หัวข้อ: เพื่อโลกรู้ศิลปะแห่งสยาม เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 03 กรกฎาคม 2012, 06:25:PM เพื่อโลกรู้ศิลปะแห่งสยาม
เกิดเป็นชายไว้ศักดิ์เลือดนักสู้ เพื่อโลกรู้ศิลปะแห่งสยาม สร้างเกียรติยศฝีมือไว้ลือนาม ให้คนตามศึกษาวิชามวย บุกดินแดนไอนุซากุระ ใช้ทักษะหมัดเข่าศอกเข้าช่วย ดุจหักดาบซามูไรทิ้งในอวย คู่ชกซวยใจฝ่อเจ็บพอช้ำ คือนักสู้ยิ่งใหญ่หัวใจกล้า บุตรชาวนาหาได้คิดใฝ่ต่ำ ฝึกเพลงมวยจนคล่องช่ำชองทำ, คนจะจำเรื่องราวบัวขาวนาน!ฯ อริญชย์ ๓/๗/๒๕๕๕ emo_107 emo_60 emo_107 ขออนุญาตแต่งไว้เป็นแนวประวัติศาสตร์ สำหรับความหมายอื่น ดูที่ บัวขาว (แก้ความกำกวม) บัวขาว บัญชาเมฆ ข้อมูลส่วนตัว ชื่อจริง สมบัติ บัญชาเมฆ[1] ฉายา ดำดอตคอม แบล็กโกลด์ วันเกิด 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 (30 ปี)[1] สถานที่เกิด บ้านสองหนอง อำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ ประเทศไทย ส่วนสูง 1.74 ม. (5 ฟุต 9 นิ้ว) น้ำหนัก 69.5 กก. (153 ปอนด์) รุ่น เฟเธอร์เวท ไลท์เวท เวลเตอร์เวท จูเนียร์มิดเดิลเวท ค่ายมวย บัญชาเมฆ ผู้จัดการ ประมุข โรจนตัณฑ์ ธีรพัฒน์ โรจนตัณฑ์ เทรนเนอร์ สายชล ธรรมรงศ์ สถิติ ชก 415 ชนะ 365 ชนะน็อก 207 แพ้ 45 เสมอ 5 บัวขาว บัญชาเมฆ[2] หรือในชื่อเดิม บัวขาว ป.ประมุข เกิดวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2525 เป็นนักมวยไทยที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในวงการการต่อสู้ระดับสากล โดยเฉพาะในทวีปยุโรปและประเทศญี่ปุ่น เป็นนักมวยไทยสังกัดค่ายมวย ป.ประมุข ส่วนสูง 174 เซนติเมตร น้ำหนัก 70 กิโลกรัม บัวขาวจัดเป็นหนึ่งในนักกีฬาอาชีพไทยที่ทำรายได้สูง โดยส่วนใหญ่มาจากการชกมวยที่ต่างประเทศ นอกจากนี้แล้ว ยังมีผลงานการแสดงในภาพยนตร์ไทยเรื่อง ซามูไร อโยธยา[3] และใน พ.ศ. 2554 บัวขาวได้เข้าร่วมแข่งขันในรายการไทยไฟท์ ที่ประเทศไทย ในรุ่น 70 กิโลกรัม [4] ซึ่งได้เป็นแชมป์ของการแข่งขันครั้งนี้อีกด้วย[5] ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2555 บัวขาวได้หายตัวไปอย่างลึกลับ และไม่สามารถติดต่อได้[6][7] โดยทางฝ่ายจัดการได้ยกเลิกแผนการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ตลอดจนแผนการแข่งขันที่จะจัดขึ้นทั้งในประเทศฝรั่งเศส และอังกฤษ[1][8] โดยมีการกล่าวถึงการหายตัวของบัวขาวในสื่อมวลชนหลายแห่ง ทั้งในและนอกประเทศไทย[9][10] และในที่สุด บัวขาวก็ได้เปิดเผยตัว โดยให้สัมภาษณ์ว่า ที่หายตัวนั้นไปไม่ได้เป็นอารมณ์ชั่ววูบ แต่ตัดสินใจอย่างดีแล้ว เนื่องจากไม่พอใจในเรื่องส่วนแบ่งค่าตัวของตัวเอง และนักมวยรุ่นน้องในค่าย[11] ที่สุดในวันที่ 17 เมษายน ปีเดียวกัน บัวขาวได้ขึ้นชกในรายการไทยไฟท์ ที่แหลมบาลีฮาย พัทยา ในรุ่น 70 กิโลกรัม ในฐานะแชมป์เก่า และถือเป็นนักมวยแทน ไทรโยค พุ่มพันธุ์ม่วง ที่พักผ่อนไม่เกิน 21 วัน ตามพระราชบัญญัติกีฬามวย โดยเป็นฝ่ายเอาชนะน็อก รัสเต็ม ซารีปอฟ นักมวยชาวรัสเซียไปได้ในยกที่ 2 ซึ่งหลังการชก บัวขาวเปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ตนขึ้นชกโดยไม่กลัวว่าจะผิดกฏหมาย แม้จะต้องติดคุกก็ตาม เพราะก่อนหน้านั้นทางค่าย ป.ประมุข ได้เปิดเผยสัญญาว่า หากบัวขาวขึ้นชกในรายการนี้โดยที่ไม่สังกัดค่ายจะถือว่าผิดกฏหมาย และจะทำการฟ้องร้อง[12] ปัจจุบัน บัวขาว ได้ร่วมกับ ดี พุฒหอม (ครูมวยคนแรก) และ ทอง บุรากร (เทรนเนอร์คนแรก) เปิดค่ายฝึกสอนมวยไทย ที่จังหวัดสุรินทร์ โดยใช้ชื่อค่าย "บัวขาว" หรือ "บัญชาเมฆ" เป็นชื่อชั่วคราว[13] http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7_%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%86 (http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7_%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%86) |