หัวข้อ: สวัสดียามค่ำ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 04 มิถุนายน 2012, 06:45:PM คาราวะเหล่านักกลอนตอนหัวค่ำ มาดื่มด่ำฉ่ำมิตรคิดอักษร ตัวกระผมว่างปั๊บก็หลับนอน หัวถึงหมอนฝันหาสาวทุกคราวไป ด้วยห่างนานการเขียนเลยเพี้ยนนิด บางครั้งยังรู้สึกผิดคิดหวาดไหว อยากจะได้อย่างอารมณ์ไม่สมใจ แต่เขียนแล้วก็แล้วไปไม่ว่ากัน มาวันนี้ดีหน่อยขอปล่อยพลิ้ว ลีลานิ้วจารบทกลอนอักษรสรร ใช่เล่นของลองดูสู้ไม่มัน อย่างผมนั้นคือฝีมือแต่ไรมา ซึ่งจะนั่งตรองตรึกนึกพินิจ ใส่ความคิดแนวโลกีย์ไม่มีหนา แบบตกหล่นโทษอีกมันผู้นำพา พลัดพลาดของในตัวข้านั้นไม่มี หรือแบบเล่นเจ้าปู่สู่ดวงจิต ใส่ลิขิตยมทูตจากพูตผี ขอรับรองจากใจว่าไม่มี จะเปรมปรีย์เป็นเจ้าทรงมาลงกลอน คาราวะส่งท้ายสมหมายมาด เหล่านักปราชญ์ราชครูรู้อักษร แม้นซึ่งเรื่องเคืองใครใคร่วิงวอน ยามหลับนอนให้ผีบีบคอ...เอย emo_54 emo_54 หัวข้อ: Re: สวัสดียามค่ำ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 19 มิถุนายน 2012, 06:21:PM ครั้งโบราณนานมาเวลาค่ำ สาว-หนุ่มลอยเรือลำกลางน้ำใส แต่อยุธยายังเป็นเมืองศิวิไล ที่หน้าวัดขนัดไปแต่นักกลอน จึงต่อบทสักวาไม่ว้าวุ่น มิเคืองขุ่นยันแก่เฒ่าเมาอักษร จนดึกดื่นคืนไหนไม่ยอมนอน คนไม่เป็นก็ไหว้วอนคนบอกคำ ยุคสมัยแม้เวียนไปเปลี่ยนแปลก จนผิดแผกก็ยังมิที่อิ่มหนำ ด้วยยุคใหม่ไอ-ทีอันเลิศล้ำ ให้ต่อกลอนอ้อนอำอึงคนึง ได้เกิดกายมากมีกวีเอก ลิขิตเสกถ้อยวจีกันทั่วถึง ผู้ดีไพร่ว่ากันไปจนอื้ออึง กิริยาตังตึงต่างแต่มี แม้กระผมดอกกระเจียวเที่ยวไปทั่ว เข้าดงเสือบ่เคยกลัวจะวิ่งหนี แต่ประสาใจรักการกวี หรือจะเกรงถ้อยวาทีซึ่งปราชญ์ใด ขอคาราวะในท้ายกลอนตอนค่ำๆ แม้โลกเคลื่อนเครงคว่่ำฤาหวั่นไหว โลกอักษรยังเบ่งบานตระการใจ อยู่ ณ บ้านกลอนไทยแห่งนี้เอง หัวข้อ: Re: สวัสดียามค่ำ เริ่มหัวข้อโดย: อริญชย์ ที่ 19 มิถุนายน 2012, 06:32:PM หนึ่งจอกกับดอกกระเจียว
ดอกกระเจียวชื่อดังแห่งวังหลวง เป็นดั่งดวงสุริยาลงมาเผย ส่องศาสตร์ศรีกวีมาไม่ละเลย น่าชมเชยทุกคราดอกกระเจียว ชื่อบอกดินถิ่นฐานเกิดบ้านป่า แต่ลีลาวรรณศิลป์กวินเชี่ยว ใครตามอ่านงานปลื้มไม่ลืมเชียว ต่างแลเหลี่ยวชื่นชมอุดมการณ์ ช่วงไหนว่างอย่าช้าเข้ามาแต่ง เพื่อแสดงลีลากลอนกล้าหาญ เสี่ยวอู้-อี้หยิบยกตลกนาน เพื่อนชื่นบานอ่านแล้วตอบว่าชอบเอย!ฯ อริญชย์ ๑๙/๖/๒๕๕๕ emo_107 emo_60 emo_107 หัวข้อ: Re: สวัสดียามค่ำ เริ่มหัวข้อโดย: ดอกกระเจียว ที่ 20 มิถุนายน 2012, 06:24:PM อันคำยกยอนั่นหนอท่าน เหมือนจอกสุราสมานในมิตรหมาย ให้คนเศร้าเอกาว้าเหว่กาย อย่างดอกกระเจียวนี้ได้คลายสบายใจ โบราณว่าหนึ่งผู้รู้หรือจะเท่าสิบรู้ โดดเดี่ยวหรือจะสู้ซึ่งสิบได้ หนึ่งเส้นฟางขาดง่ายจะตายไป สักสิบเส้นดึงเท่าใดยังมั่นคง ก็ด้วยความโดดเดี่ยวจึงเปลี่ยวจิต ซึ่งการจะคิดไม่สมประสงค์ ไม่เหมือนมาก กดเอ้า-กดเอา ตามจำนงค์ หนึ่งเดียวจึงยอมซื่อตรงตลอดมา emo_26 emo_54 emo_12 emo_28 emo_18 emo_09 |