หัวข้อ: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 03 สิงหาคม 2012, 02:22:PM (http://2.bp.blogspot.com/_TlirBewmT-4/TFlKVmzSE6I/AAAAAAAAAYs/YV9hGYhPyl8/s1600/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%AA.jpg) ..ขอบพระคุณ..ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตครับ.. (http://yamiejung3.webs.com/photos/AA2/6.gif) "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" ๐ นอนบนเตียงเยี่ยงปลาคราขึ้นเขียง อมยิ้มเมียงมองหมอล้อจอมขวัญ แวะห้องทีจับตรวจรวดทุกวัน คิวของฉันคล้ายกับบ่อยลัดคิว เป็นเสมอเธอมักทักเสียงดุ ทานจนฉุอีกแล้วแจ้วหน้านิ่ว วัดความดันเราหนาหน้าปลาซิว ผลออกพลิ้วเลือดลมสมวัยตัว เธอมักชอบตรวจนั่นหมั่นตรวจนี่ ความอารีของนางพลางอยู่ทั่ว เสียตรงที่ดุนิดฤทธิ์ปากรัว ยามที่หัวเธอวุ่นขุ่นเรื่องงาน เหมือนองค์ลงยามนุชสวมชุดหมอ ก่อนเคยจ้อแก้มพริ้มส่งยิ้มหวาน ต้องทำใจเจอนรีที่โรงฯบาล ยลความกร้านอีกมุมของพุ่มพวง ชินกับภาพจอมขวัญจำขันซ่อน ด้วยงามงอนปากฉายร่ายแววห่วง ตาเธอยังมั่นคงส่งทั้งดวง ว่ายังหวงห่วงชายในกำมือ เสร็จฉันพลิกนาฬิกาพาร้องเร่ง ห้าโมงเป๋งเลิกงานพานอย่าดื้อ กิจวัตรสามีที่ดีคือ รับคนซื่อกลับบ้านอาหารรอ.. ระนาดเอก emo_25 (http://yamiejung3.webs.com/photos/AA2/6.gif) หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: ..กุสุมา.. ที่ 03 สิงหาคม 2012, 03:43:PM emo_60 emo_95 อ๋อ..ที่แท้บอกป่วยด้วยมีกิ๊ก emo_57 รื่นระริกส่งฉันพลันรีบห้อ ผู้พิพากษาอย่างฉันท่านไม่พอ ไปอ้อล้อคลอเคลียเมียอีกคน ขออ่านคำพิพากษาหัวหน้าศาล พ่อหน้าหวานห้ามกลับฉันสับสน มาโกหกโกห้าพาวกวน ไปให้พ้นเลยเชียวเดี๋ยวมีเคือง สั่งจำคุกขี้ไก่ไว้โรงฯบาล emo_45 อยู่ดีพาลฉ้อฉลรนหาเรื่อง จะเก็บเงินตราไว้ไม่สิ้นเปลือง อยู่ต่อเนื่องจะได้ไม่จ่ายตังค์ emo_32 emo_32 emo_32 ..แม่หญิงกุสุมา.. emo_50 หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: Chinra ที่ 03 สิงหาคม 2012, 04:10:PM กิ๊กที่ใหนกันจ๊ะตะละแม่
ฉันมีแค่นักการศาลที่เฝ้าหวัง อยู่ที่บ้านเธอก็เป็นนักการคลัง คอยเก็บตังค์ฉันให้ไว้อย่างดี จะเอาเงินที่ใหนเลี้ยงเมียสอง ให้เธอมองตาฉันอย่าหันหนี คุณนั้นสวยสะพรั่งสารภี มีคุณนี้อยู่เคียงคู่มิรู้วาย หมอคนนั้นที่ฉันต้องคุยด้วย ใช่เธอสวยแต่เป็นเพราะฉันกลัวสาย แค่ไปตรวจใช่ปากหวานมิบานปลาย พอตรวจหายรีบกลับมารับเมีย หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: ..กุสุมา.. ที่ 03 สิงหาคม 2012, 05:51:PM กิ๊กที่ใหนกันจ๊ะตะละแม่
