้อโดย: รัตนาวดี ที่ 01 กันยายน 2012, 08:25:AM (http://img1.thaicomment.com/tc/042/001.gif) ...รัตน์ตามติด ตามต่อ มิท้อถอย แม้ว่าน้อย เวลา ถ่อมาใหม่ มีความรัก คิดถึง บึ่งมาไกล พร้อมแรงรัก จากใจ มอบให้ยอม... emo_20 ...เพียงบางที เวลา ที่มานั้น ยามที่มี งานคั่น พลันยากกล่อม กว่าได้เคลิ้ม ร้อยเรียง เกือบเคียงตรอม แต่ก็ยัง แต่งพร้อม ตามย้อมใจ... emo_54 รัตนาวดี emo_116 emo_126 emo_116 หัวข้อ: Re: ทำไมถึงไม่ตอบกลอน ? เริ่มหัวข้อโดย: hort39 ที่ 01 กันยายน 2012, 08:31:AM การที่เราจะต่อกลอนกับใครสักคนหนึ่ง มีสามเหตุผลครับ หนึ่งเป็นกลอนที่อ่านแล้วคันในอารมณ์ สองเป็นกลอนของคนที่คุ้นเคยชอบคอกัน ก็อยากจะ่ต่อกลอนมันคล้ายกับการสนทนาอย่างหนึ่ง หรือสามอย่างที่พันทองบอกว่่า แต่งกลอนตอบน้องใหม่เพื่อให้กำลังใจกัน นั่นก็ใช่ครับ เมื่อก่อนผมก็ทำบ่อยๆ ตอนนี้ผมแวะมาบ้านกลอนไทย ก็เหมือนกับคนที่จบจากสถาบันไปแล้ว แวะมาดูมาหาด้วยความผูกพัน มีคนรู้จักทักทายบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็กลายเป็นคนแปลกหน้าไปแล้ว และที่ผมตอบกระทู้นี้ก็เพราะ เหตุผลที่หนึ่งครับ emo_126 หัวข้อ: Re: ทำไมถึงไม่ตอบกลอน ? เริ่มหัวข้อโดย: พยัญเสมอ ที่ 01 กันยายน 2012, 08:35:AM เรื่องของการเข้าไปตอบกระทู้ของน้องใหม่ยิ่งเป็นสิ่งที่ต้องระวัง เคยเห็นกระทู้ของน้องใหม่บางคน ที่มีรุ่นพี่ที่มีฝีมือมากและและก็ถือว่าเจนจัดมากมายหลายคน เข้าไปไล่ต้อน ล้อมหน้าล้อมหลัง ต่างก็แสดงฝีมืออวดลวดลายกันอย่างเต็มที่(น้องใหม่ในที่นี้ ก็หมายถึงน้องใหม่ที่ใหม่ ต่อโลกแห่งกลอน ไม่ใช่คนที่มีความถนัดจัดเจนเรื่องกลอนอยู่แล้วแต่เพิ่งเข้ามาสมัครใหม่) อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าความสามารถของแต่ละคนไม่เท่ากัน จากสิ่งที่ผมเคยได้สังเกตเห็นก็คือ คนเราจะจับกลุ่มเล่นโดยเลือกจากคนที่มีความสามารถเหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน คือคนที่รู้ตัวว่าอ่อนหัด เขาก็มักจะมองหาคนที่ฝีมือระดับเดียว หากว่ามีแต่คนที่มีฝีมือที่ดีกว่ามารุมล้อม มันก็จะเกิดเป็นปมด้อย และรู้สึกอับอาย ในที่สุดน้องใหม่คนนั้นก็จะค่อยๆหายไป และจะไม่มีคนรุ่นใหม่เข้ามาอีก นอกจากคนรุ่นเก่า ที่เป็นอยู่แล้ว แต่เข้ามาสมัครใหม่เท่านั้น อยากให้ลองนึกภาพว่า