พิมพ์หน้านี้ - ลมฝน ลมรัก ลมลวง

ชุมชน บ้านกลอนไทย ชุมชนสำหรับคนไทยผู้รักกลอน

บทประพันธ์กลอนและบทกวีเพราะๆ => กลอนอกหัก => ข้อความที่เริ่มโดย: sunthornvit ที่ 16 พฤษภาคม 2012, 09:48:AM



หัวข้อ: ลมฝน ลมรัก ลมลวง
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 16 พฤษภาคม 2012, 09:48:AM


 
          ทิวไผ่  ไหวเอน  เป็นลำโค้ง
         โยกโคลง  โอนกาย  กลางสายฝน
         พายุ  ดุดัน  ประจัญจญ
         มหิดล  ฉะฉ่ำ  น้ำเจิ่งนอง

            พิกล  กอไผ่  ไม่ยักล้ม
         ต้านลม  ตรากตรำ  มิช้ำหมอง
         ผ่านวัน  ฝ่าคืน  ยืนลำพอง
         ประคอง  สังขาร  เนิ่นนานมา

            ลมฝน  ถึงกาล  ก็ผ่านพ้น
         ล่องหน  ผายผัน  หลังพรรษา
         ฝากความ  อุดม  พรมพนา
         คงคา  ทั่วถ้วน  ได้ส่วนบุญ

            ลมรัก  รุนแรง  สำแดงเดช
         อาเพศ  เกรี้ยวกราด  ขาดยืดหยุ่น
         ตอกย้ำ  พร่ำเพรื่อ  เหนือพิรุณ
         หมกมุ่น  วุ่นวาย  ทุกรายไป

            ลมลวง  ออกจาก  ปากอิตถี
         คูณสี่  คูณห้า  น่าเลื่อมใส
         เบื้องหลัง  แผ่เผื่อ  หว่านเยื่อใย
         หลายใจ  หลายรัก  เที่ยวพักพิง

            มุสา-วาทา  หาความใส่
         หน้าไหว้  หลังหลอก  ชาญกลอกกลิ้ง
         สรรหา  ถ้อยคำ  พร่ำติติง
         เท็จ,จริง  ต่างรู้  อยู่แก่ตน

    emo_94

   สุนทรวิทย์



หัวข้อ: Re: ลมฝน ลมรัก ลมลวง
เริ่มหัวข้อโดย: Prapacarn ❀ ที่ 16 พฤษภาคม 2012, 10:19:AM
(http://www.yenta4.com/cutie/upload/535/1535/4adfe0c3af0b1.gif)

จี้จุดสุดเจ็บ...แหม..เหน็บหนัก
ใจรักชักกระตุกจนจุกหม่น
เห็นหญิงอย่างเรา..งี่เง่าจน-
ปี้ป่นเสียหาย..หลายกระบุง
(http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif)
ลมฝนทนหนาว..ทำสาวสั่น
รอยฝันพี่ฝาก..ฮึ! ไม่อยากยุ่ง
ผู้ชายมายาร้ายกว่ายุง
คันพุงดีกว่าจะเจ็บใจ
(http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif)
ว่าเค้า..หลายรัก..ชักคะเย่อ
แล้วเธอ...รักมีตั้งกี่ไห
จ่ายแจกแทรกซ้อนอ้อนใครใคร
คนใหม่น้องเห็นเมื่อเย็นวาน
(http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif)
ลมฝน..ลมรัก..ลมลวง
ใจใคร..หนอ กลวง..น่าสงสาร
มาว่าเขา...อิเหนา จะเศร้านาน
กลับบ้านซะดีกว่า...หน้าไม่อาย
(http://upic.me/i/s6/792698x0hgfrn2281.gif)
เจ้าแซม
(http://upic.me/i/1z/70d24.gif)


หัวข้อ: Re: ลมฝน ลมรัก ลมลวง
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 16 พฤษภาคม 2012, 10:56:AM

สารภาพ  อย่างนี้  แค่ตีก้น
เลิกบ่น  เลิกช้ำ  ระส่ำระสาย
ที่เคือง  ที่ร้อน  ล้วนผ่อนคลาย
เหตุร้าย  กลายดี  หันชีกอ

