|
หัวข้อ: ผมคิดว่าเรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นกฎเหล็กของจิตใจเลยก็ว่าได้ เริ่มหัวข้อโดย: เขียนชีวิต ที่ 24 มิถุนายน 2012, 06:22:PM การเสริมแรง (Reinforcement)
เป็นการให้สิ่งที่ชอบภายหลังแสดงพฤติกรรม ส่งผลให้พฤติกรรมนั้นเพิ่มขึ้น การลงโทษ (Punishment) เป็นการให้สิ่งที่ไม่ชอบภายหลังแสดงพฤติกรรม ส่งผลให้พฤติกรรมนั้นลดลง **ลองนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันดูนะครับ** แรงเสริมนั้นอาจเป็นแค่คำชม รอยยิ้มหรือ ของรางวัลเล็กน้อยก็ได้ครับ และในเรื่องของการลงโทษแนะนำให้ใช้อย่างระมัดระวัง เพราะมันจะเป็นการตอกย้ำความผิดพลาดนั้นมากขึ้น และอาจจะทำให้เราไม่กล้าที่จะทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ ลองนำไปปรับใช้ดูนะครับ ใช้กับตัวเองดูก็ได้(แนะนำ) ผมได้ทดลองเรื่องนี้อยู่หลายครั้งเหมือนกัน ผมคิดว่าเรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นกฎเหล็กของจิตใจเลยก็ว่าได้ หัวข้อ: Re: ผมคิดว่าเรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นกฎเหล็กของจิตใจเลยก็ว่าได้ เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 24 มิถุนายน 2012, 06:51:PM ศาสนาพุทธนี่เป็นแหล่งวิชาจิตวิทยาที่ยอดเยี่ยมนะคะ... หลายอย่างที่เข้ากัน และหลายอย่างที่สนับสนุนกันอย่างเหมาะเหม็งเลยค่ะ... อย่างเช่นการให้รางวัล และการลงโทษ... แซมว่า คือ บุญ และบาป... ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ แซมค่ะ emo_126 หัวข้อ: Re: ผมคิดว่าเรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นกฎเหล็กของจิตใจเลยก็ว่าได้ เริ่มหัวข้อโดย: เขียนชีวิต ที่ 24 มิถุนายน 2012, 07:06:PM ศาสนาพุทธนี่เป็นแหล่งวิชาจิตวิทยาที่ยอดเยี่ยมนะคะ... หลายอย่างที่เข้ากัน และหลายอย่างที่สนับสนุนกันอย่างเหมาะเหม็งเลยค่ะ... อย่างเช่นการให้รางวัล และการลงโทษ... แซมว่า คือ บุญ และบาป... ขอบคุณที่แบ่งปันนะคะ แซมค่ะ emo_126 ผมก็คิดเช่นนั้นครับ emo_47 emo_47 หัวข้อ: Re: ผมคิดว่าเรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นกฎเหล็กของจิตใจเลยก็ว่าได้ เริ่มหัวข้อโดย: กฤษการกลอน ที่ 24 มิถุนายน 2012, 11:24:PM การเสริมแรง (Reinforcement) เป็นการให้สิ่งที่ชอบภายหลังแสดงพฤติกรรม ส่งผลให้พฤติกรรมนั้นเพิ่มขึ้น การลงโทษ (Punishment) เป็นการให้สิ่งที่ไม่ชอบภายหลังแสดงพฤติกรรม ส่งผลให้พฤติกรรมนั้นลดลง **ลองนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันดูนะครับ** แรงเสริมนั้นอาจเป็นแค่คำชม รอยยิ้มหรือ ของรางวัลเล็กน้อยก็ได้ครับ และในเรื่องของการลงโทษแนะนำให้ใช้อย่างระมัดระวัง เพราะมันจะเป็นการตอกย้ำความผิดพลาดนั้นมากขึ้น และอาจจะทำให้เราไม่กล้าที่จะทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้ ลองนำไปปรับใช้ดูนะครับ ใช้กับตัวเองดูก็ได้(แนะนำ) ผมได้ทดลองเรื่องนี้อยู่หลายครั้งเหมือนกัน ผมคิดว่าเรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นกฎเหล็กของจิตใจเลยก็ว่าได้ หากเราผิด ตำหนิมิว่าดอก กระซิบบอก ออกไปให้สร้างสรร อย่าตะคอก ออกหน้าท่าลงทัณฑ์ อกจะสั่น ขวัญหายไม่ได้ความ หัวข้อ: Re: ผมคิดว่าเรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นกฎเหล็กของจิตใจเลยก็ว่าได้ เริ่มหัวข้อโดย: ไร้นวล^^ ที่ 25 มิถุนายน 2012, 01:37:AM ขออัญเชิญพุทธพจน์เป็นบทใหญ่ แลกเปลี่ยนไว้เพื่อน้องพี่ที่ล้นหลาม
ทรงประทานเรื่องการพูดสุดงดงาม โปรดน้อมตามพระจอมไตรตามนี้แล คำเท็จไซร้ไม่ถูกต้องพร่องประโยชน์ เป็นคำโทษทรงเทศน์เป็นเหตุแย่ จงงดเว้นวจีต่ำคำจอแจ เพราะพลอยแต่จะเป็นบาปตราบนิรันดร์ แม้คำจริงคำถูกต้องพร่องประโยชน์ ทรงชี้โทษงดกล่าวเข้าหุนหัน เพราะไร้ค่าไร้คุณไร้บุญพลัน อย่าเสกสรรคำไร้แก่นคำแบนเบา คำจริงแท้ ถูกต้อง พร้อมประโยชน์ ก็อาจโทษกับใครที่ใจเขลา เพราะบางคนใช่สนใจเพราะใจเบา จะกล่อมเกลาอาจโกรธโทษกลับมา แต่จงเลือก กาละ เทศะให้ ผู้ฟังได้พร้อมพรั่งฟังคาถา จะแช่มชื่นรื่นรมย์สมอุรา แล้วตัณหาก็จะคลายมลายพลัน emo_126 |