สมมุติว่าถ้าเราไม่ค่อยจะถนัดภาษาอังกฤษ(ก็คือพูดไม่ได้นั่นแหละ)แต่เจอหน้าใคร ก็ชวนพูดคุยทักทายแต่ภาษาอังกฤษ ลองนึกดูว่าเราจะรู้สึกยังไง จะยินดีปรีดาที่จะพูดจาด้วยหรือว่ารู้สึกใคร่จะหลบลี้ หนีหาย สำหรับคนที่ไม่ค่อยจะเป็นกลอนก็เช่นกัน หากเราเข้าไปตอบกับเขาโดยไม่ระมัดระวังให้ดี โดยถือเอาว่า เราเก่งแล้ว ดีแล้ว แต่ทว่า คนอื่นเขาไม่ได้เป็นเหมือนเรา ทำให้หลายครั้งเจตนาที่จะเข้าไปอุ้มชู เข้าไปประคับประคองคนใหม่นั้น กลายเป็นเข้าไปขับไล่สมาชิกหน้าใหม่ไปโดยปริยาย ผลสุดท้ายก็คือ คนที่คิดว่าเก่งแล้วดีแล้ว ต้องมานั่งเล่นกันเองเพียงไม่กี่คน เมื่อต้องเล่นหรือต้องคอยคอมเม้นท์ ในหมู่พวกกันเองเพียงไม่กี่คน เพราะไม่มีใครเข้ามาแสดงตัวในฐานะผู้อ่าน สุดท้ายก็จะค่อยๆเริ่มหมดไฟ และค่อยๆ หายหน้าไปทีละคนสองคน ซึ่งถือว่าค่อนข้างจะอันตราย (ถ้ามีแต่เก่าไป แต่ไม่มีใหม่เพิ่ม) emo_94 หัวข้อ: Re: ทำไมถึงไม่ตอบกลอน ? เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 01 กันยายน 2012, 08:47:AM บางสาเหตุ ถูกหา ว่ากลอนห่วย เขียนไม่สวย ไม่ฉ่ำ จำต้องฝืน อยู่ในส่วน ของเรา เฝ้ากล้ำกลืน ไม่อาจยื่น เสนอเพ้อลำนำ เขียนแนวไม่ ถนัดนัด จัดไม่ถึง กลอนไม่ซึ้ง พึงเห็น เป็นเรื่องขำ ถูกนินทา สารพัน ให้จารจำ เหมือนตอกย้ำ คุณค่า ว่าต่างกัน emo_126 "สุนันยา" หัวข้อ: Re: ทำไมถึงไม่ตอบกลอน ? เริ่มหัวข้อโดย: บูรพาท่าพระจันทร์ ที่ 01 กันยายน 2012, 08:52:AM อย่ามองแต่ในแง่ลบจนเกินไปนักเลยครับ ควรจะคิดในมุมกลับบ้างในกรณีที่อ้างว่า เคยเห็นกระทู้ของน้องใหม่บางคน ที่มีรุ่นพี่ที่มีฝีมือมากและและก็ถือว่าเจนจัดมากมายหลายคน เข้าไปไล่ต้อน ล้อมหน้าล้อมหลัง ต่างก็แสดงฝีมืออวดลวดลายกันอย่างเต็มที่(น้องใหม่ในที่นี้ ก็หมายถึงน้องใหม่ที่ใหม่ ต่อโลกแห่งกลอน ไม่ใช่คนที่มีความถนัดจัดเจนเรื่องกลอนอยู่แล้วแต่เพิ่งเข้ามาสมัครใหม่) อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าความสามารถของแต่ละคนไม่เท่ากัน จากสิ่งที่ผมเคยได้สังเกตเห็นก็คือ คนเราจะจับกลุ่มเล่นโดยเลือกจากคนที่มีความสามารถเหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน คือคนที่รู้ตัวว่าอ่อนหัด เขาก็มักจะมองหาคนที่ฝีมือระดับเดียว หากว่ามีแต่คนที่มีฝีมือที่ดีกว่ามารุมล้อม มันก็จะเกิดเป็นปมด้อย และรู้สึกอับอาย ในที่สุดน้องใหม่คนนั้นก็จะค่อยๆหายไป และจะไม่มีคนรุ่นใหม่เข้ามาอีก นอกจากคนรุ่นเก่า ที่เป็นอยู่แล้ว แต่เข้ามาสมัครใหม่เท่านั้น.. ทำไมถึงไม่คิดบ้างว่า เออ..