รักแซม  โสภี  มิมีเปลี่ยน
วนเวียน  คลุกคลี  ตามอี๋อ๋อ
เมื่อไร  แซมจะ  ร่วมพะนอ
นั่งรอ  เนิ่นนาน  รำคาญใจ

 emo_116

สุนทรวิทย์


หัวข้อ: Re: ลมฝน ลมรัก ลมลวง
เริ่มหัวข้อโดย: ไม่รู้ใจ ที่ 16 พฤษภาคม 2012, 11:56:AM


ทรวงรำพึงหนึ่งวจีที่เอ่ยพร่ำ
หลงลำนำคำลวงเคยห่วงหา
เพียงลมเพ้อเผลอไผลในบางครา
เหม่อมองฟ้าว้าเหว่รักเร่เลือน

เพราะความหวังครั้งก่อนตามหลอนหลอก
เพราะเจ็บยอกชอกช้ำระกำเฉือน
เพราะเหตุนี้ฤดีเอยจึงเผยเตือน
เพราะบิดเบือนเชือนห่างจงร้างลืม

ไม่รู้ใจ

(http://www.qzub.com/bar_171.gif) (http://www.qzub.com)




หัวข้อ: Re: ลมฝน ลมรัก ลมลวง
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 16 พฤษภาคม 2012, 12:29:PM


เคยแหนหวง  ห่วงหา  อาทรถึง
ต่างคำนึง  ซึมซาบ  โดยปลาบปลื้ม
มิทันใด  อนงค์  กลับหลงลืม
ความดูดดื่ม  พลิกผัน  หันทิ่มแทง

ที่เคยมี  เยื่อใย  ล้วนคลายสิ้น
รักโบยบิน  เปลี่ยนทิศ  จิตเหือดแห้ง
ถูกเป็นผิด  บิดเบี้ยว  เหลียวระแวง
ระหองระแหง  ไสส่ง  เลิกลงรอย

 emo_52

สุนทรวิทย์


หัวข้อ: Re: *****คืนฝนพรำ*****
เริ่มหัวข้อโดย: สุนันยา ที่ 16 พฤษภาคม 2012, 12:44:PM
(http://img7.imageshack.us/img7/3693/27e0o5i182761.gif)(http://img36.imageshack.us/img36/8808/44e0o5i18276.gif)
*****คืนฝนพรำ*****

ละอองฝน หล่นโปรย ลมโบยโบก
กิ่งไม้โยก เอนไหว ใจเหงาหงอย
คราฝนโชย โรยมา น้ำตาปรอย
ใจดวงน้อยเฝ้าครวญ หวนคำนึง

ฤดีดวงปวดร้าว ทั้งหนาวสั่น
ครั้งคืนวัน ฝนปราย ให้คิดถึง
สะท้อนจิต คิดไป ใจรำพึง
คนเคยซึ้ง ห่างหาย ไกลแรมลา

โอ้สายเอย สายใจ ใยสวาท
ฤๅ..สายใย รักขาด ไม่ปรารถนา
จึงจรจาก รักไกล ไม่คืนมา
ลืมหมดสิ้น สัญญา คราฝนริน

นอนกอดหมอน มองออกนอกหน้าต่าง
สุดอ้างว้าง ดายเดียว เปลี่ยวถวิล
น้ำตาหลั่ง พร่างพรู ลงสู่จินต์
ช้ำชีวิน นอนสะอื้น คืนฝนพรำ....


"สุนันยา"


หัวข้อ: Re: ลมฝน ลมรัก ลมลวง
เริ่มหัวข้อโดย: D ที่ 16 พฤษภาคม 2012, 12:46:PM


 
          
ฯลฯ
            ลมลวง  ออกจาก  ปากอิตถี
         คูณสี่  คูณห้า  น่าเลื่อมใส
         เบื้องหลัง  แผ่เผื่อ  หว่านเยื่อใย
         หลายใจ  หลายรัก  เที่ยวพักพิง

            มุสา-วาทา  หาความใส่
         หน้าไหว้  หลังหลอก  ชาญกลอกกลิ้ง
         สรรหา  ถ้อยคำ  พร่ำติติง
         เท็จ,จริง  ต่างรู้  อยู่แก่ตน

    emo_94

   สุนทรวิทย์


(http://1.3qdc.com/sakid/2007/10/12/dik_16.gif)
ว่าซะ หมดดี เลยพี่ท่าน
หญิงนั้น ที่ดี มีมากล้น
แต่พี่ บังเอิญ เดินไปชน
มาบ่น เหมาหมด สลดกัน