ฉันมีแค่นักการศาลที่เฝ้าหวัง อยู่ที่บ้านเธอก็เป็นนักการคลัง คอยเก็บตังค์ฉันให้ไว้อย่างดี จะเอาเงินที่ใหนเลี้ยงเมียสอง ให้เธอมองตาฉันอย่าหันหนี คุณนั้นสวยสะพรั่งสารภี มีคุณนี้อยู่เคียงคู่มิรู้วาย หมอคนนั้นที่ฉันต้องคุยด้วย ใช่เธอสวยแต่เป็นเพราะฉันกลัวสาย แค่ไปตรวจใช่ปากหวานมิบานปลาย พอตรวจหายรีบกลับมารับเมีย ข้อความโดย: Chinra (http://www.qzub.com/bar_057.gif) ข้อแก้ตัวมั่วจังฟังไม่ขึ้น ก็เมื่อคืนยืนโชว์โห..คุณเสี่ย พอรุ่งเช้าวิ่งเข้าโรงฯบาลเคลีย ไปไกล่เกลี่ยเสียนัดขอลัดคิว emo_32 สารภาพอภัยให้กึ่งหนึ่ง แต่อย่าพึ่งดีใจหายลิบลิ่ว อยู่ต่อกลอนกันก่อนออดอ้อนปลิว คารมพลิ้วแบบนี้Sheช้อบชอบ emo_55 emo_17 ..แม่หญิงกุสุมา.. emo_50 หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: Chinra ที่ 03 สิงหาคม 2012, 07:09:PM โถยาหยีน้องจ๋าเห็นใจหน่อย
พี่นี้คอยคิวมากปากแห้งกรอบ มีโอกาสลัดคิวพี่ก็ชอบ จะขอตอบบรรยายให้คลายปม หมอคนนั้นก็ลูกสาวลุงข้างบ้าน พยาบาลก็สะใภ้ของพี่ผม คนจ่ายยาก็รู้จักโลกมันกลม คนโบกรถที่หกล้มก็เพื่อนกัน พี่รู้จักผู้คนอยู่มากหลาย รักมากมายมีให้เธอไม่แปรผัน น้องนั้นหึงพี่ไม่ว่าพี่รู้ทัน แต่อย่าหันหน้าหนีพี่ร้อนใจ หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: ..กุสุมา.. ที่ 03 สิงหาคม 2012, 08:06:PM emo_116
เดี๋ยวร่างข้อสัญญามาเลยพี่ ไม่คิดหนีขอสู้ดูใกล้ใกล้ ที่หึงพี่รู้หรือเปล่าเขาห่วงใย ที่ทำไปเพราะรักปักฤดี เรื่องโรงบงโรงบาลนั้นไม่ว่า ขอแต่อย่าเสียตังค์ฟังนะพี่ เรื่องที่ชอบตอบเขาไปทันที ถ้าของฟรีน้อมรับครับขอบคุณ คนรู้ใจใครหนออยากขอร้อง บอกรักน้องต้องจิตคิดเกื้อหนุน ขออาศัยพึ่งพาเนื้อนาบุญ กำลังลุ้นคุณพี่นี่ผัวใคร ..แม่หญิงกุสุมา.. emo_50 ขออนุญาตคุณพี่ระนาดเอกเจ้าของกระทู้ด้วยเจ้าค่ะ แบบว่าติดพัน ในอารมณ์ เจ้าค่ะ emo_126 emo_126 หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: Chinra ที่ 03 สิงหาคม 2012, 08:18:PM นี่คุณหญิงโลกแห่งกลอนเราโต้ตอบ
แต่คนชอบของผมที่หวั่นไหว มีแน่แท้คนหนึ่งซึ้งจับใจ เธอนั้นไซร้รักที่สุดในชีวัน ที่แต่งได้หวานซึ้งตรึงดวงจิต เพราะพิชิตใจเธอคนที่ฝัน จนได้เคียงชิดคู่อยู่ข้างกัน แสนสุขสันต์ที่ได้ชิดสนิทใจ กำลังอินกับบทกลอนสอนโต้ตอบ กุสุมาเจ้ามาลอบถามสงสัย ถามตามตรงว่าผมสามีใคร สะดุดใจหมดปมอารมณ์กลอน หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 03 สิงหาคม 2012, 08:32:PM (http://2.bp.blogspot.com/_TlirBewmT-4/TFlKVmzSE6I/AAAAAAAAAYs/YV9hGYhPyl8/s1600/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%9C%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%AA.jpg) ..ขอบพระคุณ..ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ตครับ.. (http://yamiejung3.webs.com/photos/AA2/6.gif) "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" ๐ นอนบนเตียงเยี่ยงปลาคราขึ้นเขียง อมยิ้มเมียงมองหมอล้อจอมขวัญ แวะห้องทีจับตรวจรวดทุกวัน คิวของฉันคล้ายกับบ่อยลัดคิว ระนาดเอก emo_25 (http://yamiejung3.webs.com/photos/AA2/6.gif) emo_126 สุดสะท้อนกลอนวางอย่างเห็นเห็น มีผู้รู้ดูเป็น เข็นความต่าง นำเสนอขึ้นหน้าออกท่าทาง คล้ายกระจ่างเพียงตน..คนอื่นงง แบ่งบอกบ้าง อย่างไร ในแง่รู้ บอกให้ดูหมู่คำใดนำส่ง ตำราใดเขียนห้าม ตามจำนง เกร็ดประสงค์ตรงใด ใครวางแนว ช่วยส่งเสริมเติมค่าพารู้หลัก ได้ชื่นชมสมรักปักแน่แน่ว หลายคนคงงงต่อไม่ขอแจว ฟังคำแล้วจึงจาก..อยากรู้จัง.. "บ้านริมโขง" emo_126 หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: ดาว อาชาไนย ที่ 03 สิงหาคม 2012, 10:43:PM กวีเก่า"นายมี"ที่เขียนไว้ ชนชอบใจจดจำเป็นคำขลัง ด้วยวรรคทองท่องจำซ้ำโด่งดัง บทกลอนครั้งก่อนตรึงซึ้งไม่วาย "ถึงมีเพื่อนเหมือนพี่ไม่มีเพื่อน เพราะไม่เหมือนนุชนาฎที่มาดหมาย มีเพื่อนกินไม่เหมือนมีเพื่อนตาย มีเพื่อนชายไม่เหมือนมีเพื่อนชม" ดาว อาชาไนย หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 03 สิงหาคม 2012, 10:48:PM emo_126 emo_126 emo_126 โปรดชี้แจงแถลงไขให้รู้หน่อย เรื่องปลีกย่อยอย่างนี้มันมีหยัง? ท่านผู้รู้ควรพิศอย่าปิดบัง คนทีหลังจะได้รู้เป็น”ครู”กลอน "จะได้รู้ว่าผิดเป็นครู" “ไพร พนาวัลย์” ขอบคุณอาจารย์ดาวมากนะครับ ที่เข้ามาชี้แจง และแซงไปอย่างสวยงาม emo_56 หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: พยัญเสมอ ที่ 03 สิงหาคม 2012, 11:17:PM เพื่อขจัดความข้องใจ ขอชี้แจงเป็นข้อๆ ดังนี้นะครับ ๑.ตามที่ทักคุณระนาดเอกนั้น เนื่องจากเคยอ่านผ่านๆตามาบ้าง ว่ามีนักเขียนตำราเกี่ยวกับการแต่งกลอนเขียนบอกไว้ครับว่า กลอนมันไม่ควรจะมีสระเสียงเดียวกันในลักษณ์นั้น(ตรงตำแหน่งที่เน้นสี)ท่านว่ามันไม่เพราะ(ท่านว่าของท่านไม่เกี่ยวกับผมนะ) ไอ้ผมเองน่ะ ไม่ค่อยจะถือสาอะไรมาก บางทีที่ผมเขียนยังเละมากกว่านี้อีกครับ ตามเว็บนี้นะครับ ท่านว่ามันไม่เพราะ http://www.st.ac.th/thaidepart/article_1.php (http://www.st.ac.th/thaidepart/article_1.php) ๒. ตามตัวอย่างกลอนที่คุณดาว อาชาไนย ยกมานั้น เป็นการหยิบยกเอาหลักของ กลบทพยัคฆ์ข้ามห้วยมาใช้ประกอบในคำประพันธ์ครับ เพียงแต่ยกมาแค่วรรคแรกวรรคเดียว เนื่องจากกลบทพยัคฆ์ข้ามห้วยนั้น จะมีความไพเราะเฉพาะวรรคแรกเท่านั้น ส่วนวรรคที่สอง มันจะไม่ไพเราะแล้ว การหยิบยกเอากลบทใดๆเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งใส่เข้าในคำประพันธ์ ก็เพื่อเพิ่มความไพเราะ และเพื่อความแปลกครับ โดยที่ไม่จำเป็นต้องลงทั้งหมด (มันเหมือนผักชีโรยหน้า กระเทียมเจียว พริกไทยป่น