พิมพ์หน้านี้ - *****วันว่าง ช่างแสนเหงา******

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนเหงา => ข้อความที่เริ่มโดย: สุนันยา ที่ 09 มิถุนายน 2012, 01:02:PM



หัวข้อ: *****วันว่าง ช่างแสนเหงา******
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 09 มิถุนายน 2012, 01:02:PM
(http://img1.funscrape.com/en/rain/34.gif)
(http://dl3.glitter-graphics.net/pub/813/813763sh1rsn6rnp.gif)
อักษรกานท์ วันว่าง ดูช่างเหงา
ไม่มีเขา ร้อยกรอง ทำนองหวาน
เพื่อปลอบโยน คนเศร้า ที่ร้าวราน
รอคำขาน หว่านพรม ด้วยตรมใจ

เหลือบมองดู เวลา คราคล้อยเคลื่อน
ตะวันเลื่อน เลือนลา พาหวั่นไหว
ระบายกลอน วอนคำ พร่ำพิไล
เธออยู่ไหน คนดี ไร้วี่แวว

ฉันเฝ้าเพียร เขียนกลอน ออดอ้อนหา
คอยเธอมา ต่อคำ ลำนำแก้ว
ตั้งแต่เช้า เข้าสาย จนบ่ายแล้ว
ไม่เห็นแนว ถ้อยถัก แม้นสักตอน

หรือมีเหตุ อันใด ให้ขัดข้อง
หรือเธอจ้อง ห่างหาย ใจทอดถอน
หรือว่าเธอ สิ้นใย ไม่อาวรณ์
หรือเบื่อกลอน คนเหงา ที่เฝ้าครวญ...

“สุนันยา”
(http://dl3.glitter-graphics.net/pub/813/813763sh1rsn6rnp.gif)


หัวข้อ: Re: *****วันว่าง ช่างแสนเหงา******..ฝากข้อความพิเศษถึงพี่.พูนสุข ด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: เมฆา... ที่ 09 มิถุนายน 2012, 02:00:PM
(http://www.qzub.com/bar_030.gif) (http://www.qzub.com)


อักษรเกลียวเกี่ยวก้อยฤๅหงอยเหงา
ยังหวานเย้าหยาดฟองละอองหวน
เช้าสายค่ำฉ่ำกานท์หวานรัญจวน
บ่ายดึกล้วนป่วนจินต์ด้วยยินคำ

แว่ววังเวงวิเวกนั้นเฉกเช่น
อกหลีกเร้นเรือนกายอายงามขำ
บทประพันธ์ตอบตอนกลอนลำนำ
ล้มและคว่ำทับร่างอย่างร้อนรน

จึงมิกล้าต่อความตามใกล้ชิด
อนุสิทธิ์คิดฝันหวั่นล่องหน
ทั้งรูปชั่วตัวดำเตี้ยต่ำตน
จึงยอมทนเจียมทางอย่างเดียวดาย

แต่โปรดรู้กลอนร้อยยังคอยเฝ้า
ติดตามเร้ารอยทางมิห่างหาย
อ่านผู้เดียวเกลียวเกลาเหมือนเมามาย
ด้วยหลงสายลายคำ..ประจำทรวง..


(http://www.qzub.com/bar_030.gif) (http://www.qzub.com)


ปล.ขอฝากแฮปปี้เบิร์ดเดย์ พี่.พูนสุข ด้วยน่ะครับ
   ส่งข้อความไปทางหลังไมค์ มิทราบได้รับหรือเปล่าเอ่ย?

ขอบคุณครับ..



หัวข้อ: Re: ***วันว่าง ช่างแสนเหงา***ขอโทษค่าแต่งไปแต่งมานอกเรื่องแถมยาวอีก
เริ่มหัวข้อโดย: พิมพ์วาส ที่ 09 มิถุนายน 2012, 05:13:PM
เฝ้ารอ...