น้องนี้ ก็หนึ่ง ซึ่งถูกทิ้ง
จำนิ่ง สิ่งผ่าน กาลเลยฝัน
ตอนเจอะ กับตัว มัวงงงัน
ทุกวัน หนีช้ำ ลำนำกลอน

"ดิน"
(http://1.3qdc.com/sakid/2007/10/12/dik_16.gif)


หัวข้อ: Re: *****คืนฝนพรำ*****
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 16 พฤษภาคม 2012, 01:15:PM
([url]http://img7.imageshack.us/img7/3693/27e0o5i182761.gif[/url])([url]http://img36.imageshack.us/img36/8808/44e0o5i18276.gif[/url])
*****คืนฝนพรำ*****

ละอองฝน หล่นโปรย ลมโบยโบก
กิ่งไม้โยก เอนไหว ใจเหงาหงอย
คราฝนโชย โรยมา น้ำตาปรอย
ใจดวงน้อยเฝ้าครวญ หวนคำนึง

ฤดีดวงปวดร้าว ทั้งหนาวสั่น
ครั้งคืนวัน ฝนปราย ให้คิดถึง
สะท้อนจิต คิดไป ใจรำพึง
คนเคยซึ้ง ห่างหาย ไกลแรมลา

โอ้สายเอย สายใจ ใยสวาท
ฤๅ..สายใย รักขาด ไม่ปรารถนา
จึงจรจาก รักไกล ไม่คืนมา
ลืมหมดสิ้น สัญญา คราฝนริน

นอนกอดหมอน มองออกนอกหน้าต่าง
สุดอ้างว้าง ดายเดียว เปลี่ยวถวิล
น้ำตาหลั่ง พร่างพรู ลงสู่จินต์
ช้ำชีวิน นอนสะอื้น คืนฝนพรำ....


"สุนันยา"


ลมรัก  ลมลวง  ดังบ่วงบาศ
ประมาท  เมื่อไร  ได้ถลำ
ถูกคล้อง  ถูกเหน็บ  เจ็บระกำ
ชอกช้ำ  ภินท์พัง  ทั้งใจกาย

จดจำ  แต่นี้  ชั่วชีวาตม์
ขยาด  หวาดหวั่น  ขวัญสลาย
เลิกเชื่อ  เลิกรัก  เลิกทักทาย
ซังกะตาย  ยอมแพ้  แก่ลมลวง

สุนทรวิทย์



หัวข้อ: Re: ลมฝน ลมรัก ลมลวง
เริ่มหัวข้อโดย: สะเลเต ที่ 16 พฤษภาคม 2012, 01:21:PM
ลมแห่งรักชักพาเธอมาพบ
ใต้ต้นตะขบคืนเพ็ญเช่นวันก่อน
สิบห้าค่ำจำแม่นแสนอาทร
หมาก็หอนเห่ากัน..วันแรกเจอ

ยากจะลืมรักหวานแม้นานเนิ่น
หมาเห่าเพลินเพราะดี..วจีเสนอ
ใต้ตะขบสพตาพาละเมอ
จำเสมอไม่ลืม..ปลื้มยิ่งนัก

เธอจึงบอกความนัยให้กับฉัน
ความผูกพันนั้นให้ใจแน่นหนัก
กาลผ่านไปกี่ พ.ศ  จะขอรัก
ยากยึกยักยานหย่อน..รักคลอนคลาย

คนซื่อซื่ออย่างฉันนั้นเชื่อสนิท
ไม่เคยคิดว่ารักจักสลาย
ใต้ตะขบคืนสิบห้าค่ำจำมิวาย
ถ้อยคำชายร้ายผสม..ลมรักลวง
 emo_101
---สะเลเต---


หัวข้อ: Re: ลมฝน ลมรัก ลมลวง
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 16 พฤษภาคม 2012, 01:35:PM
(http://1.3qdc.com/sakid/2007/10/12/dik_16.gif)
ว่าซะ หมดดี เลยพี่ท่าน
หญิงนั้น ที่ดี มีมากล้น
แต่พี่ บังเอิญ เดินไปชน
มาบ่น เหมาหมด สลดกัน

น้องนี้ ก็หนึ่ง ซึ่งถูกทิ้ง
จำนิ่ง สิ่งผ่าน กาลเลยฝัน
ตอนเจอะ กับตัว มัวงงงัน
ทุกวัน หนีช้ำ ลำนำกลอน

"ดิน"
(http://1.3qdc.com/sakid/2007/10/12/dik_16.gif)
[/quote]