ที่เราใส่ในอาหารเพื่อเพิ่มรสชาตินั่นแหละครับ- ใส่แค่นิดหน่อย โดยไม่ต้องใส่มาก) ซึ่งกลอนลักษณะแบบนี้ เมื่อปี ๒๕๔๑ ผมก็เคยแต่ง แต่ตอนนั้นไม่ทราบว่าเป็นหลักของ กลบทพยัคฆ์ข้ามห้วยที่มีมาแต่โบราณอยู่แล้ว จึงคิดว่าครั้งนั้น เป็นแค่ความบังเอิญมากกว่า emo_126 กวีเก่า"นายมี"ที่เขียนไว้ ชนชอบใจจดจำเป็นคำขลัง ด้วยวรรคทองท่องจำซ้ำโด่งดัง บทกลอนครั้งก่อนตรึงซึ้งไม่วาย "ถึงมีเพื่อนเหมือนพี่ไม่มีเพื่อน เพราะไม่เหมือนนุขนาฎที่มาดหมาย มีเพื่อนกินไม่เหมือนมีเพื่อนตาย มีเพื่อนชายไม่เหมือนมีเพื่อนชม" ดาว อาชาไนย ปล. ตรงที่เน้นสีแดงนะครับ นี่คือกลบทพยัคฆ์ข้ามห้วย ที่ถูกใส่เข้าไป แต่พยัคฆ์ข้ามห้วยนั้นจะเน้นที่ซ้ำคำ ไม่ใช่ซ้ำสระครับ หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 04 สิงหาคม 2012, 05:33:AM emo_126 ขอขอบคุณบุญค้ำนำให้รู้ ในหมวดหมู่ใช้เสียงเรียงคำขาน จะเขียนกลอนให้ดีนี้ยากนาน มากหลักการหลักคำนำใคร่ครวญ ล้วนเกิดก่อต่อยอดดังขอดเกล็ด ไม่ให้เล็ดลอดได้ใคร่สงวน ให้ราบรื่นชื่นคำนำรัญจวน เราคงป่วนใจตาย..ก่อนได้ความ.. emo_126 "บ้านริมโขง" (http://www.qzub.com/bar_014.gif) (http://www.qzub.com) หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 09 สิงหาคม 2012, 11:50:AM ที่ผมไม่ได้เข้ามาตอบตั้งแต่เนิ่นๆ เรื่องสำนวน(วรรค)เจ้าปัญหาของผม เพราะว่าผมติดเดินทางไปต่างจังหวัด ทั้งเรื่องพาครอบครัวไปเที่ยวทั้งเรื่องงาน ผมรู้สึกไม่น่าเชื่อนะครับว่า วรรคที่ผมเขียนเล่นคำธรรมดา(ไม่ใช่กลบทใดๆทั้งสิ้นนะครับ และตอนขึ้นก็ไม่ได้คิดว่าจะให้ไปพ้องกับกลบทใดๆด้วย) การเขียนกลอนแปดหรือว่ากลอนสุภาพนั้น จุดหลักที่ต้องถูกบังคับตามกฎกติกา ก็คือ ฉันทลักษณ์(ตำแหน่งรับ - ส่ง สัมผัส) และเสียงท้ายวรรค.. นอกนั้นคือเกร็ดปลีกย่อยที่ไม่ควรใช้.. เช่น สัมผัสซ้ำ , สัมผัสเลือน , ชิงสัมผัส , สัมผัสเพี้ยน(เผลอ) สัมผัสเกิน , กร่อนสัมผัส เกร็ดต่างๆที่ผมยกมานี้ทุกท่านอาจจะได้เคยพบเห็นกันมาบ้างแล้ว.. . หากจะนำสำนวน(วรรค)ของผมไปจัดลงในเรื่องของ"สัมผัสเลือน" ผมถือว่าเป็นการที่วิเคราะห์ผิดอย่างยิ่งครับ.. ผู้ติติง ควรจะตรวจสอบและค้นคว้ามาให้มากกว่านี้ และควรใช้เหตุผลของตนเองมากกว่า การยกข้อมูลใดๆและไม่ตรวจสอบให้ละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งอาจจะสร้างความสับสน ให้กับผู้ที่ไม่เข้าใจก็ได้ครับ ทั้งการยกสำนวนของผู้อื่นมาวิจารณ์ตรงหน้าบอร์ด และใช้ถ้อยคำและอีโมที่ดูเย้ย ซึ่งทางมารยาทในบ้านกลอนแห่งนี้ เขาจะไม่ทำกันครับ ที่ผ่านมาผมกับเพื่อนๆมักจะมีการฝากข้อความแนะนำกัน หากเกิดการผิดพลาดซึ่งอาจจะมีขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งหลายท่านก็จะเข้าใจอุปนิสัยผมดี