น่าภูมิใจอยู่นะ..ที่ยังมีผู้ให้ความสนใจเข้ามาร่วมกับเราด้วย ทั้งที่เราก็ยังใหม่ไม่ประสาอะไรเลย เปรียบเหมือนมาเดินเคียงข้าง ทำให้รู้สึกอบอุ่น ยิ่งผู้ที่มีฝีมืออยู่บ้าง(ก่อนจะเป็นเช่นทุกวันนี้ก็ล้มลุกคลุกคลานกันพอควร)มา คอยร่วมเป็นกำลังใจด้วยแล้ว จะทำให้เกิดความประทับใจซึ่งความรู้สึกเช่นนี้ก็เคยผ่านมาแล้ว เมื่อมาบ้านกลอนไทยใหม่ ๆ และประทับจำจนบัดนี้ ถ้าเป็นเราที่มาใหม่แล้วขาดคนสนใจจะร่วมขีดร่วมเขียนด้วย...อยากถามว่า"ว้าเหว่" กันบ้างไหม ? ขอคารวะอย่างสูงครับ emo_126 หัวข้อ: Re: ทำไมถึงไม่ตอบกลอน ? เริ่มหัวข้อโดย: มัดตน ที่ 01 กันยายน 2012, 09:03:AM จึงจืดชืดไปหมดไร้รสชาติ คำเรี่ยราดสรรหาเอามาใส่ จึงต่อกลอนตอบกันตะบันไป จึงเหมือนไร้ซึ่งจินตนาการ จึงไร้การขัดเกลา..เอามักง่าย จึงเบื่อหน่ายขายหน้าผู้มาอ่าน Orion เอ่ยพร่ำเหมือนรำคาญ เขากล่าวขานเอาไว้ให้เราคิด ตั้งกระทู้ทีไรเป็นได้เรื่อง คนทั้งเมืองชี้มือ..ถูกหรือผิด ทั้งเสียงชม/เสียงด่าทั่วสารทิศ เป็นไปตามจริตปุถุชน. หัวข้อ: Re: ทำไมถึงไม่ตอบกลอน ? เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 01 กันยายน 2012, 09:08:AM การที่เราจะต่อกลอนกับใครสักคนหนึ่ง มีสามเหตุผลครับ หนึ่งเป็นกลอนที่อ่านแล้วคันในอารมณ์ สองเป็นกลอนของคนที่คุ้นเคยชอบคอกัน ก็อยากจะ่ต่อกลอนมันคล้ายกับการสนทนาอย่างหนึ่ง หรือสามอย่างที่พันทองบอกว่่า แต่งกลอนตอบน้องใหม่เพื่อให้กำลังใจกัน นั่นก็ใช่ครับ เมื่อก่อนผมก็ทำบ่อยๆ ตอนนี้ผมแวะมาบ้านกลอนไทย ก็เหมือนกับคนที่จบจากสถาบันไปแล้ว แวะมาดูมาหาด้วยความผูกพัน มีคนรู้จักทักทายบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็กลายเป็นคนแปลกหน้าไปแล้ว และที่ผมตอบกระทู้นี้ก็เพราะ เหตุผลที่หนึ่งครับ emo_126 emo_116 emo_116 ไม่แปลกหน้าหรอกจ้า แค่หน้าแปลก พันยังต่อกระทู้ของ ป๋า Hort อยู่เลย แวะมาบ่อยๆ นะค่ะ จะได้คุ้นเคย ถ้าจำไม่ผิดพันจะต่อ ให้ป๋าเกือบทุกกระทู้นา เพราะชอบ สั้นได้ใจความ ความหมายดี อีกอย่า ขี้เกียจพิมพ์เยอะจ้า พันจ้า emo_126 emo_126 emo_126 emo_126 