กำลัง  ซกมก  เพราะอกแตก
วอกแวก  วิปลาส  ประสาทหลอน
ขอดิน  เข้าใจ  ไม่ตัดรอน
อากาศ  มันร้อน  แค่ผ่อนคลาย

อาการ  เช่นนี้  พี่เป็นบ่อย
ค่อยค่อย  พบหมอ  เดี๋ยวก็หาย
เป็นโรค  ชอกช้ำ  บ้าน้ำลาย
คุ้มร้าย  คุ้มดี  อย่างนี้เอง

 emo_26

สุนทรวิทย์


หัวข้อ: Re: ลมฝน ลมรัก ลมลวง
เริ่มหัวข้อโดย: panthong.kh ที่ 16 พฤษภาคม 2012, 01:39:PM


 
          ทิวไผ่  ไหวเอน  เป็นลำโค้ง
         โยกโคลง  โอนกาย  กลางสายฝน
         พายุ  ดุดัน  ประจัญจญ
         มหิดล  ฉะฉ่ำ  น้ำเจิ่งนอง

            พิกล  กอไผ่  ไม่ยักล้ม
         ต้านลม  ตรากตรำ  มิช้ำหมอง
         ผ่านวัน  ฝ่าคืน  ยืนลำพอง
         ประคอง  สังขาร  เนิ่นนานมา

            ลมฝน  ถึงกาล  ก็ผ่านพ้น
         ล่องหน  ผายผัน  หลังพรรษา
         ฝากความ  อุดม  พรมพนา
         คงคา  ทั่วถ้วน  ได้ส่วนบุญ

            ลมรัก  รุนแรง  สำแดงเดช
         อาเพศ  เกรี้ยวกราด  ขาดยืดหยุ่น
         ตอกย้ำ  พร่ำเพรื่อ  เหนือพิรุณ
         หมกมุ่น  วุ่นวาย  ทุกรายไป

            ลมลวง  ออกจาก  ปากอิตถี
         คูณสี่  คูณห้า  น่าเลื่อมใส
         เบื้องหลัง  แผ่เผื่อ  หว่านเยื่อใย
         หลายใจ  หลายรัก  เที่ยวพักพิง

            มุสา-วาทา  หาความใส่
         หน้าไหว้  หลังหลอก  ชาญกลอกกลิ้ง
         สรรหา  ถ้อยคำ  พร่ำติติง
         เท็จ,จริง  ต่างรู้  อยู่แก่ตน

    emo_94

   สุนทรวิทย์


(http://image.ohozaa.com/i/def/8loNN.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/u69b)

ลมลวง ไม่มี อย่าดีกว่า
ลมพา พัดไกว ให้สับสน
ปลิวไป ตามทาง ระวางตน
หมองหม่น ทนช้ำ ยามกล้ำกลืน

ฉันนี้ มีแต่ ลมบอกรัก
มอบภักดิ์ รักใคร่ ไม่ใช่ฝืน
โอบเอื้อ การุญ หนุนนำยืน
ทุกคืน มั่นหมาย ชายควรมอง

อย่ากล่าว หากัน มันไม่เหมาะ
ฉอเราะ ทุกครั้ง  ยังไม่หมอง
อยากอยู่ ชิดใกล้ ใจใฝ่ปอง
ขอร้อง เถิดหนา อย่าว่าเลย
พันทอง
(http://image.ohozaa.com/i/def/8loNN.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/u69b)


หัวข้อ: Re: ลมฝน ลมรัก ลมลวง
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 16 พฤษภาคม 2012, 01:55:PM
ลมแห่งรักชักพาเธอมาพบ
ใต้ต้นตะขบคืนเพ็ญเช่นวันก่อน
สิบห้าค่ำจำแม่นแสนอาทร
หมาก็หอนเห่ากัน..วันแรกเจอ

ยากจะลืมรักหวานแม้นานเนิ่น
หมาเห่าเพลินเพราะดี..วจีเสนอ
ใต้ตะขบสพตาพาละเมอ
จำเสมอไม่ลืม..ปลื้มยิ่งนัก

เธอจึงบอกความนัยให้กับฉัน
ความผูกพันนั้นให้ใจแน่นหนัก
กาลผ่านไปกี่ พ.ศ  จะขอรัก
ยากยึกยักยานหย่อน..รักคลอนคลาย