เรื่องการให้เกียรติคน.. . ความหมายของคำว่า"สัมผัสเลือน" ตามหลักมาตรฐานซึ่งสามารถตรวจสอบได้ง่าย ถ้าทุกท่านจะพึงตรวจสอบ ก็คือ การใช้คำรับสัมผัสที่ตามฉันทลักษณ์นั้น ท่านบังคับให้มีการรับสัมผัสเพียง ๑ ตำแหน่ง แต่ผู้เขียนกลับใช้รับพร้อมกันในจังหวะตกของเสียงถึง ๒ ตำแหน่ง.. ตามตัวอย่างดังนี้ครับ.. “เมื่อวานพ่อไม่อยู่ปู่มาหา ทั้งคุณอาและตาก็มาด้วย มากินเลี้ยงป้าอำแกร่ำรวย ทุ่มซื้อหวยโชคช่วยรวยเงินทอง..” หมายเหตุ.. ตำแหน่งคำที่ผมขีดเส้นใต้ไว้ นั่นก็คือคำ"สัมผัสเลือน"ครับ คือมักจะเกิดขึ้นในวรรคที่ ๒ หรือ ๔ ของบท.. เพราะว่ามีการรับสัมผัสเกินกว่า ๑ ตำแหน่งนั่นเอง.. . ส่วนตัวอย่างตามลิงก์ที่ยกมา ก็นำความหมายของคำว่า “ชิงสัมผัส” ไปปนเปกับคำว่า “สัมผัสเลือน” ดังสำนวนตัวอย่างคำ"ชิงสัมผัส"ตามนี้นะครับ..(ตัวอย่างนี้ไม่ใช่"สัมผัสเลือน"ซึ่งเป็นคนละความหมายกันนะครับ) “ลมเย็นเย็นสัมผัสพัดทิวไม้ เอนแกว่งไกวทั้งป่าน่าอิจฉา สกุณาร่าเริงเหลิงนภา ภาพชินตาตัวฉันนั้นแต่เยาว์..” หมายเหตุ.. ตำแหน่งคำที่ผมขีดเส้นใต้ไว้ เป็นคำที่"ชิงสัมผัส"ครับ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็น พยางค์ที่ ๓ ของวรรคเสมอไป แต่ใช้บังคับกับทุกพยางค์ที่มาก่อนตำแหน่งรับสัมผัสจริง ในวรรคที่ ๒ และ ๓ ของบทครับ.. ส่วนนักกลอนบางท่าน ที่มีความละเอียดลออ อาจจะเหมารวมไปถึง การห้ามใช้คำ"ชิงสัมผัส"ตั้งแต่ในวรรคแรกของบทเลย แต่ในทางการตรวจสอบกับผู้ใหญ่ในหลายท่าน ท่านว่าคำ"ชิงสัมผัส"ยังไม่เคร่งครัดเหมารวมไปถึงวรรคแรกของบทครับ.. จากใจระนาดเอกครับ emo_25 หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: พยัญเสมอ ที่ 09 สิงหาคม 2012, 12:52:PM ขอโทษเถิดนะครับ เท่าที่จำได้นั้น ผมอาจจะใช้การอ้างอิงกลอนของคุณระนาดเอกแล้วมีการใช้สีแดงเพื่อเน้นข้อความ แล้วมีการคอมเม้นท์ว่า"นึกไม่ถึงว่าฝีมือระดับคุณระนาดเอกก็มีวันนี้ด้วย" อาจมีการใช้อีโม ที่เป็นรูปแสดงอารมณ์หัวเราะ การแลบลิ้น เพื่อประกอบความรู้สึก สำหรับคนอื่นผมไม่ทราบว่าจะคิดยังไงกับรูปพวกนี้ emo_87 แต่สำหรับผมๆถือว่ามันเป็นการล้อเล่นกันเท่านั้นเองครับ เพราะถ้าจะเป็นการแสดงการดูถูกดูหมิ่นกันจริง ผมคงไม่ใช้ภาพพวกนี้หรอกนะครับ(ซึ่งนอกจากนี้แล้วไม่ได้มีการวิจารณ์อื่นใดๆ) ประการต่อมา การนำลิงก์ที่อื่นมาอ้างอิง เนื่องจากมีสมาชิกหลายท่านเกิดข้อสงสัยใคร่ทราบว่า ผมเอาหลักอะไรมาใช้ในการท้วงติงกลอนของคุณระนาดเอกวรรคนั้น เพราะเขาอยากทราบว่า มันผิดตรงไหน ผิดอย่างไร (อาทิเช่น คุณบ้านริมโขง, ลุงไพร พนาวัลย์) เมื่อเขาถามถึงเหตุผล ผมก็จำเป็นต้องตอบแหละครับ ถ้าไม่ตอบเหตุผลให้ทราบ มันก็จะกลายเป็นเหมือนคนพาลที่คอยหาเรื่องกับคนอื่นอยู่ร่ำไป แต่พอถามให้ชี้แจงกลับเงียบเฉย