หัวข้อ: Re: ทำไมถึงไม่ตอบกลอน ? เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 01 กันยายน 2012, 09:26:AM ผมผู้นิดขอผูกมิตรขอชิดใกล้ นอบน้อมไหว้แทบตักโปรดรักหน่อย แม้แปลกหน้าหน้าดำมิสำออย เฝ้ารอคอยผูกสัมพันธ์ทุกวันเลย ท่านพระครูและผู้อาวุโส โปรดผูกโบว์รับดนูอย่าอยู่เฉย โปรดเอื้อเฟื้อจุนเจือพงศ์เชื้อเอย โปรดเอื้อนเอ่ยคำหวานลูกหลานรอ (เห็นท่านhortตอบกระทู้ ก็เลยขออนุญาตแซวท่านนะครับ emo_85 emo_126) หัวข้อ: Re: ทำไมถึงไม่ตอบกลอน ? เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 01 กันยายน 2012, 09:41:AM เรื่องของการเข้าไปตอบกระทู้ของน้องใหม่ยิ่งเป็นสิ่งที่ต้องระวัง เคยเห็นกระทู้ของน้องใหม่บางคน ที่มีรุ่นพี่ที่มีฝีมือมากและและก็ถือว่าเจนจัดมากมายหลายคน เข้าไปไล่ต้อน ล้อมหน้าล้อมหลัง ต่างก็แสดงฝีมืออวดลวดลายกันอย่างเต็มที่(น้องใหม่ในที่นี้ ก็หมายถึงน้องใหม่ที่ใหม่ ต่อโลกแห่งกลอน ไม่ใช่คนที่มีความถนัดจัดเจนเรื่องกลอนอยู่แล้วแต่เพิ่งเข้ามาสมัครใหม่) อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าความสามารถของแต่ละคนไม่เท่ากัน จากสิ่งที่ผมเคยได้สังเกตเห็นก็คือ คนเราจะจับกลุ่มเล่นโดยเลือกจากคนที่มีความสามารถเหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน คือคนที่รู้ตัวว่าอ่อนหัด เขาก็มักจะมองหาคนที่ฝีมือระดับเดียว หากว่ามีแต่คนที่มีฝีมือที่ดีกว่ามารุมล้อม มันก็จะเกิดเป็นปมด้อย และรู้สึกอับอาย ในที่สุดน้องใหม่คนนั้นก็จะค่อยๆหายไป และจะไม่มีคนรุ่นใหม่เข้ามาอีก นอกจากคนรุ่นเก่า ที่เป็นอยู่แล้ว แต่เข้ามาสมัครใหม่เท่านั้น อยากให้ลองนึกภาพว่า สมมุติว่าถ้าเราไม่ค่อยจะถนัดภาษาอังกฤษ(ก็คือพูดไม่ได้นั่นแหละ)แต่เจอหน้าใคร ก็ชวนพูดคุยทักทายแต่ภาษาอังกฤษ ลองนึกดูว่าเราจะรู้สึกยังไง จะยินดีปรีดาที่จะพูดจาด้วยหรือว่ารู้สึกใคร่จะหลบลี้ หนีหาย สำหรับคนที่ไม่ค่อยจะเป็นกลอนก็เช่นกัน หากเราเข้าไปตอบกับเขาโดยไม่ระมัดระวังให้ดี โดยถือเอาว่า เราเก่งแล้ว ดีแล้ว แต่ทว่า คนอื่นเขาไม่ได้เป็นเหมือนเรา ทำให้หลายครั้งเจตนาที่จะเข้าไปอุ้มชู เข้าไปประคับประคองคนใหม่นั้น กลายเป็นเข้าไปขับไล่สมาชิกหน้าใหม่ไปโดยปริยาย ผลสุดท้ายก็คือ คนที่คิดว่าเก่งแล้วดีแล้ว ต้องมานั่งเล่นกันเองเพียงไม่กี่คน