ระรินฝนหล่นปรอยดังถ้อยถัก
นึกถึงพักตร์จักตรึงคะนึงหวง
ละลิ่วลมพรมพัด..สะบัดทวง
จู่โจมหน่วงห้วงในฤทัยปรวน
ยังจำมั่นวันหนึ่ง...ซึ่งประสบ
ลิขิตพบพานให้...ใจผันผวน
จังหวะก้องห้องแด.อกแท้รวน
ให้นึกครวญหวนหาทุกคราวัน
แค่เปรยตามามองใจต้องเต้น
ดังว่าเล่นเห็นขำ..ใจพร่ำหวั่น
ขอเสกสรรค์ปันถ้อยมาร้อยกัน
อยากก่อฝันลั่นคำ...อำอึ้งไป

เห็นหน้านวลชวนตกตะลึงแล้ว
ก็หลบแววแคล้วตาว่าหวามไหว
มิกล้าพบ...สบซึ้ง...ให้ตรึงใจ
แม้นทรวงในให้เต้นดังเช่นกลอง
เผยใบหน้าคราอาย..มิวายแต้ม
ปากบางเรียวยิ้มแย้ม..แอร่มผ่อง
ทั้งต้องตาต้องใจหมายได้ครอง
นวลละอ่องปองเจ้าให้เฝ้าเรือน

"หากพี่นั้นคิดปองน้อง
ให้ยกขันหมากเงินทอง..มาขอพ่ออย่าคอยเลื่อน
น้องจะขอรอพี่...ไม่มีเลือน
พี่อย่าได้แชเชือน...ให้รีบมา"


คำเจ้ามอบตอบแล้วไม่แคล้วฝัน
ขอจำนรรค์..ลั่นคำ...ฉ่ำใจว่า
จะรีบยกขันหมากมา..ไม่รอช้า
จนเวลาล่วงเลยเปรยแสนไกล
..สิบปี..
ณ ตอนนี้....พี่กลับ....มารับไหว้
เห็นน้องอุ้มลูกน้อยพลอยหวั่นใจ
นั่นลูกใครได้มา...กล่อมลานอน
เหตุใดน้องต้องหลบไม่พบเล่า
ไหนคำเจ้าเฝ้ารอ...พะนอย้อน
เหตุไฉนไปแล้ว..แคล้วอาวรณ์
คำรักครอนจรลาปวดปร่ากมล

"เหตุใดน้องถึงลวงดวงใจพี่
เจ้ากลับไปมี คนรักใหม่..คำสัญญาลืมไปไร้เหตุผล
เจ้ารู้ไหม...พี่รักเจ้าจนใจล้น
เจ้ากลับไปมีคนรักใหม่...เหตุใดกัน"


นวลหลบหน้าน้ำตาเริ่มลาหลั่ง
กล่อมลูกน้อยไปทั้ง..ตั้งใจหัน-
กลับมาแล้วแว่วคำ....ที่รำพัน
เปรยบอกพลันวันนี้ที่คลี่คลาย

"พี่
น้องนี้รอพี่มาสิบปี..นึกว่าพี่ห่างหาย
ไปมีคนรักคนอื่น...น้องจึงวางวาย
น้องจึงแต่งงานใหม่...เมื่อปลายปีก่อน...น้องไม่ตั้งใจ"


ชายกลางคนบ่นร่ำพึมพำพูด
หายใจเข้าออกสูดค่อยพูดได้
ชักดาบออกแทงอก...นางตกใจ
สายเกินไปในรัก...ที่หักลง

หนูขอโทษค่า...เขียนไปเขียนมามันเพลินหน่ะค่ะ ต้องขอโทษพี่สุด้วยนะคะ เพลินไปหน่อยพลอยนอกเรื่องเลยขอประทานอภัยจริงๆค่ะ อย่าโกรธกันเลยนะคะ นอกเรื่องแล้วยังยาวอีก...ขอประทานโทษพี่สุอย่างสูงเลยค่ะ...หนูไม่ได้ตั้งใจให้มันยาวขนาดนี้นะคะ...แล้วก็ไม่ได้ตั้งใจให้มันนอกเรื่องด้วย...ขอประทานโทษค่า...


