หัวข้อ: ขอเพิ่มปริศนา "ขิงก็ราข่าก็แรง" เดิม: คนตากลมตากลม เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 29 เมษายน 2012, 06:30:AM ...........คนตากลมตากลม
....ประโยคข้างต้นอ่าน..................อย่างไร ตามหลักภาษาไทย.......................บ่งแล้ เกณฑ์กฎแจกแจงไข......................กระจ่าง เพื่อนเพื่อนอย่ายอมแพ้....................ถกแก้ปริศนา หัวข้อ: Re: คนตากลมตากลม เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 08 พฤษภาคม 2012, 09:04:PM เพิ่มบุญ..
ตอบ: 04/06/2006 9:48 pm "นาม" กับ "คุณศัพท์" ต้องติดตาม คน(ที่)ตา-กลม ความสอดคล้อง ตาก-ลมรื่นรมย์ยามเย็นรื่น เป็นแค่เพียงรูปพ้องอ่านเพี้ยนแปลผัน หัวข้อ: Re: คนตากลมตากลม เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 17 พฤษภาคม 2012, 11:40:PM สายศิลป์ค่ะ
....คุณศัพท์ต้องชิดท้าย...............คำนาม ขยาย"ส่วนประธาน"ชัดความ..........จึ่งสิ้น กริยาค่อยแสดงตาม....................บทบาท แยกส่วนเป็นส่วนชิ้น...................พิเคราะห์ได้ง่ายเสมอ หัวข้อ: Re: ขอเพิ่ม ปริศนา "ขิงก็ราข่าก็แรง" เดิม: คนตากลมตากลม เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 11 มิถุนายน 2012, 10:32:PM ........................ขิงก็ราข่าก็แรง
...."รา" สำนวนว่านี้..................ขอถาม แน่! ใช่เชื้อราลาม....................โรคไซร้ อธิบายบ่งบอกความ..................สักหน่อย คือสิ่งใด ? จึ่งใช้......................เปรียบได้เหมาะสม หัวข้อ: Re: ขอเพิ่ม ปริศนา "ขิงก็ราข่าก็แรง" เดิม: คนตากลมตากลม เริ่มหัวข้อโดย: กามนิต ที่ 15 มิถุนายน 2012, 02:22:PM ........................ขิงก็ราข่าก็แรง ...."รา" สำนวนว่านี้..................ขอถาม แน่! ใช่เชื้อราลาม....................โรคไซร้ อธิบายบ่งบอกความ..................สักหน่อย คือสิ่งใด ? จึ่งใช้......................เปรียบได้เหมาะสม "รา" ในสำนวน "ขิงก็รา ข่าก็แรง" เข้าใจว่าน่าจะหมายถึง ลดลง เช่น เลิกรา, ลดรา เป็นต้น แต่พอเป็นสำนวนกลับหมายถึงทั้งขิง และ ข่า ต่างก็มีรสแรง จัดจ้านด้วยกันทั้งคู่ เข้าใจว่าเป็นสำนวนไทยมักมีอาการ "ประชดประเทียด" อยู่นิด ๆ แม้แต่ในภาษาก็ซ่อนอยู่ด้วยว่า "ขิงก็รา" น่าจะหมายถึง ขิงนั้นลดราให้ ส่วน "ข่าก็แรง" หมายถึง ข่าก็ยังไม่ลดราให้ หรือกลับกัน แต่โดยสรุปแล้วไม่มีใครลดราวาให้ใคร ความหมายก็เลยออกมาทำนองว่าแรงทั้งคู่ ทำนองเดียวกัน สำนวน "เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย" เป็นสำนวนที่มีแววอาการประชดประเทียดมาก เพราะทั้ง "ปี่" และ "ขลุ่ย" ไม่สามารถนำมาเป่าด้วยกันได้เลย ปี่ อยู่วงหนึ่ง ขลุ่ยอยู่อีกวงหนึ่ง แต่สำนวนกลับจับมาเข้ากันได้ อันที่จริงน่าจะเป็นการประชดมากกว่า แบบว่าสิ่งที่ไม่มีทางเข้ากันได้เลยแต่มาอยู่ด้วยกันได้ ประชดไปประชดมาคนก็รับเป็นสำนวนทำนองว่า เข้ากันได้ดี ไปเลย สำนวนไทยต้องจำไปใช้ทั้งดุ้นนั่นแหละ จะแยกทีละคำไม่ได้หรอก ความหมายจะเพี้ยน ขนาดไม่กินเส้นกันยังกลายเป็นเกาเหลาไปได้เลย คนโบราณได้ฟังคงงงอยู่เหมือนกัน (ฮา) emo_85 หัวข้อ: Re: ขอเพิ่มปริศนา "ขิงก็ราข่าก็แรง" เดิม: คนตากลมตากลม เริ่มหัวข้อโดย: ดาว อาชาไนย ที่ 15 มิถุนายน 2012, 09:13:PM พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานให้ความหมายของคำว่า รา ค่อย ๆ เลิกไป เช่น รากันไป,