ซึ่งโดยนิสัยของผมไม่ใช่คนแบบนั้น กล้าทำก็กล้ารับอยู่่แล้ว ส่วนมุมมองที่ว่า อันไหนผิดมากอันไหนผิดน้อย อันไหนเคร่งครัด อันไหนไม่เคร่ง อันไหนยกเว้นได้ มันเป็นเรื่องของความคิดเห็นของแต่ละคนที่มีความคิดเห็นไม่เหมือนกัน สุดท้ายนี้ ขอฝากถึง ลุงเว็บมาสเตอร์ หรือผู้ดูแลบอร์ดก็ได้ ถ้าเห็นว่าข้อความในโพสต์นี้ของผม มีส่วนใดไม่สุภาพ หรืออาจจะสร้างความแตกแยก หรือสร้างความวุ่นวายให้กับเว็บบ้านกลอนไทย ขอความกรุณาลบได้เลยนะครับ หรือจะพิจารณาลงโทษ หรือแบนผมอย่างไรก็ได้ ถ้าคิดว่า การแสดงความเห็นนี้มันไม่เหมาะไม่ควร แล้วก็ขอแสดงความเห็นใจกับลุงเว็บด้วยนะครับ ที่ปีนี้ต้องเจอกับปีชง หวังว่าให้เรื่องร้ายๆมันผ่านไปนะครับ โบราณว่า คับที่อยู่ง่าย คับใจอยูยาก อยู่ที่้ไหนรึจะสุขใจเท่าบ้านเรา emo_52 Orion264 หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: ระนาดเอก ที่ 09 สิงหาคม 2012, 01:13:PM ผมว่าในเว็บบอร์ดแห่งนี้ คงไม่มีการแบนใครในเรื่องเล็กๆน้อยๆในเรื่องอย่างนี้หรอก คุณก็อย่าคิดไปถึงขนาดนั้นเลย เพราะว่ามันเป็นเรื่องของการแสดงความคิดเห็น ซึ่งต่างคนก็ย่อมมีเหตุผล ที่ต้องย่อมมีการชี้แจงให้บุคคลที่สามเข้าใจกันบ้างเท่านั้นเองครับ จากใจจริงระนาดเอกครับ emo_25 หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: กวีเขลา ที่ 09 สิงหาคม 2012, 04:55:PM อันว่าผม ไม่เคย โดนหมอดุ
แต่มันจุ จะทน จะอกกลั้น ช่วยโปรดฟัง เรื่องราว ผมซักครั้ง แล้วช่วยตอบ จะทำ ยังไงดี จากตอนที่ อาสาว นั้นได้แต่ง ได้จัดแจง ย้ายบ้าน เป็นการใหญ่ แต่ผมนั้น ไม่รู้อาเขย ทำอะไร แต่ก็ไม่ สนใจ เลยมาปี พอหลายวัน มานี้ ผมเป็นหวัด นั่งฮึดฮัด รอว่า เดี๋ยวจะหาย แต่สามวัน มาแล้ว เกือบจะตาย ยังไม่หาย จึงไปถาม พี่ชายดู พี่บอกว่า อาเขย เขาเป็นหมอ อย่ารีรอ ไปซะ ให้รักษา ยังดีกว่า ซี้ซั้ว กินพารา สุ่มสี่ห้า ชีวา อาจไม่ดี ผมจึงขี่ มอไซค์ ไปหาอา ไอ้พี่บ้า งี่เง่า เหลือสิ้นดี ทำเอาเรา โง่นัก หมดราศี ก็อาเขย คนดี ไม่รักษาคน นั่นเพราะว่า อาเขย เป็นหมอหมา หรือหมอปลา หมอสัตว์ อันทั้งหลาย รีบบึ่งกลับ ไปบ้าน โกรธแทบตาย ไอ้พี่ฟาย ทำได้ไง เซ็งจริงจริง emo_66 emo_66 emo_66 emo_67 emo_67 emo_67 ---kay--- หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: Chinra ที่ 09 สิงหาคม 2012, 06:19:PM ขอบคุณคุณระนาดเอกที่สอนเรื่องสัมผัสที่ไม่เหมาะสมนะ เราไม่เคยรู้เรื่องอะไรแบบนี้เลย
ส่วนข้อความของคุณ Orion64 นี่ ที่บอกว่าไม่คิดว่าอย่างคุณระนาดเอกจะมีวันนี้ ผมนึกว่าหมายถึง "ขึ้นเขียง" กับ "นอนเตียง" = = หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 09 สิงหาคม 2012, 07:16:PM ฟังท่านdiscussionแล้ว ลองตรอง