หัวข้อ: Re: *****วันว่าง ช่างแสนเหงา******..ฝากข้อความพิเศษถึงพี่.พูนสุข ด้วยครับ
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 09 มิถุนายน 2012, 08:24:PM
(http://www.qzub.com/bar_030.gif) (http://www.qzub.com)


อักษรเกลียวเกี่ยวก้อยฤๅหงอยเหงา
ยังหวานเย้าหยาดฟองละอองหวน
เช้าสายค่ำฉ่ำกานท์หวานรัญจวน
บ่ายดึกล้วนป่วนจินต์ด้วยยินคำ

แว่ววังเวงวิเวกนั้นเฉกเช่น
อกหลีกเร้นเรือนกายอายงามขำ
บทประพันธ์ตอบตอนกลอนลำนำ
ล้มและคว่ำทับร่างอย่างร้อนรน

จึงมิกล้าต่อความตามใกล้ชิด
อนุสิทธิ์คิดฝันหวั่นล่องหน
ทั้งรูปชั่วตัวดำเตี้ยต่ำตน
จึงยอมทนเจียมทางอย่างเดียวดาย

แต่โปรดรู้กลอนร้อยยังคอยเฝ้า
ติดตามเร้ารอยทางมิห่างหาย
อ่านผู้เดียวเกลียวเกลาเหมือนเมามาย
ด้วยหลงสายลายคำ..ประจำทรวง..


(http://www.qzub.com/bar_030.gif) (http://www.qzub.com)


ปล.ขอฝากแฮปปี้เบิร์ดเดย์ พี่.พูนสุข ด้วยน่ะครับ
   ส่งข้อความไปทางหลังไมค์ มิทราบได้รับหรือเปล่าเอ่ย?

ขอบคุณครับ..


(http://www.qzub.com/bar_030.gif)

อักษรกานท์ พานเศร้าแลเหงาหงอย
ด้วยยังคอย คนที่ ฤดีหวง
ทั้งเช้าสาย คล้ายว่า จะลารวง
จนวันล่วงเลยผ่าน ดั่งหวานคลาย

กระไรเลย เอ่ยคำ ดุจย้ำเล่น
ฤา ไม่เห็น คนคอย ใจลอยหาย
ร้อยลำนำ กำหนด พจน์เรียงราย
สื่อความหมาย สุนทร ใช่ซ้อนกล

หวังเธอมา ต่อกลอน อ้อนสนิท
เป็นดั่งมิตร ลิขิตฝัน วันสับสน 
อย่าตำหนิ สิ่งใด อยู่ในตน
ปลดกังวล บ่นท้อ ฉันรอเธอ

หากแม้นยัง ตามอ่าน งานคนเศร้า
เถอะมาเย้า เคล้าเคียง สำเนียงเสนอ
เหมือนก่อนเคย เอ่ยพร่ำ เพื่อย้ำเจอ
อย่าให้เก้อ เพ้อคอย....จนน้อยใจ...
 emo_126
“สุนันยา”
(http://www.qzub.com/bar_030.gif)


หัวข้อ: Re: *****วันว่าง ช่างแสนเหงา******
เริ่มหัวข้อโดย: ไพร พนาวัลย์ ที่ 10 มิถุนายน 2012, 12:39:AM

emo_89   emo_107   emo_95

ด้วยเจียมตัวเจียมใจจำไกลห่าง
สุดอ้างว้างจำทนแม้หม่นไหม้
ยังเฝ้าแอบแฝงอ่านมิผ่านไป
มิเคยมีวันใดจะไม่มอง