น้อยลง, ผ่อนลง เช่น ไฟราดับไปเอง ฉนั้น ความหมายน่าจะเป็น ขิงก็ผ่อนลง ข่าก็แรงขึ้น คำประเภทนี้จะมีความหมายเป็นสองพยางค์ เช่น บุญหนัก ศักดิ์ใหญ่ คำเช่นนี้เมื่อนานวันเข้า ก็พูดเพี้ยนกันไป เช่น ลดวา ราศอก ก็เพี้ยนเป็น ลดรา วาศอก ซึ่งความหมายของ ลด กับ รา ก็คือน้อยลงเหมือนกันทั้งสองคำ จึงควรเป็น ลดอะไร ตอบว่า ลดวา แล้วราอะไร ตอบว่า ราศอก คำว่า สิ้นไร้ไม้ตอก ก็เช่นเดียวกัน เดิมเป็น สิ้นไม้ ไร้ตอก สิ้นกับไร้ ก็ความหมายเดียวกัน ถามว่า สิ้นอะไร ตอบว่า สิ้นไม้ ไร้อะไร ตอบว่า ไร้ตอก พึงสังเกตว่า เราไม่เรียกว่า ไม้ตอก เราเรียก ตอก เฉย ๆ เช่น จักตอก เราไม่เรียกว่า จักไม้ตอก คำว่า ชั่วดีถี่ห่าง เดิมเป็น ชั่วถี่ดีห่าง หมายถึง ทำชั่วถี่ แต่ทำดีห่าง คำว่า บอกเล่าเก้าสิบ เดิมเป็น บอกเก้า เล่าสิบ หมายถึงบอกอะไรไป ผู้ฟังไปเล่าต่อ ก็มักจะใส่ไข่มากกว่าที่เล่าไปให้ฟังดูน่าทึ่งขึ้นอีก คำว่า ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนต์ ก็ต้องเอาด้วยคาถา เล่ห์ กับ กล ก็ความหมายเดียวกัน ไม่ได้ด้วยเล่ห์ จะเปลียนไปเอาด้วยกล ก็ไม่เปลี่ยนอะไรเลย มนต์ กับ คาถา ก็เช่นเดียวกัน คือ ความหมายอย่างเดียวกัน จึงควรเป็น ไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยมนต์ ไม่ได้ด้วยกล ก็ต้องเอาด้วยคาถา ยังมีอีกหลายคำที่ปัจจุบันใช้เพี้ยนไป กรมหมื่นนราธิปฯทรงแสดงปาฐกถาเรื่องนี้นานมาแล้ว ที่หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เสียดายถ้าราชบัณฑิตยสถานบรรจุคำเหล่านี้ตั้งแต่ทรง เป็นนายกราชบัณฑิต คำเช่นนี้จะไม่เพี้ยนไปเป็น ลดราวาศอก, สิ้นไร้ไม้ตอก เป็นแน่ หัวข้อ: Re: ขอเพิ่มปริศนา "ขิงก็ราข่าก็แรง" เดิม: คนตากลมตากลม เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 17 มิถุนายน 2012, 08:47:PM ต้น:
........เห็นสำนวนทุกครั้ง...............ให้ฉงน เมื่อเด็กก็สับสน...........................ใคร่รู้ "รา"ไฉนจึ่งเล่นกล.......................ทำตลก ไยโผล่เบียดท้าสู้.........................ต่อต้านไม่ถอย ........เฝ้าคอยผู้รู้ช่วย....................แจงเฉลย แต่ก็ยังมิเคย...............................กระจ่างแจ้ง จึงหวังเพื่อนอย่าเฉย......................ลองบอก...เสนอนา แม้อาจเห็นโต้แย้ง.........................แต่ให้ปัญญา สายศิลป์ค่ะ: ...............พจนานุกรมว่าไว้..........เรื่อง"รา" คืออ่อน,น้อยลงหนา.....................สืบแล้ว (สำนวน)จัดจ้านไป่นำพา...............ละเลิก ยังบ่ชัด-มิแคล้ว..........................จักต้องสืบถาม หัวข้อ: Re: ขอเพิ่มปริศนา "ขิงก็ราข่าก็แรง" เดิม: คนตากลมตากลม เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 19 มิถุนายน 2012, 06:22:PM ขิงก็ราข่าก็แรง
...ผองเพื่อนลองสืบค้น..........อัฟริกา ก่อนคริสตกาลนั่นหนา...........จักรู้ แดนไนล์น่าทัศนา................ทุกเมื่อ เทพท่านอวยพรผู้.................แวะเข้าเยี่ยมชม ...คมคำซ่อนเพื่อค้น..............สืบหา พูนเพิ่มเติมปัญญา................อย่าท้อ "ดูเฉลย-ตอบ"นำมา..............สู่เสื่อม อุปสรรคอย่าตัดพ้อ................ฝึกให้แกร่งจริง หัวข้อ: Re: ขอเพิ่มปริศนา "ขิงก็ราข่าก็แรง" เดิม: คนตากลมตากลม เริ่มหัวข้อโดย: toshare ที่ 22 มิถุนายน 2012, 06:53:AM สำนวนไทย ผู้แต่ง : ขุนวิจิตรมาตรา (สง่า กาญจนาคพันธุ์)
....ปริศนานี้ได้จาก.............หนังสือ ขุนวิจิตรมาตรา ระบือ............รอบรู้ "สำนวนไทย"ชื่อนี้คือ............ข้าฯอ่าน วานเพื่อนบ้านกลอนผู้...........มุล้นค้นเฉลย |