หัวข้อ: ฅ ฅน VS ค ควาย เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 10 พฤษภาคม 2012, 11:07:PM ........ฅ ฅนไยมิใช้.................เรียกคน น่าแปลก ค ควายพิกล..............ถูกใช้ วอนปราชญ์แจกแจงกล.............แห่งเหตุ รู้กระจ่างประดับไว้...................แน่แท้ภูมิใจ หัวข้อ: Re: ฅ ฅน VS ค ควาย เริ่มหัวข้อโดย: รพีกาญจน์ ที่ 11 พฤษภาคม 2012, 09:19:AM ........ฅ ฅนไยมิใช้.................เรียกคน น่าแปลก ค ควายพิกล..............ถูกใช้ วอนปราชญ์แจกแจงกล.............แห่งเหตุ รู้กระจ่างประดับไว้...................แน่แท้ภูมิใจ .........ฅ ฅน มีก่อนใช้.............มากมาย ฅนก่อความวอดวาย.................บ่อนไส้ ปราชญ์จึงเปลี่ยน ค ควาย.......... แทนเก่า ควายอยู่คงดูไว้......................ชื่อให้"กระบือ"แทน emo_100 รพีกาญจน์ 59 หัวข้อ: Re: ฅ ฅน VS ค ควาย เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 26 มิถุนายน 2012, 05:35:PM ได้ค้นเจอคำตอบ จึงขอนำมาแบ่งปันกันครับ
จะหาเวลาแต่งเป็นร้อนกรองภายหลัง เชิญชวนเพื่อนๆ ผู้ชอบแต่งเฉลย ร่วมด้วยช่วยกันนะครับ == http://www.royin.go.th/th/home/ (http://www.royin.go.th/th/home/) คลังความรู้ - ภาษา ศิลปะ วัฒนธรรม - ภาษาไทย, การใช้ภาษา หน้า 2, 3 - ดร.นิตยา กาญจนะวรรณ ฃ กับ ฅ หายไปไหน (ขณะที่เขียนนี้คือ พ.ศ.๒๕๔๗) มีคนพูดถึงเรื่อง ฃ กับ ฅ กันมาก จนนักภาษาศาสตร์ที่ศึกษาเรื่องนี้ต้องออกมาช่วยชี้แจง ทั้งๆ ที่เคยเขียนบทความทางวิชาการเผยแพร่มาก่อนหน้านี้กว่า ๒๐ ปีมาแล้ว นักวิชาการที่ว่านั้นก็คือ ศาสตราจารย์ ดร. คุณหญิงสุริยา รัตนกุล ท่านได้เขียนบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้เป็นครั้งแรกใน วารสารธรรมศาสตร์ ปีที่ ๒ ฉบับที่ ๑ มิถุนายน-ตุลาคม ๒๕๑๕ เสียง ฃ และ ฅ เคยใช้แทนเสียงที่เป็นเสียงเสียดแทรกซึ่งมีฐานกรณ์อันเกิดที่ฐานลิ้นไก่ ซึ่งในสมัยปัจจุบันนี้ยังพบในภาษาไทขาวในประเทศเวียดนาม กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ เสียง ฃ และ ฅ ในสมัยสุโขทัยนั้นออกเสียงลึกกว่าเสียง ข (ไข่) และ ค (ควาย) เวลาที่ออกเสียง ข (ไข่) และ ค (ควาย) โคนลิ้นแตะที่เพดานอ่อน ส่วน ฃ และ ฅ นั้น โคนลิ้นจะแตะที่ส่วนที่ถัดเพดานอ่อนเข้าไปอีก ซึ่งในปัจจุบันไม่มีเสียงนี้ในภาษาไทยมาตรฐานแล้ว ในศิลาจารึกหลักที่ ๑ มีคำที่ใช้ ฃ (ขวด) เพียง ๑๑ คำ คือ ฃับ (ขับร้อง) ฃ้า (ฆ่า) ฃาม (มะขาม) ฃาย เฃา (ภูเขา) เฃ้า (ตรงข้ามกับ ออก) ฃึ้น ฃอ (ตะฃอ) ฃุน ฃวา แฃวน ส่วน ฅ (คน) นั้น มีใช้เพียง ๒ คำเท่านั้น คือ ฅุ้ม (ป้องกัน) กับ ฅวาม (คดี) ส่วนในศิลาจารึกหลักอื่นๆ พบ ฅ เพิ่มอีก ๑๑ คำ คือ ฅ (คอ) ฅ้อน ฅา ฅาบ (แปลว่า ครั้ง) ฅำ (ค่ำ) ฅีน (ปัจจุบัน ใช้ อื แทน อี เป็น คืน) แตน (ดูแคลน) แฅ่ง (แข้ง) แฅว ฅวาม ฅวาง (คว้าง) มีคำคู่เสียง ข (ไข่) กับ ฃ อยู่เพียง ๓ คู่เท่านั้น คือ ข (ไข่) ฃ ขับ (ขับไล่) ฃับ (ขับร้อง) เข้า (ข้าว) เฃ้า (ตรงข้ามกับ ออก) ข้า (บ่าว) ฃ้า (ฆ่า) ในจำนวนคำที่ใช้ ฅ ทั้ง ๑๓ คำ มีที่เป็นคำพ้องกับภาษาปัจจุบันเพียง ๓ คำ คือ คำ ความหมายที่ ๑ เป็นคำกริยา ความหมายที่ ๒ เป็นคำนาม ฅา ขวางอยู่, ปิดทางอยู่ (หญ้า) ฅา ฅาบ (เอาปาก) คาบ หมายถึงครั้ง ฅืน คืน (ให้) (กลาง) ฅืน เหตุที่ ฃ และ ฅ หายไปจากภาษาปัจจุบันนั้น เกิดจากลักษณะธรรมชาติของภาษาที่ว่าเสียงใดเป็นเสียงโดดเดี่ยว ไม่มีความสัมพันธ์กับพยัญชนะใดเป็นพิเศษจะเปลี่ยนแปลงเสียง หรือสูญเสียเสียงได้เร็วกว่าพยัญชนะที่มีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นแฟ้น |