ขออยู่ในเงามืดไม่วืดวาด
มิบังอาจต่อคำประจำช่อง
ด้วยละอายแก่ใจผู้ใฝ่ปอง
เพียงประคองดวงใจมิให้เจอ

แต่จงรู้ไว้เถิดมิเปิดเผย
เพียงเปรียบเปรยหัวใจยามใครเผลอ
ว่าแอบภักดิ์แอบหลงพะวงเพ้อ
ว่าเธอคือขวัญใจดุจใบบัง

เพราะว่ากลอนไม่หวานเกรงกานท์กร่อย
จึงค่อยค่อยขีดเขียนประเพียรหยั่ง
โยนก้อนหินถามหน่อยประดอยดัง
ขออยู่หลังแมกไม้อดใจรอ

“ไพร พนาวัลย์”


หัวข้อ: Re: *****วันว่าง ช่างแสนเหงา******
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านริมโขง ที่ 10 มิถุนายน 2012, 02:30:AM
(http://img1.imagehousing.com/93/95d5cada860e84f00a330419e3b817a2.jpg) (http://www.imagehousing.com/image/1031967)

emo_64

ไม่มีเลยวันว่าง อย่างใครเขา
มีแต่เฝ้าจดจ่อต่อนาสวน
ยามฝนเทดินฉ่ำร่ำรัญจวน
คอยเนื้อนวลทำนาไม่มาแล

จึงวางมือถือคันไถไกลจากกลอน
เปลี่ยนจากอ้อนคนงามเคยตามแหย่
จูงเจ้าทุยลุยนาพาไถแปร
มุ่งมั่นแต่แลทุ่งมุ่งลุยโคลน

ชีวิตเราชาวนาใครมาสน
หน้าดำหม่นบนตัวไร้หัวโขน
หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดินกลิ่นควายโชน
เกินจะโดนใจนำคำกวี

ภาษากลอนภาษากานท์เคยหวานหยด
จึงต้องหดห่างหายดั่งหน่ายหนี
เป็นเพราะเหนื่อยงานสร้างอ้างวจี
“วสันต์” หาย บางที่ พี่อาจคืน

"บ้านริมโขง"

(http://dl3.glitter-graphics.net/pub/813/813763sh1rsn6rnp.gif)


หัวข้อ: Re: *****วันว่าง ช่างแสนเหงา******
เริ่มหัวข้อโดย: พี.พูนสุข ที่ 10 มิถุนายน 2012, 08:44:AM
 
 
(http://upic.me/i/ct/319799_420730361305218_1636474418_n.jpg) (http://upic.me/show/36468190)


ไม่สิ้นเสียง เพรียกหา พี่ขา..ขยับ
  ไม่สิ้นศัพท์ เอื้อนเอ่ย จะเฉยไฉน
  ถ้อยคารมคมคิดสนิทใน
      ถ้อยคำไขเคียงชิดสนิทนาน      emo_54

  เอื้ออุ่นไอละไมกรุ่นละมุนหวน
 เอื้ออุ่นอวลถนอมรักสมัครสมาน
 เคยตามอ่านงานเข้าเกลาคำกานท์
      ชื่นดวงมานหลงเฝ้าเกลาคำกลอน     emo_45 (ในใจ)

 สุขใดเทียมเปี่ยมรักทักหยอกเย้า
 สุขใดเท่าต้องมนต์ยลอักษร
 วันเหงาเหงา.. น้องเจ้าเฝ้าวิงวอน
      เป็นดั่งพร  ขานรับ  ประทับทรวง      emo_50

 (http://upic.me/i/f1/pplay.gif) (http://upic.me/show/303893)
           พี.พูนสุข


หัวข้อ: Re: *****วันว่าง ช่างแสนเหงา******
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 10 มิถุนายน 2012, 10:21:AM
([url]http://img1.imagehousing.com/93/95d5cada860e84f00a330419e3b817a2.jpg[/url]) ([url]http://www.imagehousing.com/image/1031967[/url])
emo_64
ไม่มีเลยวันว่าง อย่างใครเขา
มีแต่เฝ้าจดจ่อต่อนาสวน
ยามฝนเทดินฉ่ำร่ำรัญจวน
คอยเนื้อนวลทำนาไม่มาแล