คนซื่อซื่ออย่างฉันนั้นเชื่อสนิท
ไม่เคยคิดว่ารักจักสลาย
ใต้ตะขบคืนสิบห้าค่ำจำมิวาย
ถ้อยคำชายร้ายผสม..ลมรักลวง
 emo_101
---สะเลเต---


นัดกันกลาง  ป่าช้า  ตอนหมาหอน
ดวงสมร  บอกรัก  แสนหนักหน่วง
คลอเคลียใต้  ตะขบ  น้องซบทรวง
แล้วย้ายไป  ใต้มะม่วง  ช่วงเที่ยงคืน

พี่ขอจูบ  มัดจำ  คลำแก้มก้น
ตัวน้องบ่น  ต่อว่า  ทำท่าฝืน
กล่อมอยู่นาน  จึงสม-ใจกลมกลืน
ดันมาตื่น  เสียก่อน  ตอนสำคัญ

 emo_26

สุนทรวิทย์



หัวข้อ: Re: ลมฝน ลมรัก ลมลวง
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 16 พฤษภาคม 2012, 02:37:PM


(http://image.ohozaa.com/i/def/8loNN.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/u69b)

ลมลวง ไม่มี อย่าดีกว่า
ลมพา พัดไกว ให้สับสน
ปลิวไป ตามทาง ระวางตน
หมองหม่น ทนช้ำ ยามกล้ำกลืน

ฉันนี้ มีแต่ ลมบอกรัก
มอบภักดิ์ รักใคร่ ไม่ใช่ฝืน
โอบเอื้อ การุญ หนุนนำยืน
ทุกคืน มั่นหมาย ชายควรมอง

อย่ากล่าว หากัน มันไม่เหมาะ
ฉอเราะ ทุกครั้ง  ยังไม่หมอง
อยากอยู่ ชิดใกล้ ใจใฝ่ปอง
ขอร้อง เถิดหนา อย่าว่าเลย
พันทอง
(http://image.ohozaa.com/i/def/8loNN.gif) (http://image.ohozaa.com/view2/u69b)
[/quote]

ลมดี  ทันควัน  ที่พันทัก
ลมรัก  ชักพา  มาเฉลย
ลมปาก  หวานหวาม  ของทรามเชย
เพียงเอ่ย  ชวนหลง  ถึงงงงัน

นี่ลม  ของใคร  ทำไมฉุน
กลิ่นกรุ่น  พิเรนทร์  เหม็นมหันต์
เหลียวหา  ต้นตอ  อ๋อน้องพัน
ไม่อั้น  ซะหน่อย  ดันปล่อยมา

 emo_26 emo_32 emo_45

(ล้อเล่นครับน้องพัน)

สุนทรวิทย์


 


หัวข้อ: Re: ลมฝน ลมรัก ลมลวง
เริ่มหัวข้อโดย: --ณัชชา-- ที่ 16 พฤษภาคม 2012, 07:39:PM
มุสา-วาทา  หาความใส่
         หน้าไหว้  หลังหลอก  ชาญกลอกกลิ้ง
         สรรหา  ถ้อยคำ  พร่ำติติง
         เท็จ,จริง  ต่างรู้  อยู่แก่ตน

สุนทรวิทย์

ไม่เคยหลอกให้ใครชอกช้ำ
ไม่ทำให้ใครใจหมองหม่น
ใครหลอกก็รู้สู้อดทน
ไม่บ่นไม่โกรธไม่โทษใคร

แสนดีอย่างนี้พี่ยังว่า
กล่าวหาว่าน้องให้หมองไหม้
ปากจัด นักหนา ด่าเรื่อยไป
เจ็บใจ เลิกคบ เราจบกัน

ณัชชา

 emo_52


หัวข้อ: Re: ลมฝน ลมรัก ลมลวง
เริ่มหัวข้อโดย: sunthornvit ที่ 16 พฤษภาคม 2012, 08:57:PM


คงเป็นช่วง วัยทอง น้องอย่าถือ
สองหูอื้อ ตาลาย จิตไหวหวั่น
ตรงนี้หย่อน ตรงโน้นฝ่อ แถมท่อตัน
สารพัน ปัญหา เกิดอาการ

บ่นมันไป เรื่อยเปื่อย เมื่อยก็หยุด
นึกสมมุติ เรื่องราว มากล่าวขาน
เผื่อณัชเกิด มีจิต คิดโปรดปราน
นึกสงสาร จานเจือ ส่งเยื่อใย
 emo_116

สุนทรวิทย์