เมื่อต้องเล่นหรือต้องคอยคอมเม้นท์ ในหมู่พวกกันเองเพียงไม่กี่คน เพราะไม่มีใครเข้ามาแสดงตัวในฐานะผู้อ่าน สุดท้ายก็จะค่อยๆเริ่มหมดไฟ และค่อยๆ หายหน้าไปทีละคนสองคน ซึ่งถือว่าค่อนข้างจะอันตราย (ถ้ามีแต่เก่าไป แต่ไม่มีใหม่เพิ่ม) emo_94 คุณพี่มือขวาขา พันตอบในฐานะที่พัน ถ้าคิดชั่วโมงบินถือว่าหม่เพราะสมัครเข้ามาเมื่อ 29 ตุลาคม 54 ยังไม่ถึงปี โดยตอนเข้ามาใหม่ๆ นั้น พันไม่รู้จักใครเลยอ่านเจอในเวบ ก็สมัครเข้ามา โดยที่แต่งกลอนก็ไม่เป็น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า คำว่า นี้ เป็นเสียงตรี แต่วรรณยุกต์ โท และตอนเข้ามาใหม่ๆ พันจะแต่งกลอนในแนว หนักไปทาง อิโรติก เพราะพันเข้ามาอ่าน กลอนที่บ้านกลอนไทย ส่วนมาก จะเป็นกลอน รัก ผิดหวัง เศร้า อกหัก ซะเป็นส่วนมาก ดังนั่น พันเลยคิดว่า ลองแต่งแหวกแนวดูหน่อยซิ จะมีฟีดแบ็คอย่างไร ได้ผลจ้า โดนด่า โดนยำ เลอะ แต่พันก็ไม่ท้อ ตราบใดที่เวบมาสเตอร์ ไม่บล็อค ก็แสดงว่าเรายังสามารถลงได้อยู่ โดนด่าทางหลังไมค์ วันละ หลายๆ ข้อความ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะไม่สู้ ก็พยามแต่งแนว อิโรติก มาโดยตลอด จนมีชายหลายคน หลังไมค์มา คิดว่าเราจะเป็นดั่งเช่นกลอนที่เราแต่ง คือ ง่าย ตามภาษาพูด กระทั่งแต่งมาได้ ระยะหนึ่ง เราก็รู้ว่ากลอนของเราคงไปไม่รอด เพราะสังคมไทยยังไม่เปิดกว้างในเรื่องนี้ และมีผู้ใหญ่ใจดีหลายท่าน ที่ให้กำลังใจและแนะนำมาโดยตลอด ซึ่ง ในสังคมเล็กๆ ก็ยังมีทั้งคนชอบ คนไม่ชอบ ที่เล่าให้ฟังนี้ ก็เผื่อพี่มือขวาจะได้เข้าใจว่า การที่เราต่อกระทู้ให้น้องใหม่เป็นการดีมาก มากกว่าข้อเสีย (ความคิดส่วนตัว) เพราะพันยึดตัวเองเป็นบรรทัดฐานวัดจากตัวเอง เช่นเดียวกับคุณพี่มือขวาก็วัดจากตัวเองเหมือนกัน ใช่ไหมค่ะ เพราะฉะนั้น พันว่าไม่มีใครผิดหมด และไม่มีใครถูกหมด ต่างคนต่างช่วยเหลือกัน เอื้ออาทรต่อกัน น่าจะเป็นการดีที่สุด ลองมองหลายๆ มุมดูนะค่ะ พันว่าทุกความคิดเห็นมีประโยชน์ทั้งนั้นจ้า และขอขอบคุณพี่มือขวาที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา พันทอง หัวข้อ: Re: ทำไมถึงไม่ตอบกลอน ? เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 01 กันยายน 2012, 11:19:AM (http://www.qzub.com/bar_210.gif) (http://www.qzub.com) ตามความคิดไม่ทันมันอับจน มันสับสนบ่นไปตอบไงหว่า จะตามน้ำตามเล็มเต็มอัตรา หรือตามข้าฯ อยากเขียน เกรียนเสียเลย เฮ้อ..! มากคน มากคิด มากสิทธิ์สม มากอารมณ์บ่มเพาะวางเบาะเฉย นี่ก็แปลกถามใครทำไมเชย รู้ไหมเอ่ย..