จึงวางมือถือคันไถไกลจากกลอน
เปลี่ยนจากอ้อนคนงามเคยตามแหย่
จูงเจ้าทุยลุยนาพาไถแปร
มุ่งมั่นแต่แลทุ่งมุ่งลุยโคลน

ชีวิตเราชาวนาใครมาสน
หน้าดำหม่นบนตัวไร้หัวโขน
หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดินกลิ่นควายโชน
เกินจะโดนใจนำคำกวี

ภาษากลอนภาษากานท์เคยหวานหยด
จึงต้องหดห่างหายดั่งหน่ายหนี
เป็นเพราะเหนื่อยงานสร้างอ้างวจี
“วสันต์” หาย บางที่ พี่อาจคืน

"บ้านริมโขง"

([url]http://dl3.glitter-graphics.net/pub/813/813763sh1rsn6rnp.gif[/url])

(http://image.ohozaa.com/i/660/ZEzMpm.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/w81fG2uveq1630PX)
คอยไปเถอะ พี่ชาย คอยไปเถอะ
โคลนเปื้อนเปรอะ อย่างนั้น อย่าขันขืน
ไม่กลับหรอก บ้านนา ป่าดงปืน
นอนกลางคืน เหลือบริ้น บินตอมไง

อยากทำนา ทำไป น้องไม่ว่า
แต่อย่ามา โอดครวญ ด่วนเฉไฉ
เหม็นกลิ่นเหงื่อ เบื่อมาก จากลาไกล
ขืนร่ำไร อีกหน จะโดนดี

ขายข้าวได้ ส่งเงิน ให้น้องด้วย
ค่าเสริมสวย ศัลยกรรม ทำแสนสี่
ทั้งทุบหน้า เหลาคาง ทุกอย่างซี
อีกทั้งหนี้ ค่าหอ รอจ่อคิว
พันทอง
(http://image.ohozaa.com/i/660/ZEzMpm.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/w81fG2uveq1630PX)


หัวข้อ: Re: *****วันว่าง ช่างแสนเหงา******
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 10 มิถุนายน 2012, 02:15:PM

ฯลฯ
ชายกลางคนบ่นร่ำพึมพำพูด
หายใจเข้าออกสูดค่อยพูดได้
ชักดาบออกแทงอก...นางตกใจ
สายเกินไปในรัก...ที่หักลง

"น้องพิมพ์ฯ"

แม้นเปลี่ยนเรื่องเปลื่องคำ นำลิขิต
ช่างประดิษฐ์คิดคำ ตามประสงค์
เหมือนละคร กลอนยาว เล่นเอางง
แต่ยังคงคุณค่า น่าตะลึง....
  emo_100
"สุนันยา"


หัวข้อ: Re: *****วันว่าง ช่างแสนเหงา******
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 10 มิถุนายน 2012, 04:09:PM

emo_89   emo_107   emo_95

ด้วยเจียมตัวเจียมใจจำไกลห่าง
สุดอ้างว้างจำทนแม้หม่นไหม้
ยังเฝ้าแอบแฝงอ่านมิผ่านไป
มิเคยมีวันใดจะไม่มอง

ขออยู่ในเงามืดไม่วืดวาด
มิบังอาจต่อคำประจำช่อง
ด้วยละอายแก่ใจผู้ใฝ่ปอง
เพียงประคองดวงใจมิให้เจอ

แต่จงรู้ไว้เถิดมิเปิดเผย
เพียงเปรียบเปรยหัวใจยามใครเผลอ
ว่าแอบภักดิ์แอบหลงพะวงเพ้อ
ว่าเธอคือขวัญใจดุจใบบัง