เรามิอาจผยอง หยิ่งโม้ หลักกลอนเก่าเรืองรอง เรากร่อย ทั้งทราบมารยาทโอ้ อ่อนสร้างสขิกานท์ ทั้งอ่านกลบทด้อม ดูตน ช่างน่าขันเสียจน จอดจุ้น มิรู้หลักลอยวน กระท่อน กระแท่นนอ รู้สึกอย่างกับวุ้น เมื่อเว้าเกลากลอน emo_85 (ผมขออนุญาตท่านระนาดเอกนะครับ แหะๆๆ คือผมฟังพวกท่านdiscussกันแล้ว ผมมีความรู้สึกว่าเรื่องกลอนพวกท่านรู้ลึกซึ้งมาก และก็พลอยทำให้ผมได้รับความรู้ไปด้วยครับ) ด้วยความคารวะอย่างสูง emo_126 หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: กวีเขลา ที่ 09 สิงหาคม 2012, 08:36:PM (ไม่มีใครตอบเราเลยแฮะ) emo_82 emo_82
หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 09 สิงหาคม 2012, 09:05:PM ที่ผมไม่ได้เข้ามาตอบตั้งแต่เนิ่นๆ เรื่องสำนวน(วรรค)เจ้าปัญหาของผม เพราะว่าผมติดเดินทางไปต่างจังหวัด ทั้งเรื่องพาครอบครัวไปเที่ยวทั้งเรื่องงาน ผมรู้สึกไม่น่าเชื่อนะครับว่า วรรคที่ผมเขียนเล่นคำธรรมดา(ไม่ใช่กลบทใดๆทั้งสิ้นนะครับ และตอนขึ้นก็ไม่ได้คิดว่าจะให้ไปพ้องกับกลบทใดๆด้วย) การเขียนกลอนแปดหรือว่ากลอนสุภาพนั้น จุดหลักที่ต้องถูกบังคับตามกฎกติกา ก็คือ ฉันทลักษณ์(ตำแหน่งรับ - ส่ง สัมผัส) และเสียงท้ายวรรค.. นอกนั้นคือเกร็ดปลีกย่อยที่ไม่ควรใช้.. เช่น สัมผัสซ้ำ , สัมผัสเลือน , ชิงสัมผัส , สัมผัสเพี้ยน(เผลอ) สัมผัสเกิน , กร่อนสัมผัส เกร็ดต่างๆที่ผมยกมานี้ทุกท่านอาจจะได้เคยพบเห็นกันมาบ้างแล้ว.. . หากจะนำสำนวน(วรรค)ของผมไปจัดลงในเรื่องของ"สัมผัสเลือน" ผมถือว่าเป็นการที่วิเคราะห์ผิดอย่างยิ่งครับ.. ผู้ติติง ควรจะตรวจสอบและค้นคว้ามาให้มากกว่านี้ และควรใช้เหตุผลของตนเองมากกว่า การยกข้อมูลใดๆและไม่ตรวจสอบให้ละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งอาจจะสร้างความสับสน ให้กับผู้ที่ไม่เข้าใจก็ได้ครับ ทั้งการยกสำนวนของผู้อื่นมาวิจารณ์ตรงหน้าบอร์ด และใช้ถ้อยคำและอีโมที่ดูเย้ย ซึ่งทางมารยาทในบ้านกลอนแห่งนี้ เขาจะไม่ทำกันครับ ที่ผ่านมาผมกับเพื่อนๆมักจะมีการฝากข้อความแนะนำกัน หากเกิดการผิดพลาดซึ่งอาจจะมีขึ้นได้กับทุกคน ซึ่งหลายท่านก็จะเข้าใจอุปนิสัยผมดี เรื่องการให้เกียรติคน.. . ความหมายของคำว่า"สัมผัสเลือน" ตามหลักมาตรฐานซึ่งสามารถตรวจสอบได้ง่าย ถ้าทุกท่านจะพึงตรวจสอบ ก็คือ การใช้คำรับสัมผัสที่ตามฉันทลักษณ์นั้น ท่านบังคับให้มีการรับสัมผัสเพียง ๑ ตำแหน่ง แต่ผู้เขียนกลับใช้รับพร้อมกันในจังหวะตกของเสียงถึง ๒ ตำแหน่ง.. ตามตัวอย่างดังนี้ครับ.. “เมื่อวานพ่อไม่อยู่ปู่มาหา ทั้งคุณอาและตาก็มาด้วย มากินเลี้ยงป้าอำแกร่ำรวย ทุ่มซื้อหวยโชคช่วยรวยเงินทอง..” หมายเหตุ.. ตำแหน่งคำที่ผมขีดเส้นใต้ไว้ นั่นก็คือคำ"สัมผัสเลือน"ครับ คือมักจะเกิดขึ้นในวรรคที่ ๒ หรือ ๔ ของบท.. เพราะว่ามีการรับสัมผัสเกินกว่า ๑ ตำแหน่งนั่นเอง.. . ส่วนตัวอย่างตามลิงก์ที่ยกมา ก็นำความหมายของคำว่า “ชิงสัมผัส” ไปปนเปกับคำว่า “สัมผัสเลือน” ดังสำนวนตัวอย่างคำ"ชิงสัมผัส"ตามนี้นะครับ..