ต่างใครก็ต่างคน ก็ใครกันบังคับให้ขับขาน ก็ใครค้านใครค่อนใครกลอนหม่น ใครรักใคร ใครคล้ายหมายแย้มยล ใครหมองหม่นใครเศร้า เราไม่รู้ ภาษากานท์สานสร้างทางภาษา ความหมายพาในคำฉ่ำเลิศหรู แต่จริงแท้ใครเป็นเช่นงอ-งู อาจจะเป็นนอ-หนูไม่อยู่รัง ไม่อยากตอบครอบข้างอย่างปะกบ กลัวคำขบคำขัดปัดความหวัง อยากให้โชว์สำนวนอันชวนฟัง ความเด่นดังในลีลาด้วยท่าที เพียงได้อ่านความคิดผลิตความเห็น ก็ดั่งเช่นอ่านใจได้สุขี ความคิดเฟื่องเรื่องใดในวจี ก็เป็นศรีแก่ตนคนเขียนกลอน.. "บ้านริมโขง" emo_126 หัวข้อ: Re: ทำไมถึงไม่ตอบกลอน ? เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 01 กันยายน 2012, 11:33:AM (http://image.ohozaa.com/i/g93/HHkhgO.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wb3xx9n4BMpL3dZp) ขี้เกียจเขียน บางครั้ง แค่นั่งอ่าน ขี้เกียจเขียน เมื่อวาน เลยพาลหลอน ขี้เกียจเขียน งองู ขู่พังพอน ขี้เกียจเขียน ไปนอน พักผ่อนกาย กลอนไม่เร้า ใจฉัน พันไม่ปลื้ม กลอนไม่เร้า เลยลืม ซึมและหน่าย กลอนไม่เร้า เลยรวน กวนพี่ชาย กลอนไม่เร้า เขียนทำมาย ให้เปลืองแรง นี้คือเหตุ ผลดี ที่ไม่ตอบ นี่คือเหตุ ผลชอบ มอบแอบแฝง นี่คือเหตุ ผลอ้าง ต่างเคลือบแคลง นี่คือเหตุ ผลแย้ง แค่แกล้งอำ พันทอง (http://image.ohozaa.com/i/g93/HHkhgO.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/wb3xx9n4BMpL3dZp) หัวข้อ: Re: ทำไมถึงไม่ตอบกลอน ? เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 01 กันยายน 2012, 06:32:PM สามสิบปี ดีดัก เว้นวรรคฝัน ไร้สำคัญ สถาน วางกานท์กาพย์ มกรา ห้าสี่ รพีฯทราบ รีบส่งภาพ สมัคร อักษรา จุดประสงค์ โคลงกลอน แค่ออนอ่าน ไม่ต้องการ ประกวด อวดผญา เพราะรู้คำ ต่ำต้อย ด้อยราคา และไม่กล้า ตั้งกระทู้ ชูผลงาน จะต่อกลอน ย้อนความ ตามอ้างถึง แนวรำพึง กระเซ้า เย้าหยอกหวาน ออกวนเวียน เขียนขีด อดีตกาล หรือซมซาน วานว่า แสร้งบ้าบอ อ่านทุกชิ้น รินพจน์ แล้วกดชอบ อยากจะตอบ ต้องใจ ให้หมดหนอ ด้วยเวลา ร่วมเรียง มิเพียงพอ ก้มกราบขอ อภัย ให้เมตตา emo_126 รพีกาญจน์ 59 |