เพราะว่ากลอนไม่หวานเกรงกานท์กร่อย
จึงค่อยค่อยขีดเขียนประเพียรหยั่ง
โยนก้อนหินถามหน่อยประดอยดัง
ขออยู่หลังแมกไม้อดใจรอ

“ไพร พนาวัลย์”


 emo_60 emo_95
เหมือนมีใจ ออกห่าง จึงวางท่า
ทำเป็นอ่อนภาษามิกล้าหนอ
แท้ซ่อนคม พรมกานท์ หวานลออ
ให้เรารอ จนป่วน ต้องครวญตาม

มัวหลงเพลิน เดินไกล จึงไม่ห่วง
ให้คอยหวง ทวงหา เพื่อมาถาม
เพราะเหตุใด ไม่เผย ละเลยความ
กี่ช่วงยามแล้วหนอ ต้องรอนาน

นี่หรือคน เคยเคล้า เฝ้าเย้าหยอก
พูดเหมือนหลอก ให้หลงตรงคำหวาน
สารพัน สรรค์ถ้อย ร้อยเพลงกานท์
ทำดวงมาน คนคอย ต้องพลอยตรม

เอาเถอะหนา จะลอง เชื่ออีกหน
อย่ากังวน วุ่นวาย หทัยขม
มาเถิดหนา ต่อกานท์ หวานภิรมย์
คลายระทม คนเหงา ที่เฝ้าคอย...
emo_126
"สุนันยา"


หัวข้อ: Re: *****วันว่าง ช่างแสนเหงา******
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 10 มิถุนายน 2012, 06:02:PM
(http://img1.imagehousing.com/93/95d5cada860e84f00a330419e3b817a2.jpg) (http://www.imagehousing.com/image/1031967)

emo_64

ไม่มีเลยวันว่าง อย่างใครเขา
มีแต่เฝ้าจดจ่อต่อนาสวน
ยามฝนเทดินฉ่ำร่ำรัญจวน
คอยเนื้อนวลทำนาไม่มาแล

จึงวางมือถือคันไถไกลจากกลอน
เปลี่ยนจากอ้อนคนงามเคยตามแหย่
จูงเจ้าทุยลุยนาพาไถแปร
มุ่งมั่นแต่แลทุ่งมุ่งลุยโคลน

ชีวิตเราชาวนาใครมาสน
หน้าดำหม่นบนตัวไร้หัวโขน
หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดินกลิ่นควายโชน
เกินจะโดนใจนำคำกวี

ภาษากลอนภาษากานท์เคยหวานหยด
จึงต้องหดห่างหายดั่งหน่ายหนี
เป็นเพราะเหนื่อยงานสร้างอ้างวจี
“วสันต์” หาย บางที่ พี่อาจคืน

"บ้านริมโขง"

(http://dl3.glitter-graphics.net/pub/813/813763sh1rsn6rnp.gif)


คำเคยร้อย ถ้อยกานท์ เคยหวานหยด
หรือจะหมด รสฉ่ำ ให้จำฝืน
ลำนำรัก ถักสาน เมื่อวานซืน
ยังรินรื่น ชื่นจินต์ ถวิลจำ

แม้นเหนื่อยล้า นาสวน ให้ชวนพิศ
อย่าได้คิด ท้อถอย ว่าต้อยต่ำ
เป็นชาวนา หน้าใส มิใจดำ
ผลของการ กระทำ ค้ำชูไทย

คนเขียนกานท์ วันนี้ แม้นมีเหงา
ยังคงเฝ้า รอวัน อันสดใส
รอหนุ่มนา คืนลาน บ้านกลอนไทย
ด้วยดวงใจ จดจอ เพื่อต่อกลอน

หากวสันต์ พลันหาย อย่าหน่ายร้าง
ร้อยกรองวาง สร้างสรรค์ งานอักษร
อย่าทำให้ คนเหงา ต้องร้าวรอน
ด้วยอาวรณ์ อ่อนไหว...เมื่อไกลกัน