(ตัวอย่างนี้ไม่ใช่"สัมผัสเลือน"ซึ่งเป็นคนละความหมายกันนะครับ) “ลมเย็นเย็นสัมผัสพัดทิวไม้ เอนแกว่งไกวทั้งป่าน่าอิจฉา สกุณาร่าเริงเหลิงนภา ภาพชินตาตัวฉันนั้นแต่เยาว์..” หมายเหตุ.. ตำแหน่งคำที่ผมขีดเส้นใต้ไว้ เป็นคำที่"ชิงสัมผัส"ครับ ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็น พยางค์ที่ ๓ ของวรรคเสมอไป แต่ใช้บังคับกับทุกพยางค์ที่มาก่อนตำแหน่งรับสัมผัสจริง ในวรรคที่ ๒ และ ๓ ของบทครับ.. ส่วนนักกลอนบางท่าน ที่มีความละเอียดลออ อาจจะเหมารวมไปถึง การห้ามใช้คำ"ชิงสัมผัส"ตั้งแต่ในวรรคแรกของบทเลย แต่ในทางการตรวจสอบกับผู้ใหญ่ในหลายท่าน ท่านว่าคำ"ชิงสัมผัส"ยังไม่เคร่งครัดเหมารวมไปถึงวรรคแรกของบทครับ.. จากใจระนาดเอกครับ emo_25 นี่คือ "คุณระนาดเอก"ผู้อาวุโสแห่งบ้านกลอนไทย ผู้ซึ่งคอยสะกิดเตือนเมื่อ "อาปรางค์ สามยอด"เขียนกลอนผิดๆ เพราะคนที่รัก นับถือและหวังดีต่อกัน เท่านั้นที่จะสะกิดกัน ผมจึงถือว่าคุณระนาดเอกคือ "Idol" หรือแบบอย่างที่ดีงามของผม ผมจึงถือวิสาสะ "สะกิด"ผู้ที่ผมรัก นับถือ ในเมื่อเขาหรือเธออาจจะผิดเล็กๆน้อยๆที่ไม่เกินความรู้ของผม เสมอมา และผมก็คิดว่า นี่คือความดีงามของบ้านกลอนไทย ที่รุ่นพี่ๆจะกรุณาแนะนำ ตักเตือนรุ่นน้องๆ และที่แน่ๆคือ เราจสะกิดเตือนกันทางหลังไมค์มากกว่าที่จะบอกกันตรงๆในบอร์ด ซึ่งมันจะสร้างความรัก ความผูกพันธ์ต่อกัน กลายเป็นเพื่อน เป็นพี่เป็นน้องเสมือนญาติสนิท สำหรับคุณ Orion 64 ก็ไม่ต้องคิดอะไรมากหรอกนะครับ เพราะนี่คือการสังเสวนา อันเป็นคุณูปการ สำหรับชาวเราบ้านกลอนไทย ที่จะได้เพิ่มความรู้ปลีกย่อย เล็กๆน้อยๆขึ้นไปอีก ผมขอขอบคุณท่านทั้งสองที่เข้ามาชี้แจงเพื่อประโยชน์ของบ้านกลอนไทย นะครับ ลุงปรางค์ ไพร หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 09 สิงหาคม 2012, 10:00:PM emo_126 ก็เพราะงงตรงอ้างอย่างวรรคแรก ที่ว่าแปลกเพราะจิตคิดไม่ถึง ในวรรคแรกบางคนบนคำนึง เขียนเพียงครึ่งของวลีมีในกลอน เหมือนเป็นวรรคตามสบายกระจายเรื่อง อาจคุยเขื่องคุยโม้โก้มาก่อน โอ..ได้เช่น หมอลำนำคำวอน พอถึงตอนต่อเติมค่อยเพิ่มคำ เถอะ..ก็ดี มีหลาย หมายลิ้มรส เป็นแบบบท ให้ดู รู้สูงต่ำ ปล่อยสบายอารมณ์ผสมนำ ยิ่งเลิศล้ำยิ่งสามัญนั้นความจริง. "บ้านริมโขง" emo_126 หัวข้อ: Re: "อุ๊ย..คุณหมอ(แกล้ง)ดุ?" เริ่มหัวข้อโดย: พยัญเสมอ ที่ 09 สิงหาคม 2012, 10:18:PM เหอะๆๆ ดูเหมือนจะกลายเป็นคนผิดไปเลยแฮะเรา อย่างนี้หรือเปล่าที่เขาว่า"ปลาหมอตายเพราะปาก"น่ะ emo_15 อยู่ดีไม่ว่าดี emo_111 ดันหาเรื่องใส่ตัวซะงั้น เฮอะๆ |