“สุนันยา”
(http://dl3.glitter-graphics.net/pub/813/813763sh1rsn6rnp.gif)

***ป.ล.(วันซืน หรือวานซืน....ภาษาเหนือ แปลว่า วันก่อนๆ)


หัวข้อ: Re: *****วันว่าง ช่างแสนเหงา******
เริ่มหัวข้อโดย: blues ที่ 10 มิถุนายน 2012, 06:04:PM
นาฬิกา พากรีดเฉือน เตือนความเหงา
ทุกค่ำเช้า ยามเรา เฝ้านึกหวล
เข็มเวลา ทิ่มแทงใจ ให้เรรวน
ทุกสิ่งล้วน เกิดก่อ ไม่พอดี

อาจเป็นเพราะ รักมากไป ใช่ไหมนั่น
ทุกคืนวัน ผันผ่าน ยากหลีกหนี
เมื่อหัวใจ เฝ้าห่วงหา เป็นนาที
ในหนึ่งปี พี่นี้ เป็นเช่นไร

เมื่อความเหงา กัดกินใจ ในรู้สึก
ยามต้องนึก ถึงเธอ เสมอไหน
เหมือนชีวิต ถูกฉีกทิ้ง จนสิ้นไป
ยากหาใคร แทนเธอ นั้น..ไม่มี

นานไหมหนอ จบสิ้น สูญสลาย
เหมือนความตาย พรากไป ในวิถี
หรือสมหวัง ในรัก ปักชีวี
จะชั่วดี อย่างไร หาได้กลัว

(http://www.qzub.com/bar_154.gif) (http://www.qzub.com)

bluesky


หัวข้อ: Re: *****วันว่าง ช่างแสนเหงา******
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 10 มิถุนายน 2012, 10:18:PM

 
(http://upic.me/i/ct/319799_420730361305218_1636474418_n.jpg) (http://upic.me/show/36468190)


ไม่สิ้นเสียง เพรียกหา พี่ขา..ขยับ
  ไม่สิ้นศัพท์ เอื้อนเอ่ย จะเฉยไฉน
  ถ้อยคารมคมคิดสนิทใน
      ถ้อยคำไขเคียงชิดสนิทนาน      emo_54

  เอื้ออุ่นไอละไมกรุ่นละมุนหวน
 เอื้ออุ่นอวลถนอมรักสมัครสมาน
 เคยตามอ่านงานเข้าเกลาคำกานท์
      ชื่นดวงมานหลงเฝ้าเกลาคำกลอน     emo_45 (ในใจ)

 สุขใดเทียมเปี่ยมรักทักหยอกเย้า
 สุขใดเท่าต้องมนต์ยลอักษร
 วันเหงาเหงา.. น้องเจ้าเฝ้าวิงวอน
      เป็นดั่งพร  ขานรับ  ประทับทรวง      emo_50

 (http://upic.me/i/f1/pplay.gif) (http://upic.me/show/303893)
           พี.พูนสุข

ยินคำคม ลมรัก สลักถ้อย
ยินคมร้อย  คล้อยตาม ลำนำสรวง
สุขฤดี ดั่งเยือน ถึงเรือนรวง
สุขชื่นดวง หทัย แท้ใจนาง

เมื่อรู้ถึง ซึ่งคำ พี่พร่ำเอ่ย
เมื่อรู้ใน คำเผย มิเคยหมาง
ซ่านกมล คนเหงาไร้เงาพราง
ยามพี่วาง รักมอบ น้องขอบคุณ

ทุกสำนวน อวลไอ ได้สัมผัส
ทุกวลี เรียงคัด  จัดเกื้อหนุน
หวานกว่าหวาน กานท์ร้อย ถ้อยละมุน
ด้วยการุญ อุ่นรัก...จากนักกลอน...
 emo_126
“สุนันยา”


 
 


หัวข้อ: Re: *****วันว่าง ช่างแสนเหงา******
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 11 มิถุนายน 2012, 07:16:AM
นาฬิกา พากรีดเฉือน เตือนความเหงา
ทุกค่ำเช้า ยามเรา เฝ้านึกหวล
เข็มเวลา ทิ่มแทงใจ ให้เรรวน
ทุกสิ่งล้วน เกิดก่อ ไม่พอดี

อาจเป็นเพราะ รักมากไป ใช่ไหมนั่น
ทุกคืนวัน ผันผ่าน ยากหลีกหนี
เมื่อหัวใจ เฝ้าห่วงหา เป็นนาที
ในหนึ่งปี พี่นี้ เป็นเช่นไร

เมื่อความเหงา กัดกินใจ ในรู้สึก
ยามต้องนึก ถึงเธอ เสมอไหน
เหมือนชีวิต ถูกฉีกทิ้ง จนสิ้นไป
ยากหาใคร แทนเธอ นั้น..ไม่มี

นานไหมหนอ จบสิ้น สูญสลาย
เหมือนความตาย พรากไป ในวิถี
หรือสมหวัง ในรัก ปักชีวี
จะชั่วดี อย่างไร หาได้กลัว

(http://www.qzub.com/bar_154.gif) (http://www.qzub.com)

bluesky
สุดหมองหม่น ท้นทับเกินรับได้
เหมือนอยู่ใต้ เมฆเทา ในเงาหลัว
ไร้ซึ่งแสงสว่าง บนทางมัว
อยู่เพียงตัว ดายเดียว... แสนเปลี่ยวใจ

เธออยู่ไหน ไกลห่าง เหมือนร้างหลบ
หรือต้องจบ รักเรา เฝ้าหวั่นไหว
กาลเวลา คราเคลื่อน  ลับเลือนไป
คิดถึงเธอ รู้ไหม หทัยตรม

ให้รู้สึก หงอยเหงา เศร้าจับจิต
ดั่งชีวิต ปลิดลง ตรงขื่นขม
โอ้สายใย ในห้วง บ่วงอารมณ์
กลายเป็นรอย ระทม ทับถมทรวง

ฉัน...จะรอคืนวัน เธอนั้นกลับ
มาช่วยซับ น้ำตา คราหล่นร่วง
เรามีเรา เหมือนก่อน มิกร่อนกลวง
เหมือนอยู่สรวง สวรรค์ ...วันคู่เคียง......

"สุนันยา"


หัวข้อ: Re: *****วันว่าง ช่างแสนเหงา******
เริ่มหัวข้อโดย: จันท์ จันทบูร ที่ 12 มิถุนายน 2012, 02:34:PM
อันเหงาใจไฉนจึงดึงเป็นหลัก
เพราะความรักจืดจางอย่างนั้นหรือ
เขาห่างไปใครเล่าคนเหงาคือ
ยังยั้งยื้อในความเหงาที่เขาทำ
ถึงวันว่างน้องนางช่างแสนเหงา
เหตุใดเล่าจึงยึดติดชีวิตช้ำ
ในโลกนี้มีมากมายให้เราทำ
อย่ายึดคำว่าเหงาให้เราตรม


หัวข้อ: Re: *****วันว่าง ช่างแสนเหงา******
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 12 มิถุนายน 2012, 04:08:PM
ในสำนึก ตรึกตาม เมื่อยามว่าง
สุดอ้างว้าง เต็มที ฤดีขม
รอยอาลัย ในห้วง เป็นบ่วงปม
อยู่กับความ ระทม ทับถมจินต์

ไม่มีบทกวี ที่อ่อนหวาน
คอยปลอบมาน ขานถ้อย เรียงร้อยศิลป์
ในวันว่าง พรางเหงาเศร้าชีวิน
ขาดรสรินอักษร จึงนอนซม... emo_47

"สุนันยา"